Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

---------

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

..................


PS.  สวัสดีจ้าชาว dek-d

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

snn 26 ม.ค. 56 เวลา 19:52 น. 1

เรียนแบบทำแต่แบบฝึกหัด เพราะเลขต้องเรียนรู้จากฝึกฝนเยอะๆแล้วจะชำนาญ แบบฝึกหัดไม่น่าเบื่อมาก พอเรียนสูงๆจะสนุก (สำหรับคนที่ใจรักนะ) ค่าเรียนประมาน 1300-1600 ต่อเดือน ข้อดีคือ เก่งเลขมากขึ้นแน่ๆ โดยเฉพาะถ้าอยู่ ป.4-ม.3 จะเก่งแซงหน้าเพื่อนขึ้นไปอยู่อับดับ1ของห้อง ข้อเสียคือต้องขยันทำการบ้านตามที่เขาไห้มาไห้ครบ อย่าดองเป็นพอ งานเยอะมั้ย ก็นั่งทำการบ้านประมานวันละ ครึ่งชม ถึง 1 ชมได้&nbsp ที่จริงเรากำหนดปริมาณการบ้านเองได้ แต่ให้ครูกำหนดให้จะดีกว่า เพราะถ้าน้อยเกินไปมันก็เรียนไม่จบสักที + ไม่ค่อยได้อะไร
เรียนสาขาไหนก็เหมือนกันครับ เพราะเรียนด้วยตัวเอง(ทำแบบฝึกหัด จับเวลา) ไม่เข้าใจก็เปิด solution (หนังสือแสดงวิธีทำ) ถ้าไม่เข้าใจจริงๆค่อยถามครู

0
kai-lover 26 ม.ค. 56 เวลา 19:58 น. 2

ขอให้ข้อมูลแทนเพื่อการตัดสินใจแล้วกันนะคะ เพราะ ถ้าจะบอกว่าดี ก็แล้วแต่คนชอบมากกว่า

สมัยที่เคยเรียน ค่าเรียนเดือนละประมาณ 1300-1400 บาท ลักษณะการเรียนคือ ตอนแรกที่สมัคร
เค้าจะให้เราทำแบบทดสอบก่อนว่าตอนนี้ความสามารถเราควรเริ่มต้นที่ระดับไหน หมายความว่า
ถึงตอนนี้เราจะอยู่ชั้นประถม 5 แล้ว แต่ตอนทดสอบของที่นั่น เราอาจจะอยู่ที่ระดับอนุบาลเลยก็ได้ค่ะ
นี่เป็นประสบการณ์จริง โดยที่ระดับจะมีตั้งแต่ 7A - O เทียบง่ายๆ ก็ก่อนเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัยค่ะ
ปัจจุบันไม่ทราบว่าระดับสุดท้ายเปลี่ยนรึเปล่า เพราะ เรียนครั้งสุดท้ายประมาณสามปีที่แล้ว แล้วก็แต่ละระดับมีทั้งหมด 20 ชุดนะคะ ชุดหนึ่งมีสิบแผ่น เหมือนเราดึงแบบทดสอบจากหนังสือเล่มหนึ่งแล้วแยกเป็นยี่สิบบทน่ะค่ะ&nbsp 

พอเราทดสอบวัดระดับแล้ว เราก็ต้องเริ่มจากระดับนั้นก่อน เค้าจะให้การบ้านเรามาทำทุกวัน โดยที่วันที่ไปเรียนมีอาทิตย์ละสามครั้ง อาจไปทั้งหมดสามครั้งหรือเลือกไป น้อยกว่านั้น ต้องแล้วแต่บุคคลว่าว่างมากน้อยแค่ไหน ต้องคุยกับอาจารย์ที่ดูแลที่นั่นค่ะ สมมติว่า เราเริ่มต้นที่ระดับ A เราอาจรับการบ้านมาทำวันละชุด หรือ มากน้อยกว่านั้น แล้วแต่ความยากง่ายของแบบฝึกหัดและการตกลงกันระหว่างครูกับนักเรียนค่ะ ชุดหนึ่งก็อาจได้ทำหลายรอบ ถ้าผิดเยอะมากเราก็ต้องกลับมาซ้ำใหม่จนกว่าเราจะทำถูกหมดและเข้าใจจริงๆ สามารถผ่านไปชุดต่อไปได้ค่ะ พอเราทำครบถึงชุดสุดท้าย ก็มีสอบเพื่อวัดว่าเราพร้อมขึ้นระดับใหม่จริงรึเปล่า ถ้าสอบไม่ผ่านก็ต้องซ้ำของเดิมค่ะ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ข้อแนะนำนะคะ ลักษณะการเรียนแบบนี้ ไม่ใช่การเรียนแบบเรียนกวดวิชาที่เนื้อหาตามแบบเรียนในโรงเรียน ที่คุมองเน้นการคำนวณมากกว่าการทำโจทย์ค่ะ ระดับหลังอาจมีบ้างแต่ว่าไม่มากนักค่ะ และไม่ใช่โจทย์แบบสอบที่โรงเรียนด้วย ถ้าเลือกเรียนที่นี่ต้องทำใจค่ะว่า
1.ต้องมีการบ้านทุกวัน และเราก็ต้องมีความรับผิดชอบพอที่จะทำทุกวัน ไม่ใช่ทำเผื่อ หรือสะสมไว้ทำวันหลังก่อนไปเรียนที่ศูนย์ทีเดียว แบบนั้นจะผิดวัตถุประสงค์ทันทีค่ะ เพราะ ถือว่าเราไม่ได้ฝึกความรับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่อตนเอง
2.การเรียนแบบนี้ขึ้นอยู่กับตนเองเป็นหลักค่ะ ไม่ได้มีครูมาสอน แต่เราต้องศึกษาเองก่อน (ในแบบฝึกหัดมีตัวอย่างให้ก่อน ให้เราทำตาม และเพิ่มความยากขึ้นเรื่อยๆ) ไม่เข้าใจจริงๆ แบบสุดๆ แล้ว ทำยังไงก็ไม่ได้ ถึงถามค่ะ หรือบางกรณี ที่เรียนระดับสูงแล้วเค้าจะให้หนังสือเฉลยละเอียดให้เราศึกษาเองก่อนค่อยถามอาจารย์อีกทีค่ะ
3.บางคนบ่นว่า แพงจัง ขอบอกเลยว่าแพงไม่แพงก็ขึ้นกับผู้เรียนค่ะ ถ้าคุณรับผิดชอบพอ หรือ ขยันมากขึ้น (ทำการบ้านวันละหลายชุด) จะจบระดับและไปได้เร็วขึ้นค่ะและมันคุ้มกับผลที่ตามมาในภายภาคหน้าแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับระดับความยากง่ายของระดับที่เรียนอยู่ด้วย
4.บางคนอาจไม่พอใจว่าทำไมได้เรียนต่ำกว่าชั้นเรียนจริง มันเป็นเรื่องของพื้นฐานค่ะ เพื่อให้คุณแน่นพอที่จะต่อยอดสู่ระดับสูงได้อย่างแท้จริง และถ้าคุณใจเย็นพอจะสามารถเรียนเกินระดับชั้นเรียนได้ค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมรับข้อนี้ ก็อย่าเรียนแบบคุมองเลยค่ะ เลือกเรียนที่อื่นดีกว่า

จากใจของคนที่เคยเรียนคุมองมาจนถึงระดับสุดท้าย(แต่ไม่จบเพราะสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเลยเลิกเรียนไป) หลังเรียนแล้วรู้สึกว่าเข้าใจคณิตศาสตร์มากขึ้นจริง ทำได้ค่ะ คะแนนดีขึ้นมากด้วย แต่เป็นพาร์ทของการคำนวณนะคะ และเห็นผลมากในเรื่องของการทำสมการต่างๆ ตอนมัธยมปลายค่ะ
เพราะเราเรียนเกินระดับมานานแล้วเหมือนได้เรียนก่อนเพื่อน และต้องทำแบบฝึกทุกวัน เลยซึมซับได้ดีค่ะ ยิ่งพอเรียนที่โรงเรียน ทำให้เราเข้าใจในบททฤษฎีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย

ป.ล.การเรียนคุมองเป็นการเรียนที่ลงทุนในเรื่องของระยะเวลา ไม่ใช่การติวระยะสั้นเห็นผลทันทีนะคะ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะ ได้ยินมาหลายทีแล้ว เพื่อนหลายคนเรียนแป๊บๆ ก็เลิกบอกเสียเวลา เลยรู้สึกว่าเค้าเข้าใจในการเรียนระบบนี้ผิดๆ ค่ะ

สงสัยอะไรสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ ยินดีมาตอบให้ ^^


PS.  จะเป็นมิตรหรือศัตรู ข้ามิอาจรู้... แต่เจ้ารู้หรือไม่ ยามใดที่เจ้ามอบความเป็นมิตรให้โดยไร้ซึ่งมารยาหรือกลลวง ยามนั้นเจ้าจึงจักรู้ ว่าในโลกนี้นั้นเจ้ามีมิตรสหายอยู่มากมายเพียงใด
1
แม่จ๋า 15 ก.ค. 59 เวลา 13:55 น. 2-1

รบกวนปรึกษาหน่อยนะคะ ตอนนี้ลูกอยู่ป. 6 ทุกวันเสาร์เรียนพิเศษทั้งวันเพื่อเตรียมสอบเข้าม.1 และเรียนคุมองด้วย (เรียนมาตั้งแต่อนุบาลสาม) level คุมองตอนนี้เกินม.1 แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าช่วงนี้ควรให้ลูกหยุดเรียนคุมองมั๊ยคะ คิดว่าเนื่อหาคุมองตอนนี้คงไม่ได้ใช้สอบเข้าม.1 มันจะทำให้เค้าสับสนมั๊ยคะ

0
bung2590 26 ม.ค. 56 เวลา 20:29 น. 3

ตามคห.2 ครับ ให้ลูกชายเรียนตอนอยู่ ป.3 -ป.4 ปีกว่าเรียนอาทิตย์ละ 2 วัน ๆ ละประมาณ 1-2 ชม.ไม่แน่นอน แล้วจะได้การบ้านมาทำครั้งละ 2-5 ชุด ขึ้นกับว่าเราพร้อมแค่ไหน แต่เขาเน้นให้ฝึกทำ ดังนั้นนักเรียนที่จะเรียนต้องมีความพร้อมคือ ขยันทำการบ้าน อดทน สม่ำเสมอ ถ้าทำได้นักเรียนจะได้วินัย การคิดเร็ว สมองพัฒนา พอลูกถึง ป.5 จึงหยุดเรียน เพราะต้องมาเน้นโจทย์วิเคราะห์เพื่อเตรียมสอบเข้า ม.1 แต่บอกได้ว่าถ้าเริ่มเรียนแต่ประถมต้นจะดีมากและต้องอดทนสม่ำเสมอ อย่าท้อก่อน

0
bunnieze 27 ม.ค. 56 เวลา 16:56 น. 4

เราเรียนคณิตเราเรียนตั้งแต่ ป.4 ตอนนี้อยู่ ม.3 แล้วจะจบแล้ว เราว่าก็ดีนะ คิดเลขไวมากกกก ได้เปรียบมากเวลาทำข้อสอบ แต่คุมอง จะไม่มีโจทย์ปัญหาอ่ะ เน้นคิดไว คิดเร็วอย่างเดียว


PS.  สวัสดี~
0
มะปราง 9 มี.ค. 57 เวลา 13:51 น. 7

---------------------------วิชาคณิตศาสตร์----------------------
เรียนคุมองดีจริงค่ะ หนูเรียนมาตั้งแต่่ป.3ค่ะ จนตอนนี้ม.4 แล้ว เวลาคิดเลขที่โรงเรียนแล้วเสร็จเร็วกว่าครูที่สอนอีกค่ะ คือแบบครูถามว่าเสร็จแล้วหรอ ครูยังไม่เสร็จเลย -0- เป็นการฝึกที่ดูเหมือนจะซ้ำๆ จำอย่างเดียวไม่เข้าหัวแต่ความจริงแล้ว! การที่เราทำซ้ำนั่นแหละค่ะจะทำให้เราเข้าใจเพราะเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วคำตอบมันจะมาเอง แล้วพอทำแบบฝึกหัดเสร็จ ก็จะให้มาท่องสูตรคุณจากหน้าไปหลัง หลังไปหน้า แล้วก็เปลี่ยนตามแม่ต่างๆไปเรื่อยๆ จนถึงแม่25 เลยนะคะ แล้วอันที่หนูเรียนเนี่ยครูเค้าไม่ได้สอนเลยด้วย แล้วเอาแบบฝึกหัดมาให้ทำ แล้วถามว่าอันไหนไม่ได้บ้าง บอกครูแล้วกัน ตอนหนูก็งงเป็นไก่ตาแตก จะทำยังไงวะเนี่ย- -* อต่พอดูๆไปอ้อ เก็ทเลย เพราะการฝึกแบบนี้เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง!! เข้าใจด้วยตัวเองจริงๆ มันจะเข้าใจได้นานแล้วยาวกว่าค่ะ ชุดที่ทำแล้วซ้ำที่สุดในชีวิตก็เรื่องเศษส่วนเนี่ยแหละค่ะ ซ้ำเกือบร้อยชุด!! จนแบบ จะให้ทำโจทย์แบบไหนว่ามาเลย ชิวๆ แค่เห็นตัวเลขก็บอกคำตอบได้แล้ว แต่วิธีแบบนี้น่าจะไม่มีที่อื่นนะคะเพราะเพื่อนบอกว่าครูจะสอนก่อนแล้วค่อยทำ อันนี้ยืนยันนะคะ เพราะเรียนมากับตัวแล้ว และกล้ายืนยันอีกด้วยว่า ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานที่มากหรือน้อยแค่ไหน การทำซ้ำๆที่นี่จะทำให้รู้อย่างทะลุปรุโปร่งจริงๆ เวลาสอบคณิตก็ได้เกือบเต็มหรือไม่ก็เต็มทุกครั้ง เช่น เต็ม20 "อย่างต่ำ"ที่เคยได้ก็18 ค่ะ เพราะพลาดตรงโจทย์ปัญหา - -* คือที่นี่โจทย์ปัญหาน้อยน่ะค่ะ 555 คิดไม่ผิดหรอกนะคะ ถ้าจะเอาลูกมาเรียน เพราะแต่ก่อนหนูก็ไม่ใช่คนเก่งคณิต แต่ตอนนี้สามารถสอนเพื่อนได้หมดแล้ว และเวลาเห็นโจทย์คณิตศาสตร์ตอนนี้เหมือนโรคจิตค่ะ เวลาเจอโจทย์แล้วรู้สึกอยากทำๆๆๆ อยากทำมากๆๆๆ และต้องทำให้ได้!!! 555 อยากรู้คำตอบ มีข้อสงสัยตลอด จนติดเป็นนิสัยไปแล้วค่ะ
--------------------------ส่วนวิชาภาษาอังกฤษ-----------------
เคยเรียน แต่เลิกแล้วค่ะ เพราะทางบ้านมีปัญหาทางการเงิน -0- เลยหยุดเรียนก่อน แต่ตอนเรียน ได้คำศัพท์สำเนียงเยอะมากๆค่ะ ฟังซ้ำๆคือหลักของการพูดภาษาอังกฤษให้ถูกต้องนะคะ :) และคิดว่าถ้ามีลูกตอนโตหนูก็จะพามาเรียนที่นี่ที่แรกเลยแหละค่ะ การเรียนคุมองอย่ารีบร้อนนะคะ ไม่ใช่ว่า เรียนไปได้ไม่กี่เดือนแล้วหวังผล การเรียนที่นี่เป็นการได้ผลประโยชน์ในระยะยาว จึงต้องใช้เวลานาน และดูจากผลสอบ ของลูกๆนะคะ ที่คุมองเวลาจะผ่านแต่ละเลเวลก็จะมีวัดระดับ ด้วยค่ะ หวังว่าความคิดเห็นจากประสบการณ์ตรงของหนู จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้นะคะ ^^


....คุมองมีการขอทุนด้วยนะคะ เรียนแล้วขอทุนจะลดหย่อนค่ะเรียนได้นะคะ ต้องดูตามเงื่อนไขด้วย.......สู้สู้

0
rainny 11 มี.ค. 57 เวลา 15:31 น. 8

ขอบคุณคำแนะนำดีๆนะค่ะ กำลังศึกษาข้อมูลอยู่ค่ะ ลูกกำลังจะขึ้น ป.5 อยากให้เรียนเสริมเผื่อว่าจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นบ้างค่ะ รักเลย

0
anchulee 15 มี.ค. 57 เวลา 13:36 น. 9

ควรเรียนอังกฤษหรือคณิตดีคะ น้องอายุ 5 ขวบ กำลังจะขึ้น อ.3 (ใจอยากให้เรียนอังกฤษแต่เห็นส่วนใหญ่เรียนคณิตกันค่ะ)

0
Pang 17 มี.ค. 57 เวลา 20:21 น. 10

เอ่อ...ดิฉันเดิมเป็นคนโง่คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษก็ว่าได้นะคะ แต่เจอคุมองทุกวันนี้ดิฉันท๊อปของห้องเรียนหรือสายชั้นอยู่บ่อยๆ ต้องเข้าใจก่อนนะคะว่า คุมองเป็นแบบการเรียนที่เด็กต้องช่วยเหลือตนเอง ไม่ใช่คุณครูมานั่งสอนนะคะ เป็นเพียงการแนะนำเด็กๆ การเรียนเป็นการปรับพื้นฐานเริ่มใหม่ตั้งแต่นับเลขเลยก็ว่าได้ แนะนำสำหรับเด็กประถม มากกว่ามัธยม และการให้การบ้านขึ้นอยุ่กับความเหมาะสมและความสามรถของเด็ก คุณครูจะไม่มีการอัดการบ้านนะคะ การเรียนคุมองแบ่งเป็น level ตั้งแต่ 7A-O นะคะ ระดับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความสามารถโดยการสอบ ทุกระดับต้องสอบเปลี่ยน level และเมื่อเราเรียนไปเรื่อยๆๆ เราจะถนัดจำได้และเชี่ยวชาญนะคะ ถามว่าต้องอดทนหรือเปล่า สำหรับดิฉันไม่เคยคะ การนั่งทำการบ้านวันละ 30 - 60 นาที ในเลเวลสูงถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ** แต่ที่สำคัญผู้ปกครองต้องเข้าใจระบบคุมอง 'ผู้ปกครอง อย่าได้นำการบ้านเด็กๆมาตรวจหรือนั่งสอนเข้า แก้การบ้านให้เค้านะคะ เพราะเด็กจะไม่เก่งขึ้น นะคะ ให้เค้ารุ้จักการทำผิดพลาดและการแก้ไขปัญหา รับประกันระบบคุมองคะ และจะดีมากนะคะถ้าเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย
รักเลย

0
porn 1 เม.ย. 57 เวลา 13:50 น. 11

เด็กอนุบาล2เรียนได้ไหมคะ อยกทราบว่าเด็กที่เรียนมีใครบ้างที่สอบติดสาธิตหรือโรงเรียนที่มีชื่อที่ต้องแข่งขันกันมากๆๆ (ขอบคุณคะ)

0
Patty 24 เม.ย. 57 เวลา 16:39 น. 12

ควาคิดเห็นส่วนตัวมากๆๆ
ดีในระยะยาว เพราะถ้าหวังให้เก่งแบบเร็วๆก็ไม่ต้องเรียน แต่ถ้าจะฝึกให้เป็นคนมีเหตุผลคิดเป็นขั้นตอน แล้วก็มีความรับผิดชอบ สามารถจัดสรรค์เวลาได้ดี ก็ควรจะเรียนคะ อย่าท้อ

0
นก.. 11 มิ.ย. 57 เวลา 15:57 น. 13

แล้วระหว่าง คุมอง กับ ติวเตอร์ ผลที่ออกมา ต่างกันมั๊ยคะ ตัดสินในไม่ถูก

0
North Rain 15 พ.ย. 57 เวลา 11:12 น. 14

กำลังจะตัดสินใจให้ลูกเรียนคุมอง คณิตศาสตร์ กับ ภาษาอังกฤษค่ะ ตอนนี้น้องเรียนอยู่ ป.3 ความตั้งใจจริงๆคืออยากให้น้องมีวินัยและความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะน้องเป็นเด็กไฮเปอร์ ไม่ค่อยนิ่ง ทำอะไรไม่ได้นาน และถ้าผลการเรียนดีขึ้นด้วยก็จะดีค่ะแต่ก็ไม่ได้กดดันน้องมาก ก็ยังเรียนดนตรีและว่ายน้ำช่วยผ่อนคลายด้วยค่ะรักเลย

0
คิดดีดี 10 มี.ค. 58 เวลา 07:45 น. 15

ตอบความเห็นสองค่ะ

คุมองดีกว่ามากเลยค่ะ ได้ทุกด้าน ได้จริง ถ้าฝึกฝนตามแบบที่คุมองให้มา เด็กๆจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ต้องใช้เวลา และปรับลักษณะนิสัยการเรียนของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ คณิตศาสตร์และอังกฤษ ก็กลายเป็นเรื่องง่ายมากๆ เพราะ เด็กมีทักษะต่างๆ ติดตัวที่ดีไปตลอดชีวิตเลย
และยังนำไปใช้ต่อในชีวิตประจำวันและการทำงานได้ดีอีกด้วยค่ะ

0