จีนกำลังจะกลายเป็นประเทศมุสลิม ชาวมุสลิมร้อยละ 20 อยู่ในทวีปเอเชีย ประเทศจีนมีประชากรนับถืออิสลามมากกว่าประชากรทั้งประเทศซีเรีย
ตั้งกระทู้ใหม่
http://www.chinesemuslimthailand.com/printable.php?id=232 เว็ปนี้ลองไปดู
งตลาดสินค้าฮาลาลในจีน ... มองโลก
สถานการณ์ตลาดอาหารฮาลาลในจีนตะวันออก
จากสถิติของ Wikipedia พบว่า ณ ปี 2552 มีชาวมุสลิมทั่วโลกอยู่กว่า 2,000 ล้านคนในกว่า 110 ประเทศ และประเมินว่า ตลาดสินค้าอาหารฮาลาลมีมูลค่าปีละ 547,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิด เป็นร้อยละ 12 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรกรรมของโลก ตลาดดังกล่าวยังคงมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเมินว่า ตลาดสินค้าอาหารฮาลาลจะมีมูลค่ากว่า 550,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 นอกจากนี้ ผลจากการขยายตัวของจำนวนประชากรโลกที่นับถือศาสนาอิสลาม ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์คาดว่าชาวมุสลิมจะคิดเป็นส่วนร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรโลกในปี 2568 หรือในอีก 15 ปีข้างหน้า ซึ่งนั่นหมายถึงตลาดสินค้าอาหารฮาลาลขนาดมหึมาที่รออยู่ในอนาคต
จากการศึกษา ประเมินว่า ในประเทศจีนมีจำนวนชาวมุสลิมอยู่กว่า 30 ล้านคนในปัจจุบัน คิดเป็นร้อยละ 2.3 ของจำนวนประชากรโดยรวม ทั้งนี้ ชาวมุสลิมในจีนส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ด้านตอนในและซีกตะวันตกของประเทศ อาทิ มณฑลหนิงเซี่ยะ (Ningxia) มณฑลกานซู่ (Gansu) เขตปกครองอิสระมองโกเลียใน (Inner Mongolia) และเขตปกครองอิสระซินเจียง (Xinjiang) และกระจายตัวไปตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ หากเราเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ก็จะพบเห็นร้านอาหารอิสลามอย่างดาษดื่น
จากสถิติของสมาคมอิสลามแห่งประเทศจีน (Chinese Islamic Association) ระบุว่า ประเทศจีนมีโต๊ะอิหม่ามแบบเต็มเวลา (ที่ได้รับเงินเดือน) จำนวนกว่า 40,000 คน และจำนวนสุเหร่าที่กระจายตัวในหัวเมืองต่าง ๆ ถึงกว่า 23,000 แห่ง อาทิ
    กรุงปักกิ่ง (Beijing) มีชาวมุสลิม 200,000 คน และสุเหร่าสำคัญ 32 แห่ง
    เมืองเซินเจิ้น (Shenzhen) มีชาวมุสลิม 120,000 คน และสุเหร่าสำคัญ 1 แห่ง
    นครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) มีชาวมุสลิม 70,000 คน และสุเหร่าสำคัญ 7 แห่ง
    นครกว่างโจว (Guangzhou) มีชาวมุสลิม 60,000 คน และสุเหร่าสำคัญ 6 แห่ง
    นครซีอาน (Xian) มีชาวมุสลิม 50,000 คน และสุเหร่าสำคัญ 11 แห่ง
    นครเฉิงตู (Chengdu) มีสุเหร่าสำคัญ 9 แห่ง
    เมืองกุ้ยหลิน (Guilin) มีสุเหร่าสำคัญ 6 แห่ง
    นครคุนหมิง (Kunming) มีสุเหร่าสำคัญ 6 แห่ง
    นครลาซ่า (Lhasa) มีสุเหร่าสำคัญ 3 แห่ง
    นครอูหลู่มู่ฉี (Ulumqi) มีสุเหร่าสำคัญ 9 แห่ง
โอกาสทางการตลาด
ด้วยอัตราการขยายตัวของจำนวนประชากร (เนื่องจากชาวจีนมุสลิมได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามนโยบายลูกคนเดียว (One-Child Policy) ของรัฐบาลจีนที่กำหนดใช้ถึงกว่า 30 ปีนับแต่เปิดประเทศครั้งใหม่) และความมั่งคั่งของชาวมุสลิมในจีน ทำให้ตลาดสินค้าฮาลาลกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ภาครัฐและเอกชนของหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ อิหร่าน ตุรกี อียิปต์ และบราซิล จึงต่างหันมาให้ความสนใจในการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือด้านการผลิตและทำตลาดสินค้าอาหารฮาลาลในจีนกันมากขึ้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลและผู้ประกอบการของจีนเองก็ให้ความสำคัญอย่างมากกับตลาดอาหารฮาลาลทั้งในและต่างประเทศ เฉพาะในมณฑลหนิงเซี่ยะ คาดว่ามีผู้ผลิตสินค้าอาหารฮาลาลจำนวนมากกว่า 10,000 รายในปัจจุบัน ครองส่วนการตลาดในมณฑลถึงร้อยละ 80 ของตลาดทั้งหมด ผู้ประกอบการของจีนที่เริ่มปีกกล้าขาแข็งแล้วต่างได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐให้โบยบินออกไปบุกตลาดต่างประเทศกันมากขึ้น
อาหารจานด่วน (Fast Food) ของชาติตะวันตกที่จำหน่ายอย่างดาษดื่นในหลายมณฑลของจีนก็เป็นอาหารฮาลาล เพื่อง่ายต่อการทำตลาด ขณะเดียวกัน ก็พบว่าช่องทางจัดจำหน่ายสมัยใหม่ (Modern Trade) อาทิ คาร์ฟูร์ และวอล-มาร์ท ต่างก็เริ่มนำเอาสินค้าที่ติดฉลากรับรองสินค้าฮาลาลขึ้นจำหน่ายอย่างแพร่หลายมากขึ้นในหลายเมืองของจีน เหมือนในยุโรปและสหรัฐฯ กันบ้างแล้ว
นั่นหมายความว่า ในมิติหนึ่ง อุปสงค์สินค้าอาหารฮาลาลในจีนกำลังขยายตัว และในอีกด้านหนึ่ง ก็พบว่า อุปทานทั้งจากภายในและต่างประเทศกำลังถาโถมเข้าจีนมากขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการของจีนบางส่วนก็ทยอยออกไปขยายตลาดอาหารฮาลาลในตลาดโลกกันมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบต่อตลาดสินค้าฮาลาลที่ไทยเคยจับอยู่
นอกจากนี้ การที่มุสลิมส่วนใหญ่ยังใช้ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเป็นปัจจัยสำคัญประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจระหว่างกัน ก็ทำให้ภาครัฐและเอกชนของไทยต้องเร่งศึกษาวิเคราะห์และสนับสนุนส่งเสริมการทำตลาดสินค้านี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพราะตลาดนี้นับว่า สร้างยาก แต่เมื่อสร้างขึ้นมาได้แล้ว ก็ ง่ายต่อการขยาย ตลาด ในทางกลับกัน หากเราสูญเสียตลาดนี้ให้คู่แข่งขัน ก็จะเป็นการ ยากที่จะเรียกคืนกลับมา
งานแสดงสินค้า กิจกรรมสำคัญ และช่องทางการตลาด
            ในด้านซีกตะวันออกของจีน เซี่ยงไฮ้นับเป็นศูนย์กลางของงานแสดงสินค้าอาหาร นานาชาติในจีน โดยมีงานแสดงสินค้าที่สำคัญได้แก่ SIAL, HOTELEX และ FHC และเนื่องจากงาน แสดงสินค้าดังกล่าวในเซี่ยงไฮ้จะมีผู้ซื้อจากหลายมณฑลในจีนและจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งผู้ที่ทำตลาดสินค้าฮาลาล เดินทางมาเยี่ยมชมงานดังกล่าว ทำให้ผู้จัดงานนิยมจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งนำเสนออาหารฮาลาลภายในงานแสดงสินค้าของตนขึ้นเป็นการเฉพาะ ขณะเดียวกัน ยังมีงานแสดงสินค้าอาหารฮาลาลที่จัดโดยรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ร่วมกับรัฐบาลของมณฑลที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก แต่ตลาดส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นในนครเซี่ยงไฮ้และมณฑลใกล้เคียงเท่านั้น
งานแสดงสินค้าในมณฑลด้านซีกตะวันออกไล่ไปจนถึงอีสานจีนส่วนใหญ่เป็นงานสินค้าอาหารทั่วไป ที่มีการนำเสนอสินค้าอาหารฮาลาลปะปนอยู่ ขณะที่ศูนย์ค้าส่งสินค้าเกษตรในหลายเมือง อาทิ เซี่ยงไฮ้ และอี้อู (Yiwu) ก็เป็นจุดที่มีชาวมุสลิมแวะเวียนไปซื้อหาสินค้าฮาลาลจำนวนหลายล้านคนในแต่ละปี
นอกจากนี้ ด้วยจำนวนกว่า 360 ล้านคนและอัตราการขยายตัวของผู้ที่นิยมเล่นเน็ต (Netizen) ในจีน ก็ทำให้การขายสินค้าฮาลาลผ่านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน เว็บไซต์สินค้าฮาลาลที่นำเสนอในรูปภาษาอังกฤษ อารบิค และจีน อาทิ halal-food.cn ก็นับว่าเป็นหนึ่งในช่องทางการตลาดที่ดีของสินค้าฮาลาลของไทยในตลาดจีนได้เช่นกัน
แนวทางการพัฒนายุทธศาสตร์สินค้าฮาลาล
ในการพัฒนาตลาดสินค้าฮาลาล ผมมีข้อคิดเห็นเพื่อประกอบการกำหนดยุทธศาสตร์และกิจกรรม/โครงการ ดังนี้
4.1  Natural Halal สินค้าอาหารจำนวนมากที่ไทยเราสามารถผลิตได้และมิได้มีองค์ประกอบของสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เรียกว่าเป็น อาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องติดตรารับรองอาหารฮาลาล แต่สามารถจับตลาดคนมุสลิมได้ อาทิ ข้าว ผลไม้สด และน้ำดื่ม (แม้ว่าในทางปฏิบัติ ผู้ผลิตจะพยายามหาตรารับรอง ฮาลาล มาติดไว้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและประโยชน์ทางการตลาดก็ตาม)
4.2  More than Muslim นอกเหนือจากตลาดประเทศมุสลิมทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยควรพิจารณาตลาดสินค้าฮาลาลในมุมกว้าง โดยไม่จำกัดอยู่เฉพาะประเทศหรือมณฑลที่มีชาวมุสลิมอาศัยเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น เพราะในหลายภูมิภาคก็มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่แทบทั้งสิ้น เช่น ทวีปอเมริกาเหนือมีชาวมุสลิมกว่า 10 ล้านคน และทวีปยุโรปมีประมาณ 30 ล้านคน ขณะที่หลายประเทศ ซึ่งแม้ว่าจะมีส่วนของจำนวนประชากรชาวมุสลิมไม่มากนัก แต่ก็เป็นตลาดอาหารฮาลาลที่มีขนาดใหญ่ เช่น สิงคโปร์มีชาวมุสลิมร้อยละ 16 ของจำนวนประชากรโดยรวม แต่ธุรกิจอาหารจานด่วนอย่าง แม็คโดนัลด์สและเคเอฟซี ต่างก็ใช้เนื้อฮาลาลทั้งสิ้นเพื่อลดความยุ่งยากในการให้บริการอาหารต่อลูกค้าโดยรวม
ประการสำคัญ ในเกือบทุกประเทศ ชาวมุสลิมถือเป็นกลุ่มชนที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้นับถือศาสนาอื่น ตัวอย่างเช่น ชาวมุสลิมในทวีปยุโรปขยายตัวในอัตราร้อยละ 140 ขณะที่ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นร้อยละ 250 ในช่วงทศวรรษนี้ ส่งผลให้ตลาดอาหารฮาลาลในประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเช่นกัน ตลาดเนื้อฮาลาลในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 ในระหว่างปี 2540-2545 ประการสำคัญ เนื่องจากอาหาร ฮาลาล เป็นอาหารปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสความต้องการด้านอาหารของโลก จึงประเมินว่ากว่าร้อยละ 20 ของตลาดสินค้าอาหารฮาลาลในปัจจุบันเป็นผู้คนที่มิได้นับถือศาสนาอิสลาม (Non-Muslim) ว่าง่าย ๆ คนกลุ่มหลังนี้อาจอยู่ในประเทศมุสลิม ซึ่งอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารฮาลาล ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งของตลาดอาหารฮาลาลในทางอ้อมด้วยเช่นกัน
4.3  Beyond China นอกเหนือตลาดจีนแล้ว ผู้ประกอบการของไทยอาจใช้จีนเป็นกระดานดีด (Springboard) ต่อไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านของจีนที่เข้าถึงลำบากแต่แฝงไว้ด้วยศักยภาพทางการตลาด อาทิ ปากีสถานคาซักสถาน คีร์กิซสถาน มองโกเลีย และรัสเซีย หรือแม้กระทั่งทดสอบและพัฒนาสินค้าในตลาดจีนจนได้ที่แล้วจึงค่อยขยับไปยังตลาดประเทศอื่น
4.4  Super Halal ด้วยขนาดของตลาดฮาลาลที่กำลังขยายตัวและสลับซับซ้อนมากขึ้นในหลายเมืองใหญ่ในจีน ก็สะท้อนถึงโอกาสทางธุรกิจสำหรับสินค้าอาหารฮาลาลเชิงคุณภาพ เช่น อาหาร ฮาลาลสุขภาพ (Healthy Halal Food) และอาหารฮาลาลอินทรีย์ (Organic Halal Food) ตลอดจนการเปิดธุรกิจร้านอาหารฮาลาล สินค้าฮาลาลอื่นที่มิใช่อาหาร (เช่น เครื่องดื่ม เครื่องประทินผิว เครื่องแต่งกาย และของขวัญของตกแต่งบ้าน) โรงแรมฮาลาล (อาหาร เครื่องนอนและของใช้ในห้อง และเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นฮาลาล) โรงพยาบาลฮาลาล และแม้กระทั่งบริการด้านลอจิสติกส์สินค้าฮาลาล
ไทยต้องเดินหน้า
ในการดำเนินการตลาดดังกล่าวในตลาดจีน ผมมองว่า สิ่งแรกที่ประเทศไทยจะต้องเร่งสร้างคือ ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ของสินค้าฮาลาลของไทยในตลาดประเทศมุสลิม และนำกลับมาขยายผลในจีน โดยไทยควรพัฒนาต่อยอดจากวิสัยทัศน์ Kitchen to the World ที่มีอยู่เดิม ว่าง่าย ๆ การจะพัฒนาไทยเป็นครัวของโลกไม่สามารถมองข้ามการพัฒนาตลาดอาหารฮาลาลได้
ในการนี้ การพัฒนาฐานการผลิต การสร้างฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และการส่งเสริมการตลาดสินค้าอาหารฮาลาลและการประกอบการธุรกิจร้านอาหารฮาลาลเข้าสู่ตลาดเป้าหมาย โดยเฉพาะวัยรุ่นจีนซึ่งเปิดรับและนิยมสินค้าต่างประเทศมากกว่าคนกลุ่มอื่น รวมทั้งการเข้าสู่ตลาดผ่านช่องทางจัดจำหน่ายสมัยใหม่เป็นสิ่งจำเป็นที่ไทยควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ การกำหนดมาตรการส่งเสริมด้านการตลาดและกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดจีนที่หลากหลายและเป็นระบบจึงนับเป็นการบ้านใหญ่ของไทย โดยควรจำแนกแผนงาน/โครงการออกเป็นทั้งระยะสั้น (1 ปี) และระยะกลาง (3 ปี) เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตลาดที่ต่อเนื่องและการติดตามประเมินผลโครงการอย่างจริงจัง
หลังจากความสำเร็จในระยะแรก ขั้นตอนต่อไปน่าจะมีความยากน้อยลง เนื่องจากผู้ประกอบการไทยได้สั่งสมประสบการณ์ในการทำธุรกิจกับชาวมุสลิมมาระยะหนึ่งแล้ว ธุรกิจไทยสามารถขยายโอกาสทางการตลาดต่อไปกลุ่มสินค้าและบริการอื่นที่ไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในตลาดจีน ทั้งนี้ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายฐานลูกค้าที่สร้างไว้เดิม
ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมาร่วมกันลุยตลาดสินค้าฮาลาลกัน
29 ความคิดเห็น
ศาสนาอิสลามเริ่มแพร่เข้าสู่จีนเมื่อศตวรรษที่ 7 ในบรรดาประชากรชนชาติส่วนน้อย ของจีนจำนวนกว่า 18 ล้านคน อันได้แก่ ชนชาติหุย อัยกูร์ ทาทาร์ เคอจิส คาซัค อุสเบค ตงเซียง ซ่าลา เป่าอัน เป็นต้นส่วนใหญเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ชาว มุสลิมของจีนส่วนใหญ่อยู่รวม ๆ กันตามเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเกียง เขตปกครองตนเองชนชาติหุยแห่งหนิงเซี่ยตลอดจนมณฑลกันซู่ ชิงไห่และมณฑล ยูนนาน เป็นต้น ส่วนมณฑลและเมืองอื่น ๆ ก็มีบ้าง ปัจจุบัน จีนมีสุเหร่ากว่า 3 หมื่นแห่ง มีอิหม่ำกว่า 4 หมื่นคน
ศาสนาพุทธ กำลังจะล่มสลายแล้วในประเทศจีน เหลือแค่เกาะเล็กๆอย่างเกาะฮ่องกง
แล้วยังไง?
เราก็ยังนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนเดิม
ด้วยเหตุนี้ไงสหรัฐอเมริกาถึงไม่ชอบจีนนัก ประชากรคนนับถืออิสลามเพิ่มจำนวนขึ้นในจีน เรื่องมุสลิมกับเรื่องปาเลสไตล์ขัดใจอเมริกามานานแล้ว ทั้งที่ อัลกุอ่านกับไบเบิลสามารถบอกได้ว่า นบีอีซาคือพระเยซู นบีมูซาคือโมเสก ไม่น่าจะต้องมาทะเละกัน
อิสลามไม่ได้บอกน่ะค่ะ ว่านาบีมูซาเป็นพระเยซู ยังไง ก้อไม่เหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ
มองในแง่ดีอย่างน้อยก็ยังเหลือเกาะฮ่องกงที่เป็นดินแดนชาวพุทธ ไม่นานนี้เองพึ่งมีข่าวจับพระขโมยกระโหลกศรีษะคนตายไปทำพิธีถือผี เพื่อนำไปขายให้ชาวฮ่องกง เกาะฮ่องกงจะยังคงเป็นดินแดนของชาวพุทธตลอดไปแม้คนในแผ่นดินใหญ่จะเปลี่ยนไปเป็นศาสนาอื่น
ถ้าเราเป็นประธานาธิบดีอเมริกา เราให้นักเผยแพร่ศาสนาเข้าไปเผยแพร่ศาสนาคริส แข่งกับอิสลาม
ประเทศจีนมีจำนวนประชากรตั้งหนึ่งพันสามแสนล้านคน
คนนับถือมุสลิมแค่ 18 ล้านคนเอง เทียบดูนะ
ขนาดชาวนาจีนที่เป็นชาวพุทธ ยังมีจำนวน 392 ล้านคน
ยังมากกว่ามุสลิมตั้งเท่าตัวเลย แล้วเรื่องมาตรฐานอาหารฮาลาลเนี่ย
คนกินก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมุสลิมซะหน่อย บางครั้งเรายังกินเลย
เพราะมันได้ชื่อว่าเป็นอาหารสะอาด ได้มาตรฐาน
แหล่งข่าวคุณประโคมข่าวเวอร์ไปรึเปล่า คนมุสลิมไม่มีทางเต็มประเทศจีนหรอก
อย่างมากก็แค่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แค่นั้น คนจีนหลายคนยึดติดกับศาสนานะครับ
ขนาดคอมมิวนิสต์จับไปทรมานเค้ายังไม่เลิกนับถือเลย แล้วลองคิดดูละกัน
ว่ามุสลิมจะเต็มประเทศจริงเหรอ ? อีกอย่างจีนยังมีมุสลิมไม่มากเท่าอินโดนีเซียหรอก
หาข้อมูลมาเขียนข่าวใหม่ซะนะครับ สิ่งที่คุณเขียนมันเกินความจริงเกินไป .
PS. ただ今は負けたくない 自分に負けない「プライド」 ★ス
ไปจีนต้องนับจำนวนคนว่ามีมุสลิมกี่คน
กับ ไปอินโด เหวี่ยงแหไปตรงไหนก็มีแต่มุสลิม(มุสลิมเยอะที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
คนที่มีหัวการค้าเขาคงคิดออกคับว่าควรไปที่ไหน
ถึงมุสลิมจะมี18ล้านคนในประเทศจีน มากกว่าประเทศซีเรียหรือประเทศอื่นก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจีนจะกลายเป็นประเทศมุสลิม เพราะประชากรจีนมีตั้ง1353ล้านคน มุสลิมมีแค่1.3% ชาวจีน1000คน มีมุสลิมแค่13คน แล้วอย่างนี้มิสลิมจะล้นประเทศจีนได้อย่างไร
ไม่มีใครรู้การของgodได้หรอก ศาสนาที่มีพระเจ้า เราต้องยึดถือพระเจ้า
ถ้าเราไม่ยึดถือพระเจ้า แต่ไปยึดถืออย่างอื่นที่พระองค์ทรงสร้าง ก็เท่ากับเรานับถือลัทธิเทียมเท็จ
พระองค์ก็ตรัสอยู่ว่าอย่างมีพระอื่นนอกจากเรา อย่านับถือสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นแทนพระเจ้า
ศาสดาคือสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น การยึกถือศาสดาก็เสมือนการไปยึดสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
เท่ากับเราเอาใจออกห่างพระเจ้า การยึดถือศาสนามันเป็นหลักการของชาวพุทธเป็นหลักการของพวกไม่้มีพระเจ้า เป็นสิี่งที่พระองค์ทรงเตือนเราเสมอว่า อย่านับถือสิ่งอื่นนอกจากพระองค์
ยึดศาสนาไร เค้ายึดในกฏธรรมชาติ เวรกรรม ความดีความชั่วครับ พระพุทธเจ้าไม่เคยให้ยึดถือ ไม่เคยบอกให้เชื่ออะไร แม้แต่พระองค์เอง แต่ควรเชื่อในกรรม กฏธรรมชาติ (แต่ถ้าไม่เชื่อก็ไปสัมผัสพิสูจน์เอา พระองค์ก็เคยตรัสว่า แม้สักอย่างหนึ่งที่ชื่อว่าเที่ยงแท้แน่นอนก็ไม่มี ใครว่าไม่จริงไม่แก่ไม่ตายให้ดูที ขนาดวันตายเรายังไม่รู้เลย) ทุกอย่างมันอยู่ใต้กฏธรรมชาติทั้งนั้น เราสัมผัสกันได้ ใครจะหนีการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย พ้น พระเจ้าเก่งจริงก็ลงมาทำให้คนดีที่นับถือพระองค์แบบสุดขั้วหัวใจไม่แก่ไม่ตายทีผมกล้าท้า เพราะถึงพระเจ้ามีจริงก็ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก จะหนีกฏธรรมชาติพ้นอะไม่มีสักคนเลย ผมไม่เคยเจอ แทนที่เราจะรอพระเจ้ามาช่วยเราช่วยตัวเองดีกว่าไหม อย่าหวังพึ่งแต่พระเจ้าเลย เผลอๆพระเจ้าเหนื่อยนะ ทั้งโลกให้พระเจ้าช่วยอย่างเดียวอะ ผมถือพุทธเพราะพุทธมีเหตุผล ไม่สอนให้เชื่อในตัวบุคคลและสิ่งของวัตถุ จนงมงายไม่เป็นอันทำอะไร ในทางกลับกันถ้าเราปฏิบัติตัวเองดีอยู่แล้วถ้าพระเจ้ามีจริงพระเจ้าก็พาเราขึ้นสวรรค์แน่นอน ผมถือพุทธไม่มีอะไรเสียครับ พระเจ้ามีก็มีเถอะผมทำดียังไงผมก็ได้ขึ้นสวรรค์อะ (ผมหวังว่าถ้าพระเจ้ามีจริง พระเจ้าคงจะมีเหตุผลพอ และไม่ตัดสินให้ผมตกนรกเพียงเพราะผมไม่เชื่อว่ามีพระองค์ เพราะยังไงผมก็ทำความดีไม่ทำความชั่วไม่ทำใครเดือดร้อน) แล้วเหตุผลที่ผมนับถือพุทธมันไม่ได้มีแค่นี้ มันมีหลายอย่างเยอะมากๆเล่าสามวันไม่จบเอาง่ายๆ คุณถืออิสลามก็เรื่องของคุณแต่อย่าไปจำกัดสิทธิคนอื่น อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ เคารพสิทธิส่วนบุคคลด้วย โอเคนะ
เรื่องของ-
ไม่มีใครรู้การของgodได้หรอก ศาสนาที่มีพระเจ้า เราต้องยึดถือพระเจ้า
ถ้าเราไม่ยึดถือพระเจ้า แต่ไปยึดถืออย่างอื่นที่พระองค์ทรงสร้าง ก็เท่ากับเรานับถือลัทธิเทียมเท็จ
พระองค์ก็ตรัสอยู่ว่าอย่างมีพระอื่นนอกจากเรา อย่านับถือสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นแทนพระเจ้า
ศาสดาคือสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น การยึกถือศาสดาก็เสมือนการไปยึดสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
เท่ากับเราเอาใจออกห่างพระเจ้า การยึดถือศาดามันเป็นหลักการของชาวพุทธเป็นหลักการของพวกไม่้มีพระเจ้า เป็นสิี่งที่พระองค์ทรงเตือนเราเสมอว่า อย่านับถือสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ อย่านับถือสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นแทนพระองค์ นบีมูซา นบีอีซา นบีมูฮัมหมัด ก็พูดแบบนี้ทุกท่าน ศาสดาเป็นแค่ตัดแทนของพระเจ้าแต่ศาสนาไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าสร้างศาสดาขึ้น เหมือนที่พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งขึ้น
ไม่มีใครรู้การของgodได้หรอก ศาสนาที่มีพระเจ้า เราต้องยึดถือพระเจ้า
ถ้าเราไม่ยึดถือพระเจ้า แต่ไปยึดถืออย่างอื่นที่พระองค์ทรงสร้าง ก็เท่ากับเรานับถือลัทธิเทียมเท็จ
พระองค์ก็ตรัสอยู่ว่าอย่างมีพระอื่นนอกจากเรา อย่านับถือสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นแทนพระเจ้า
ศาสดาคือสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น การยึกถือศาสดาก็เสมือนการไปยึดสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
เท่ากับเราเอาใจออกห่างพระเจ้า การยึดถือศาดามันเป็นหลักการของชาวพุทธเป็นหลักการของพวกไม่้มีพระเจ้า เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงเตือนเราเสมอว่า อย่านับถือสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ อย่านับถือสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นแทนพระองค์ นบีมูซา นบีอีซา นบีมูฮัมหมัด ก็พูดแบบนี้ทุกท่าน ศาสดาเป็นแค่ตัดแทนของพระเจ้าแต่ศาดาไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าสร้างศาสดาขึ้น เหมือนที่พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งขึ้
ไม่มีใครรู้การของgodได้หรอก ศาสนาที่มีพระเจ้า เราต้องยึดถือพระเจ้า
ถ้าเราไม่ยึดถือพระเจ้า แต่ไปยึดถืออย่างอื่นที่พระองค์ทรงสร้าง ก็เท่ากับเรานับถือลัทธิเทียมเท็จ
พระองค์ก็ตรัสอยู่ว่าอย่ามีพระอื่นนอกจากเรา อย่านับถือสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นแทนพระเจ้า
ศาสดาคือสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น การยึดถือศาสดาก็เสมือนการไปยึดสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
เท่ากับเราเอาใจออกห่างพระเจ้า การยึดถือศาดามันเป็นหลักการของชาวพุทธเป็นหลักการของพวกไม่้มีพระเจ้า เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงเตือนเราเสมอว่า อย่านับถือสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ อย่านับถือสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นแทนพระองค์ นบีมูซา นบีอีซา นบีมูฮัมหมัด ก็พูดแบบนี้ทุกท่าน ศาสดาเป็นแค่ตัดแทนของพระเจ้าแต่ศาดาไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าสร้างศาสดาขึ้น เหมือนที่พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งขึ้น
ลัทธิเทียมเท็จ คือลัทธิที่นับถือสิ่งอื่นแทนพระเจ้า ใน อัลกุอ่าน หรือแม้แต่ไบเบิล ก็บอกใบ้ไว้ตั้งนานแล้ว
การยือถือในศาดา มันเป็นหลักการของพวก บาอัล (พระบาอัล)
ไม่ว่าจะ โมเสก พระเยซู นบีมูฮัมหมัด ก็พูดเหมือนกันเรื่องอย่างไปนับถือสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นแทนพระองค์
พุทธศาสนาเป็นศาสนาสายเดียวกับ บาอัล นะจ๊ะ หลักการต่างๆของบาอัลมีอยู่ในคำสอนของศาสนาสายนี้ ดูอย่างศาสนาศาสนาซิกซ์ ที่มาอ้างว่าเป็นพี่น้องกับชาวมุสลิมและชาวคริสดูสิ ใช้หลักการของบาอัล อยู่แท้ๆ ศาสนาและลัทธิในปัจจุบันแบ่งได้เป็นสองสายใหญ่คือ สาย บาอัล กับสายของ โมเสก(หรือนบีมูซา) ศาสนาไหนใช้หลักของใครก็เรียกได้ว่าเป็นศาสนาในสายนั้น สองสายแต่แบ่งเป็นหลายศาสนาและลัทธิ
ผมไม่รู้ศาสนาไหนจะแบ่งมาอะไรยังไง แบบนั้นอะใครก็พูดได้ เกิดหลังแต่มาสร้างคำพูดให้ดูมีหลักการใครก็ทำได้ หมายังทำได้เลยถ้ามันพูดได้น่ะนะ คุณอะหลงผิดแล้ว คุณไปยึดติดที่ว่าศาสนาตัวเองต้องถูกมากเกินไป จนทำให้ความคิดที่อยากให้ศาสนาตัวเองเป็นที่นับถือหรือให้คนอื่นมาเชื่อเหมือนตัวเองหมดครอบงำ แทนที่จะเน้นไปที่การปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี กลับมุ่งเน้นไปที่การเป็นที่ยอมรับ อยากรู้ความสงบจะมีได้ไงถ้ามัวแต่ภูมิใจว่าศาสนาตัวเองเกิดก่อนยังงั้นยังงี้ ทำตัวเองให้ดีพอครับ อย่าหลงผิด พิจารณาเหตุผลด้วย ผมไม่เชื่อว่าใครจะมาบรรดาลห่าเหวไรทั้งนั้น ไร้สาระ ผมช่วยตัวเองได้ ไม่ต้องหวังพึ่งอะไรทั้งนั้น ทำดีพอถึงจะไม่เชื่อพระเจ้าถ้าพระเจ้ามีจริงก็ได้ขึ้นสวรรค์ครับ เพราะทำดี ไม่มีอะไรเสีย ดีกว่าคุณอีกที่เอาแต่เชื่อจนไม่ลืมหูลืมตา เอาเวลาไปปฏิบัติตัวให้มีประโยชน์บ้างนะ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอะ แค่นี้ทำได้ปะ โถ่ หลักง่ายๆแค่นี้เห็นๆกันอยู่ ไม่เห็นต้องให้พระเจ้ามาบอกเลย ผมไม่ได้ลบหลู่พระจงพระเจ้าด้วยจะบอกให้ แต่ผมชอบเหตุผลครับ ไม่ใช่อ้างนู้นอ้างนี่ ทั้งๆที่เราแมร่งสามารถทำได้กลับไปรอให้พระเจ้าบัญชา แถมบางทีเราทำไปเราก็รู้อยู่แล้วว่าคนอื่นเดือดร้อนเพราะเอาตัวเองเปรียบเทียบดูเวลาโดน แต่ก็ดันไปเชื่อพระเจ้า ถ้าแบบนั้นอะ ผมว่ามันผิดแล้วนะ ฉะนั้นผมทำเองครับ ไม่ต้องรอใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นคนดีของสังคม
เป็นเรื่องที่แปลกอย่างนึงที่ชื่อศาสนาซิกซ์ ออกเสียงคล้ายๆคำว่า six (เลข6) ในภาษาอังกฤษ
ใช้หลักการบาอัลในศาสนา แต่มาบอกว่าเป็นพี่น้องกับชาวคริสและชาวมุสลิม
ก็ไม่รู้นะ
PS. แค่เราเป็นคนดี คิดดี ทำดี ต่อให้อยู่ในช่วงที่มืดมนที่สุดของชีวิต เราก็จะพบแสงสว่างและทางออก อิงชาอัลเลาะฮ์
ยังไงก็ดี ขอแค่พวกเค้าสนใจศาสนามากขึ้น เข้าใจว่าอะไรควรไม่ควรก็ดีแล้ว ขอแค่เค้าอย่าทำสงครามกันก็ใช้ได้แล้วแหละ
เราว่าน่าจะสามมคีกันไว้เน้อ
โลกคงวุ่นวาย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?