(ช่วยเราด้วย) ไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นแล้วเครียดมาก
ตั้งกระทู้ใหม่
คือเราตัดสินใจมาแลกเปลี่ยนไม่ใช่เพราะอยากได้ภาษา แค่อยากเรียนรู้วัฒนธรรม วิถึชีวิต ความเป็นอยู่ของคนที่นี่ เพราะชื่นชมในความมีระเบียบแบบแผน ความสามารถในการรักษาวัฒนธรรมประเพณีของตัวเองได้อย่างเคร่งครัด การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหลากหลายและความไม่แน่นอน พายุ แผ่นดินไหว สึนามิ ฯลฯ
ตอนเเรกคิดว่าถ้าเรียนภาษาด้วยก็คงไม่เป็นไร เพราะเราก็พอจะมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นอยู่บ้าง แม้ว่าหลังจากเข้ามหาลัย จะเลิกเรียนไปแล้ว แต่ก็เคยเรียนตอนอยู่ม.ปลาย สอบได้วัดระดับN4 (ภาษาญี่ปุ่นมีห้าระดับ ไล่ความเก่งจากห้าไปจนถึงหนึ่ง คือระดับหนึ้งเก่งที่สุด)
แรกๆก็พอจะทำใจสู้ได้นะ แต่หลังจากเรียนจริงไปได้ซักพักก็ยิ่งเครียดหนัก อาจารย์เค้าสอนไวยกรณ์ของN2  แต่ทั้งห้อง ยกเว้นเรา เค้าเรียนกันมาหมดแล้ว แล้วก็เลยเซ็ง เลยไปบอกให้อาจารย์เอาเรื่องที่ยากกว่านี้มาสอน อันนี้มันง่ายเกินไป น่าเบื่อ อาจารย์ก็เลยบอกว่าจะกลับไปลองหาข้อมูลดูว่าจะเอาอะไรมาสอนดี เราก็เดินไปคุยกับอาจารย์ตรงๆนะว่าแบบ หนูเรียนไม่ไหวจริงๆค่ะ มีระดับที่ต่ำกว่านี้ให้หนูเรียนไหม หนูตามเพื่อนไม่ทันจริงๆ เค้าก็ขอโทษเรา บอกว่าเค้าต้องเอาตามส่วนใหญ่ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ เราแทบจะน้ำตาร่วงลงตรงนั้นเลยอ่ะ คือแค่มาอยู่ที่นี่คนเดียว สื่อสารกับใครก็ลำบาก (ไม่ใช่คนจีน พูดภาษาจีนกับเค้าก็ไม่ได้) เพื่อนก็ยังหาแทบจะไม่ได้ เพราะทั้งคนญี่ปุ่นและคนจีนพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ เราพูดญี่ปุ่นไม่เก่ง เค้าก็เลยพาลจะรำคาญ แล้วก็ไม่ยอมคุยกับเรา ไปไหนมาไหนก็ต้องดูแลตัวเอง คิดทำอะไรให้รอบคอบ เพราะเรามีอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อนที่สนิทกันพอที่จะมาให้คำปรึกษาเรา แล้วพอมาเจอเรื่องเรียนอย่างนี้อีก
...
ไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านฟังเลย กลัวว่าเค้าจะเป็นห่วง พยายามอ่านหนังสือ ทบทวน แต่ตามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน ทุกวันนี้ได้แต่นอนร้องไห้ นับวันกลับ อีก 11เดือนกับ9วันนะ อีก11เดือนกับ8วันนะ บางวันถึงขั้นสวดมนต์ภาวนา ... ขอให้มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เราจะได้ถูกส่งกลับ จะได้ไม่ต้องอยู่ที่นี่ต่อ
ใครก็ได้ให้คำปรึกษาที เราควรจะทำยังไงถึงจะอยู่ต่อไปอีกเกือบปีได้อย่างมีความสุขมากกว่านี้
8 ความคิดเห็น
สู้ๆๆๆๆๆเราเป็นกำลังใจให้  เราก็เคยไปแลกเปลี่ยนเหมือนกัน ตอนนั้นเพิ่งผ่านแค่ N5อยากบอกว่าลำบากเหมือนกัน  แต่พอคิดว่ากว่าจะสอบได้ทุนมาแลกเปลี่ยนมาขนาดนี้ต้องผ่านอะไรมามากมายก็เลยอดทน ฮึดสู้ จนตอนนี้ก็โอเคแล้วหล่ะ ไม่ต้องกลัวนะ  ขยันไว้อย่าท้อถอยนะครับ
PS. ##นิยายแห่งความห่วยได้เรื่มขึ้นแล้ว##
พอเข้าใจความรุ้สึกเหมือนกันค่ะ เพราะเคยไปเรียนคอร์ส N2 (ในเมืองไทย) แต่เรายังอยุ่แค่แบบN3-N4 เรียนก็แบบไม่รู้เรื่อง มันท้อและเหนื่อยมากT_T" คนอื่นรู้เรื่องกันหมด
เราว่าควรจะปรึกษาอาจารย์แบบจริงๆจังๆไปเลยดีกว่า แล้วก็ทางที่ดีบอกพ่อแม่ไปเถอะค่ะ ถ้าเขามารู้ที่หลังแล้วจะน่าเป็นห่วงกว่าด้วยซ้ำ
จขกท.ต้องอดทนนะ อยู่ไปนานๆเดี๋ยวก็ได้ภาษาเอง ลองให้เพื่อนในห้องช่วยสอน ช่วยติวได้ไหม? ไปได้ขนาดนี้แล้วอย่าถอยกลับเลย อนาคตมันจะไกลมากถ้าจขกท.ทำตรงนี้ให้ดีได้ ไฟท์!!
PS. ไม่หวังให้เธอมารัก
ก็ค่อยเป็นค่อยไป ปรึกษาหรือถามอาจารย์เรื่อยๆ (น้ำใจจากเพื่อนร่วมชั้นถ้าหาได้ก็หา)
พยายามเข้า อย่ากดดันตัวเองมาก
เป็นกำลังใจให้นะ
ตอนนี้เราก็กำลังแลกเปลี่นอยุ่ที่เดนมาร์ก เหลืออีกสามเดือนก็กลับแล้ว
โชคดีที่เค้าพุดอังกฤษกันเก่งหมด
แต่เราเข้าใจความรู้สึกเลยย ไอตรงไม่มีเพื่อนอ่ะ แต่มันก็แค่สองสามเดือนแรก
เหมือนเค้าพูดอังกฤษได้ แต่เค้าไม่พูดอ่ะ ถ้าเราไม่พุดภาษาเค้า โดนเมินบ่อยมากก คนแถวยุโรปค่อนข้างเย็นชาจนถึงโคตรเย็นชา
เราก็ไม่เล่าให้พ่อแม่ฟังเหมือนกัน กลัวเครียดกัน
แต่ตอนนี้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว พยายามให้มากๆนะค่ะ อดทน
ดูอนิเมะบ่อยๆ ภาษาจะไปไวค่ะ
PS. เซงเว้ย เบื่อโลก
แย่จัง มีทางเลือกสองทางคือ คุณจะทนต่อไป หรือ คุณจะกลับบ้าน
คุณลองปรึกษากับนักศึกษาที่ไปแลกเปลี่ยนด้วยกันดูสิ มีคนไทยไปบ้างหรือเปล่าอ่ะ
แน่ถ้าคุณอยากกลับแล้ว เราว่าบอกพ่อแม่เถอะ
เราไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้แต่อย่างน้อยเราจะเอาใจช่วยเจ้าของกระทู้นะเพราะแบบนี้เราก็เคยเจอไม่ใช่ญี่ปุ่นแต่เป็นไทยเนี่ยแหละ ฮา...สุ้ๆนะค่ะ <3
PS. น้ำตาของทุกคนนั้นมีค่า...มูลค่ามากน้อย...ขึ้นอยู่กับเหตุผล...น้ำตามันเป็นที่ระบายอารมณ์...ไม่ใช่สิ่งโสมน...เพราะมันคือ'น้ำตา'....
สู้ๆนะ จขกท เราก็เคยมีน้องชายอยู่ประเทศไทย และไปอยู่อังกฤษ (นี่อาจจะเป็นคนละเรื่องแต่เคสน่าจะคล้ายๆกันมั้ง) แรกๆพูดกับใครไม่ได้เลย ต้องใช้ภาษามือ ลำบากมากๆแต่เวลาผ่านไป ตอนนี้พูดไทยกับพี่ชายอย่างเรา ไม่ได้ละ 5555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?