Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กวิทย์ฯ สอบ Pat 7 ภาษาอะไรดี?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยคะ คือตอนนี้เราเรียนอยู่ ม.5 กำลังจะขึ้น ม.6 (สาย วิทย์ - คณิต)
แล้วกำลังจะเตรียมตัวฟิตภาษาที่สามเพื่อสอบ Pat 7 คะ ส่วน Pat 1 เราไม่ค่อยถนัด
ถึงจะเรียนสายวิทย์ก็เถอนะ คือเราไม่ได้อยากเข้าวิทย์ตั้งแต่แรก พอเหอะ เดี๋ยวดราม่า - -''
เข้าเรื่องต่อ แต่ตอนนี้ก็เล็งๆ ภาษาญี่ปุ่น กับ ภาษาเยอรมันไว้ เลยอยากทราบว่า
ในระยะเวลาที่เหลือแค่นี้ ไม่กี่เดือน - - เราควรเลือกเรียนภาษาอะไรเป็นภาษาที่สามดี
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ งื้มๆ  

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

อิอิ 11 มี.ค. 56 เวลา 10:05 น. 1

ไม่รู้สิ พี่ว่าไม่ทัน ภาษาเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม มันไม่ได้หัดกันได้ง่ายๆในระยะเวลาไม่ถึงปีอะครับน้อง ที่สำคัญอ่านออกเขียนได้แปลได้ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ เพราะ PAT7 มันออกพวกวัฒนธรรมต่างๆ กฎหมาย และอื่นๆของประเทศพวกนั้นด้วย พี่ว่าต้องศึกษามานานจริงๆอะครับ เด็กศิลป์ภาษาเขาเรียนมา 3 ปี ยังไม่ค่อยจะได้กันเลย แล้วน้องไม่มีพื้นฐานเลย พี่ว่ายากครับ

พี่แนะนำนะ พยายามกับเลขเถอะครับ ถึงมันจะยาก แต่เราก็มีพื้นฐานมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ใช่เริ่มนับ1ใหม่

พี่แนะนำตามนั้นนะน้อง แต่ถ้าน้องไม่เชื่อ ก็สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ ขยันๆหน่อยนะ

0
Bambie 11 มี.ค. 56 เวลา 10:36 น. 2

ขอบคุณมากนะคะพี่&nbsp หนูจะพยามยามฟิตเลขให้ดีๆ เพราะอย่างที่พี่บอกก็ถูก
ขนาดเด็กศิลป์-ภาษา เค้าเรียนมาสามปี ยังไม่ค่อยได้กันเลย
แต่หนูก็จะพยามอ่านภาษาที่สามไว้ด้วย&nbsp ถึงแม้มันจะไม่ค่อยมีหวังเลยก็ตาม&nbsp 

0
น้ำตาจะไหล 11 มี.ค. 56 เวลา 12:12 น. 3

พี่ว่าทัน

PAT ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น ถึงจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ถึงปี หรือไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ

ก็สามารถได้คะแนนที่พึงพอใจได้ไม่ยากมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภาษาญี่ปุ่นง่ายกว่าภาษาอื่นนะ

แต่เหตุผลคือว่าว่าการออกข้อสอบของภาษาญี่ปุ่นในPAT ค่อนข้างมีขอบเขตที่ชัดเจน

การออกข้อสอบจะยึดจากแบบเรียนอะกิโกะและมินะโนที่ใช้สอนชั้นเรียนศิลป์ญี่ปุ่นทั้งสิ้น

ส่วนPAT ภาษาอื่นเนื่องจากไม่มีแบบเรียนเป็นแบบยึดในการออกข้อสอบที่ชัดเจน จึงทำให้ข้อสอบค่อนข้างมีเนื้อหากว้างกว่า

ดังนั้นถ้าต้องการฟันคะแนนจากPAT 7 ภาษาญี่ปุ่นน่าสนใจมากที่สุด
แต่ถ้าน้องคิดว่าสักวันหนึ่งน้องอาจจะใช้ประโยชน์จากภาษา แนะนำให้เลือกภาษาที่น้องชอบดีกว่า

*จากประสบการณ์ เด็กวิทย์-คณิตเตรียมตัวครึ่งปีได้แพทญี่ปุ่น 270

2
อรยา 20 พ.ค. 59 เวลา 12:30 น. 3-1

พี่ช่วยแนะนำการเตรียมตัวสำหรับแพทภาษาญี่ปุ่นหน่อยได้ไหมค่ะพอดีหนูเด้กวิทยื-คณิตเหมือนกันค่ะ
*ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยค่ะรักเลย

0
Bambie 11 มี.ค. 56 เวลา 13:44 น. 4
&nbsp ขอบคุณพี่น้ำตาจะไหลมากๆเลยคะ ที่ให้คำแนะนำดีๆ ให้กับเด็กวิทย์หัวใจศิลป์คนนี้
คือ&nbsp หนูก็ชอบภาษาญี่ปุ่นคะแต่ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะ ไม่แน่ใจว่าจะเลือกสอบPat ไหนดี?
กลัวไปซะทุกอย่าง - -'' แต่พอพี่แนะนำมาอย่างนี้ ทำให้หนู มีกำลังใจ ฮึดสู้ มากเลยคะ
ส่วนแบบเรียนอะกิโกะและมินะโน นี้สามารถหาศึกษาได้ตามร้านขายหนังสือทั่วไปได้หรือเปล่าคะ?
หรือว่ามีเฉพาะเด็กศิลป์ญี่ปุ่นเท่านั้นที่มี?
0
まるも君! 11 มี.ค. 56 เวลา 22:18 น. 5

เอาจริงๆนะ ทันคะ เชื่อซิ เพราะพี่เองก็อ่านเอง2เดือน ได้207ในรอบตุลา กับภาษาญี่ปุ่นอ่ะนะ
(พี่สายวิทย์เหมือนกัน)

(ข้างล่างนี้ ถ้าน้องไม่อยากสอบPatญี่ปุ่น ไม่ต้องอ่านก็ได้คะ)

แต่ข้อสอบเดือนมีนาของพี่ครั้งนี้ยากพอดู น่าจะพอๆกับระดับN3ในเรื่องของคันจิและข้อสอบ ส่วนคำศัพท์กับไวยกรณ์อยู่ที่N4 80และN3 20 (N3คือระดับเกือบกลาง ซึ่งN4คือระดับเบื้องต้น)

พี่แนะนำแค่มินนะโนะพอคะ 4เล่ม เอาอยู่100%คะ (พี่อ่าน2เล่มเอง) แต่พี่อ่านหนังสือของ สสท ด้วยอ่ะ (ที่เป็นเล่มสีขาวๆ เขียนว่าคู่มือเตรียมสอบวัดระดับ N4 N3 ขายตามร้านหนังสือ ตกราคาประมาณเล่มละ200 พี่อ่านไวยกรณ์+คำศัพท์N4 แล้วก็คันจิ+ไวยกรณ์+คำศัพท์N3(คำศัพท์ยังอ่านไม่จบ) อ้อ ถ้าคันจิที่ดีๆอีกอันคือของอาจารย์แบงค์ เล่มสีดำๆ คันจิ1000ตัวคะ)

วิธีง่ายๆในการเตรียมตัว

เรื่องศัพท์ เขาไม่เคยออกเกินระดับN4เลย เพราะงั้นน้องอ่านแค่มินนะกับคำศัพท์N4ก็เพียงพอคะ

ไวยกรณ์รอบตุลาพี่มีN3โผล่มา20%ของพาร์ทไวยกรณ์ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนในระบบสอบ แต่ว่ารอบมีนากลับไม่มีที่เกินระดับ4เลย แต่พี่ว่าน้องอ่านเผื่อๆไว้หน่อยดีกว่า ไม่ตายหรอก ไวยกรณ์N3ไม่ยากเลย ขี้มาก

ส่วนคันจิออกได้ยันN2แน่ะ(ระดับล่ามเลย)พี่แนะนำให้น้องเริ่มเก็บตั้งแต่วันนี้ และเก็บให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ แต่เคร็ดลับดีๆอีกอย่างเกี่ยวกับคันจิคือ
1.ถ้าน้องอ่านหนังสือคำศัพท์N4ของสสทตามที่พี่แนะนำ น้องคะ...นอกจากคำศัพท์แล้วน้องฝึกเขียนคันจิที่เป็นศัพท์ในนั้นไปเลยคะ!!! พี่ก็ทำแบบนี้ ที่จริงคันจิพี่ประมาณ400กว่าตัวเกือบๆ500ตัวเอง แต่ว่าพี่อาศัยวิธีนี้ทำให้พอจะรู้คันจิตัวยากๆบ้าง และที่สำคัญน้องหาข้อสอบเก่าๆมาจดคันจิแล้วคัดๆๆๆไปซะ เพราะทุกปีจะมีตัวเดิมๆ โจทย์เดิมๆออกมาคะ คัดคันจิจากข้อสอบเก่าก็ช่วยได้เยอะ

2.พอน้องทำตามข้อ1เสร็จ น้องจะเริ่มเก็งตามข้อสอบได้ จากนั้นลองหาหนังสือรวมคันจิแล้วเปิดอันที่น่าจะออกมานั่งจำก่อนเลย ตัวที่ไม่เคยเห็นหรือคิดว่าไม่ออกหรอกไว้มีเวลาค่อยมานั่งจำ ตอนนี้จำตัวตามที่senseน้องบอกก่อน

จากนั้นก็ทำโจทย์บ่อยๆ อ่านเยอะๆ มันจะทำให้เราคุ้นกับภาษาไปเอง อย่างพี่เนี่ยอ่านการ์ตูนแหลกเลยคะพอเริ่มได้ภาษาญี่ปุ่น(หลังจากสอบเดือนตุลาไปแล้วอ่า) อ่านมันแหลกจนตอนนี้เริ่มชินภาษาเขาแล้ว พออ่านไม่ออกหรือตัวไหนไม่รู้ก็ข้ามจนเริ่มจับประเด็นได้ ทำแบบนี้จนโอเคกับการ์ตูนมากขึ้น(ส่วนหนังสือพิมพ์พี่ก็ยังคงอ่านไม่ออกตามเดิม T^T)


สู้ๆนะจ้าาาา

ปล. อากิโกะอ่ะ ไม่ต้องอ่านกะได้จ้าาา พอไม่ได้แตะเลยซักเล่ม 555


PS.  ความฝันกับความเป็นจริง มันไกลกันมากจนไม่อาจเชื่อมถึงกันได้
0
Bambie 12 มี.ค. 56 เวลา 08:10 น. 6

บ้าจริง !! (ทำเสียงแบบเบบี้มาย) - -&nbsp พี่เก่งมากเลยอะ&nbsp อ่านแค่ 2 เดือน ได้ 207 แนะ
หนูเข้าใจมากขึ้นเลยคะพี่&nbsp มันทำให้หนูมั่นใจ และรู้ใจตัวเองละว่า "ฉันจะเรียนภาษาญี่ปุ่น"
ขอบคุณพี่ yoyopo03 มากเลยนะคะ ที่ให้คำแนะนำดีๆ กับรุ่นน้องสายวิทย์หัวใจศิลป์เหมือนกัน
หนูจะลองไปทำตามอย่างที่พี่บอกนะคะ&nbsp ขยันๆ สู้ๆ&nbsp อ่านๆ เขียนๆ พยายาม
อาริงาโตะโงไซมัส :)&nbsp 

0
น้ำเอก 12 มี.ค. 56 เวลา 09:37 น. 7

แพทบาลีค่ะ สายวิทย์สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอะไรมาเลยแนะนำอันนี้เลย เพราะบาลีน้องยังอ่านออกบ้าง มั่วได้ง่ายกว่าภาษาอื่นๆ ที่น้องอาจจะอ่านไม่ออกนะคะ
พี่ไปมั่วมาได้มาเกือบๆ สองร้อย มากกว่าศิลป์จีนที่โรงเรียนอีกอ่ะ และได้ใช้คะแนนนี้ยื่นเข้าธรรมศาสตร์มาแล้วค่ะ

0
Bambie 12 มี.ค. 56 เวลา 10:39 น. 8

คะ หนูจะลองเก็บไปพิจารณาดู&nbsp แต่ใจจริงๆหนูชอบภาษาญี่ปุ่น ตั้งแต่ม.2 แล้วอ่าา - - พอพูดได้ เขียนได้แค่นิดเดียวจริงๆ เลยคิดว่าอยากสอบ pat ญี่ปุ่น แต่ประเด็นคือ คู่แข่งเยอะมากกกกกก ...
น่ากลัวจุงเบยยย - -''&nbsp เลยสองจิตสองใจ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน เลือกไม่ถูก แต่ก็ขอบคุณ
พี่น้ำเอกคะ ที่แนะนำ แล้วพี่ใช้คะแนน pat บาลี เข้าเอกอะไรคะ? คือ หนูกลัวว่ายื่นแพทบาลีไปจะต้องเข้าเอกบาลีอ่าาา

0
Law CU 12 มี.ค. 56 เวลา 21:18 น. 9

แนะนำภาษาญี่ปุ่นนะ เห็นว่าขึ้นชื่อสุดแล้วในการฟิตภายในช่วงเวลาสั้นๆแต่ได้คะแนนประทับใจมากกก
คือเรื่องความยาก-ง่ายของแต่ละภาษามันละเอียดอ่อนและพูดยาก พูดไปเดี๋ยวจะดราม่าอีก

เอาเป็นว่า ภาษาญี่ปุ่นทำคะแนนได้ดีสุดล้ะ ถ้าฟิตไปแบบจัดเต็มนะะ ทำคะแนนไม่ยาก ได้เปรียบภาษาอื่นแน่จ้ะ
อย่างน้อยๆ ถ้าเทียบกับภาษาจีนก็ง่ายกว่าเยอะเลย

*อนึ่ง ความคิดเห็นข้างต้น รวบรวมมาจากประสบการณ์ใกล้ตัวทั้งสิ้น *

สู้ๆ ล้ะ จขกท มีเวลามากกว่าเราอีก ต้องทำได้ดีแน่ๆ

0
MaMida 12 มี.ค. 56 เวลา 22:47 น. 10

แนะนำญี่ปุ่นเหมือนกันน้า ทุกอย่างทันหมดไม่ได้ขึ้นอยุ่ที่เวลา ขึ้นอยุ่ที่ความขยันตั้งใจของเรามากกว่า ส่วนตัวเราก็จะสอบแพทยุ่นจ้า พยายามอ่านเก็บมาเรื่อยๆ อย่าทิ้งมัน อีกภาษาก็คงเป็นบาลี บาลีเนี่ย ไม่ใช่ว่าเรายื่นไปแล้วต้องเรียนเอกบาลีนะ ไปเลือกอย่างอื่นได้นะ 

ปล.สู้ๆน้า 

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 มีนาคม 2556 / 23:00

0
Bambie 13 มี.ค. 56 เวลา 08:21 น. 11

@Law CU ขอบคุณมากคะที่ให้คำแนะนำและกำลังใจ อ่านแล้วรู้สึกอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุดเลย จะพยายาม ขยันๆ อ่าน คะ ขอบคุณมากคะ
@MaMida ขอบคุณมากคะ&nbsp เธอก็คงรุ่นราวคราวเดียวกับเรา ฮ่าๆ >< จะไปสอบแพทญี่ปุ่นเหมือนกัน
เย้ๆ เจอเพื่อนละ และก็ขอบคุณนะที่ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจเรา แต่ให้เลือกสอบก็คงเลือกญี่ปุ่นแล้วละ
เพราะ บาลีอ่านออกก็จริง แต่ใครๆก็บอกภาษาอื่นออกข้อสอบยาก ญี่ปุ่นนี้ละดีสุดเรื่องทำคะแนน
เธอก็สู้ๆเหมือนกันนะ :)

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

Bambie 13 มี.ค. 56 เวลา 18:58 น. 13

ขอบคุณคะ&nbsp พี่เพียว แล้ว pat บาลี เนี่ยยากพอๆกับญี่ปุ่นหรือป่าวคะ?
เพราะ เห็นส่วนใหญ่หลายๆคนบอกบอกว่า pat ญี่ปุ่น ง่ายสุดละเรื่องฟิตคะแนน
แต่บาลีหนูก็อยากได้นะ&nbsp แต่กลัวทำคะแนนออกมาไม่ดี&nbsp 
ประเด็นคือ หนูซื้อหนังสือภาษาญี่ปุ่นมาอ่านเรียบร้อย มินะโนะ นิฮงโกะ , N4 คำศัพท์ ,
N3 ไวยกรณ์ แล้วอ่านไม่ออก - -''

0
ปลาดาว 13 มี.ค. 56 เวลา 20:04 น. 14

เริ่มจากท่องฮิระงะนะ คะตะคะนะก่อนซิจ้ะเทอ

แล้วค่อยๆไล่ไปทีละระดับอ่ะ

เรากำลังขึ้นม.6เหมือนกัน ศิลป์ญี่เตรียมอุดมจ้ะ :)

0
l2ockOn 13 มี.ค. 56 เวลา 20:25 น. 15

แนะนำๆ ญี่ปุ่น เหมือนกันนะ เราเรียนศิลป์-คำนวณอ่า
แต่ไปเรียนญี่ปุ่นข้างนอกเอา เรียนมาเกือบปีแล้ว ยังไม่ถึงไหนเลย (ไม่ค่อยได้ทบทวน)
เราว่าเวลานี้ยังทันอยู่นะอีกประมาณ 7 เดือนป่ะ?? ต้องพกติดตัวตลอดเวลาเลย
เรามาสู้ไปด้วยกันนะ!!

0
Bambie 13 มี.ค. 56 เวลา 20:44 น. 16

@ปลาดาว&nbsp ฮิรางานะ คะตะคะนะ อ๋อ ที่มี a i u e o ใช่ปะ? ฮ่าๆ คือเราพื้นฐานมากๆ จริงๆ
ขอบคุณที่แนะนำนะ ปล.ว้าวๆ เก่งจัง ศิลป์ญี่ปุ่น ตอ. เรา ตอน. :)

@l2ockOn ดีจังได้เรียนด้วย เราต้องเรียนด้วยตัวเองอะ เฮ้อ...
แต่เวลาเท่านี้ เราว่า ถ้าขยันและก็พยามอ่าน เขียน ท่องจำ นะ เราว่าทำได่แน่
สู้ๆ เราจะสู้ไปด้วยกัน :)

0
Bambie 14 มี.ค. 56 เวลา 08:17 น. 18

@ลูกหมี&nbsp ตอนแรกเราก็คิดแบบนั้นนะ&nbsp แต่ไปดูแนวข้อสอบของภาษาบาลีแล้วแบบมันยากไม่ใช่เล่น
เลยนะ ไม่เชื่อลอลงไปหาดูสิ&nbsp ถึงมันจะเป็นภาษาไทยก็จริง อ่านออกก็จริง
แต่แปลไม่ออกเลย เพราะ มันไม่ใช่แค่บทสวดที่เราเห็นๆกัน&nbsp แต่มันยิ่งกว่านั้น&nbsp เหมือนอีกภาษานึงไปเลย แค่เจอคำถามก็มึนละ เจอช้อยเป็นบาลี แล้วแปลไม่ออกอีก ดังนั้นถ้าคิดจะมั่วขอมั่วญี่ปุ่นดีกว่า
ยังๆไงก็คงมีค่าเท่ากันถ้าแปลบาลีไม่ออก คหสต. แต่ก็ขอบคุณที่แนะนำคะ

0
まるも君! 14 มี.ค. 56 เวลา 11:05 น. 19

แต่ขอถามน้องหน่อยได้ไหมคะว่าจะเข้าคณะด้วยภาษาญี่ปุ่นโดยตรงเลยรึเปล่าคะ ถ้าใช่มันจะยากหน่อยนะคะตรงที่ขั้นต่ำจะสูงกว่าภาษาอื่นมาก อย่างมก จีน150 เยอร120ก็เข้าได้แล้ว แต่ภาษาญี่ปุ่นเนี่ย210เลยนะคะถึงจะมีสิทธิ์ยื่น และภาษาญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องเอาใปใช้จริงยากมากกกก เพราะมีแบ่งกรณีเยอะมาก เช่นแค่คำบอกสาเหตุก็มีสาเหตุจากปัจจัยภายใน ภายนอก คนพูดกระทำ คนนอกกระทำ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมาแปลความหมายว่า=เพราะ ภาษามีหลายระดับ ระดับยกย่อง ระดับถ่อมตัว ระดับสุภาพ ระดับทั่วไป และกันเอง ซึ่งระดับภาษาเหล่านี้ในชีวิตจริงเขาก็ใช้กันนะไม่ได้เรียนอย่างเดียว บางอันพูดกับเพื่อนเท่านั้น บางอันกับคนระดับสูงกว่าเท่านั้น บางอันภาษาเขียนเท่านั้น บางอันพูดกันในวงธุรกิจเท่านั้น ยากมากกกกก เพราะจำเยอะ ที่สำคัญคันจิจะยากเพราะเราต้องจำเสียงเยอะ เช่น楽ตัวนี้อ่ะมีอ่านได้4เสียง たの、ガク、ラク、ラッเป็นต้น ซึ่งไม่ได้ยากแค่กรรจำเสียง แต่มันทำให้เราสับสนเวลาเจอว่าอ่อ...สรุปตูจะอ่านเสียงไหนดี ไม่เหมือนจีนที่ถ้าเป็นจีนกลางจะมี1เสียงเลยไม่สับสน เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าไปแล้วพูดภาษาได้เหมือนเจ้าของภาษาน้อย เพราะความเรื่องมากของไวยกรณ์ ประตูเปิดแบบมีคนกระทำ กับมันเปิดเองก็คนละศัพท์ คำช่วยก็ต่าง このビールを冷やす。 このビールが冷えている。 ทั้ง2อันแปลว่าเบียแช่เย็นคะ แต่ถ้าเป็นเบียร์ท่ีเราแช่เองจะใช้อันบน(ละประธานが)กรรมを แต่ถ้าเบียแช่อยู่(เน้นการแช่ของเบียรมากกว่าบอกว่าเราแช่)จะใช้ประธานが(เบียร์)(แต่อันแรกประธานจะเป็นตัวคนแช่) นอกจากนี้ศัพท์คำว่าแช่ยังต่างกันอีกถ้าน้องสังเกต แต่ที่ข้อสอบคนได้คะแนนเยอะเพราะว่า1.เขามีมาให้กรณีเดียวเราไม่ต้องเลือก 2.ศัพท์จะพื้นมากๆๆๆเพราะว่าเด็กยังวู้คันจิไม่มาก ถ้าเอายากมาคันจิก็จะยาก บางทีไม่เขียนคันจิมาเลยก็มีเอาฮิรางานะ 3.ไวยกยณ์ระดับม.ปลายของภาษาญี่ปุ่นเราจะได้เรียนน้องกว่าจีนเพราะไวยกรณ์มีความซับซ้อนต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง ต่างกับจีน(พี่ว่าไทยเราน่าจะเลียนแบบจีนมาไม่มากก็น้อย). จึงอัดเยอะไม่ได้ พี่อยากให้น้องรู้ว่าญี่ปุ่นในการเอาไปใช้จริงไม่ง่านเลย เพียงแต่ข้อสอบระดับม.ปลายง่ายเท่านั้น เพราะมีคนเรียนเอกจีนไม่น้อยที่มาเร่ยนโทญี่ปุ่นแล้วโบกมือลา เพราะมันไม่เหมือนหันเลยแม้ตัวอักษรเหมือนก็อ่านต่างอยู่ดี อันนี้จากทีมีพี่ชายเรียนเอกจีนแล้วเรียนโทยุ่นแต่ย้ายแล้ว

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 มีนาคม 2556 / 11:10


PS.  ความฝันกับความเป็นจริง มันไกลกันมากจนไม่อาจเชื่อมถึงกันได้
0
ปลาดาว 14 มี.ค. 56 เวลา 12:21 น. 20

คห.บนพูดถูกแล้วอ่ะจ้ะ

คือถ้าเธอจะเข้าอักษรไปแล้วเลือกเอกอังกฤษมันก็ไม่เท่าไหร่

ซึ่งส่วนใหญ่สายวิทย์จะมาตกตรงสายนี้เยอะเพราะพื้นภาษาแน่นไม่เท่าอ่ะ

อย่างเอกญี่ปุ่นใช่มั้ยอ่ะ อักษรรุ่นนึงจะรับคนเข้า240คน ในนั้นยื่นญี่ปุ่นประมาณรุ่นละ90

แล้ว90คนที่ยื่นเข้ามาส่วนใหญ่ก้เทพๆอยู่แล้วใช่มั้ยคะ ต้องแข่งกันเองอีกค่ะ

เพื่อจะเข้าเอกญี่ปุ่นที่มีที่นั่งแค่30 สำหรับตัวพ่อตัวแม่ตัวย่าตัวป้าญี่ปุ่นจริงๆอ่ะจ้ะ

อย่างเราถึงจะอยู่เตรียมใช่มั้ย แต่รุ่นพี่เราที่เข้าอักษรไปแล้ว

บางส่วนจะย้ายไปอยู่เอกอังกฤษ เอกจีน เยอะเลยค่ะ

เพราะสู้รบตบมือกับตัวแม่แย่งที่นั่งเอกญี่ไม่ไหว

แค่บางคนเรียนม.ปลายก็ได้N3 N2กันแล้วอ่ะค่ะ พวกเด็กในโรงเรียนเรานะ

คือเขาเรียนมาตั้งแต่ม.ต้น บางคนขึ้นม.1ก็เริ่มเรียนข้างนอกแล้วอ่ะ

ประสบการณ์เขา ทักษะการใช้เขาจะแน่นกว่ามาก สำเนียงดีกว่าด้วย

รู้จักนิดเดอะวอยซ์ใช่มั้ยคะ นั่นก็1ในศิลป์ญี่เตรียม ที่ย้ายไปเอกจีนเหมือนกันค่ะ

0