Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เล่าประสบการณ์ "รักแรก"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คำเตือน : ยาวโคตรรรรรรร

เรียกเราว่า "ขนมปัง" ล่ะกันเนอะ (เพราะเรากำลังกินอยู่ 55)
คือว่าเราเชื่อว่าหลายๆคนก็ต้องเคยมีรักแรกกันบ้างล่ะเนอะ
ส่วนรักแรกของเราอายุได้ 13 ปีค่ะ แล้วมันก็ตายจากไป
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนอายุ 4 ขวบค่ะ แน่นอนว่า เราเพิ่งเข้าเรียนอนุบาลใหม่ๆ
ตอนเด็กๆเราตัวขาวมาก และดำแดดง่ายสุดๆ แถมยังดื้อไปเล่นซนอีกต่างหาก
ตอนเปิดเทอมแน่นอนว่าผู้ปกครองก็ต้องไปเฝ้าเืด็กทั้งวันใช่ไหมล่ะคะ
แต่เราเปล่าเลยค่ะเราไล่พ่อกับแม่ให้กลับไปทำงาน เพราะท่านไม่ค่อยจะมีเวลาว่างนัก
แล้วเราเป็นประเภทชอบอยู่คนเดียวด้วย
เราอาศัยอยู่กับย่าตั้งแต่ตอนแรกเกิดเลยก็ว่าได้ค่ะ โตมาได้เพราะย่าเลี้ยงดูแท้ๆ
ตอนแรกพ่อแม่เราตั้งใจจะอยู่ด้วย แต่เราไม่ยอมให้อยู่พ่อกับแม่ก็เลยไปทำงาน
(แต่ก็แอบมาทานข้าวกลางวันที่ รร.ใหม่ด้วย แล้วก็กลับไปทำงานต่อ)
ระหว่างตอนเช้าที่พ่อกับแม่ไปทำงาน ก็จะมีเด็กคนอื่นๆที่ 99% พ่อแม่อยู่ยันกลับบ้านเลย
แต่เราไปสะดุดตากับเด็กคนนึงที่กำลังร้องไห้ เค้าเป็นเด็กผู้ชาย เราไม่รู้ว่าทำไมกันนะ เค้าถึงร้องไห้
เราได้แต่ยืนมองดูเค้ากับคุณครูที่เข้ามาปลอบเค้า จากนั้นคุณครูก็ให้เราไปนั่งเป็นเพื่อนเค้า
ถึงได้รู้ว่าพ่อแม่เค้าไม่ได้มาเฝ้าเค้าทั้งวัน เราได้แต่นั่งนิ่งๆ
....จากนั้นเราก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยนอกจากภาพของเด็กผู้ชายที่นั่งร้องไห้....
ตอนเย็นเราจะต้องกลับบ้าน วันแรกพ่อกับแม่เราสละเวลามารับ ส่วนเค้าก็ยังคงนั่งรอไปเรื่อยๆ
แล้วเราก็ไม่รู้เลยว่าเค้ากลับบ้านยังไง เป็นครั้งแรกที่เราได้สัมผัสกับคำว่า "เป็นห่วง"

[วันถัดมา]
พ่อแม่เรามาส่งตามปกติ เราก็เดินเข้าห้องเรียนไป เป็นคนแรกๆสดุเลยอ่ะที่มถึงเพราะบ้านอยู่ไกล
แล้ววันเวลาก็ดำเนินไป ตอนขากลับเราขึ้นรถโรงเรียนกลับ ซึ่งมันจะเป็นเป็นคันๆ
เราได้ขึ้นคันที่ 3 เพราะมันผ่านหน้าบ้านย่าเรา พ่อกับแม่เรากลับบ้านช้า เราต้องอยู่บ้านย่าเสมอ
ครูประจำชั้นส่งเราขึ้นรถ เราถึงได้รู้ว่าเค้าก็กับบ้านด้วยรถคันเดียวกับเรา
เราต้องนั่งข้างกัน เพราะไม่รู้จะไปนั่งกับใคร (เป็นลักษณะเหมือนรถเมย์ปรับอากาศ)
บ้านย่าเราเป็นเป้าหมายสุดท้ายในการไปส่ง พอทุกคนลงรถไปหมดแล้ว เหลือแค่เรากับเค้า 2 คน
รถเริ่มขับเข้าไปในหมู่บ้านเรื่อยๆ มันเป็นคล้ายๆบ้านจัดสรรที่อยู่ในชนบท
ลึกไปเรื่อยๆ ใกล้จะถึงบ้านย่าเราเเล้ว แต่เค้าก็ยังไม่ได้ลงจากรถเ้ลย
จะกระทั่งรถจอดหน้าซอยๆ หนึ่ง(เรียกไม่ถูก ซอย ละกันเนอะ) เรากับเค้าลงพร้องกัน
จากทางตรงสู่ทางเเยก แต่เค้าก็เดินไปทางเดียวกับเรา จนหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง
ซึ่งเป็นบ้านย่าเราเอง ส่วนเค้าเดินเข้าบ้านฝั่งตรงข้าม มันทำให้เรารู้ว่า "บ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน"
เค้าเป็นญาติกับเจ้าของบ้าน
และเมื่อพ่อเรามารับ เราได้ยินเสียงเด็กผู้ชายเรียกชื่อพ่อเรา "ขวดน้ำ" (นามสมมติ)
แต่พอออกไปดูแล้วไม่ใช่เลย นั่นไม่ใช่พ่อเรา พ่อเรามาหลังจากนั้นไม่นาน
เราถึงได้รู้ว่าพ่อเรากับพ่อเค้ารู้จักกัน และชื่อ ขวดน้ำ เหมือนกัน
ขวดน้ำทั้ง 2 ได้แนะนำลูกตัวเองให้ขวดน้ำอีกฝ่ายได้ีู้รู้จัก
เราถึงได้รู้ชื่อเค้า เค้าชื่อว่า "คีย์บอร์ด" (นา่มสมมติ)
จากนั้นเราก็กลับบ้านด้วยกัน และเล่นด้วยกัน เราสนุกมากที่มีเค้าเป็นเพื่อน เค้าเป็นเพื่อนคนแรกของเรา
เราชอบเค้าในแบบที่เด็กคนนึงจะชอบเล่นกับเพื่อนสักคน ตอนนั้นมันยังไม่ใช่รัก
แต่เราชอบที่จะเล่นกับเค้า เขาชอบชวนเราเล่นบาส ปิงปอง และฟุตบอล
เราก็เลยเล่นฟุตบอลกับบาสเป็น (เเต่ตอนนี้เล่นไม่เป็นละ)
เรียกได้ว่าเราเล่นอะไรที่ผู้ชายชอบเล่นได้หมดกระทั่งยูกิ
แต่บางครั้งเค้าก็ถามเราว่าอยากเล่นอะไร เราเลยไปหยิบบ้านของเล่นมา
เค้าก็เล่นกับเรา แถมเติมบทที่สมหญิงโคตรๆ ให้ด้วยแหละ 55 5
นั่นแหละที่เราเริ่มชอบเค้า แบบจริงๆ จังๆ ตอนนั้นก็ อ.3 แล้วล่ะ
ช่วงปิดเทอมทุกครั้ง ทุกวัน และเกือบทุกเวลา เรียกว่าตื่นเช้ามาเห็นหน้าเค้า
และหลับตาลงพร้อมกับใบหน้าเค้าเลยก็ว่าได้
ปิดเทอมใหญ่ อ.3 เราก็เล่นกับเค้าแบบเดิมๆ เรื่องเดิม กับความรู้สึกเดิมๆ
แต่น่าแปลกเนอะที่เราไม่เคยเบื่อความรู้สึกนั้นเลย
เราทั้งปีนต้นไม้ ทั้งปีนโอ่ง ปีนรั้วบ้าน เล่นกีฬาสารพัดอย่างกับเด็กผู้ชาย
จากเด็กผู้หญิงผมยาวกลางหลังผิวขาว ก็กลายเป็น
เด็กผู้หญิงมอมแมมผมสั้น ตัวดำเมี่ยม แต่เค้าดันไม่เห็นจะดำลงเลยสักนิด

วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เราตั้งหน้าไป รร.แต่เช้าในวันเปิดเทอม ป.1
แต่ไม่เลย เราไม่เจอเค้า ไม่เห็นเค้าที่ รร.  เเต่โชคดีที่เค้ายังอยู่บ้านตรงข้ามกับเรา
เค้าบอกเราว่า "คีย์บอร์ดย้าย รร.แล้วนะ" เราถึงได้รู้
แต่ก็ดีัใจที่เค้ายังอยู่ เราเล่นกับเค้าเหมือนเดิม แค่ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกันเท่านั้นเอง
จนกระทั่ง ป. 2 เราขอพ่อย้าย รร. ด้วยเหตุผลที่ว่า เด็กในห้องมันเยอะเกินไป (35 คน)
เราเลยได้อยู่ รร. เดียวกับเค้า แต่คนละห้องกัน..."แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ"...
ยิ่่งนับวันเรายิ่งชอบเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวินาทีเราตั้งหน้าตั้งตารอที่จะกลับบ้านไปเล่นกับเค้า
ถึงแม้ที่ รร. เราจะไม่ได้คุยกันเลยก็ตาม

....ป.4....
เป็นครั้งแรกที่เรารับรู้ว่าหน้าตาของเค้าเป็นยังไง เค้าหน้าตาดีมาก
แต่เราไม่เคยเห็นส่วนนั้นของเค้าเลย เราใช้แต่ความรู้สึกในการมองเค้า
และเป็นครั้งแรกที่เรารู้ว่า หน้าตาเรามันแย่ จากเด็กผิวขาวผมยาวคนนั้น
ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกเป็ดขี้เหร่คนนึง
เรารู้สึกว่าเราเอื้อมไม่ถึงเค้า เราอาจเอื้อมไม่ถึงเค้าอีกต่อไป
เรากลับไปบ้านพร้อมกับความรู้สึกนั้น
วันนั้นเีราอกหักครั้งแรก เค้าบอกเราตอนกำลังเล่นบาสว่า
"คีย์ยอร์ด มีแฟนแล้วนะ" เราถึงกับก้าวไม่ออกเลย
ความรู้สึกเหมือนแก้วแตก เหมือนน้ำที่ไหลออกมาจากแก้วที่แตก
แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ไม่ใช่ว่าไม่ได้พูด แต่พูดไม่ได้
เรายิ้มให้เค้า เค้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นว่า "จะแนะนำให้ขนมปังรู้จักนะ เธอน่ารักมากเลย"
เราก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้ม จากนั้นมาไม่ว่าจะเิกิดเรื่องอะไรเราก็มักจะยิ่้มกลบเกลื่อนตลอด
เราโกหกเค้าว่า "นัดกับย่าไว้ว่าจะช่วยทำกับข้าว ไปก่อนนะ" เราทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น เป็นขนมปังคนเดิม
แต่ปัจจุบันนี้เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าสาวน้อยน่ารักคนนั้นเป็นใคร
เราก็เล่นกับเค้าเหมือนเดิม แต่มีความรู้สึกนึงเข้ามาแทรก "เจียมตัว"

....ป.5....
เราก็ไป รร. ตามปกติ ไปหาเค้าที่ห้องแต่กลับไม่เจอ
กลับมาบ้านก็ไม่เจอ พ่อเค้ามาเก็บของบางส่วนจากบ้านของญาติเค้า
เค้าเห็นเรา เค้าเลยบอกเราว่า "ขนมปัง...คีย์บอร์ดย้ายไปเรียนที่พิษณุโลกน่ะลูก"
เราก็ยิ้มให้พ่อเค้า "แต่คีย์บอร์ดจะกลับมาตอนปิดเทอมนะลูก"
เรายิ้มด้วยความรู้สึกที่เป็นสุขจริงๆ ไม่ใช่ยิ้มปิดบัง
เราเฝ้ารอเวลา จนกระทั่งปิดเทอม เค้าเล่าให้เราฟังว่า เค้าก็พึ่งรู้เหมือนกันเลยไม่ได้บอก
เราดีใจมาก แต่ว่าด้วยความที่เราต่างอายุมากขึ้นและใกล้เป็นวัยรุ่น เราเลยไม่ค่อยอยากเข้าใกล้เค้า

เวลาผ่านไปเรื่อย แต่นอกจากปิดเทอมครั้งนั้นแล้ว...เค้าก็ไม่กลับมาอีกเลย
เราเศร้ามาก จนกระทั่ง ม.1 เราสอบรร. นึงติด
เค้ากลับมาเรียน รร. เดิมที่เคยเรียนตอนประถม ซึ่งมันมีม.ต้น
พอรู้ว่าเป็นแบบนั้นเราตื่นเต้นมาก เราไม่ได้เจอเค้ามาเป็นปีแล้ว
เรารอมาตลอด แต่เค้ากลับเดินผ่านเราไปเฉยๆ ไม่แม้กระทั่งสบตา
หรือทักทาย เรารู้สึกใจหายมาก และเดินเข้าบ้านไป
พอเราเริ่มโตมากขึ้น เราก็สามารถที่จะอยู่บ้านคนเดียวได้ โดยไม่ต้องพึ่งย่า
จึงกลับมาอยู่บ้าน เค้าก็เช่นกัน เราไม่ได้คุยกันอีกตั้งแต่ปิดเทอมวันนั้น
เราคิดถึงเสียงของเค้า เสียงของเค้าคงต้องเปลี่ยนไปมากแน่ๆ
เค้าเป็นคนที่ตัวสูงมาตั้งแต่เด็กแล้ว เราก็เตี้ยกว่าเค้าไม่เกิน 10 ซม.ตลอด
เรารู้สึกได้ถึงความเหินห่าง เราอยากเล่นกับเค้า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้
และเรามั่นใจแล้วว่า "เรารักเค้า" เรารักตั้งแต่ที่เค้าเป็น เด็กชายยืนร้องไห้ตั้งแต่ครั้งแรกทีี่เจอ
เพียงแต่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็เท่านั้นเองแต่ตอนนี้เรารู้่แล้ว

ตอนนี้เราอยู่ ม. 5 แล้ว...
เราได้เจอเค้าอีกครั้งนึงเพราะแม่เรามีธุรต้องคุยกัน เลยนัดกันไปคุยที่ห้าง
เค้าไปช่วยแม่ถือของ ส่วนเราแค่ไปเป็นเพื่อนแม่
ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเค้าไปด้วย เราแทบจะสำลักชาเขียวที่กำลังดูดเลย
เรากับเค้าเดินข้างหลังแม่ ไม่มองไม่คุยไม่สบตา แค่เดินไปเท่านั้น
แต่เราเขิน และรู้สึกเหมือนน้ำล้นออกจากแก้วเลย มันเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก
เราพยายามหุบยิ้ม จนกลายเป็นคนหน้านิ่งเฉย และมองพื้นเกือบตลอดเวลา
จนเกือบเดินชนคนอื่ีนเค้า แต่เค้าก็ดึงแขนเอาไว้ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่กล้ากระทั่งจะ "ขอบคุณ"
จนได้ยินบทสนทนาของแม่ๆ ว่า "คีย์บอร์ดมีแฟนแล้วนะเป็นเด็ก ปี1 เค้ามาช่วยติวให้บ่อยๆ"
เรานี่เเทบจะอยากใส่เกียร์หมาแล้ววิ่งกลับไปที่บ้านเลย
เราช็อค แต่ก็ทำหน้านิ่งเฉย กลับบ้านไปเราซึมสุดๆ เลย
จากนั้นเี่ก็เริ่มที่จะตัีดใจจากเค้าได้ เพราะเราเลี่ยงที่จะไปหาเค้าที่บ้านเวลาแม่ขอ
จนเราคิดว่าทำใจได้แล้ว และมีความสุขกับการที่ได้เคยเป็นเพื่อนเค้า
แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ : )

รักแรก ที่เรามอบให้เพื่อนคนแรก...
เราไำม่รู้สึกแบบนั้นกับเค้าอีกต่อไปแล้ว
กลับไปรักเค้าไม่ได้แล้ว
แต่ความรู้สึกที่มีความสุขนั้นยังคงอยู่จนกระทั้งตอนนี้

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

pimpm 27 ก.พ. 56 เวลา 22:49 น. 2

โฮ อ่านแล้วซึ้ง
แต่เชื่อเราเถอะ ความรักไม่จำเป็นต้องวิ่งตาม
แค่เราอยู่เฉยๆเดี๋ยวมันก็ตามหาเราเอง ;)

0
คนแอบรัก 28 ก.พ. 56 เวลา 05:16 น. 4

เศร้ามากอ่ะ...แอบเจ็บแทน แต่ความจริงเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง ไม่ว่าจะเป็นรักแรกหรือรักครั้งไหน มันก็เจ็บปวดมากๆเหมือนกัน ยิ่งได้แอบรักใครสักคน แล้วๆคนๆนั้นคือคนที่อยู่ใกล้ตลอดเวลา ต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน สนิทกันมากๆจนเป็นปาท่องโก๋ แถมเค้าคนนั้นยังสรรหาเรื่องมาปรึกษาเราตลอดโดยเฉพาะเรื่องความรักเนี่ย มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากจริงๆนะ ต้องฝืนยิ้ม ต้องปลอบโยน ต้องให้คำปรึกษา ทั้งๆที่เจ็บแทบบ้าแต่ก็ต้องทน T^T

0
muzuuu 28 ก.พ. 56 เวลา 19:33 น. 5

อ่านแล้วรู้สึกน่ารักจังจขกท.เป็นคนที่"รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจริงๆ":)

0
Teleportion Kncc 2 มี.ค. 56 เวลา 12:44 น. 9
 T^T โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สงสารเจ้าของกระทู้จัง สู้ๆ นะคะ Y_YV
PS.  เราแม่ยกไคโด้ ^^ แห่ง EXO Planet 55555555555555555
0
Silver Bullet. 2 มี.ค. 56 เวลา 14:54 น. 10

อ่านแล้วซึ้งอ่ะ ปนเศร้าไปอีก เจ้าของกระทู้ก็น่ารักอ่ะตอนเด็กๆ 


PS.  การทำนายอนาคตก็คือ การสร้างมันขึ้นมา”
0
....Ice Princess.... 7 มี.ค. 56 เวลา 12:43 น. 11

อ่านแล้วซึ้ง อ่านแล้วรู้สึกดีเลยล่ะ
ไม่รู้จะแนะนำยังไงดี เอาเป็นว่า ถึงเป็นรักครั้งแรก จขกท.ก็อาจจะไม่ได้รักกับคนที่เป็นรักแรกก็ได้ ชีวิตเรายังมีเวลาอีกมากมาย และยังมีอีกหลายคนที่ยังพร้อมจะมอบรักให้เราอีกตั้งหลายคน เชื่อสิ!

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น