แชร์ประสบการณ์ความรักกับฝรั่ง แบบฟินๆ >< กันหน่อยสิ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
93 ความคิดเห็น
เราเคยมี ตอนทำงานร้านขายกระเป๋า เขามาซื้อกระเป๋า หาใบที่ถูกที่สุด บอกจะซื้ออไปฝากเพื่อน ลืมวื้อมาจากอังกฤษ เราก็ขายตามประสา แนะนำไป พอซื้อเสร็จ เขารู้ว่าเราพูดอังกฤษพอได้ รู้เรื่อง เขาก็ถามว่ามีแฟนยัง น่ารัก อยากชวนไปกินข้าว ไปเที่ยวต่อ เราก็ปฏิเสธทุกทาง เขาก็ตื้อ ๆ เหมือนพูดไม่รู้ฟังอ่ะ เราก็บอกไม่ไป ๆ ไม่เที่ยว ไม่เคย และ ไม่คิด เขาก็อยากให้ไปๆ บอกว่า ถ้าไปแล้วคุณอยากจะกลับตอนเช้าก้ได้ ความหมายคือ
มันขอให้ไปนอนกับมัน คืนนึง แล้วไม่ได้เสนออะไรตอบแทนนะ ให้ไปเที่ยวไปนอนด้วยเฉย ๆ
คือ เรางี้ โกรธก็โกรธ หน้าชาก็หน้าชาที่โดนหยามขนาดนี้ จากคนที่ไม่รู้จักเราเลย แล้วมาเที่ยวประเทศ เห็นผู้หญิงไทยเป็นแบบไหนวะ
แล้วมันบอกว่าเห็นหน้าเราไม่ค่อยสบอารมณ์เลย ขอโทษที่รบกวนนะ ไม่ได้อยากจะทำให้คุณเบื่อ แล้วก็เดินออกไป ( เราทำหน้างี้ตั้งแต่รู้ว่ามันคิดอะไรละ เพิ่งจะมาขอโทษตอนปฏิเสธไปครบร้อยครั้งรึไง )
แต่เราก็มานั่งคิด ไม่โทษเค้าทั้งหมด ถ้าไม่มีผู้หญิงไทยไปทำงามหน้าซะจนเลื่องลือทั่วไปที่ประเทศเขา หรือแม้แต่ที่ไทย เขาคงไม่มองผู้หญิงไทย ของ่าย ๆ แบบนี้หรอก
พูดมาแล้วก็โมโห - -
PS. รักไม่ได้ก่อปัญหา แม้ว่าเราอยู่กันคนละซีกโลก รักไม่โหดร้ายไม่เคยฆ่าใคร แม้ เธอจะมีแฟนแล้วก็ตาม สำหรับฉันความรักจงเจริญ
คห.2 เอ๊ะยังไง
ที่นายโดนชกเพราะเพื่อนหล่อนเค้าแบบชายรักชายเปล่าอ๊า 555
ปล.น่ากลัวจริงผญ.คนนี้
พิษรักแรงหึง !
คห.1กับคห.2 มันฟินยังไง
เรื่องเกิดเมื่อประมาณ2 ปีก่อนอ่ะ เราไม่ได้ไปทุนแลกเปลี่ยนหรอกนะแต่เราไปอยู่กับป้า เราไปอยู่ประมาณ 1 ปี ที่สวีเดน ป้าเลยส่งเราไปเรียนไฮสคูลใกล้บ้าน (บ้านกับ รร ห่างกัน 10 กม. ประมานนั้น)
  ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยจะอยากไปเพราะเราไม่ค่อยเก่งภาษา ที่ไฮสคูลเค้าก็พูดกันเป็นภาษาสวีเดนกันหมด เราก็พูดเป็นแต่ภาษาอังกฤษอ่ะนะ พอวันแรกเราไปก็ไม่ค่อยจะมีเพื่อน
    วันที่สอง พวกผู้หญิง 2-3 คนก็เริ่มพูดด้วย แต่เค้าก็พูดกับเราเป็นภาษาอังกฤษนะ แต่เวลาพูดกับเพื่อนคนอื่นก็เป็นภาษาสวีเดน เรากับเพื่อนข้างโต๊ะก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นแต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก
    วันที่ 3 ป้าเราไม่ได้มารับเราก็เลยกะว่าจะเดินกลับบ้านเอง(โหยยย สงสารขา) พอเราเดินมาได้ครึ่งทาง 6 กม แล้วมั้งตอนนั้น  มีหนุ่มคนนึงขับจักรยานผ่านมาพอดี เค้าพูดอะไรไม่รู้เราฟังไม่รู้เรื่องอ่ะ(ภาษาสวีเดน) เราก็ทำหน้างง เค้าก็คงจะงงเราเหมือนกันแหละ
แล้วเค้าก็เอามือมาตบเบาะซ้อน ประมาณว่าจะไปด้วยมั้ย เราก็ส่ายหัว นะ แต่เค้าก็ตบเบาะอีกรอบ เราก็ส่ายหัวอีก แล้วเค้าก็พูดว่า "จะไปมั้ย"(อังกฤษ) (อ้าว พูด อังกฤษได้ก็ไม่บอก) เราก้ส่ายหัวอีก
เค้าก็ถอนหายใจเหมือนจะเซ็งๆกับเรา แล้วก็ขี่จักรยานต่อ  ส่วนเราก็เดินต่อจนถึงบ้าน แฮกๆ
  วันต่อมาเราก็ไป รร  ตามปกติ แล้วก็เจอหนุ่มคนนั้นเหมือนเดิม เค้าก็มองเราแบบแปลกๆเหมือนจะโกรธที่เมื่อวานเราไม่ไปด้วย  เราก็ไม่ได้คิดอะไรก็นั่งเรียนไปตามปกติ จนวันหนึ่งเพื่อนเราที่นั่งข้างๆ ชื่อแจสสิก้า ไม่มา รร ที่นั่งข้างๆเราก็เลยว่าง หนุ่มคนนั้นหอบกระเป๋ามาเลย แล้วมานั่งข้างๆเรา
"ฉันมองไม่เห็น" (แล้วจะมาบอกเพื่อ....???)คือโต๊ะเราอยู่ด้านหน้าสุดอ่ะ สงสัยเขาจะสายตาสั้นเลยมานั่งแถวหน้ากับเรา ที่มานั่งข้างๆก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ แต่โห แม้กระทั้งวิขวิตยังได้ยืมเรา ฝรั่งบ้าอะไรเราก็นึกว่าจะรวย ลิขวิตยังไม่ซื้อเลย แล้วเขาก็ยืมตลอดอุปกรณ์เรานี่แทบจะไม่เหลืออ่ะ แล้วก็ไม่มีมารยาทด้วยนะ เรานั่งเรียนอยู่ก็เล่นเกมส์บ้าง คุยบ้าง เคาะโต๊ะบ้าง เราแทบจะไม่รู้เรื่องอ่ะ นายนี่กะจะกวนเรางั้นเหอะ แล้ววันนั้นเราก็เอาจักรยานมาพอดีเลยไม่ต้องเดินให้เมื่อยขา และกะจะไม่ได้ต้องเจอเขาด้วย รำคาญสุดๆ
  แล้ววันนั้นเราก็เจออีกเหมือนเดิม แต่วันนี้ยิงเจอหนักเข้าไปใหญ่ แล้วก็เจออยู่ใน รร ด้วย อยู่ดีดีเขาก็ขับรถมาปาดหน้าเราจนจักรยานเราล้มอ่ะ หัวเข่าถลอก เลือดกระจาย!! ไอ่เจ็บไม่เท่าไหร่ แต่เราเจ็บใจอ่ะที่เอาคืนมันไม่ได้ ถ้าเป็นที่เมืองไทยเราคงด่ามันไปนานแล้ว เพื่อนที่อยู่แถวนั้นเลยวิ่งเข้ามาพาเราไปทำแผล น้ำตาเราก็เริ่มไหลอ่ะ คือใจเราตอนนั้นเรากะจะกลับเมืองไทยเลย เราว่าเราอยู่ไปก็ไม่มีเพื่อน เราคิดถึงพ่อแม่ แล้วนายนี่ที่ชอบแกล้งเราสุดๆ แกล้งทุกวิถีทาง  ที่เราไม่บรรยายเพราะว่าถ้าเราบรรยายมันต้องไม่หมดแน่ๆ  เราร้องไห้นายนั่นก็มองหน้าเรา แต่คราวนี้เขามองเหมือนรู้สึกผิด เราก็หันหน้าหนีเลย คือเราเกลียดมันมากๆอ่ะ ต่อมาเราก็ไม่ได้ไป รร ถึง 5 วัน เราบอกป้าว่าเราอยากกลลับไทย ป้าก็บอกว่าอยู่ต่ออีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะได้กลับแล้ว แต่ก็เหมือนป้าจะไม่เข้าใจเราเลยแล้วก็บังคับให้เรามา รร จนได้ วันนั้นเราก็มา รร แบบไม่เต็มใจอ่ะ ตอนพักเที่ยงนายนั่นก็เดินมาที่โต๊ะมาบอกเราว่า "ฉันขอโทษ" "วันนั้นเธอเป็นอะไรมากรึป่าว"  เราเลยตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไร"แล้วก็ทำหน้ายิ้มๆไว้ แล้วเราก็เดินหนีไปเลย
  อีกประมาณ 3 อาทิตย์เราก็จะได้กลับไทยแล้ว เราพยายามฝืนใจไป รร ตลอด เราเบื่ออ่ะ
และแล้วเลิกเรียนวันนั้นเราก็เจอเขาอีก เราก็พยายามเลี่ยงๆไว้ เราก็เลยขี่จักรยานไปอีกทางหนึ่ง เขาตะโกนเรียนเรา "พวย" เราก็ตกใจ สงสัยเขากำลังจะพูดว่า พลอย(ชื่อเรา) เราเลยหยุดรถ เขาก็ทิ้งจักรยานเดินมาหาเรา "จะมาแกล้งอะไรฉันอีก"ฉันตะโกน เขาตอบว่า อะไรไม่รู้เป็นภาษาสวีเดน เราเลยเอาคำนั้นไปถามป้า ป้าเราก็บอกว่า "ฉันรักเธอ" เราก็อึ้งไปเลย เราไม่คิดว่าเขาจะเกลียดเราซะแล้ว ป้าก็ถามต่อว่าใครบอกเธอ เราก็เลยบอกว่าไปเจอมาในเน็ต(เฮ้อ!! เกือบ)
  ก่อนวันจะกลับ 1 วัน วันนั้นเป็นวันหยุดพอดี เราเลยขี่จักรยานไปที่สนามบาส เพราะเรารู้ว่านายนั่นต้องอยู่ที่นั่น(เขาเป็นนักบาส รร) พอไปถึงก็เจอเลย นั่งโยนบาสคนเดียวอยู่อย่างนั้นแหละ (ปัญญาอ่อนว่ะ) เราก็เดินเข้าไปถามเลยว่า เธอชอบฉันจริงๆหรอ เขาก็ไม่ตอบ "ใช่รึป่าว เธอชอบฉันหรอ"
เขาก็ไม่ตอบเหมือนเดิม แต่คราวนี้โผลกอดเรา  "ฉันก็ชอบเธอนะ แต่ว่า....ฉันมีแฟนแล้ว"(จริงๆฉันยังไม่มีหรอก แต่เรารู้ว่ารักต่างแดนมันสั้น เราไม่อยากน้ำตาซึมทีหลัง)
  หลังจากที่ป้าฉันมาส่งที่สนามบินแล้ว แกก้กลับบ้าน ไม่นานเขาและเพื่อนๆในห้องก็มาส่งเราที่สนามบิน หลังจากที่เพื่อนๆลาเราแล้ว ก็เหลือแต่นายที่แอบชอบฉัน "ฉันกอดเธอได้มั้ย" เราไม่ได้ตอบอะไร แล้วเขาก็กอดเราอ่ะ เราก็ยิ้มเฉยๆ "Bye bye"ฉันพูด "bye bye"เขาตอบกลับ ฉันเลยพูดความในใจกับเขาว่า "ฉันก็รักเธอ แล้ว ฉันจะมาที่นี่บ่อยๆนะ" เขาก็ยิ้ม
  ฉันขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย พอถึงแล้วฉันก็เล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟัง หุๆอิจฉากันเป็นแถว
>>>สรุปว่า ปีหน้า ฉันจะไปสวีเดนอีก หุๆ
เราเคยครั้งนึง คิดแล้วเพ้อออคนเดียว
เราเป็นเด็กต่างจังหวัด เมื่อปีที่แล้วเราไปสอบที่กรุงเทพ ก็เลยไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
คือวันนั้นก็ไปถึงตั้งแต่เช้าไปกับเพื่อนๆประมาณสี่ห้าคนก็เอาของไปเก็บบนห้องก่อน
ประมาณ 11 โมงเรากับเพื่อนก็จะออกไปเที่ยว
เราออกจากลิฟต์บังเอิญเจอกับฝรั่งคนนึง เค้ากำลังคุยอะไรบางอย่างกับพนักงานโรงแรมที่ล็อบบี้
เนื่องจากเรากับเพื่อนก็หลายคนอยุ่ เค้าเลยหันมามองแบบเจอะกับสายตาเราพอดี
เรายังจำเค้าได้ผมบลอนออกน้ำตาล ใส่หมวกแก็บ แจ็คเก็ตสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีเนื้อ
จมูกโด่ง แบบตอนนั้น เงิบบ! น่ารักมาก น่าจะเป็นเด็กเมกา
เค้าหันกลับไปคุยต่อ เรากับเพื่อนก็ยังคงยืนตะลังฝรั่งคนนั้นอยู่ แบบประมาณว่าเค้ายืนหันหลังให้พวกเรา แล้วทางซ้ายมือก็เป็นประตูทางออกไปข้างนอก เรากับเพื่อนก็ยังไม่ออกไป
เค้าก็คุยต่อแปปเดียว แล้วก็กำลังจะเดินไปทางประตู ระหว่างเดินเค้าหันหน้ามาปะทะสายตาอีกแล้ว
เราไม่รุว่าเค้ามองเราหรือเพื่อนเรา แต่เราคงรู้สึกไปเองงวว่าเป็นเรา ตอนนั้นแบบหัวใจเต้นแรงมาก
จนเค้าเดินออกไป เรากับเพื่อนก็เดินออกไป เค้าเดินไปทางซ้ายมือของโรงแรม
ซึ่งเป็นห้องอาหาร สงสัยไปกินข้าว เรากำลังอยู่หน้าประตู เราหันไปมองเค้า เป็นจังหวะเดียวกับ
ที่เค้าหันกลับมามองเราเลย บอกตามตรง เขินนน (คือเราสงสัยว่าเค้าจะต้องชอบใครสักคนในกลุ่มเราแน่ ไม่งั้นคงไม่หยุดเดินแล้วหันกลับมามอง ทั้งๆที่เค้าเดินหันหลังให้เราอยู่)แล้วเค้าก็เดินต่อไป
เหมือนแยกทางกันเลย เรากับเพื่อนก็เดินตรงไปขึ้นแท็กซี่ เฮ้อออ
ตลอดทั้งวันที่ไปเที่ยวเราคิดถึงเค้าตลอดเลย เราอยากจะเจอเค้าอีก
เรากลับไปโรงแรมก็ยังไม่เจอเค้า วันถัดไปก็ยังไม่เจอ อีกวันก็ไม่เจอ
เค้าคงเช็คเอาท์แล้ว ..... TT
ตอนนี้ยังคงฟินไปคนเดียว
55
มีอีกเรื่อง อันนี้กับคนดัง ซึ่งมันไม่มีทางเปนไปได้เลย TT
เค้าเปนนักร้องเมกาน่ะ เราส่งของไปให้เค้ามันมีทั้งรุปเราและรูปเค้าอยุ่ด้วย และแนบการ์ดไป
ก้เขียนเรื่อยเปื่อย แล้วเราก็บอกเค้าว่าเราชื่อ Mod ซึ่งหมายความว่า ant ในภาษาอังกริด
เค้าเคยลงวีดีโอว่า 'I HATE ANT!' เราก็บอกเค้าว่าอย่าเกลียดเรา เราแนบทวิตเตอเราไปด้วย
ไม่นานเค้าก็ถ่ายของที่เราส่งไปให้ลงอินสตาแกรมแถมแท้กชื่อเราด้วย เค้าบอกขอบคุณเรา
(เค้าขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่่ส่งของไปให้ แต่ไม่ค่อยถ่ายรูปลงอินสตา ก็แค่โพสในทวิตเตอเฉย)
พอรูปถัดไปในอินสตาแกรมนั่นแหละ ทำเอาเพ้ออเลย
มันเป็นรูปนางพญามดอ่ะเกาะที่กระจก
แล้วเค้าเขียนว่า 'Queen ant on my window'
เพ้ออ ขอให้เราเป็นควีนเอ็นท์ตัวนั้น 55555
มีแฟนคลับต่างชาติคนนึงเม้นว่า im jealous her! ก็ตลกดี
คห.5 เรื่องน่ารักจังเลยค่ะ แอบอิจฉานะเนี่ย 555
แอบอิจฉาจังเลยค่ะT^T ปีนี้ว่าจะไปสอบ
PS. แอบชอบ แอบรัก แอบเก็บ เลยต้องแอบเจ็บคนเดียว
คือ รู้จักทางแชท กัน เขาก็เข้ามาทัก เราทักตอบ ก็คุยไปเรื่อย เขาเป็นคนรัสเซีย อายุห่างกันหลายปีอยู่ โสด และเขาก็ชอบมวยไทย มากกกกกก ถึงมากที่สุด เขามีเพื่อนที่เป็นนักมวยที่นี่ด้วย
แล้วคำพูดแต่ละคำดูจะจีบซะเหลือเกิน เราก็ชักทะแม่งๆ เลยถามเขาไปว่า "จีบหรือเปล่า" เขาก็บอกว่า "ใช่" เราก็ถามว่าทำไมล่ะ เขาก็บอกว่าเราน่ารักดี เป็นคนตรงๆ เขาชอบ
เราก็ไม่ปักใจเชื่อ เพราะหนึ่ง เรารู้จักกันทางแชท เราก็ไม่ค่อยไว้ใจคนจากทางนี้เท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงมาหลอก สอง .คิดว่าเราเป็นผู้หญิงอย่างว่ารึปล่า เพราะเห็นเราเป็นสาวไทย (สาวไทยขึ้นชื่อมากในสายตาต่างชาติ)
เราก็คุยไปเรื่อยๆ เฉยๆ เขาก็ขอskype เราก็ลองให้ดู เพราะอยากจะรู้ว่าหน้าตาเป็นไง จะเป็นพวกโรคจิตรึเปล่า พอคุยผผฃ่านทางนั้น คือเขาเป็นคนเฟรนด์ลี่มากๆ น่ารักมาก เราก็บอกเขาตรงๆไปเลยอะนะ (ไม่รู้ว่าแรงรึเปล่า) ว่า ตอนแรกคิดว่าเขามาหลอก ไม่เชื่อใจเขา เขาก็ดูจ๋อยไปอะนะ เขาก็บอกว่า เขาไม่ได้หลอก เขาชอบเราจริงๆ แล้วเขาก็บอกว่า ไม่เป็นไร เขาจะทำให้เราเชื่อใจเขาเอง
ตอนนี้ก็ยังคุยกันอยู่ เดือนหน้าเขาบอกว่าจะมาเที่ยวที่ไทยด้วย บางทีเวลาที่ห่าง กับ ภาษามันก็เป็นอุปสรรคเหมือนกัน แม่ก็รู้นะ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร อาจจะมีแค่เตือนๆให้เราระวังเค้าด้วย อย่าไว้ใจมากไป
ไม่รู้มันฟินรึเปล่านะ แต่มันเกิดขึ้นกับเรา ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์บ้าง แล้วตอนนี้เราก็ชอบเขามากๆด้วย แถมยังได้อานิสง ให้เขาช่วยสอนภาษารัสเซียเพิ่มมาอีก
PS. <3 1D สุดใจขาดดิ้น #เด็กสังกัดพลุ้ย #รัก Ziall และ Niam #มาเมือไทยเถอะนะหนุ่มๆ #LWWY
อยากมีบ้างจัง
PS. โอ้ปปา พี่ขยันทำอัลบัมกันจังเลย ฉันหมุนเงินไม่ทันแล้วเนี่ย. TT^TT
คห.5 เค้าบอกผู้ชายแกล้งแปล่าผู้ชายรักก
เพราะเด็กๆมันแสดงออกไม่เป็น
PS. I'm DIRECTIONERS .AND REALLY I LOVE USA.
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 มีนาคม 2556 / 15:43
ของเราเล่าประสบการณ์น่ารักขำๆ ของเด็กฝรั่งให้และกัน
คืองี้เราไปเรียนที่ต่างประเทศที่อเมริกามา1ปีเป็นนรแลกเปลี่ยน
เราอยู่ม.5 เค้าก็อยู่ ม.3 ตอนแรกก็เรียนวิชาเดียวกันคือฝรั่งเศส
เค้าก็เริ่มเข้า่มาคุยด้วยๆ ถามโน่นถามนี่เืมืองไทยเป็นเป็นยังไง
แล้วชอบเข้ามาพูดแบบแกล้งหยอกล้อ เราก็ไม่คิดอะไรเพราะเรายังคิดว่า
เออเนี่ยยังเด็กอยู่เลย แค่ม.3เองแล้วพอดีเราไม่ค่อยคิดอะไรจริงจังกับเด็ก
แล้วอยู่มาวันนึงเค้าก็ถามเราว่าชอบกินอะไร เราก็บอกว่าชอบกินคิทแคท
พอวันต่อมาเค้าก็มานั่งข้างเราแล้วยื่นคิทแคทมาให้บอกว่าเออเนี่ยเอามาให้่เธอนะ
เราก็เออขอบคุณ thanks เค้าชื่อแมทเราก็เรียกเ้ค้าว่าmatty แบบเหมือนเด็กผญ 55
จากนั้นไม่ว่าเราจะไปที่ไหนรู้สึกเจอเค้าตลอดเลยเราก็เฉยๆ นะเพราะบอกไว้แล้วว่า
ไม่คิดอะไรกับเด็ก จนเพื่อนเราบอกว่าเออเนี่ยคนเนี้ยเค้าชอบเราแน่เลย
เห็นแบบตอนนั้นเราเจอเืพื่อในhall wayเค้าก็พยายามเดินมาเหมือนจะพูดอะไรกับเรา
ตอนนี้เรากลับมาไทยแล้ว เค้าก็ยังชอบพิมพ์มาคุยในfbถามว่าเป็นไงบ้างไรเงี้ย
เราก็ฮาๆ นะแบบมีเด็กมาชอบ
ก็เคยมีอ่ะค่ะ 2 คน แต่ คนสุดท้าย ดันโดนเพื่อนรักคาบไปรับประทานซะแล้วค่ะ T^T แซด
อ่านะ เค้าบอกเค้ารักกัน ^^ ก็รักกันไปจนตายยยย เลยนะจ๊ะ
คนแรกเป็นคนเนเธอแลนด์ คนที่สองเป็นคนอเมริกัน ผิวขาวทั้งคู่ :) ก็น่ารักดีค่ะ แต่บางทีเค้าอาจจะไม่ใช่ ก็คุยกันทางเน็ตค่ะ ก็มีskype กันไรเงี้ย ก็...โอเคค่ะ จบแบบ...ไม่สวยเท่าไหร่ ปัจจุบันเลิกคบกับเพื่อนคนนั้นไปแล้วค่ะ เค้ามาบอกทีหลังว่า เค้าแอบชอบแฟนเรามาตั้งแต่เรายังไม่คบกัน ...
PS.
ตอนแรกเราไม่ค่อยชอบฝรั่งแต่พอเข้ามากระทู้นี้ ฟินมาก
คห5 >< อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คห9 >< อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คห12 >< อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก คห13 >< อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คห14 เสียใจด้วยนะ TT
แต่ฟินหมด
พูดหยาบๆเลยนะ อิจฉา คห.6 ว่_
แต่งเป็นนิยายไ้ด้เลยนะเนี่ยทั้ง2เรื่องของคห.6 เนี่ย 5555555
อยากได้มั่งอ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
PS. มันก็แค่ความเห็นส่วนตัวหนะ วิบัติเพื่อเสียงนะ + อย่าดราม่า น่าเบื่อ
เอ่อ
ผมมีประสกการณ์แบบนี้เยอะมากครับเพราะผมมีญาติอยู่ที่อเมริกา ตอนเด็กๆก็โตที่นั่น จนถึง 10 ขวบก็ย้ายมาไทย แล้วก็ไปๆมาๆระหว่างไทยกับอเมริกา ถ้าไทยปิดเทอม ผมก็จะไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกาตลอด งั้นผมจะเล่าประสบการณ์ที่ฟินที่สุดนะครับ -.-
เรื่องเกิดขึ้นคือตอนผมไปเรียนซัมเมอร์เหมือนทุกๆที ผมก็มีเพื่อนอยู่ที่โรงเรียนนะครับ เวลาไปไหนมาไหนก็ไปกับเพื่อน แล้วมีวันหนึ่งตอนพักกลางวัน ผมก็นั่งคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนของผม มีผู้ชายคนหนึ่ง เดินมาบอกผมว่าเพื่อนของเขาชอบผม แล้วก็ชี้ให้ดูอีกต่างหาก ผมก็เห็นเธอน่ารักดี เพื่อนผมก็บอกอีกว่าเธอฮอตมาก แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็บอกว่า แต่เขาไม่อยากให้เธอมาชอบผม เพราะเขาชอบเธอ เลยจะให้ผมช่วยไม่รับรักเธอได้ไหม ผมก็บอกไปว่า ฉันจะพยายาม เขาก็ยิ้มให้ผม บอกขอบคุณๆแล้วเดินจากไป หลายวันต่อมา ผู้หญิงคนนั้นก็มาชวนผมคุยบ้าง มาชวนไปดูหนังบ้าง ไปเที่ยวบ้าง และพอผมลองคุยกับเธอ ผมก็รู้สึกว่าเธอมีสเน่ห์และน่ารักมาก ผมจึงเริ่มตกหลุมรักเธอ มีครั้งหนึ่ง วันเกิดผม ผมก็ชวนเธอไป แต่เธอบอกว่าไม่ว่าง ผมกก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร พอกลางคืนผมก็ไปฉลองกับเพื่อนที่บาร์ แล้วตอนเที่ยงคืน ไฟทั้งบาร์ก็ดับ แล้วเธอก็เดินถือเค้กมาให้ผม แล้วก็บอกแฮปปี้เบริธ์เดย์นะ นายจะคบกับฉันได้ไหม ผมอายมากและในใจลึกๆก็ชอบเธออยู่ไม่น้อยเลยตอบตกลงไป แต่แล้วผู้ชายคนที่ตอนแรกมาบอกผมว่าไม่อยากให้รับรักเธอก็โผล่มา ด่าผมกับเธอใหญ่ แล้วผู้ชายคนนั้นก็บอกว่าเขาชอบผม (โอ้มายก็อด) แบบว่าช็อกกันทั้งบาร์อะครับ ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า ขอโทษ ผู้ชายคนนั้นก็มองหน้าผมกับเธอสลับกันแล้วก็เดินหนีไปเลย ภายหลังเธอก็มาเล่าให้ผมฟังบอกว่า ตอนแรกเธอก็ไม่ได้ชอบผมมากหรอก แต่พอเพื่อนของเธอ(ผู้ชายที่เป็นเกย์)รู้ว่าเธอชอบผม เขาก็เลยอยากเห็นหน้า แล้วพอเขาเห็นหน้าผม ก็กลับมาชอบผมแทน เธอเลยบอกว่าจะเป็นแม่สื่อให้ แต่พอลองคุยกับผมดูแล้ว เธอบอกว่าเธอกลับตกหลุมรักผมซะเอง ผมก็ว่า ทำไมตอนที่เธอคุยกับผมตอนแรกๆ ถึงได้ถามคำถามแปลกๆ อย่างเช่น นายชอบผู้ชายไหม สเปคเป็นยังไง นายว่าแดน(ชื่อผู้ชายที่เป็นเกย์)เป็นยังไงบ้าง แล้วก็ชมผู้ชายคนนั้นสารพัดให้ผมฟัง เกือบไปแล้วตู 5555555555555
PS. เมื่อฝนหยุดโปรยปราย วายุกับอัสนีที่หยุดกรรโชกเเละเดือดดาลอย่าง บ้าคลั่ง สายหมอกเริ่มเลือนหาย เมฆาใกล้ลอยมาบรรจบกัน เเละอรุณที่เริ่มฉายเเสงเรืองรอง ทำให้เผยให้เห็น....... ท้องนภาที่โอบอุ้มทุกสิ่งอ
อิจฉาแหะ อยากไปบ้างอ่ะ
PS. โตขึ้นฉันจะออกเรือนะจิบิ ><
เมื่อประมานปีครึ่งที่แล้วอ่ะ เราเลิกกะแฟนเก่าที่เปนฝรั่งแล้วหนีมาอยุ่ปารีสคนเดียวแบบไม่รุจักใคร แต่ก่อนที่จะมาปารีสก้อคุยกะฝรั่งคนนึงในแชท ไม่ได้จีบนะคุยแค่แบบทักทาย ถามไถ่ แล้วก้อขอเฟสไว้ เค้าถามเราว่าจะให้เค้าไปรอรับที่สถานีรถไฟมั้ย เค้าว่างอยุ่ เราก้อปฏิเสธไป พอไปถึงปารีสเราก้อได้ห้องที่แบบแชร์กะคนไทยอ่ะ คือสกปรกมาก ฝุ่นเขรอะเชียว แต่ก้อดีกว่าไม่มีห้องอยุ่ เหงามาก ทีวีไม่มี เนตก้อช้า จิตตกสุดๆ พอวันที่สามเค้าส่งข้อความมา ชวนออกไปนั่งชิวร้านกาแฟตอนสี่ทุ่ม เราก้อโอเค
เจอหน้ากันครั้งแรกโอโห สูงเว่อๆ ต้องเงยหน้าคุยกัน แล้วการทักทายแบบคนฝรั่งเศสคือแบบต้องจุ๊บแก้มสองข้าง เรางี้ก้อเขย่งซะ คืนนั้นก้อผ่านไปด้วยดี ประทับใจที่เค้าเปนสุภาพบุรุษมากๆ เน้นว่ามาก เพราะเค้าไม่พยายามจะแตะเนื้อต้องตัวเราเลย หน้าตาก้อหล่อ ผมสีน้ำตาลอ่อนตาสีเขียว กล้ามใหญ่อีกต่างหาก แต่ตอนนั้นต่างคนต่างไม่ได้คิดอะไรกัน แค่อยากเปนเพื่อนกันเฉยๆ ด้วยอายุที่ห่างกันด้วยมั้ง ตอนนั้นเรา 23 เค้า32 แต่หน้าเด็กกว่าอายุ ดูๆก้อประมาน 26
พอเราได้งานทำที่ร้านอาหารไทยอยุ่ไกลจากบ้านสุดๆ นั่งรถชั่วโมงนึงแนะ กลับบ้านตีหนึ่งทุกวัน เค้าก้อเริ่มส่งข้อความมาหา ว่าเค้าจะไปรับไรงี้ เราก้อเกรงใจ แต่เค้าก้อบอกว่าไม่เปนไรหรอก เปนผุหยิงมันอันตราย แล้วมีอยุ่คืนนึงเปนวันเกิดเราพอดี เค้าก้อไปรับเรา แล้วจอดรถหน้าตึก เสดแล้วเค้าบอกเราว่า รอแปป เค้ากลับมาพร้อมเค้กบราวนี่หน้าตาธรรมดากับเทียนวันเกิดอายุ23ปีของเรา เค้าคุกเข่าหน้าเราที่นั่งอยุ่บนรถแล้วบอกแฮปปี้เบิดเดย์ เค้าก้อขอโทดที่ซื้อเค้กธรรมดามาให้เพราะเค้าเพิ่งนึกได้ตอนร้านมันปิดไปหมดแล้ว ไปขับรถวนหาอยุ่หลายที่เลยได้มาเท่าที่เหน เราตอนนั้นไม่สนใจเค้กเลย เป่าเทียนแล้วโดดกอดเค้า ขอบใจเค้ายกใหญ่
เค้าเดินไปส่งเราหน้าประตู (ตอนนี้แหละ ยังกะในหนัง) เราหันหลังอยุ่ แล้วเค้ากำลังจะก้มมาจุ๊บบอกลา เราดันหน้าไปพอดี ปากก้อชนปากเลย เขินมาก แต่ตีเนียน 5555 วันต่อๆมา ก้อมารับกลับบ้านเหมือนเดิมทั้งๆที่บ้านเค้าก้ออยุ่ไกล เหมือนจากสยามออกไปชานเมืองอ่ะ
แต่ก้อยังไม่ได้คิดไรกันอยุ่ดี มีวันนึงเราอยากอาบน้ำมาก แต่ที่ๆเราเช่าอยุ่มันแบบสกปรกเกินทน ไม่ได้เว่อนะ เราทนไม่ไหวเลยโทไปขอเค้าอาบน้ำที่บ้าน (เคยไปบ้านเค้ามาแล้วครั่งนึง เลยรู้ว่าบ้านเค้าสะอาด เพราะเค้าอยู่กับแม่ด้วยมั้ง) พออาบเสดเราก้อนั่งเล่นคอม เค้าก้อทำงานไป(ตอนนั้นเค้าเปนเว็ป ดีไซนเนอร์ ฟรีแลนซ์) เค้าก้อบอกว่านอนนี่ก้อได้นะ เราก้อคิดว่ามันจะดีหรอวะ มันต้องหวังไรแน่ๆ คนอ่านอาจจะคิดว่า แหมขนาดไปอาบน้ำบ้านเค้าแล้วยังจะกลัวไรอีก เพราะว่าแม่เค้าอยุ่ด้วยเราเลยไป อีกอย่างเราไม่รุสึกว่าคนนี้ๆอันตรายด้วยมั้ง ไม่เหมือนผุชายคนอื่น แต่ยังไม่ทันจะพูดออกไป (เพราะเราเปนคนตรงๆ แรงๆ) เค้าพูดว่า ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องอย่างว่าน่ะ เค้าไม่ทำหรอก แล้วเค้าก้อไม่ทำจิงๆ (เล่าให้เพื่อนฟัง ไม่มีใครเชื่อซักคน ว่าผุชายแบบนี้มันมีอยุ่จิงๆ) เราก้อไปนอนค้างบ้านเค้าเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีไรกัน เปนเราซะอีกที่ไปกอดเค้าบ่อยๆ
ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เราสองคนเริ่มคิดถึงกันมากขึ้น เราส่งข้อความไปบอกรักเค้าก่อน  เค้าก้อคิดแบบเดียวกัน รักที่ไม่อิจฉา ไม่หึงหวง รักที่มีแต่ความหวังดี รักที่จริงใจ รักที่เปนตัวของตัวเอง ไม่ต้องคอยแอ๊บให้ตัวเองดูดีตลอดเวลา อยุ่ด้วยกันแล้วรู้สึกสบายใจ ในที่สุดเราก้อคบกัน จากวันแรกจนตอนนี้เค้าก้อยังไม่เปลี่ยนแปลง เค้าคนนี้ไม่เคยทำให้เรามีน้ำตา ไม่เคยทำให้เราหันต้องหันไปมองคนอื่น ต่างคนต่างเชื่อใจกัน
เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ ทุกๆวินาทีที่อยุ่ด้วยกันมันมีความสุข ขอบคุนพรมลิขิตที่ให้เราได้มาเจอกัน เราโชคดีมากอะที่เจอคนๆนี้ สเปคเราทุกอย่าง แถมนิสัยดีมากๆ
Ps. ตลอดการสนทนา เราคุยกันเปนภาษาอังกฤษ เพราะฝรั่งเศสยังไม่แข็ง เค้าก็ชอบคุยภาษาอังกฤษกับเรา
ขอบคุณที่อ่านเรื่องของเรานะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?