แฟรี่ คืออะไร
เรามารู้เร่องราวเกี่ยวกับแฟรี่กันบ้างดีกว่าว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
เนื้อหาส่วนใหญ่ถูกนำมาจากเน็ตที่หาได้ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ช่วยเสริมด้วยนะ
ภาพประกอบนิทานของประเทศในแถบยุโรปเช่น อังกฤษหรือเยอรมนีนั้น ถ้าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับป่าเขาลำเนาไพรแล้ว มักจะเห็นเขาวาดภาพนางฟ้าตัวจิ๋วใบหูแหลม ที่หลังมีปีกใสดุจแมลงปอผลุบๆโผล่ๆอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้หรือพงหญ้า
ทั้งๆที่นิทานเรื่องนั้น มิได้กล่าวถึงนางฟ้าเหล่านี้แม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะฝรั่งนั้นเขามีความเชื่อว่าตามป่าเขาและกอหญ้านั้นจะมีนางฟ้าเหล่านี้อาศัยอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครจะพบเห็นได้โดยง่ายๆ ฝรั่งเรียกเทพธิดาเหล่านี้ว่า แฟรี่Fairy) ซึ่งก็แปลว่านางฟ้านั่นเอง
แต่ตามตำนานของเขาเหล่านั้นกลับบอกว่า นางฟ้าตามพงหญ้าตามพงหญ้านี้ ไม่ใช่นางฟ้าหรือเทพธิดาที่เหาะบินลงมาจากสวรรค์ แต่เป็นนางฟ้าที่อาศัยปะปนอยู่บนโลกมนุษย์นี่เอง และถึงจะมีปีกมีเวทย์มนต์อยู่บ้างเหมือนนางฟ้าจากสวรรค์
แต่ก็ไม่มากมายเท่าโดยสันนิฐานว่าแฟรี่ ซึ่งเป็นางฟ้าในพงหญ้านี้ อาจสืบเผ่าพันธุ์มาจากนางฟ้าบนสวรรค์ก็เป็นได้ นางฟ้าบนดินนี้จะไม่ค่อยอยู่เดี่ยวๆเช่นนางฟ้าทั่วไปบนสวรรค์ แต่จะมีสังคมความเป็นอยู่คล้ายมนุษย์ คือ มีครอบครัวพ่อแม่พี่น้องกินอาหารก็คล้ายมนุษย์ เช่นผลไม้ป่าลูกเล็กๆ น้ำผึ้ง ไข่นก น้ำค้าง
มีการแบ่งกลุ่มเขตแดนกันปกครองเป็นเมือง แต่ละเมืองนั้น จะมีการเดินทางไปหาสู่กัน แต่ชาวเมืองส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงเสียส่วนมาก (นานๆจะเห็นภาพผู้ชายโผล่มาซักคน) ผู้ปกครองเมืองนั้นก็เป็นราชินีแต่งกายงดงาม ส่วนพระราชาก็มีเช่นกันแต่มักจะไม่ค่อยเห็น
โดยปกติแล้วนางฟ้าบนดินเหล่านี้มักจะไม่ค่อยอยู่เฉยๆมีการเคลื่อนไหว บินไปไหนมาไหนตลอดเวลาตามพงหญ้า และบินค่อยข้างต่ำคือจะไม่เห็นบินบนฟ้า หรือตามยอดไม้สูงอาจเป็นเพราะกลัวนางฟ้าที่อยู่บนสวรรค์จะเห็นก็เป็นได้
เพราะมีบางตำนานกล่าวไว้ว่า นางฟ้าบนสวรรค์และนางฟ้าบนดินไม่ถูกกัน ราชินีผู้ปกครองเมืองของเหล่านางฟ้าบนดินนั้น จะไม่ค่อยใช้ปีกบินไปไหนมาไหน แต่จะนั่งรถม้าคันเล็กลวดลายสวยงาม ทำด้วยทองประดับอัญมณีสีต่างๆวิ่งลัดเลาะไปพงหญ้า เพื่อนร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับราชินีในเขตแดนอื่นๆกันอยู่เสมอ
จากhttp://board.palungjit.com/f2/%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-33708.html
PS. เป็นดั่งลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามาจนเย็นจับหัวใจ ไม่แม้จะพูดบอกใครๆให้เข้าใจตัวตน ยืนหยัดแม้จะไร้ซึ่งกำลัง ปกปิดความจริงที่ซ่อนเร้น ยิ้มให้ผู้คนที่ผ่านเข้ามาจากใจจริงให้ทุกสิ่งและทุกอย่าง
1 ความคิดเห็น
อาจรู้สึกเดียวดายในท่ามกลางผู้คนมากมาย ขอจงเชื่อในสิ่งสิ่งที่รู้สึก
แล้ววันนึงจะพบพานผองเพื่อนมากมาย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?