Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 อันดับ เด็ก โหด เลว ชั่ว ของโลก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

10 อันดับ เด็ก โหด เลว ชั่ว ของโลก


วันนี้จะพาทุกท่านไปชม 10 อันดับ เด็ก โหด เลว ชั่ว ของโลก แค่ชื่อก็ยากจะบรรยาย แล้วว่า จะเป็นยังไงลองไปชมด้วยตัวท่าน เองดีกว่าครับ

10 ไบรอัน และเดวิด ฟรีแมน (Brian and David Freeman)

ไบรอันอายุ 17 ปี และเดวิด อายุ 16 ปีสองพี่น้องยักษ์ปักหลักสูงกว่า 6 ฟุตหนักกว่า 200 ปอนด์ ภาพที่คุณเห็นข้างบนนั้นไม่ใช้รอยสักธรรมดาแต่เป็นรอยสักแก๊งนีโอนาซีสองพี่น้องถูกตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันทีหลังมีการพบศพแม่ของสองพี่น้องและน้องชายคนรอง ถูกไม้กระบองทุบจนตายในเขตเมืองซอลส์บรี มลรัฐเพนซิลวาเนีย ในปี1995ซึ่งคืนก่อนหน้าที่เกิดเหตุมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกันระหว่างผู้ปกครองและสองพี่น้องดังกล่าว สุดท้ายสองพี่น้องก็ถูกจับคุกตลอดชีวิต

9 เอ็ดมุนด์ เคม เปอร์ (Edmund Kemper)

27 สิงหาคม ปี 1964 ที่เบอร์แบงค์ แคลิฟอร์เนีย เอ็ดมุนด์ เคมเปอร์ ในขณะนั้นอายุแค่ 15 ปีได้ยิงตากับยายด้วยปืนล่าสัตว์(ยิงยายแล้วก็เอามีดหั่นเนื้อแทงยายซ้ำๆจนปลายบิดงอ) หลังถูกตำรวจจับกุมเขาอ้างเหตุผลในเวลาต่อมาว่า“แค่อยากรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับการฆ่ายาย”เด็กชายเคมเปอร์ถูกวินัจฉัยว่าเป็นโรคจิต(แต่ไอคิวถึง 140)เขาถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และถูกปล่อยตัวเมื่อปี 1969เคมเปอร์อายุ 21 ปี แสร้งแกล้งทำเป็นว่าหายขาด และถูกปล่อยสู่สังคมเมื่อออกสู่ภายนอกเคมเปอร์ก็ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซื้อรถคันหนึ่งรับเหยื่อที่เป็นผู้หญิงนักโบกรถและใช้ปืนยิงแล้วแทงให้ตายตัดศีรษะ หั่นศพ ใช้กล้องบันทึกภาพ บางรายนำเนื้อไปกินที่บ้านมีเหยื่อที่โดนวิธีนี้กว่า 6 ราย และเมื่อวันที่ 20 เมษายน1973 เคมเปอร์ก็ฆ่าแม่ของตัวเองโดยการทุบหัวเธอด้วยค้อนขณะที่เธอหลับอยู่ตัดหัวเธอออกแล้วข่มขืนศพที่ไร้หัวนั้นจากนั้นเขาก็เอาหัวแม่มาใช้เป็นเป้าปาลูกดอกและเอากล่องเสียงไปทิ้งขยะเท่านี้ยังไม่พอเขายังฆ่าเพื่อนแม่อีกคนก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจมาจับตนเอง(ตอนแรกตำรวจนึกว่าเรื่องตลกเคมเปอร์ต้องชี้แจ้งหลายนาทีกว่าตำรวจจะเชื่อ) เคมเปอร์สารภาพต่อตำรวจว่า“แม่เป็นหญิงสารเลว สมควรตาย” สุดท้ายเคมเปอร์ถูกตัดสินคดีฆาตกรรม 8 คดีและถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

8 วิลลี่ บอสเก็ต (Willie Bosket)

วิลลี่ บอสเก็ต เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1962เขาถูกตัดสินในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่นิวยอร์คเขาฆ่าเหยื่อเพียงเพราะชิงทรัพย์เท่านั้นแต่การตัดสินของเขาใช้กฎหมายผู้เยาว์มันไม่สาสมต่อการกระทำอันอุกอาจของเขาได้ทำให้สภาได้ร่างกฎหมายเพื่อให้เยาวชนต้องรับโทษแบบผู้ใหญ่ในคดีอุกฉกรรจ์ขึ้นมา โดยก่อนหน้านั้น ในวันที่ 19 มีนาคม 1978 วิลลี่ บอสเก็ตใช้ปืนยิงนายโนเอล เปเรส(Noel Perez) บนรถไฟใต้ดินนิวยอร์คเพียงเพื่อขโมยเงินจำนวนหนึ่งและนาฬิกาข้อมือ แปดวันต่อมาวันเขายิงนายโมเลส เปเลส(Moises Perez) นามสกุลเหมือนกันแต่ไม่มีความสัมพันธ์กับเหยื่อรายแรก)และขโมยเงินของเหยื่อ ไป เขาถูกตัดสินโดยกฎหมายเยาวชนก่อนที่ร่างกฎหมาย ใหม่นี้จะเสร็จเขาถูกจำคุกแต่ออกมาอีก 4 ปีให้หลัง(ปล่อยในปี 1983)แต่ต่อมาไม่นานเขาก็ถูกจับในคดีลอบวางเพลิงและคดีร้ายแรงอีกมากมายและถูกตัดสินโดยกฎหมายใหม่ในที่สุดเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและถูกขังเดี่ยวในเรือนจำนิวยอร์คตราบจนทุกวันนี้

7 โจชัวร์ ฟิลิปส์ (Joshua Phillips)

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 1998 ในฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กน้อยเพื่อนบ้านของโจชัวร์ ฟิลิปส์ชื่อเด็กหญิง Maddie Clifton อายุ8 ขวบ หายตัวไปจากบ้านของเขาเอง ตำรวจและอาสาสมัครกว่า 400คนทำการค้นหาและเสนอรางวัลเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเดิมแต่สุดท้ายก็ไร้ผล(คดีนี้ถึงมือ FBI) หารู้ไม่ว่าเด็กน้อยคนนั้นอยู่ที่บ้านเพื่อนบ้านนี้แหละหากแต่เป็นศพแล้ว 7 วันต่อมาหลังการหายตัวไปของเด็ก แม่ของโจชัวร์ ฟิลิปส์ทำความสะอาดห้องของเขาพบว่ามีกลิ่นประหลาดและเธอตามหาที่มาของกลิ่นนั้นจนกระทั้งพบร่างของ Maddie ซ่อนอยู่ เธอตกใจและหนีออกนอกบ้านแจ้งตำรวจ โจชัวร์ ฟิลิปส์ซึ่งตอนนั้นอายุ 15 ปี สารภาพว่าเขาทุบตีเพื่อนบ้าน 8ขวบด้วยไม้เบสบอลจนเสียชีวิตและเขาหอบศพเธอซ่อนในห้องเขาและใช้มีดแทงเธออีก11 ครั้ง คณะลูกขุนได้ตัดสินให้เขาจำคุกโดยปราศจากทัณฑ์บนและตอนนี้เขายังอยู่ในคุกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

6 ลอรี่ แทคเก็ต (Laurie Tackett)

เช้าวันเสาร์ของวันที่ 11 มกราคม ปี 1992 พี่น้องคู่หนึ่งได้ออกไปล่านกกระทาในเขตป่า Jefferson และ แล้วเขาก็พบร่างหนึ่งที่ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นตุ๊กตาแต่ปรากฏว่ามันเป็นศพ ของซานต้า ซาลีเออร์ (Shanda Sharerwho)สภาพศพของเธอบ่งบอกถึงการกระทำอันโหดร้ายมีรอยไหม้อย่างรุนแรงและรอยแผลที่ถูกฟันและแทงด้วยอาวุธมีคมจากการสอบสวนพบว่าฆาตกรคือนางสาวลอรี่ แทคเกอร์ อายุ 18 ปีซึ่งเธอฆ่าซานต้าเพราะเป็นรักสามเศร้า(แบบเลสเบียน) นางสาวลอรี่ แทคเกอร์เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1974 ในMadison อินเดียน่า แม่ของเธอเคร่งศาสนาเป็นชาวคริสเตียนส่วนพ่อเป็นคนงานโรงงานต้องโทษคดีอาญาร้ายแรงและเธออ้างเคยทำร้ายเมื่อตอนอายุ 5 และ 12 (ฟังดูอาจธรรมดากว่าอันดับอื่นๆ ความจริงแล้วคดีนี้ดังมาก ในวีพีมีเดียก็มี โดยคดีนี้มีชื่อ The murder of Shanda Renee Sharer เนื้อหายาวๆ มากเพราะว่าเล่าตั้งแต่ความขัดแย้งของรักสามเศร้า…)

5 เบรนด้า แอน สเปนเซอร์ (Brenda Anne Spencer)

วันจันทร์ 26 มกราคม ปี 1979 เบรด้าอายุ 16 ปี ใช้อาวุธปืนไรเฟิล automatic.22 ที่ได้รับเป็นของขวัญจากพ่อในวันคริสต์มาส เธอกราดยิงเด็ก 8 คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงเรียนคลีฟแลนด์ อีลิเมนท์ทาลี่ สคูลในซานดิเอโก้ และพยายามฆ่าครูใหญ่เบอตัน แวคก์ และผู้ปกครองเธอถูกตำรวจจับกุมหลังจากนั้น 5 ชั่วโมงและถูกตั้งคำถามถึงเหตุผลต่อการกระทำการฆาตกรรมหมู่ในโรงเรียนครั้ง นี้ เธอยักไหล่และตอบกลับว่า “ฉันเกลียดวันจันทร์มันไม่มีเหตุผล และฉันก็ทำไปเพราะมันสนุกมากๆ เหมือนกับได้ยิงเป็ดในบ่อน้ำอีกอย่างเด็กๆ พวกนั้นเหมือนฝูงวัวตัวเมียยืนอยู่รอบๆ ซะด้วยสิ”(“I don’t like Mondays. This livens up the day.” She also said, “I had no reason for it, and it was just a lot of fun”; “It was just like shooting ducks in a pond”‘ and “[The children] looked like a herd of cows standing around; it was really easy pickings.” ) ผลสุดท้ายเบรนด้าถูกตั้งข้อหาฆ่าคน และบาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย ส่วนประโยค “ฉันไม่ชอบวันจันทร์นั้น” ได้ถูกนำไปใส่ในหนังเรื่อง The Breakfast Club(1985) และยังเป็นแรงดลใจในเพลง “ฉันไม่ชอบวันจันทร์(I don’t like Mondays) โดยศิลปิน Boomtown Rats

4 จอน เวนาเบิล และโรเบิร์ต ทอมป์สัน (Jon Venables and Robert Thompson)

ปี1993 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ จอน เวนาเบิล และโรเบิร์ต ทอมป์สัน 2 เด็กจากครอบครัวมีปัญหา(ทั้งคู่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ)วันนั้นเป็นวันเปิดเรียน แต่เด็กสองคนนี้ไม่ได้ไปเรียนสักนิดเขาไปห้างสรรพสินค้า ขโมยลูกกวาด, ตุ๊กตาคอหมุนๆ, แบตเตอรี่จำนวนหนึ่ง,กระป๋องสเปย์สีน้ำเงิน 1 กระป๋องและบังเอิญพวกเขาเห็นสิ่งหนึ่งน่าขโมยเป็นบ้าเลย(ไอเดียนรก)มันคือเด็กน้อยนามเจมส์ บัลเกอร์(James Bulger)อายุ เพียง 2 ปีกับ 11 เดือนเท่านั้นเด็กสองคนเลยลักพาตัวเด็กออกจากห้างเสียเลย(จากภาพข้างล่างเป็นภาพกล้องรักษาความปลอดภัยในห้างคุณจะเห็นเด็กเล็ก(เจมส์)ถูกจูงมือโดยเด็กชายจอนและมีโรเบิร์ตเดินนำหน้าทั้งสองดูเหมือนสนิทสนมกันแต่ไม่มีใครรู้เลยว่านี้เป็นภาพสุดท้ายที่บันทึกเจมส์ในขณะมีชีวิตอยู่) ไม่รู้ว่าเมื่อออกจากห้างทั้งสองทำอะไรกับเด็กบ้าง รู้แน่ๆพวกเขาพาเด็กเดินจนขาลากไปกว่าหลายไมล์เรื่อยเปื่อยเป็นเวลานานจนกระทั้งมาถึงรางรถไฟจากนั้นก็ไม่รู้เพราะอะไรอีกทั้งสองตัดสินใจฆ่าเด็กโดยฉีดสีสเปย์ใส่ตาเจมส์ จากนั้นก็รุมทุบตีด้วยมือและเท้าท่อนเหล็กและก้อนหินกระหน่ำไปใส่ที่หัวของเด็กน้อยกว่า 42แผลด้วยความเมามันจนกะโหลกแตกจากนั้นก็เปลือยท่องร่างเอาแบตเตอรี่ยัดที่รูทวารจากนั้นก็ลากศพเด็กไปวางบนรางรถไฟเพื่อให้รถไฟทับเพื่ออำพรางคดี และเมื่อมีการพบศพเจมส์ในเวลาต่อมา เด็กทั้งสองก็ถูกจับเกือบทันทีเพราะหลักฐานจากกล้องวีดีโอวงจรปิดหลังจากถูกจับกุมทั้งสองเอาแต่ร้องโวยวาย ใช้ความเป็นเด็กไร้เดียงสาบอกว่าไม่รู้เรื่อง โยนความผิดไปอีกฝ่ายไปๆ มาจนคดีนี้ไม่แน่ชัดว่าใครต้นคิดใครฆ่าเจมส์กันแน่ท้ายสุดศาลอังกฤษตัดสินจำคุกเด็กสองคนแบบกฎหมายผู้ใหญ่และทั้งสองถูกปล่อยตัวออกไปในปี 2001

3 เจสซี่ โพเมอร์รอย (Jesse Pomeroy)

เจสซี่ โพเมอร์รอยถูกตำรวจจำกุมได้ในขณะที่เขาอายุ 14 ในปี 1874ในข้อหาสังหารเด็ก 2 คนอย่างน่ากลัว เขาถูกตั้งฉายาว่า“เด็กมารร้ายแห่งเมืองบอสตัน(อเมริกา)” ก่อนหน้านั้น 3 ปีก่อน(1871-1872)เขาออกอาละวาดทำร้ายและทรมานเด็กชาย 7 คนและถูกจับส่งตัวไปโรงเรียนดัดสันดานที่บอสตัน(มีรายงานว่าเขามีอาการทางจิต)และถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อปี 1875 โดยมีทัณฑ์บนไว้เขาเฉลิมฉลองการออกจากที่คุมขังด้วยการฆ่าเด็กสาววัย 10 ขวบชื่อ Katie Curran ด้วยการตัดแขนขาเหมือนตุ๊กตาของเล่นไม่มีผิด แต่เขาไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้เขาลักพาตัวเด็กชาย Horace Mullen วัย10 ขวบไปที่บึงและสังหารเขาด้วยการใช้มีดแทงอย่างโหดร้ายและเกือบตัดหัวของเด็กชายจนหลุดจากบ่าเจสซี่ให้เหตุผลว่าเขาฆ่าเด็กชายคนนั้นเพราะมีดวงตาที่แปลก(เด็กชายมีตาสีขาว) เขายอมรับผิดในเวลาต่อมา และถูกจับคุก 40 ปีอย่างโดดเดี่ยว(เจสซี่รับได้บันทึกสถิติว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องอายุน้อยที่สุดที่ตัดสินในอเมริกา) สุดท้ายเจสซี่ตายเพราะสิ้นอายุไขเมื่อวันที่ 29กันยายน 1932 ขณะอายุ 72 ปี

2 แมรี่ เบล(Mary Bell)

วันที่ 25 พฤษภาคม ปี 1968 ที่ย่านนิวคาสเซิล ทางตอนเหนือของอังกฤษเป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 11 ปี ของแมรี่ เบลเด็กจากครอบครัวมีปัญหา(อีกแหละ) เธอเลยฉลองวันเกิดนี้โดยการบีบคอเด็กมาร์ติน บราวน์ เด็กชายอายุ 3-4 ขวบจนถึงแก่ความตายแล้วยังไปยั่วแม่ของเด็กทำนองว่า”ลูกคุณตายแล้วเหงาหรือ เปล่า ลูกคุณตายแล้วร้องไห้หรือเปล่า”แต่นี้ยังไม่พอสำหรับเธอ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมเธอกับเพื่อนของเธอชื่อนอม่า เบล(นามสกุลเหมือนกันแต่ไม่ใช่ญาติ)ได้ฆ่าเด็กชายไบรอัน โฮล วัย 4 ขวบ และสลักที่ท้องของเด็กชายด้วยอักษรย่อ M และ Nด้วยใบมีดโกน พวกเธอทั้งสองถูกศาลพิจารณาคดีในข้อหาสังหารโหดมนุษย์ 2 ศพผลคือคือแมรี่ เบลถูกจำคุกและไปบำบัดจิตส่วนเพื่อนอีกคนพ้นข้อกล่าวหา(ได้ไง??) ปี 1980 เธอถูกปล่อยตัวจากคุกเมื่ออายุได้ 22 ปีทั้งๆ ที่รักษาโรคจิตไม่หาย เธอมีลูกและหายสาปสูญไปจากสังคม และวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2003 ทางการก็ประกาศว่าเธอเป็นบุคคลนิรนาม

1 สังหารหมู่ในโรงเรียน (School Shootings)

การกระทำการสังหารหมู่ในโรงเรียนขึ้น ต่อเนื่องใน 15 ปีต่อมาที่น่าสังเกตคือส่วนมากเหตุการณ์สังหารหมู่นี้ผู้ก่อการส่วนมากจะเป็นเด็กอายุไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำ พวกเขากลับมีอาวุธที่ไม่รู้เอามาจากไหน เช่น ไรเฟิลปืนกล มีดทหาร ปืนพก ฯลฯ แต่คำถามที่ตามมาคือทำไมเด็กพวกนั้นถึงได้หยิบอาวุธสังหารเพื่อนนักเรียนด้วยกันอย่างเลือดเย็นเป็นเพราะปัญหาทางในโรงเรียนเหรอ(เพื่อนแกล้ง, ครูให้การบ้านเยอะ)หรือจะเป็นปัญหาทางบ้าน หรือเพราะเกมส์(GTA) เรามาดูตัวอย่างที่ผ่านๆ มาดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง 15 พฤศจิกายน 1995 เจมี่ เราซ์(Jamie Rouse) วัย17ปีแต่งชุดดำไปโรงเรียริชแลนด์ ที่ไจลส์ เคาน์ตี้ รัฐเทนเนสซี่พร้อมปืนเรมิงตันขนาด.22เขายิงครูไป2คนและหันปืนเล็งยิงโค้ชทีมฟุตบอลพร้อมยิ้มระบายบนใบหน้าแต่พอดีเด็กคนหนึ่งเดินสวนพอดี จึงโดนแทน


PS.   《super junior and F.T.islang เริ่มจะชอบ MBALQ Teetop B.P.A B1A4 ~~

แสดงความคิดเห็น

>

53 ความคิดเห็น

ไอ่ถั่วงอก 23 ม.ค. 56 เวลา 19:04 น. 4

ความคิดเห็นส่วนตัว ควรประหารชีวิตเลยต่างหาก หรือไม่ก็ขังเดี่ยวตลอดชีวิต มันโหดอะ เอามีดเอย ปืนเอย มาทำร้ายคนอื่น แต่ที่คิดว่ามันโหดสุดคงเป็นอันดับ4 ขโมยอะไรไม่ขโมย ลักพาตัวเด็ก เสียว!


PS.  กวนประสาท กวนประสาท ตลกคาเฟ่จ้า! รับปรึกษาปัญหา
0
まるも君! 23 ม.ค. 56 เวลา 19:41 น. 5

คุณความเห็น4 อย่าไปว่ากฏหมายเขาเลยคะ ถ้าว่าเขาไทยเราอ่อนด้อยกว่ามาก พ่อเราทำงานเป็นอัยการบางทีข่าวมันออกตัดสินว่าจำคุกเท่าโน้น เท่านั้น เท่านี้ปี บางทีจำนวนปีหายไปไม่ถึงครึ่งที่กำหนดตอนแรกด้วยซ้ำ = =||| (ในทีวีออกข่าวว่ากฏหมายดูอ่อนแล้วใช่ไหม พ่อเราบอกของจริงไทยเราอ่อนกว่านี้อีก มันถึงได้กล้าไม่กลัวกฏหมายไง)

อย่างกรณีจับโจรใต้ได้อ่ะ ศาลที่3จังหวัดเขากลัวพวกมุสลิมมาก(ไม่บอกจังหวัด อยากบอกว่าคนเป็นศาลคนนี้ขาดคุณธรรมมาก!! อายุก็น้อยยังอวดเบ่งอีก) เพราะงั้นในทีวีที่บอกจับได้ของจริงยกฟ้องเกือบหมดเลยคะ

พ่อเราไปอยู่ปีหนึ่ง บอกว่า มีครูไทย3คนนั่งอยู่บนรถและชาววุสลิมอีก3คน(น่าจะเป็นรถรับส่งอาจารย์) จู่ๆแก๊งก่อการร้ายบุกมายิงครูชาวพุทธกราดเลยคะ คนขับรถและชาวไทยพุทธตาย มีคนไทยรอดตาย1คนเพราะเขาแกล้งตายและโชคดีที่พวกแก๊งมันรีบเลยไม่ทันได้ตรวจสอบ (อาจารย์เลยมาแจ้งตำรวจและบอกรูปพรรณคนร้ายให้)

พ่อเราก็ เออดี...ไม่ต้องว่าความให้เสียเวลา ยังไงศาลก็ต้องออกหมายจับอยู่แล้วเขารอดตายมาแล้วบอกชัดเจน ทั้งยังยืนยันว่าเห็นชัดด้วย แต่พนักงานสืบสวนดันพูด "เชื่อเถอะท่านรอง ยกฟ้องชัวร์"

พ่อเราก็งงดิ ไรแว๊ หลักฐานชัดเจนแบบนี้...

พ่อมาอยู่ในชั้นศาล มันเป็นจริงอย่างที่พนักงานคนนั้นบอก ศาลสั่งยกฟ้อง โดยบอกว่า"ศาลคิดว่าคุณไม่น่าจะเห็น..." (?) เฮ้ย! พ่อเราบอกว่าคนเสียหายบอกเห็นแน่ๆ ชัดเจนเลยเป็นคนมุสลิมหน้าตาแบบนี้ๆๆ สุดท้ายยกฟ้อง(แถมมุสลิมที่นั่งอยู่ในรถตู้3คนบอกว่าไม่เห็นอีก ... ศาลก็เชื่อมันเนอะ ไม่ใช่คนไทยแท้ๆ แต่ดันไม่เชื่อไทยพุทธ = =|||)

พ่อบอกว่าศาลคนนี้คงกลัวจะโดนเก็บอ่ะ เพราะเขาคงอยู่ที่นั่นอีกนาน(แหม อย่าให้พ่อแม่ศาลโดนมั่งแล้วกันนะคะ = =|||)


เราจะบอกว่ากฏหมายเขาไม่โหดก็จริง แต่คุมคนเข้มมากกว่าไทย(เพียงแต่คดีทั่วไปเขาร้ายแรงมากๆเท่านั้น) แต่ที่โหดจริงและคุมคนอยู่หมัดต้องยกให้พี่จีนเลย



คนที่8เพี้ยนเนอะ IQ 140 แต่อย่างอื่นน่าจะต่ำติดลบเลยมั้ง = =|||

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 มกราคม 2556 / 19:43


PS.  ความฝันกับความเป็นจริง มันไกลกันมากจนไม่อาจเชื่อมถึงกันได้
0
256 24 ม.ค. 56 เวลา 10:08 น. 6

จากพระราชบันทึก THE RAINMAKING STORY พระราชทาน ที่อัญเชิญมาแสดงไว้ข้างต้นได้ก่อให้เกิดความกระจ่างชัดถึงที่มาและจุดเริ่มต้นโครงการฝนหลวง และขจัดความคลุมเครือที่นักวิชาการฝนหลวง และบุคคลภายนอกอ้างถึงในเอกสารทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการอย่างคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและแตกต่างกัน สรุปพระราชบันทึกดังกล่าวได้ว่า ระหว่างวันที่ 2-20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 ทรงเยี่ยมเยียน 15 จังหวัด ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์ (เดลาเฮย์ ซีดาน สีเขียว) จากนครพนมไปกาฬสินธุ์ผ่านสกลนครและเทือกเขาภูพาน ทรงสังเกตเห็นราษฎรกลุ่มเล็กๆ จึงทรงหยุดอย่างไม่มีหมายกำหนดการ เพื่อทรงพบกับราษฎรกลุ่มเล็กๆ นั้น ชายคนหนึ่งในกลุ่มกราบบังคมทูลว่า พวกเขาเดินมา 20 กิโลเมตรจากกุฉินารายณ์เพียงเพื่อมาดูทรงขับรถผ่านไป เมื่อเขารู้ว่าทรงกำลังจะไปกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นระยะทางอีกไกล เขาได้กราบบังคมทูลให้ทรงเดินทางต่อไป แม้ว่าเขาจะอยากให้ทรงพักอยู่ พร้อมทั้งได้ทูลเกล้าฯ ถวายอาหารห่อเล็กๆ เมื่อเขาเห็นว่าทรงมองด้วยความห่วงใย เขาจึงยืนยันว่าเขายังมีอีกห่อหนึ่งสำหรับตัวเขาเอง ทรงบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ว่า นี่คือการต้อนรับที่แท้จริง ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์เล็กๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความจงรักภักดีและความเข้าใจ แม้มิได้ทรงถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดเพียงสายพระเนตรที่ทอดออกมาพวกเขาต่างรับรู้ได้ด้วยจิตสำนึกและเข้าในในพระเมตตา ความห่วงใยของพระองค์ท่าน จึงได้กราบบังคมทูลว่าเขามีอาหารสำหรับตัวเองหนึ่งห่อ ขอให้ทรงรับห่อที่เขาทูลเกล้าฯ ถวาย จึงอาจกล่าวได้ว่าไม่มีสิ่งหรืออำนาจใดมาขวางกั้นสายสัมพันธ์ระหว่างพศกนิกรผู้ยากไร้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พวกเขาเคารพรักและบูชาได้

เมื่อทรงหยุดอย่างเป็นทางการที่ทางแยกอำเภอกุฉินารายณ์และสหัสขันธ์ ณ ที่นั้นทรงสอบถามราษฎรเกี่ยวกับผลผลิตข้าว ทรงคิดว่าต้องเสียหายเพราะความแห้งแล้ง แต่ต้องทรงประหลาดใจที่ราษฎรเหล่านั้นกราบบังคมทูลว่า เดือดร้อนเสียหายจากน้ำท่วม ทรงเห็นว่าเป็นการแปลก เพราะพื้นที่โดยรอบดูคล้ายทะเลทรายที่มีฝุ่นฟุ้งกระจายทั่วไป แท้ที่จริงแล้วราษฎรเหล่านั้นมีทั้งน้ำท่วมและฝนแล้งนั่นคือ ทำไมประชาชนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงยากจนนัก

ณ ขณะนั้นทรงคิดว่าเป็นปัญหาที่ดูเหมือนว่าจะแก้ไขไม่ได้ และขัดแย้งกันเองในตัว เมื่อมีน้ำมากไปก็ท่วมพื้นที่ เมื่อน้ำหยุดท่วมฝนก็แล้ง เมื่อฝนตกน้ำจะไหลบ่าลงมาท่วมจากภูเขาเพราะไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งการไหลบ่า ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระสติปัญญาอันเป็นเลิศ ทำให้ทรงเกิดประกายความคิดอย่างฉับพลัน ณ วินาทีนั้นในขณะนั้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่เป็นมาตรการในจการแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากและขัดแย้งกันดังกล่าว

วิธีแก้คือ ต้องสร้างฝายน้ำล้น (check dams) ขนาดเล็กจำนวนมาก ตามลำธารที่ไหลลงมาจากภูเขาจะช่วยชะลอการไหลลงมาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้ควรสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กๆ จำนวนมาก วิธีนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาแห้งแล้งได้ทางหนึ่ง ในฤดูฝนน้ำที่ถูกเก็บกักไว้ในฝาย เขื่อนและอ่างเก็บน้ำดังกล่าวใช้จัดสรรน้ำสำหรับฤดูแล้ง

ปัญหาหนึ่งที่ยังคงดำรงอยู่คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งภาคมีชื่อเสียงว่าเป็นภาคที่แห้งแล้ง ขณะนั้นทรงแหงนขึ้นดูท้องฟ้าและพบว่ามีเมฆจำนวนมาก แต่เมฆเหล่านั้นถูกพัดผ่านพื้นที่แห้งแล้งไป วิธีแก้ อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้เมฆเหล่านั้นรวมตัวตกลงมาเป็นฝนในท้องถิ่นนั้น และทรงบันทึกไว้ว่า ความคิดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการฝนเทียม (ปัจจุบันเรียกอย่างทางราชการตามมติคณะรัฐมนตรีว่า โครงการฝนหลวงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2517) ซึ่งประสบความสำเร็จไม่นานในภายหลัง

นับเป็นพระอัจฉริยภาพที่ทรงเกิดประกายความคิดที่จะแก้ไขปัญหาอันยุ่งยากและขัดแย้งได้อย่างฉับพลัน ณ ขณะนั้นด้วยพระปัญญาอันชาญฉลาดและเป็นเลิศที่ทรงสามารถคิดค้นวิธีแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมและฝนแล้งได้ในขณะเดียวกัน ที่เป็นวิธีการและหลักการในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งจากฟ้าและบนดินได้อย่างครบถ้วน ยังคงทันสมัยที่นำมาเป็นหลักการหรือต้นแบบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบนผิวพื้นโลกได้ทุกยุคสมัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

การที่ทรงมีพระราชบันทึกไว้เพียงสั้นๆ ว่า ทำอย่างไรจะทำให้เมฆเหล่านั้นรวมตัวกันตกลงมาเป็นฝนในท้องถิ่นนั้น แสดงว่าทรงมั่นพระทัยและเชื่อมั่นอยู่ในพระทัยแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่จะนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มาช่วยให้เมฆเหล่านั้นรวมตัวเกิดเป็นฝน เป็นที่ประจักษ์กันดีว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอัจฉริยะและพระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นที่ยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ

0
ผู้หญิงของ"บ่าย 24 ม.ค. 56 เวลา 16:14 น. 11
โหดเ้ยมเกินเด็กจิงๆ
ความไร้เดียงสา น่ารัก ใสซื่อของหนูอยู่ไหนกันลูกกกกก ?

--* แต่ส่วนมาก เด็กที่ว่า มาจากครอบครัวที่มีปัญหาทั้งนั้น
(สลดอ่ะ Y_Y)
สังคมจะดี เริ่มที่สถาบันครอบครัว 
>


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 มกราคม 2556 / 16:15

PS.  2PM Always :) # 6+1 Forever ,,, ฮอทเทสรักสงบ ^^ แต่ได้โปรด อย่าระรานผู้ชายของเรา ...
0
tearful 24 ม.ค. 56 เวลา 17:05 น. 12

โหดเกินไปไหม น่ากลัวอ่ะ

ส่วนมากเป็นเด็กมีปัญหานะ

ทำไมทำได้ถึงขนาดนี้ ไม่รู้สึกผิดเลยหรอ ขนาดเด็กอยู่นะเนี่ยน่ากลัวจัง

0
happii- 24 ม.ค. 56 เวลา 18:58 น. 15

ฮึ่ยยย  เราก็ไม่ชอบวันจันทร์ เรียนหนักเกิน 555


PS.  ก็มีแต่ใจให้ไป ไม่คิดอะไร
0
faikku 24 ม.ค. 56 เวลา 20:09 น. 18

แม้เขาจะไม่ประหารชีวิต แต่เขาจำคุกตลอดชีวิตจริงๆค่ะ

แต่ประเทศไทย ไม่ได้จำตลอดชีวิตจริงๆ ลดโทษลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็ได้ออกมา

น่าสังเกตว่า เด็กเหล่านี้ มาจากครอบครัวที่ไม่อบอุ่น

น่าสงสารเหยื่อที่ไม่รู้เรื่อง ครอบครัวของเหยื่ออีก

0
น่ากลัว 24 ม.ค. 56 เวลา 20:37 น. 19

ถ้าเป็นที่ไทยศาลคงจะไม่ได้ให้สั่งจำคุกชั่วชีวิตนะเออ แต่เมืองไทยโชคดีกว่าที่ไม่มีคนบ้าแบบนี้ (ยกเว้นชายแดนภาคใต้ที่น่าเห็นใจ)

0
'Dokkoon 24 ม.ค. 56 เวลา 21:56 น. 20
ดีใจ !!

ที่สังคมไทย

ยังคงอบอุ่น

oooooooooooo

PS.   รักเกินบรรยาย จิ้นได้เกินพิกัด เต๋าคชา รักเธอเสมอ
0