*****วิศวะจุฬา คอนเนคชั่น*****
ตั้งกระทู้ใหม่
sdasdasdasd
31 ธ.ค. 55 เวลา 08:19 น.
1,662
views
44 ความคิดเห็น
OSK เยอะมาก สวนกุหลาบเป็น ceo และ เจ้าของราว 30 บริษัท 70% ของมูลค่าตลาด
บัณทิตวิศวกรรมเกิน 10000 คน
พลังงาน ปืโตรเคมี โรงกลั่น อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง หม้อแปลง ธุรกิจบันเทิง การบินและ ATC เลนส์ บัตรเครดิต นิคมอุตสาหกรรม หลักทรัพย์ สายจุฬา
สายลาดกระบัง เจ้าของกิจการส่วนตัว ตั้งบริษัทของตนเอง เสี่ยเยอะ
สายมจธ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ กระทรวงคมนาคม
สายเกษตรศาสตร์ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ รัฐวิสาหกิจพลังงาน ไฟฟ้า
แผนกศิลปะ เป็นนักการเมือง คุมวิศวะ 55
ร่วมเครือสวนกุหลาบ ร่วมสร้างประเทศ
คห. 1
โอแมค OMAC (ศิษย์เก่าอัสสัมชัญ) ก็เยอะครับ ดร.ประสาน ไตรรัตน์วรกุล ก็อัสสัมชนิก อนัน อัศวโภคิน ก็ศิษย์เก่าอัสสัมฯ ผู้ว่าการธนาคารเกือบทั้งหมดก็ศิษย์เก่าอัสสัมฯ ผมว่า CEO เป็น "เด็กอัสสัมฯ" เยอะกว่า ศิษย์เก่าสวนฯนะครับ
อัสสัมชัญ คอนเนคชั่น
".....ชื่ออัสสัมชัญ นั้นเด่นมาช้านาน ยังมีพยานปรากฎรับรอง
ไม่เคยมีใครลบเกียรติอัสสัมชัญ เราต้องช่วยกัน คอยประคับประคอง
เพื่อมิให้ลายขาวและแดงของเรา เศร้าและหมอง คงผ่องใสสะอาดตา
...."
จากเนื้อเพลงตอนหนึ่งของเพลง "สดุดีอัสสัมชัญ" ที่ปลุกแรงกายและแรงใจให้ฮึกเหิมและภาคภูมิใจในสถาบันเอกชนคาทอลิกแห่งแรกของประเทศ
หากพูดถึงสถานศึกษาเอกชนที่มีชื่อเสียงในระดับต้นๆของประเทศแล้ว แทบจะทุกคนคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก "โรงเรียนอัสสัมชัญ" โรงเรียนเอกชนชายอันดับหนึ่งของประเทศไทยกว่า 120 ปี ที่ซึ่งสามารถสร้างและผลิตบุคคลในระดับแนวหน้าของประเทศไว้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นสถานศึกษาเอกชนที่มีนายกรัฐมนตรีและองคมนตรีเข้ารับการศึกษามากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียวก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น "พระยามโนปกรณ์นิติธาดา" (อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศสยาม),"พันตรี ควง อภัยวงศ์" (อดีตหัวหน้าและผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์), " ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช" (อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรก), "ศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์" (อดีตประธานองคมนตรี และผู้ก่อตั้งคณะนิติศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) รวมทั้งอดีตนายกฯรักษาการ อย่าง "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" คนที่แล้วอีกด้วย
ตามมาด้วยอดีตองคมนตรีต่างๆ อาทิ "พระยามานวราชเสวี (ปลอด ณ สงขลา, หรือ ปลอด วิเชียร ณ สงขลา)" (อสช 971) อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 9 เป็นเวลา 15 ปี, อดีตสมาชิกสภากรรมการองคมนตรีในรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7, อดีตอภิรัฐมนตรีและองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 โดยท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ให้เป็นองคมนตรียาวนานติดต่อกันถึง 29 ปี, "เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ(จิตร ณ สงขลา)" - เจ้าพระยาคนสุดท้ายของประเทศไทย อดีตประธานองคมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานรัฐสภา , "พลตำรวจโทพระยาอธิกรณประกาศ(หลุย จาติกวณิช, ชื่อจีน'ซอเทียนหลุย')" - อดีตองคมนตรี, อดีตราชองครักษ์, อดีตอธิบดีกรมตำรวจภูธร, อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาลฯ ,"พันเอกพระยาศรีวิสารวาจา(เทียนเลี้ยง ฮุนตระกูล, ชื่อจีน'ฮุ่นเซ็กเตี่ยน')" - อดีตองคมนตรี ในรัชกาลที่ 9, อดีตสภากรรมการองคมนตรี ในรัชกาลที่ 7 เนติบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด แกทั้งยังเป็นอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย ,"พลตำรวจเอกอดุล อดุลเดชจรัส" (อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมตำรวจและผู้บัญชาการทหารบก), "สันติ ทักราล" อดีตประธานศาลฎีกา และ"พลเรือเอกชุลพล ปัจจุสานนท์" อดีตองคมนตรีและผู้บัญชาการทหารเรือ
ไม่พ้น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯและนักการเมืองชื่อก้อง อย่างศาสตราจารย์ "ดิเรก ชัยนาม" ศิษย์เก่าอัสสัมจากรั้วโดมฯ รวมถึง "ถนัด คอมันตร์" คู่ขากันอีกด้วย "อารีย์ วงศ์อารยะ" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนล่าสุด, "ประชา มาลีนนท์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ "ดร.ธีระ สูตะบุตร" อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ "อบ วสุรัตน์" อดีตรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ,หรือแม้กระทั่งแต่นักวิชาการรวมถึงยังเป็นนักการเมืองตัวยง "เอนก เหล่าธรรมทัศน์" ศิษย์เก่าอัสสัมฯชื่อก้องท่านหนึ่งหรือที่พวกเรารู้จักกันในนามว่า "หนุ่มซินตึ๊ง"อดีตหัวหน้า"พรรคมหาชน" อดีตคณบดี คณะรัฐศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นห้องเดียวกันในสมัย ม.ปลาย กับคุณ "สุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์" อดีตคณบดีแห่งเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ รวมทั้ง "ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน" รองอธิการบดี จุฬาฯ คนปัจจุบัน ที่พี่น้องชาวจามจุรี ต่างรู้จักกันดีทั้งสิ้น
ตามมาด้วย CEO ระดับแนวหน้าในวงการเงินและธนาคารอันเลื่องชื่อ อาทิ "อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอดีตอธิการบดีแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังเคยเป็นคณบดี เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ด้วย, "ม.ร.ว.จันทรแรมศิริโชค จันทรทัต" อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน, "ชาติศิริ โสภณพณิช" (สุดยอด ceo แห่งปี) กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่งธนาคารกรุงเทพ , "ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" อดีตที่ 1 ของประเทศไทยจากวิศวฯ รั้วจามจุรี ต่อ ป.เอก(บริหารฯ) Havard ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยต่อจากคุณ"บรรยงค์ ล่ำซำ"(ศิษย์เก่าอัสสัมฯ) และอดีตเลขาแห่ง ก.ล.ต.คนที่ 3 รวมถึงยังเป็นอดีตนายกสโมสรนิสิต จุฬาฯช่วง 14 ตุลาฯ อีกด้วย , "ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย" กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, "กฤตย์ รัตนรักษ์" ประธานกรรมการ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, "อุเทน เตชะไพบูลย์" ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการธนาคารศรีนคร และผู้ก่อตั้งมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง(ปัจจุบัน ท่านเสียชีวิตแล้ว), "สิงห์ ตังทัตสวัสดิ์" กรรมการผู้อำนวยการธนาคารกรุงเทพ และอดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, "พีรศิลป์ ศุภผลศิริ" กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่งไทยธนาคาร, "ขรรค์ ประจวบเหมาะ" กรรมการผู้จัดการแห่งธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ"ปกรณ์ ทวีสิน" อดีตกรรมการผู้จัดการแห่งธนาคารไทยทนุ
ที่ขาดไม่ได้คือพี่เบิ้มหรือยักษ์ใหญ่แห่งตระกูล"จิราธิวัฒน์"และ"เจียรวนนท์" ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นใดแต่คือ "คุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์" ประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มโรงแรมและเซ็นทรัลกรุป, "สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์" รองประธานบริหารเครือเซ็นทรัล, "วันชัย จิราธิวัฒน์" ประธานบริหารบริษัทในเครือเซ็นทรัล, "สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์" กรรมการผู้จัดการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม, "ทศ จิราธิวัฒน์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด อีกทั้งผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ "คุณวัลลภ เจียรวนนท์" อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นนายาสมาคมอัสสัมชัญอีกด้วย, "ศุภชัย เจียรวนนท์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ True/ True Move นั่นเอง, คุณสุวิทย์ กิ่งแก้ว แห่ง SEVEN ELEVEn ที่หลายๆคนรู้จักกันดีรวมถึง "ดร.ชุมพล พรประพา" แห่ง เอส.พี.ซูซูกิ อดีตนายกสมาคมครูและผู้ปกครองโรงเรียนอัสสัมชัญ และ"บุญฤทธิ์ ผ่องเมฆินทร์" กรรมการผู้บริหาร บริษัท ยนตรกิจเกียมอเตอร์ จำกัด, "สมชาย บุลสุข" แห่งบริษัท เสริมสุข จำกัด (PEPSI)
อีกทั้งยักษ์ใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ทุกคนรู้จัก "อนัน อัศวโภคิน" แห่งค่ายหมู่บ้านแลนด์แอนด์เฮ้าส์ อีกทั้งยังเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับหนึ่งของเมืองไทยอีกด้วย ตามมาด้วย"คุณอภิชาติ จูตระกูล" แห่งบริษัท แสนสิริ จำกัด, "นพ.ชัยยุทธ กรรณสูตร" แห่งอิตาเลียน-ไทยอันโด่งดังในการรับเหมาก่อสร้างต่างๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังที่สุดแห่งหนุ่งของเมืองไทย นาม "โอเรียนเต็ล" รวมถึงนักต่อสู้แสนล้านซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้เสียนอกจาก "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" แห่งค่ายปูนยักษ์"ทีพีไอ" และอดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย อดีตเลขาแห่งพรรคประชาราช และCEO แห่งเครือสหพัฒนพิบูล "คุณณรงค์ โชควัฒนา" กรรมการผู้บริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), รวมถึงอดีตกรรมการผู้อำนวยใหญ่ การบินไทย อาทิ คุณ"กนก อภิรดี" และ คุณ"ธรรมนูญ หวั่งหลี" ที่ขาดไม่ได้คงเป็นพี่ใหญ่แห่งสายการบินบางกอกแอร์เวย์ชื่อก้อง "นพ. ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ" ต่างก็ล้วนแต่ผ่านรั้วกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินย่านบางรักมาด้วยเช่นกัน
เช่นเดียวกัน ในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ แทบไม่กี่คนที่ไม่รู้จัก "ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ" อดีตนิสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมจากจุฬา และที่หนึ่งทุนธนาคารกสิกรไทย แต่ผันตัวเองมาเล่นหุ้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส รวมถึงคนดังที่ทุกๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดี "คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตกรรมการผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย
ไม่เพียงแต่หน่วยงานของภาคเอกชนเท่านั้น หากยังรวมถึงหน่วยงานของรัฐวิจสาหกิจอีกด้วย หากย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อของบุคคลท่านนี้ แต่มาวันนี้ หากเอ่ยถึงชื่อ คุณ"เกษม จาติกวณิช" หรือที่เรารู้จักกันในนาม"ซูปเปอร์เค"แล้ว แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักโดยเฉพาะในระดับของผู้บริหารด้วยกันเอง ด้วยความสามารถในการบริหารงานธุรกิจอันยอดเยี่ยม ปัจจุบันท่านดำรงตำแห่งเป็นประธานกรรมการ บริษัท BTSC หรือ รถไฟฟ้า BTS นั่นเอง รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งและผู้ว่าการคนแรกแห่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของไทยออยล์, บางจากปิโตรเลียม, ป๋ยแห่งชาติ, เอเชียทรัสต์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, ไม่แพ้กันนี้ยังมี "ดร.ปรัชญา ภิญญาวัธน์" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง ปตท จำกัด(มหาชน), "คุณประชา เหตระกูล" แห่ง นสพ.เดลินิวส์, "ประวิทย์ ตั้งคารวคุณ" แห่งค่ายสี TOA ตามมาด้วยรองนายกรัฐมนตรีสมัย พ.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร คือ "โภคิน พลกุล" อดีตนักกฏหมายมือฉกาจจาก นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ อีกด้วย
ล่าสุด "บัญฑิต อึ้งรังษี" วาทยากร หรือ Conductor ระดับโลกที่นับได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศเลยทีเดียว
จึงอาจที่จะกล่าวได้ว่า โรงเรียนอัสสัมชัญ เป็นโรงเรียนในระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่สามารถผลิตบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไว้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะในวงการเมือง การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ดังเช่นตอนหนึ่งของเนื้อเพลง "อัสสัมชัญ 100ปี" ที่ว่า
"....อัสสัมชัญ สถาบันนี้ สร้างคนดี ฝากไว้ ในสยาม...."
ผมจบจากอัสสัมมาแต่ยังไม่เห็นจะต้องออกนอกหน้าขนาดนี้เลยนะคับ คุณพยายามยกอัสสัมให้สูงขึ้นด้วยคำโอ้อวด แต่คุณไม่รู้เลยสินะว่ามันกลับทำให้คนมองอัลลัมตกต่ำลงเพราะศิษย์/ศิษย์เก่าอย่างคุณ
คห. 5 ผมยกอัสสัมฯสูงกว่าตรงไหนครับ
อย่างเช่นโรงเรียนสวนกุหลาบเขาก็โพสต์บทความกันกัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเขาก็โพสต์กัน โรงเรียนเซนต์คาเบรียลเขาก็มีบทความที่เกี่ยวกับศิษย์เก่ากัน (หลายปีแล้วครับ) คนอื่นเขาหมั่นไส้ก็จริง แต่ก็ไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์อะไร ต่างจากบทความที่ศิษย์เก่าอัสสัมฯเอาลงแล้วถูกศิษย์ปัจจุบัน(หรือศิษย์เก่า หรือใครก็ไม่รู้) คิดว่าเป็นการโอ้อวด หากคุณไปดู OSK คุณจะรู้เลยล่ะว่าเลือดชมพูฟ้าของเขาเข้มข้นแค่ไหน ผมว่านี่ยังเฉยๆไปด้วยซ้ำ
บทความนี้รุ่นพี่ AC 104 และ AC 120 เขาก็เคยเอาไปลงเว็บบอร์ดของเขา ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งช่วงนี้ หากคุณทราบ(ถ้าคุณเป็นอัสสัมชนิกจริงๆ) คุณก็จะรู้ว่าโรงเรียนอัสสัมชัญกำลังประสบกับวิกฤติการณ์ขั้นร้ายแรง.... ช่วงนี้ก็ไม่แปลกใจนักหากใน facebook หรือในเว็บบอร์ดมีการเอาบทความต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอัสสัมฯลง ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกครับ...
ความเห็นที่ 1 นี่ก็ออกหน้าเช่นกันไม่ใช่หรือครับ?
หรือว่าเป็นเพราะบทความที่ผมเอาลง? ที่ทำให้คนอื่นๆ(หรือว่าคุณ)หมั่นไส้
เรื่องจบจากอัสสัมฯมันก็สามารถพูดได้ครับว่า "จบจากอัสสัมฯ" แต่จบตอนไหนล่ะ เข้าตอนไหนล่ะ? นั่นก็เป็นอีกประเด็น ทุกๆคนหากมีเลขประจำตัวและอักษรย่อ อสช ก็ถือว่าเป็น "เด็กอัสสัมฯ" หมดครับ ไม่ว่าคุณจะเรียนแค่ชั้นประถม หรือเพิ่มเข้าแทรกชั้นตอน ม.ปลาย คุณก็ถือว่าเป็นเด็กอัสสัมเหมือนกันหมด
ส่วนเรื่องจิตสำนึกในอัสสัมชัญหรือความเป็นอัสสัมชัญนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก หากคนคนนั้นไม่ได้เข้าใจถึงแก่นของมันจริงๆครับ
หากสิ่งที่ผมโพสต์ลงทำให้คนอื่นมองอัสสัมชัญไม่ดี ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ เหตุเพราะช่วงนี้ "อีโก้" ผมมันแรงไปหน่อย ขออภัยนะครับ ;D
หากคุณอ่านดีๆ ในความเห็นที่ 4 มันไม่ใช่ "คำโอ้อวด" แต่อย่างใด แต่มันคือ "บทความ" (ที่ใครสักคนเขียนขึ้น คิดว่าคงเป็นอัสสัมชนิก)
เรื่อง "ความภาคภูมิใจ" ผมเชื่อว่าเด็กอัสสัมฯทุกคนภูมิใจใรโรงเรียนนะครับ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นพลังแรงแรงใจศิษย์เก่าเยอะขนาดนี้ทั้งในจตุรมิตรและในเวทีต่างๆ เช่นเดียวกับที่ "ชาววิศวฯ จุฬาฯ" หรือ "ชาวสวนกุหลาบ" มีความภาคภูมิใจในสถาบันหรือคณะของตนครับ ผมเชื่อว่า หากบทความนี้เป็น บทความที่เกี่ยวกับ OSK หรือ Intania (วิศวฯ จุฬาฯ) คงมีคนหมั่นไส้จริง.. แต่คงไม่มีใครคิดว่านี่คือ "การโอ้อวด" เป็นแน่ เพราะมันคือ "ข้อเท็จจริง" และเราภูมิใจในสิ่งนี้ (รวมทั้งผู้อ่านใน dek d ที่ใฝ่ฝันอยากเข้าวิศวฯ จุฬาฯด้วย)
วิศวจุฬาเป็นสุดยอดของวิศวกรรมของเมืองไทย
ไม่มีวิศวที่ไหนคอนเน็คชั่นดีกว่าจุฬาอีกเเล้วว ยอด
เข้าใจว่า บุญเก่าๆ มีดีนะครับ แต่ช่วยไปยกหางตัวเองที่เวบโรงเรียน หรือศิษย์เก่า จะดีก่านะ
แถวนี้ เอียนจะแย่อ่ะ คอนเนคชั่น ใช้ไปทางดีก็ดีนะคับ
แต่ที่เห็นๆมา บ้านเมืองเราไปไม่ถึงไหน เพราะทำอะไรเห็นแก่พวกพ้อง และตนเอง มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม หรือประเทศชาติ ระบบแบบนี้ เอื้อทุจริต แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขำดีกระทู้นี้
สรุปคือ สวนกุหลาบหรอ งง
กากครับ  ทั้ง สองโรง เค้าพูดถึงวิดวะ ปีหนึ่งจบจากสวนกล้วยกับอัสสัม กี่คนอย่ามาอวดเลย แขยง
เพิ่งกลับเข้ามาอ่าน ขอบคุณ คห 4 และเจ้าของกระทู้ที่นำข้อมูลดีๆมาเผยแพร่ อ้สสัมชัญเป็นโรงเรียนสร้างผู้นำด้านธุรกิจที่โดดเด่นมาก เช่นเดียวกับวิศวะ จุฬา สวนกุหลาบ และควรพูดถืงมาแตร์และสาธิต จุฬาด้วย
ประเทศต้องการสถาบันผลิตนักบริหาร ceo ต้องการนักลงทุนผู้สร้าง wealth เพื่อสร้างงานและธุรกิจแข่งกับโลก นักเรียนในสิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ระดับ ม5 เริ่มลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ อ่านวอเรน บัฟเฟท โดยผู้ปกครองสนับสนุน ทุกประเทศมีโรงเรียน มหาวิทยาลัยที่มุ่งสร้างผู้นำธุรกิจให้ประเทศ เรียกว่า การสร้าง diamond เมืองไทยก็มีสถาบันแนวนี้ที่รวมตัวสร้างคนอย่างเงียบๆ เช่นเดียวกับที่มหิดลวิทยานุสรณ์ต้องการสร้างนักวิทยาศาสตร์
วิศวะ จุฬาสร้างคนแนวนี้ได้ โดยเน้นสอนวิศวะประสานกับวิชาไฟแนนซ์ และ management สวนกุหลาบเรียนวิศวะ จุฬา ร่วม 7000-8000 นอกนั้นก็กระจายไปเกษตร พระจอม มช ซื่งแต่ละมหาวิทยาลัยมีแคแรกเตอร์ของตัวเอง เช่น พระจอมจะออกมาเป็น เจ้าของกิจการกันมาก ที่น่าสนใจคือคนบุกเบิกธุรกิจ หรือceo จะไม่มีทุนคิงหรือเรียนได้ 4 มีความขัดแย้งระหว่างแคแรกเตอร์ของคนเรียนเก่งมาก กับความกล้าเสี่ยง ความเป็นนักบริหารหรือเปล่า
สวนกุหลาบเข้าเรียนวิศวะปีละ 130 จุฬาราว 80 สาขานี้ให้โอกาสทางธุรกิจมาก คือ รถหนื่งคันใช้ชิ้นส่วนสองหมื่นชิ้น ตั้งโรงงานได้มากมาย
อยากให้พระจอมสร้างบริหารธุรกิจแบบจุฬา มธ ด้วย จะไปโลด อยากเห็นโรงเรียนอย่างภูเก็ตวิทย์ หาดใหญ่วิทย์สร้างคนแนวนี้ขื้นมาเป็นหัวรถจักรขับเคลื่อนจังหวัด มีทุกจังหวัดยิ่งดี ตอนนี้โรงเรียนต้องมี positioning ชัดเจน
ที่น่าสนใจคือศิษย์เก่าอัสสัมจะไปด้านการค้า การเงินมาก อิทธิพลของเครือข่ายชุมชนย่านสีลมรอบๆอัสสัมชัญมีประโยชน์มาก
ช่วงนี้นักเรียนเริ่มคิดกันว่าทำไมต้องเรียนวิศวะแล้วต่อ mba หันไปสนใจสายไฟแนนซ์ บัญชีการตลาด อสังหาระดับป ตรีกันมาก
ตลาดหลักทรัพย์โปร่งใสกว่าธุรกิจแบบเดิม 50% ของภาษีนิติบุคคลมาจากบริษัทในตลาดครับ
ทุก business school เป็นแหล่งสร้างคอนเนคชั่นเหมือนกัน ขอบคุณเจ้าของกระทู้และ คห 4 ครับ การแบ่งปันความรู้กันมีประโยชน์ ถ้าคิดบวก
มาแตร์เดอีเป็นอีกโรงเรียนที่น่าทื่งในหลายด้าน ด้านหนื่งคือการสร้างนักธุรกิจหญิงระดับผู้นำจำนวนมาก อย่างเงียบๆ อย่าเอ่ยชื่อเลย ดูจะเป็นเทรดิชั่นของบางตระกูล เช่น เครือเซนทรัล ไทยเบฟ ซีพี ว่าผู้ชายให้เข้าอัสสัม ผู้หญิงเข้ามาแตร์ เครือข่ายธุรกิจมาแตร์กว้างขวางอย่างน่าตกใจ ทั้งเจ้าของโรงงาน การเป็นเจ้าของแบรนด์ต่างประเทศ การนำเข้า ส่งออก สินค้าความงาม เสื้อผ้า แนวมาแตร์จะเน้นความเลิศด้านภาษา การรวมกลุ่มที่แน่นที่สุดแห่งหนื่งของประเทศ มักต่อด้านบริหารธุรกิจ บัญชี และเศรษฐศาสตร์
ไม่มีข้อมูลจะจะของเซนต์โย แต่รู้ว่าที่นี่น่าสนใจเหมือนกัน
มีเคสของนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ที่เด็กสวนใช้ศืกษา การลงทุนแนวthaivi มีหุ้นมูลต่าพันกว่าล้านตั้งแต่หนุ่ม
เทรนด์ที่ชัดมากของสวนกุหลาบ คือการเรียนต่อด้านเศรษฐศาสตร์ ไฟแนนซ์ บริหาร บัญชีปีละร่วม 130 คน มี young economist society of siankularb  มองว่าเรียนตรง ต่อmba เข้าวิทยาลัยตลาดทุน อบรมที่set ไปเลย
บรรยากาศของโรงเรียนสร้างความสนใจ ความฝัน ความทะเยอทะยาน การเข้ามารวมกลุ่มกันแนวคลัสเตอร์ทำให้ทำงานใหญ่ได้ มีความเชี่ยวชาญรอบด้านอยู่ในรุ่น
แบบนี้ต้องหาแฟนเป็นหนุ่มวิศวะจุฬาสินะ5555555
เค้ากำลังดรามากันเรามาทำอะไรเนี่ยยย 🙏
profile ของศิษย์เก่าอัสสัมชัญในฐานะผู้นำธุรกิจของประเทศน่าที่งมาก ลองเรียงไล่ดู ตามข้อมูลใน คพ 4
ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรี ไทยทนุ อาคารสงเคราะห์ ไทยธนาคาร
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์อย่างน้อยสอง คือ สิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ และกิตติรัตน์ ณ ระนอง บริษัทหลักทรัพย์ระดับเอเซียพลัส ของก้องเกียรติ โอภาสวงการ ที่ปีนี้จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนอีก 16 บริษัท
บริษัทโทรคมนาคมระดับ True อือม์ ธุรกิจดาวเทียม มือถือยุคเริ่มต้นด่อนจะมาเป็น AIS นักเรียนสวนกุหลาบมีบทบาทมาก ราวรุ่น 87 และใกล้เคียง
ภาคการค้า ต้องยอมอัสสัมชัญ ซีพี เซนทรัล สหพัฒน์ สวนกุหลาบออกแนวร้านระดับ waterside และธุรกิจส่วนตัวอื่นๆ
เครือโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่สุดของประเทศ อันดับ 4 ของโลก อันดับหนื่งหรือสองของเอเซีีย และกำลังจะบุกตลาดจีนของหมอปราเสริฐ และยังเป็นเจ้าของธุรกิจสนามบิน และบางกอกแอร์เวย์
ธุรกิจสี toa เนี่ยใหญ่มาก ยังแถมด้วยธุรกิจก่อสร้างบ้าน คอนโด ระดับแสนสิริ แลนด์ และ AP
ด้านรับเหมาก่อสร้างมี อิตาเลียนไทย แต่สวนกุหลาบมี ช การช่าง คริสเตียนมี ชิโนไทย
ยอมรับในฝีมือ แนวอัสสัมนี่มีทั้งวิศวะ จุฬา ศศินทร์ จุฬา และสายเรียนนอก หมอปราเสริฐ จบวิทยา
บุคลักอัสสัมเป็นพวนิ่งๆ เย็น ฟัง แต่คมมาก บางครั้งก็มาดนักเลงแบบโรงเรียนชาย
เมื่อรมตคลังเถียงกับผู้ว่าแบงก์ชาติ จืงออกแนวมีเยื่อใยกันอยู่
โรงเรียนนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากในด้านวัฒนธรรม การอบรม
กลายเป็นดราม่าโรงเรียนไปซะอย่างนั้น
วิศวจุฬาอย่าตีกันเองสิ
มาจากโรงเรียนไหนก็วิศวจุฬาเหมือนกัน
จะตีกันเพื่อ
ไม่เห็นมีอะไรดรามาระหว่างโรงเรียนเลยนี่ครับ ข้อมูลโรงเรียนที่ยกมาแสดงถืงความเป็นสถาบันสร้างผู้นำธุรกิจของโรงเรียนเหล่านี้ แบบยกย่องกัน
ถ้าจะนำข้อมูลของวิศวะ จุฬา ที่เป็นแหล่งสร้าง ceo มาใช้ประโยชน์ให้เกิดประโยชน์กับประเทศ และการวางแผนการศืกษาของคน สามารถตั้งคำถามได้มาก
วิศวะ จุฬาเป็น ceo ของยริษัทในตลาด50%  การศืกษาวิศวะของมหาวิทยาลัยอื่นเป็นอย่างไร ขาดอะไร จืงไม่สามารถสร้าง ceo มากมายระดับนี้
ในsubset ของวิศวะ จุฬาที่มาจากโรงเรียนต่างๆ เหตุใดจืงมีการกระจุกตัวด้านธุรกิจอยู่ในบางโรงเรียน อะไรคือเหตุผลเบื้องหลัง ความกล้าเสี่ยงผ่านเกมกีฬา ที่มาของครอบครัว ชุมชน วัฒนธรรมครอบครัว โรงเรียน กิจกรรมโรงเรียน ความทะเยอทะยาน หรืออะไร
ทำไมโรงเรียนสตรีอย่างมาแตร์ที่มีคนเรียนวิศวะน้อยจืงสร้างธุรกิจขนาดใหญ่มากมาย เหตุใดจืงไม่เกิดขื้นกับโรงเรียนสตรีอื่น
ทำอย่างไรจืงจะให้ entrepreneurship กระจายไปสู่โรงเรียนต่างจังหวัด ในยุคที่งานราชการลดลงเรื่อยๆ
แล้วคนที่เป็นเจ้าของและ ceo อีก 50% ของบริษัทในตลาดเรียนอะไรมา เพื่อเป็นแนวทางศืกษาต่อของนักเรียน
ข้อมูลพวกนี้มีประโยชน์เยอะ ที่จริงวางแผนการศืกษาต้องวิจัยเรื่องพวกนี้ด้วย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?