Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว Anime Spring 2013 ซีซั่นแห่งหายนะ (ในหลายๆ ความหมาย)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

มันผู้ใดไม่ถูกคนอื่นว่า “ตุ๊ด กาก เกย์” มันผู้นั้นไม่ใช่พระเอกในฮาเร็ม by Cammy

 

ปล.กระทู้นี้จะรีวิวเสร็จใน 3 วัน (นับจากวันที่ตั้งกระทู้)

 

สวัสดีครับกลับมาอีกครั้งกับการรีวิวอนิเมะประจำฤดูร้อน 2013 ซึ่งหลายวันมานี้จังหวัดผมร้อนมากเลยครับ และก็ตรงกับช่วงวันสงกรานต์อีกหากมีอะไรที่ผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ช่วงนี้วันสงกรานต์เป็นวันหยุดที่หลายคนไปต่างจังหวัด ส่วนผมนั้นก็ไม่ได้ไปไหนเลย (เพราะอากาศร้อนจัดมาก)  อยู่แต่บ้าน นั่งดูการ์ตูนอนิเมะ-มังงะทั้งๆ ที่ไม่เหมาะสมกับคนวัย 30 พับผ่า (อย่างน้อยก็ดีกว่ากินเหล้าลวนลามผู้หญิงล่ะว้า)

นอกเรื่องมานานคราว คราวนี้พูดถึงภาพรวมอนิเมะซีซั่นฤดูร้อนกันดีกว่า ตอนที่ตั้งกระทู้รีวิว อนิเมะเรื่องใหม่ๆ ในซีซั่นนี้ก็มาครบพอดี (บางเรื่องฉายเป็นตอนที่ 2 และ 3 ไปแล้ว) และรายชื่ออนิเมะใหม่ในซีซั่นนี้มีดังต่อไปนี้ (ไม่นับอนิเมะจากซีซั่นที่แล้ว และอนิเมะแนวเจ้าประจำพวกโคนันหรือนารูโตะ)

               
                 
                
                
               
              

               

             

http://countdown.mandragon.info/

 

ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าบอร์ดนักเขียนได้ดูและติดตามอนิเมะมากกว่าหนึ่งเรื่องหรือไม่ได้ติดตามเลย แต่เรื่องนี้ช่างเถอะ  ซีซั่นนี้อนิเมะหลายเรื่องสุดยอดมากน่ะครับ เพราะตอนแรกเริ่มต้นดี น่าติดตามเลยแหละ ไม่ว่าจะเป็น จอมมารตกอับ, ไททัน. หุ่นยนต์อะไรมากมายหลายแหล (อย่าท่าดีที่เหลวเหมือนบางเรื่องล่ะกัน) ซีซั่นนี้แนวหุ่นยนต์ค่อนข้างเยอะครับ สำหรับผมคนแก่อายุ 30 นี้ถือว่าไม่ถูกแนวนี้มากพอสมควร เพราะเคี้ยวยาก (เต็มไปด้วยศัพท์แสงอะไรก็ไม่รู้) และรองลงมาอนิเมะสายไม่มีตัวผู้ก็เยอะอีกเช่นเคย และแนวอนิเมะซีซั่นนี้น้อยที่สุดคือแนวฮาเร็ม จนเงียบเหงา  แต่ก็มีคุณภาพน่ะครับ (เดือน 7 คอยดูครับฮาเร็มจ่อคิวเพียบแน่นอน)

ส่วนนิยายของผมสำหรับภาพรวมอนิเมะนี้ก็คือ “หายนะ” เพราะว่ามีการ์ตูนอนิเมะในเรื่องที่ธีมพล็อตเน้นหายนะเป็นหลัก และนอกเหนือจากพล็อตหายนะแล้ว ยังรวมปึงไอเดียของแต่ละอนิเมะบางเรื่องด้วย ที่แนวคิดแบบนี้หายนะชัดๆ ประมาณว่าไอเดียดีแต่มันรับไม่ได้ เป็นต้น

ต่อไปนี้เป็นการรีวิวในมุมมองของผมครับ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นความคิดเห็นส่วนตัว เออ...ลืมไป รีวิวของผมไม่มีแนว การ์ตูนอนิเมะสำหรับผู้หญิง(พวกแนวหนุ่มหล่อ), น้องสาวไม่น่ารัก (Ore no Imouto), ฮายาเตะ (Hayate! Cuties), และเรกัน (Toaru Railgun) น่ะครับ ใครอยากเผยแพร่ หรืออยากอวยเรื่องอะไรก็จัดมาได้ ไม่ว่ากัน



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 12:23
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 12:22

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ

แสดงความคิดเห็น

>

77 ความคิดเห็น

cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 11:43 น. 1

 

Ketsuekigata-kun

 

การ์ตูนอนิเมะ 2 นาทีกว่าๆ (รวมเพลงปิดเรื่องด้วย) จากข้อมูลอนิเมะนี้สร้างจากการ์ตูนมังงะของเกาหลี (แต่อนิเมะคนญี่ปุ่นทำ) วาดโดยนักเขียนนามปากกา Real Crazy Man ตั้งแต่กรกฎาคมปี 2012 ออกมาแล้ว 3 เล่ม โดยเป็นเรื่องของตัวการ์ตูนตัวจิ๋วที่หน้ากากแปะหน้าว่า A, B, O และ AB ซึ่งเป็นตัวแทนของกรุ๊ปเลือด โดยเนื้อหาของการ์ตูนจะเป็นเอกลักษณ์ของนิสัยกรุ๊ปเลือดต่างๆ ที่แตกต่างกันไป คล้ายๆ ท้ายนิสัยคนจากกรุ๊ปเลือด เช่น ด้านความรัก กรุ๊ปเลือด S มักจะลังเลไม่กล้าสารภาพรักตรงๆ ส่วนกรุ๊ปเลือด B จะตรงไปตรงมาเรื่องความรัก กรุ๊ปเลือด O ชอบผูกมัดผู้หญิง และกรุ๊ปเลือด AB ชอบสร้างระยะห่าง (ไม่แน่ไม่นอน ออกจะลึกลับ) เป็นต้น

Ketsuekigata-kun อาจไม่คุ้นหูในบ้านเรามากนัก แต่คุ้นตาสำหรับใครบางคนอยู่บ้าง เพราะว่าเคยมีคนแปลการ์ตูนบางส่วนเอามาตั้งกระทู้ในบอร์ดหลายเว็บก่อนหน้านี้แล้ว “การ์ตูนกรุ๊ปเลือด ฮ่าๆ” เป็นต้น โดยตัวอย่างที่การ์ตูนมังงะบางส่วนอยู่ด้านล่าง

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2007739

แม้การ์ตูนเรื่องนี้จะมีความยาวแค่ 2 นาที แต่ใช้ทีมพากย์ที่มีชื่อเสียงไม่เบา เพราะเสียงพระเอกระดับมีชื่อเสียงทั้งนั้น ได้แก่ Fukuyama Jun (Lelouch Lamperouge [Code Geass: Lelouch of the Rebellion]), Nakamura  Yuuichi (Kousaka Kyousuke [OreImo]), Ishida Akira (Athrun Zala [Mobile Suit Gundam Seed]) และ Kakihara Tetsuya (Simon [Gurren Lagann]) จะมารับบทภาพตัวละครกรุ๊ป A, B, O และ AB ตามลำดับ แต่พอดีผมเป็นคนแยกเสียงไม่ค่อยได้ ฟังดูเสียงก็เหมือนๆ กันไม่เห็นแตกต่างเท่าไหร่

พอดีผมเป็นพวกไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกกรุ๊ปเลือดบอกนิสัยสักเท่าไหร่ ทำให้ไม่เก็ทนักในตอนแรก แถมมีการเล่นอุปมาอุปมัยอีก หรือผมแก่แล้วไม่ทันโลกก็ไม่รู้

 



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 เมษายน 2556 / 00:50

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 11:47 น. 2

 

Hataraku Maou-sama!

 

Hataraku Maou-sama! หรือจอมมารพาร์ท ไทม์! หรือจอมมารตกอับ อะไรก็เรียกตามใจของคนดูเถอะ เป็นอนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวล วาดโดย Satoshi Wagahara ภาพประกอบโดย Oniku (ตอนที่เขียนอยู่ไลท์โนเวล 7 เล่มแล้ว และยังไม่มีลิขสิทธิ์) และอนิเมะฉายเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2013

Hataraku Maou-sama! เป็นเรื่องราวของจอมมารซาตานที่ยิ่งใหญ่ปกครองปีศาจและขุนพลปีศาจทั้ง 4 ก่อกรรมทำเข็นทั่วทุกสารทิศ แต่ต่อมาเขาและพรรคพวกก็ถูกผู้กล้าชื่อ “เอมีเลีย” มาปราบ เมื่อจอมมารจนมุมเลยเข้าประตูมิติ ต่อมาเขาพบว่าตนอยู่ที่โตเกียวในปัจจุบันพร้อมสมุนคนสนิท การจะเอาชีวิตรอดในโตเกียวและฟื้นฟูเวทมนตร์ จึงต้องทำงานพิเศษหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานร้านอาหารฟาสฟู้ด และยังต้องพบกับผู้กล้าสาวที่ตามมาแล้วติดในโลกเดียวกับเขาด้วย

                Hataraku Maou-sama! เป็นอนิเมะนอกสายตา แต่เป็นที่สนใจของชาวไทยเหมือนกัน และเป็นอนิเมะที่ได้ลิขสิทธิ์ทั้งที่ยังฉายเพียงแค่ 1 ตอน ซึ่งโชคดีอนิเมะไม่ค่อยดังเท่าไหร่ ปลิงเลยดิ้นนิดๆ หน่อย พอเหมาะพอควร หากลิขสิทธิ์ผ่าพิภพไททันอาจได้เห็นอะไรมันกว่านี้ (ฮ่า)

                เนื่องจากเป็นอนิเมะนอกสายตา เลยไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อดูตอนแรกนี้หลายคน (รวมทั้งผม) ติดใจพอสมควร ไม่ใช่เพราะเสน่ห์ของจอมมารอะไรหรอก ชอบตรงวิธีเล่าเรื่องของอนิเมะทำได้ดีกว่ามังงะเสียอีก (ไลท์โนเวลนี้ผมไม่ได้ดูหรอก)

                คือประทับใจการเล่าเรื่องราวอนิเมะ บอกความเป็นมาของโลกแฟนตาซีของจอมมารที่เคยยิ่งใหญ่และโหดร้ายมาก่อน พร้อมฉากต่อสู้เร้าใจ และที่ฮ่าสุด คือภาษาที่พวกจอมมารพูดในตอนต้นตอนแรก มันฮ่าได้ใจจริงๆ ทั้งที่ฉากที่ว่ามันไม่มีมุกตลก แถมน้ำเสียงที่พูดจริงจังแท้ๆ (จนบัดนี้ผมก็ไม่รู้ว่าภาษที่พวกจอมมารพูดตอนต้นมันเป็นภาษาอะไร?)

                การเล่าเรื่องมีลำดับเป็นขั้นๆ อย่างน่าติดตาม จากจอมมารที่ยิ่งใหญ่ ก็ได้พ่ายแพ้ต่อกลุ่มผู้กล้า แต่จอมมารก็ไม่ยอมแพ้จริงหนีข้ามมิติมายังโลก (ญี่ปุ่น) ปัจุบัน จากจอมมารที่ยิ่งใหญ่ กลายเป็นคนธรรมดาตกอับ ใช้ชีวิตเยี่ยมคนธรรมดา ที่แสนรันทด ทั้งฮ่าทั้งน่าสงสารในคราวเดียวกัน

                อนิเมะกำกับโดย Naoto Hosoda ผู้กำกับ Shuffle! ซึ่งไม่เชื่อเลยว่าจะกับอนิเมะจอมมารได้น่าสนใจจนลืมอดีตดำมืดได้ขนาดนี้

                เวลาคนเราที่อดีตเคยยิ่งใหญ่มาก่อน และมาตกต่ำลงในเวลาเพียงแค่ชั่วค่ำคืน จากสูงลงมาต่ำ จะรพัฒนาจิตใจอย่างรวดเร็ว เพราะว่ามีเวลามากมายที่ได้สำนึกผิด ว่าอดีตที่ผ่านมาเราทำอะไรผิดพลาดอะไร เคยเกรียนใส่ใครทำไมตนถึง ได้ได้ต่ำตกแบบนี้ พล็อตแนวนี้หลายคนชอบอยู่แล้ว แม้อดีตตัวเอกจะทำผิดอะไรมากมาย แต่หากกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เราก็พร้อมที่จะเอาใจช่วยเหลือ  ผสมกับมุกตลกในความอนาถของจอมมาร ทำให้อนิเมะเรื่องนี้เป้นอนิมเม้ามืดอย่างแท้จริง

 



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 15:02

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 11:51 น. 3

 

Haiyore! Nyaruko-san W

 

                หลังจากประสบความสำเร็จในภาคแรก และได้กลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ผมชอบประจำปี เนียวรุโกะ (ในไลท์โนเวลรักพิมพ์เรียก “เนียลโกะ”) ก็ได้กลับมาอีกครั้งในซีซั่น 2 ในชื่อ  Haiyore! Nyaruko-san W วึ่งขอบอกว่านี้คืออนิเมะที่ผมตั้งตาคอยในซีซั่นนี้ทีเดียว

Haiyore! Nyaruko-san (แปลเป็นไทยก็ เนียวรุโกะผู้คลืบคลาน) เป็นอนิเมะแนวตลก ล้อเลียน  สร้างจากนิยายไลท์โนเวลขายดี ที่วางจำหน่ายในปี 2009โดย Manta Aisora ​​และภาพประกอบ KOIN และอนิเมะเป็นผลงานของสตูดิโอ Xebec  เรื่องคอมมาดี้และคุณภาพชื้อขนมกินได้เลย และภาค W ยังคงเป็นของสตูดโอและผู้กำกับจากภาคแรกเหมือนเดิม

สำหรับภาคนี้พระเอกของเรา "ยาซากะ มาฮิโระ" เด็กหนุ่มธรรมดายังคงรับมือ 3 มนุษย์ต่างดาวระดับเทพมารจอมป่วนที่ประกอบไปด้วยเนียวรุโกะ, คูโกะ และฮันตะ ซึ่งเป็นเทพมารจากงานประพันธ์ของเอช. พี. เลิฟคราฟท์งานประพันธ์ของเอช. พี. เลิฟคราฟท์เหมือนเดิม โดยเฉพาะเนียวรุโกะเกือบจะจับกดเขาหลายครั้ง ซ้ำยังไม่พอเมื่อเขากลายเป็นจุดศูนย์กลางความวุ่นวายระดับจักรวาลที่เหล่ามนุษย์ต่างวางแผนจะสร้างความเดือดร้อนต่อโลกด้วยเหตุผลบ้าบอโดยไม่ถามสุขบภาพเขาสักคำ

Haiyore! Nyaruko-san W ยังคงเป็นอนิเมะที่มีคนชอบไม่ ก็เกลียดไปเลย เพราะเป็นการ์ตูนที่ล้อเลียนเยอะมาก เรียกว่าเกือบทุกนาทีของอนิเมะจะล้อเลียน 1-2 มุกอย่างต่ำ ล้อเกือบทุกอย่าง ไม่ได้ล้อเลียนโอตากุอย่างที่หลายคนคิด เพี่ะล้อเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ดังเก่า (MIB), ล้อดาราญี่ปุ่น, ล้อการ์ตูนอนิเมะเก่าไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือของฝรั่ง , ล้อไลท์โนเวลในเครือ, ล้อมุกบอร์ด, ไรเดอร์, วีดีโอเกม, ซุปเปอร์โรบอต ฯลฯ ล้อแหลก จิกกัด เชื่อเลยน้อยคนที่ดูอนิเมะเรื่องนี้จ้างให้ก็ย่อยมุกไม่ออก ไม่เก็ทมุก ขนาดฉากเปิดตอนแรก เนียวรุโกะขี่ไม้กวาด สมองของผมทำงานหนักเลยว่ามาจากอนิเมะเรื่องใด  จึงไม่แปลกแต่อย่างใดคนที่ไม่เก็ทมุกต่างปวดหัวและล้มเลิกที่จะไม่ดูอนิเมะตั้งแต่แรกเริ่ม

ความจริงแล้วอนิเมะเรื่องนี้ดูแบบไม่สนมุกก็สนุกน่ะครับ ผมว่า คือตัวเราก็เหมือนมาฮิโระพระเอกของเรื่องแหละ ที่พระเอกไม่เคยเก็ทมุก เนียวรุโกะสักอย่าง มันเหมือนภาษามนุษย์ต่างดาวหรือภาษาโอตากุพูดคุยกัน  แค่ดูตัวละครทำท่าทางประหลาด รวมไปถึงฮาเร็มของมาฮิโระ ตัวละครที่น่ารักอย่างเนียวรุโกะ, คูโกะ และสาวดุ้นอย่างฮันตะ ซึ่งแต่ละคนหนวด (ปอยผม) ดิ้นไปดิ้นมาก็น่ารัก โมเอะแล้วน่ะเออ

แต่อย่างไรก็ตาม หากมุกไหนเราเก็ทนี้ฮ่าเลยขอบอก เพราะมันกล้าเล่น อย่างลักกี้สตาร์ก็มา ซาซิมิซังก็มา จินรุยก็มี ดังๆ ทั้งหลายแหล ยิ่งเราไปเจอการย่อยมุกแบบละเอียดในเว็บหรือในยูทูปอธิบายมุก ก็ฮ่าและได้เข้าใจอะไรมากมายเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นมากขึ้นครับ ว่าญี่ปุ่นนั้นสนใจเรื่องอะไรในตอนนี้ ไปจนการ์ตูนเก่าๆ ระดับตำนานนั้นมีอะไรบ้าง ไทยเราไม่คุ้น แต่ที่ญี่ปุ่นนี้คุ้นเคย ดูแล้วมีสาระกว่าที่คิดน่ะครับ

Haiyore! Nyaruko-san W ยังคงเป็นอินเมะที่ผมตั้งตารอคอยซีซั่น ไม่ต้องการเกริ่นจากภาคแรกแต่อย่างใด มาถึงก็ปล่อยมุก ซึ่งตอนแรกนี้ดูเหมือนมีมุกเยอะกว่าตอนแรกของภาคก่อนถึง 1.5 เท่าเลยทีเดียว ส่วนการดำเนินเรื่องอาจวุ่นวายไร้สาระไปบ้าง (เพราะมัวแต่เล่นมุก) แต่ด้วยความน่ารักของตัวละครและฮาเร็มก็ช่วยให้ผมรู้สึกชอบเหมือนภาคที่แรกที่ทำเอาไว้



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 เมษายน 2556 / 08:52

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 11:57 น. 4

 

Date A Live

 

Date A Live เป็นไลท์โนเวลแนวตลกโรแมนติก ไซไฟ ฮาเร็ม แต่งโดย Koshi Tachibana และภาพประกอบโดย Tsunako วางแผงเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2011 และตอนที่เขียนไลท์โนเวลก็ออกมาได้ 7 เล่ม (ยังไม่จบ) ซึ่งบ้านเรานั้นได้ลิขสิทธิ์โดยรักพิมพ์ในชื่อไทย พิชิตรัก พิทักษ์โลกและถูกนำไปสร้างเป็นมังงะ และอนิเมะ ซึ่งอนิเมะนั้นเริ่มฉายเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2013 เป็นต้นมา

Date A Live เป็นเรื่องราวของอิสึกะ ชิโด้  เด็กหนุ่มชั้นม.ปลายธรรมดา (มั้ง??) ได้พบกับสาวลึกลับคนหนึ่งที่เรียกว่า เทพธิดา ที่พละกำลังและอำนาจมหาศาล จนกลายเป็นศัตรูของโลกอย่างช่วยไม่ได้ และจากคำแนะนำของ “โคโทริ” น้องสาว (ไม่ร่วมสายเลือด) ของพระเอกบอกว่า การที่จะหยุดเธอนั้นเขาจะต้องจีบเธอให้ติด และให้เธอหันมารักโลกให้ได้ แล้วพระเอกจะทำอย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้เป็นเทพจีบสาว หรือมีประสบการณ์ความรักเลยแม้แต่น้อย

สำหรับอนิเมะเรื่องนี้มีหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอในซีซั่นนี้ก็ว่าได้ จนหลายคนบอกให้มีลิขสิทธิ์เลยทีเดียว แต่กระนั้นผมอยากขอบอกว่าอนิเมะจากไลท์โนเวลเรื่องนี้ค่อนข้างตัดทอนต้นฉบับพอสมควร (จนมีหลายคนบ่นว่าหากไม่ใช่อนิเมะของค่ายโตเกียวอนิเมะ อย่าไปดู เพราะไม่ค่อยเก็บรายละเอียดสักเท่าไร่)

                เออ....อนิเมะเรื่องนี้เป็นของค่าย AIC PLUS+ ครับ

                ก็เข้าใจเพราะเนื้อหาอนิเมะนั้นน่าจะมีเนื้อหาไปจนถึงไลท์โนเวลเล่มที่ 4 (รวมเนื้อเรื่องของโคโทริ) ทำให้จำเป็นต้องตัดรายละเอียดอย่างช่วยไม่ได้  แม้ว่าเนื้อหารวมไปถึงฉากมุกตลกสำคัญยังอยู่ แต่ตัดไปตัดพระเอกตบมุกไปได้ ทำให้หลายคนที่ไม่ได้อ่านไลท์โนเวลมาไม่เก็ทมุกหลาายจุด (เช่นตอนที่ 2 อย่างที่โคโทริแนะนำทีมงานของเธอ ในไลท์โนเวลพระเอกจะตบมุกแต่ละคนอย่างฮ่ามาก แต่ในอนิเมะตัดออก เหลือเพียงพระเอกถอดหายใจเท่านั้น ลดความฮ่าไปเยอะอย่างช่วยไม่ได้)

                ก็ขอออกตัวว่าผมไม่ได้ชอบอนิเมะเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเห็น  แต่หลังๆ ก็เริ่มรู้สึกชอบ เพราะว่ามันเป็นแนวที่พระเอกเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้เก่งอะไรสามารถปักธงเทพธิดาที่มีพลังล้างโลกได้ และเทพธิดาไม่ได้มีคนเดียวเสียด้วย ซึ่งในอนิเมะนั้นจะมีเทพธิดา 3 คน 3 ต่างนิสัยที่พระเอกจะต้องจัดการ แต่ด้วยอนิเมะนั้นมีจำนวนตอนน้อย (หากจะเก็บรายละเอียดตามไลท์โนเวลนี้อย่างมาก  20 โน้นแหละ) ซึ่งก็ต้องทำใจว่าอาจขาดอารมณ์ด้านนี้ไปบ้าง

                พูดง่ายๆ ผมดูอนิเมะเรื่องนี้ก็เพราะ จะได้รู้ตอนต่อของไลท์โนเวลเล่ม 2, 3 และ 4 เท่านั้น แล้วจะได้ไม่ต้องรอซื้อไลท์โนเวลมาอ่านแบบกระวนกระวายใจ

                อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีๆ เกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้ก็คือ โทวกะน่ารักกว่าในไลท์โนเวล และมังงะกว่าที่คิดไว้อีก มีทั้งซึน เดเระ ทั้งสวยทั้งเก่ง ตอนทำหน้าเศร้าๆ โดดเดี่ยวนี้อยากเข้าไปเป็นเพื่อนแบบพระเอกจริงๆ

                สรุปคือเป็นอนิเมะที่ตัดทอนต้นฉบับพอสมควร คำแนะนำคือดูไลท์โนเวลมาก่อน ตอนนี้รักพิมพ์ออกมาเล่มที่ 1 แล้ว ส่วนสาเหตุที่ซับไทยตอนที่ 2 ออกมาช้าเพราะว่ามันไม่ได้ฉายแบบทีวีปกติ จะเป็น Pre-air ที่ฉายทาง Nico ทำให้หน้าจอไม่ละเอียด ไม่ชัด ทำให้ซับไทยเราไม่นิยมแปล บวกกับกลัวลิขสิทธิ์อีก ทำให้เป็นอนิเมะที่อึมครึมในเวลานี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 21:26

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 12:06 น. 5

 

Photo Kano

 

                Photo Kano จะว่าไปเป็นอนิเมะโรแมนติกที่ผมกังวลที่สุดในซีซั่นนี้ ว่ามันจะออกมาในรูปแบบใด จะออมาแบบแยกรูทเหมือนอาม่าฆ่าหมี (Amagami) หรือจะแบบรวมๆ เป็นฮาเร็มแบบ ToHeart2   ไปเลย

                Photo Kano เป็นอนิเมะที่สร้างจากเกมจีบสาวของเครื่อง PSP แน่นอนว่าคนไทยตาดำๆ หลายคนไม่ค่อยได้เล่นเกมนี้หรอก ภาษาญี่ปุ่นยุบยับหมด ความดังของเกมนี้อาจจะเงียบๆ นิดหน่อย โดยเป็นเรื่องราวของ “มาเอดะ” ที่กำลังเห่อกล้องใหม่ที่ได้รับจากพ่อของเขาเลยถ่ายรูปไปทั่วโรงเรียนในวันเปิดภาคฤดูร้อน ตอนแรกๆ แค่ถ่ายภาพวิวธรรมดา แต่หลังๆ เริ่มถ่ายภาพสาวสวยซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นคนดังของโรงเรียนทั้งสิ้น จนพระเอกถูกชักชวนเข้าชมรมถ่ายรูปที่ “คุโด” เป็นประธาน ที่ตั้งเป้าจะถ่ายภาพอีโรติกของสาวๆ โดยเฉพาะ และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของตากล้องหื่น (??)

                Photo Kano เป็นการ์ตูนจีบสาวค่อนข้างแปลกครับ คือถูกนำไปสร้างเป็นมังงะหลายเรื่อง ซึ่งมังงะนั้นจะมี 2 แบบ คือเวอร์ชั่นหื่น และโรแมนติก กล่าวคือหากไม่โรแมนติก (แบบวิวๆ) ก็จะหื่นไปเลย แต่หื่นก็แค่ฉากเซอร์วิสที่พระเอกถ่ายรูปสาวๆ ในแต่ละรายนะ..... โดยที่น่าสังเกตคือมังงะเวอร์ชั่นหื่นและฮาเร็มนั้นพระเอกจะเลือกเขาชมรมที่คุโดเป็นประธาน หากเป็นเวอร์ชั่นวินๆ เน้นโรแมนติกพระเอกจะเลือกเข้าชมรมชมประธานสาว “คาสึมิ” ครับ

                ดังนั้นในตอนแรกจุดที่ลุ้นที่สุดคือพระเอกจะเลือกเข้าชมรมอะไรระหว่างอยากได้ฮาเร็มและหื่นต้องเลือกชมรมประธานชาย แต่หากอยากได้วินๆ โรแมนติกให้เลือกประธานสาว และอย่าถามว่าผมอยากให้พระเอกเลือกชมรมของใครน่ะครับ ก็ต้องของประธานชายอยู่แล้ว!! และทันทีที่พระเอกเลือกชมรมของประธานชาย ผมตะโกนร้องเลยว่า “เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”

แม้ตอนแรกยังไม่สามารถอธิบายได้มากมาย แต่ก็พอเดาว่าเรื่องนี้น่าจะเน้นเรื่องหื่นนิดๆ ผสมกับฮาเร็มนิดหน่อย แบบเวอร์ชั่นที่วาดโดยคนวาดฟรอกแมน ( Frogman )เพราะจำนวนแค่ 13 ตอน คงเล่นอะไรมาก แบ่งเป็นรูทๆ คนละ 3 ตอนจบ แบบ Amagami ก็ไม่ไหว เพราะตัวละครหลักสาวๆ ในเรื่องนี้มีถึง 8 คน (รวมน้องสาวของพระเอก)  บทดราม่าก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะเน้นมากก็ไม่ไหว เข้าวินลืมก็ไปได้เลย ทำแล้วล้มแน่นอน ดังนั้นน่าจะเป็นเนื้อหาที่พระเอกแบ่งเวลา (เทพๆ) ในการถ่ายภาพสาวๆ พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน (ปักธง) ไปด้วย

แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา ก็คือสิ่งที่ได้เห็นในตอนแรก นั้นคือการดำเนินเรื่องที่ไม่ได้ถึงใจเหมือนเช่นที่เราได้ดูรูทในมังงะหรือแม้แต่เกม เพราะว่าจะต้องแบ่งบทตัวละครให้เท่าๆ กัน ทำให้ตัดทอนเนื้อหาอย่างช่วยไม่ได้ รวมไปถึงลายเส้นไม่ค่อยประทับใจมากนัก มุมมองโฟกัสก็ไม่ค่อยดีมากเท่าที่ควร จนทำให้อนิเมะเรื่องนี้ไม่ค่อยประทับใจหลายๆ คนที่จะดูในตอนแรก แต่กระนั้นก็ก็จะดูต่อให้จบเพราะส่วนตัวชอบอนิเมะเรื่องนี้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และจะดูต่อว่าเนื้อหาโดยภาพรวมจะเป็นอย่างไร


PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 12:12 น. 6

 

Namiuchigiwa no Muromi-san

 

Namiuchigiwa no Muromi-san แปลเป็นไทยว่า “มุโรมิซังบนฝั่ง” เป็นอนิเมะแนวตลก (ไม่ใช่การ์ตูนแก๊ก 4 ช่อง) เขียนโดย Keiji Najima (มังงะตอนนี้ 9 เล่มแล้วแต่ยังไม่จบ) วางแผงตั้งแต่ 2009 และถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะใฃฉายวันที่ 6 เมษายน 2013 (มี 13 ตอน)

เป็นเรื่องของทาคุโร่ เด็กหนุ่มที่ใช้เวลากับการตกปลาที่ทะเล จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาตกมุโรมิ ซึ่งเป็นนางเงือกได้ แถมนางเงือกนี้นิสัยแปลกๆ ชอบทำตัวบ้าบอ ไม่คิดว่าตนเป็นเงือก แถมเป็นพวกคลั่งแอลกอฮอล์อย่างหนัก หลังจากนั้น มุโรมิจะปรากฏตัวทุกครั้งที่ทาคุโร่มาตกปลา พร้อมมาสร้างสีสันชีวิตพร้อมกับปัญหาหลายๆ อย่างให้กับเขา แล้วยังพาเพื่อนๆ อีกหลายชีวิตมาร่วมป่วนด้วย

                อนิเมะประมาณ 12 นาที (รวมเพลิงเปิดและปิด) ทั้งเรื่องอยู่แต่ในสถานที่ปลา ที่การตกปลาของปลาของพระเอกทาคุโร่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป  ที่ทำออกมาได้ดีพอสมควร แต่ยังไม่สุดสำหรับผม เพราะอนิเมะลูกบ้าน้อยกว่ามังงะเยอะ (ผมดูมังงะในจีนแดง) ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาระหว่างมนุษย์กับเงือก ความเฮฮ่าของตัวละคร มุกตลกต่างๆ มากมาย ในมังงะจะทำได้ถึงใจกว่า ซึ่งใครดูมังงะมาก่อนจะพบว่าอนิเมะนั้นดำเนินเรื่องแตกต่างพอสมควร (สงสัยไม่อยากทำให้เนื้อหาน่าเบื่อหน่ายและไม่อยากให้เหมือนในมังงะล่ะมั้ง)

                สำหรับในอนิเมะนั้นดำเนินเรื่องเหมือนรีบไปหน่อย เพราะการ์ตูนตลกจะเริ่มๆ แนะนำตัวละคร ให้ผู้ชมรู้จักตัวละครเสียก่อน แต่อนิเมะดูเหมือนไม่ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก มาถึงก็เล่นมุกกันเลย แถมพระเอกปรับตัวเร็วเกินคาด เพราะในมังงะนั้นพระเอกต้องทำหน้าเอ่อเหรอผิดหวังกับเงือกก่อน เพราะเงือกเรื่องนี้ทำลายจิตนาการของเขาสิ้นดี แต่อนิเมะตอนแรกไม่ได้เล่นมุกแนวนี้มากนัก

                อย่างไรก็ตาม มุกตลกก็ถือว่าใช้ได้ แม้จะไม่สุดยอดมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นกับแกล้ม หลังจากที่ดูอนิเมะหนักๆ ได้ดี โดยเฉพาะใครที่ดูดอกนรก (Aku no Hana) เสียสายตา หรืออนิเมะที่มีเนื้อหาหนักๆ มาดูโมเอะบ้าบอเรื่องนี้ก็ถือว่าดีใช้ได้เลย

 

(ขอตัวไปกินข้าวก่อนน่ะครับ เดี๋ยวมาต่อกับดอกนรกอนิเมะที่เป็นที่โจษจันแหงซีซั่นนี้ และผ่าพิภพไททัน กันต่อ)

 



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 12:26

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
ท่องโดดเดี่ยวหมื่นลี้ 13 เม.ย. 56 เวลา 12:45 น. 7

(ขออนุญาติแทรก)

Suisei no Gargantia

ดูตอนที่1 ทึ่งกับหุ่น
กันดั้มที่ว่ากันว่าแน่มีปืนโคตรเยอะ แบกปืนหลายสิบกระบอกไปสู้ ก็ยังสู้Chamberนี่ไม่ได้
เตี้ยก็เตี้ยกว่า แต่ดูรูเลเซอร์มันดิ ยิงเลเซอร์ออกมายังกับลูกดิสโก้ในงานคอนเสิร์ต(ฮา)
จะแบกปืนไปทำไมเยอะแยะให้หนักเปล่าๆ สู้แบบบิวท์อินก็ไม่ได้


ดูตอนที่2 ทึ่งกับเทคโนโลยีเล็งเป้ากับอานุภาพปืนมันเหลือเกิน
พี่ท่านสามารถแบ่งแยกศัตรูกับมิตรได้ด้วย ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ใช้อะไรเป็นเกณฑ์อ่ะ ไม่กลัวยิงผิดเหรอ?
จะบอกว่าแยกจากคนที่ถือปืนกับไม่ถือปืน มันก็ออกจะสุ่มเสี่ยงเกินไปนะ เกิดฝ่ายเราแย่งปืนจากศัตรูได้ล่ะ มิโดนท่านฆ่าอย่างน่าเวทนาเหรอ?
นอกจากเลเซอร์จะเล็งเป้านำวิถีแล้วอานุภาพก็ยังเหลือคณา โดนทีไม่มีโอกาสรอดกันเลย เป็นผง



รอตอน3 แทบขาดใจ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 12:47


PS.  "หากท่านคิดคบหาสหายผู้หนึ่ง ก็ต้องเข้าใจนิสัยใจคอของมัน หากแม้นมันมีข้อบกพร่อง ท่านสมควรยกโทษให้แก่มัน ตอนที่ท่านรู้จักกับมัน ก็ควรทราบว่ามันเป็นบุคคลเช่นนี้ ท่านไยต้องมีโทสะ"
0
sweetpeaz 13 เม.ย. 56 เวลา 12:53 น. 8
♥ Karneval ( *v*) อ่านแต่มังกะ ในที่สุดก็เป็น Anime ชอบภาพ + ตัวละครมันหน่ะ ! เลิฟ ~ ( *v*)
PS.  Love Chronicle : The Memoir & Divergence in Time ☆ ฝากด้วยนะฮับ : http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=912566
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 13:08 น. 9
# 7 ชมหรือประชดล่ะนั้น แต่วันนี้ผมยังไม่พูดถึงอนิเมะแนวหุ่นยนต์เน้อ....(เพราะยังไม่ได้ดุสักเรื่อง ทำใจก่อน)



ซีซั่นนี้ไม่ค่อยมีฮาเร็มหื่นๆ เลยเว้ย หนีดีกว่า

(กำลังเขียนดอกนรกอยู่....)

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
╬แวมไพร์เขี้ยวเดียว╬ 13 เม.ย. 56 เวลา 13:23 น. 10

ผมว่าซีซั่นนี้ก็น่าสนใจอยู่หลายเรื่องนะ แต่ที่สนใจจริงๆมีแค่ไม่กี่เรื่อง
Date A Line
Suisei no Gargantia (ชื่อคนเขียนบททำขนลุก)
Attack on Titan

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 14:28


PS.  I am Mr. โฉด!!
0
Doggiebiz 13 เม.ย. 56 เวลา 13:28 น. 11

ขอช่วยรีวิวสั้น ๆ ก็แล้วกัน  ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้  สงสัยอากาศร้อนล่ะมั้งเลยไม่ค่อยมีอารมณ์ดูตูนยังไงก็ไม่ทราบ

1. Date A Live





เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมซึนเดเระครับ

มันมีส่วนผสมและองค์ประกอบทุกอย่างที่ผมไม่ชอบอย่างแรง  ตั้งแต่พระเอกมีน้องสาวมาปลุกตอนเช้าพร้อมแพล่ม กกน. ลายทางไปมา  การกำกับเนื้อหาที่ดูผิวเผินไร้ซึ่งความลุ่มลึก  ตัวละครที่ซ้ำซากจำเจราวกับปั๊มออกมาจากแม่พิมพ์ของเรื่องอื่น ๆ และเนื้อหาที่พอมาดูจริง ๆ แล้วเห่ยสิ้นดี... Cliche as Fu*k ทั้งไม่รู้สึกตลกหรือรู้สึกอินไปกับเรื่องเลยแม้แต่น้อย

แต่กระนั้นผมก็ยังดูเรื่องนี้ต่อนะ...

ถึงผมจะว่าเรื่องนี้ไว้เสีย ๆ หาย ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เรื่องนี้ทำสำเร็จคืออย่างน้อยผมไม่รู้สึกเบื่อหรือง่วงนอนระหว่างดูไปทั้งสองตอนเลย  และงานภาพก็ค่อนข้างทำออกมาได้ดี  โทกะเองก็เริ่มดูน่ารักขึ้นในตอนที่สอง  ผิดกับอีกเรื่องของซีซั่นนี้ซึ่งนั่นก็คือ....


2. Photo Kano





น่าเบื่อเป็นบ้า... ผมดูไปหาววอด ๆ ไป  ถึงจะเป็นตอนแรกที่ทำหน้าที่แนะนำสาว ๆ ในเรื่องก็เถอะ  แต่ทำให้มันเอนเทอร์เทนกว่านี้หน่อยได้ไหมเนี่ย  เซอร์วิสก็ทำได้ไม่ค่อยเร้าใจ  แถมสาว ๆ ดูแล้วไม่ค่อยน่าอวยสักคน  เดี๋ยวจะลองดูตอนสองสิว่าเป็นอย่างไร  ถ้ายังน่าเบื่ออยู่เหมือนตอนแรกก็คงดร็อป





แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 13:37

PS.  de gustibus non est disputandum
0
Doggiebiz 13 เม.ย. 56 เวลา 13:50 น. 12
3. Namiuchigiwa no Muromi-san






สำหรับผมแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกผิดคาดครับ  ตอนแรกไม่ได้คิดจะแลด้วยซ้ำ  ลายเส้นโคตรเชย เนื้อหาไม่ดึงดูให้ดู  แต่ด้วยอะไรบางอย่างก็มิทราบที่ดลบันดาลให้ผมมาดูเรื่องนี้  ซึ่งก็พบว่ามันเป็นอนิเมยิงมุกรัวอย่างกับปืนกลครับ  มีตลกบ้างฝืดบ้างก็ว่ากันไป  แต่สำหรับผมแล้วเป็นมุกที่ค่อนข้างโดนเป็นส่วนใหญ่  ดูแล้วเพลินคลายเครียดดี แถมฉายเพียงแค่ 12 นาทีทำให้ดูจบก่อนเราจะรู้สึกล้าไปเสียก่อน  ซึ่งมุกแต่ละมุกทำเอาภาพลักษณ์ของนางเงือกแสนงามซะป่นปี้หมดเลย (โดยเฉพาะมุกสุดท้ายนี่บัดซบโคตร)  เอาเป็นว่าถ้ายังรักษาระดับความสนุกไว้ได้ก็คงจะดูต่อไปเรื่อย ๆ พูดตามตรงแล้วผมชอบเรื่องนี้มากกว่าเด็กนักเรียนชายเกรียนอีก


4. Haiyore! Nyaruko-san W





สำหรับไลท์โนเวลที่ผมเคยซื้อมา  เนียรุโกะถือเป็นไลท์โนเวลที่ห่วยแตกที่สุดที่ผมเคยซื้อมาเป็นอันดับที่สอง (อันดับแรกคือ Kore wa Zombie Desu ka?)  แต่พอมาเป็นแบบอนิเมแล้ว... ผมโคตรรักเลยอ่ะ

ปรกติผมไม่ค่อยชอบอนิเมที่เล่นมุกแนวพาโรดี้เรื่องอื่น ๆ สักเท่าไหร่  แต่สำหรับเนียรุโกะแล้วมันค่อนข้างพิเศษจริง ๆ เหมือนกับคนทำรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้ต้องการอะไร  และทำออกมาด้วยความรู้สึกที่ทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่  มุกพาโรดี้หลายอย่างมีทั้งเก่าโบราณโคตร (เช่นมุกเปิดตัวของเรื่อง Bewitched)  และมีทั้งที่โคตรใหม่ที่อนิเมเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน (ทั้งมุกชื่อตอนที่ล้อเรื่อง Attack on the Titan หรือที่ฮาสุตะพูดว่า "ถึงคุณจะเกลียดผม แต่อย่าเกลียดคุณมาฮิโระเลยนะ" นี่ก็ล้อ AKB0048) พอให้มีมุกที่เก็ทบ้าง  ตัวอนิเมชั่นเองก็ลื่นไหลกว่าซีซั่นแรกอีก  เพลงเปิดก็ยังคงล้างสมองได้ดีไม่แพ้เพลงแรก  สรุปคือดูต่อแน่นอนครับสำหรับความวุ่นวายที่คืบคลานภาคใหม่นี้ 

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 13:57

PS.  de gustibus non est disputandum
0
Doggiebiz 13 เม.ย. 56 เวลา 14:09 น. 13
5. Yuyushiki




ผมพยายามดูเรื่องนี้มาสองรอบแล้วครับ  แต่ผมเผลอหลับไประหว่างดูทั้งสองรอบเลย  จนถึงป่านนี้ก็ยังดูไม่จบ  ถ้าเขียนมาขนาดนี้คงบอกได้แล้วล่ะมั้งว่าผมคิดอย่างไรกับเรื่องนี้...

พูดให้สุภาพก็คือ  ผมคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้ (แต่ประเด็นคือผมชอบดู slice of life นะ...)


6. Aiura





ฮา ๆ... ปู... ปูเต็มไปหมดเลย (กรุณานึกเสียงของผมแบบเลื่อนลอยเข้าไว้)  อนิเมสั้น ๆ ไม่ถึง 5 นาทีอีกเรื่องประจำซีซั่นนี้ที่ op เต็มไปด้วยปูขยับไปมา (โคตรสยองอ่ะ)  ผมเห็นมีบล็อคของฝรั่งบล็อคหนึ่งเขียนไว้ว่าเรื่องนี้มีทีมงานที่เทพที่สุดประจำซีซั่น (ยิ่งกว่ากากันเทียหรือไททัน)  ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าจริงแท้แค่ไหน  แต่บอกได้คำเดียวหลังจากดูตอนแรกจบแล้ว... ไม่โดนอ่ะ  มันดูเรื่อยเปื่อยเกินอนิเม 5 นาที (ที่เพลงเปิดและเพลงปิดกินเวลาไปสองนาที)  อาจจะดูต่ออีกสักสองตอน



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 14:13

PS.  de gustibus non est disputandum
0
Prisma Dominatus 13 เม.ย. 56 เวลา 14:16 น. 14

สิ่งที่ผมจับความได้ครับ (ย่อความ...สุด ๆ)
เรื่องที่ตัวหนา เป็นเรื่องที่ผมกะว่าจะหามาดูครับ

Ketsuekigata-kun : ไม่เก็ทนัก
Hataraku Maou-sama! : มุกตลกในความอนาถของจอมมาร ทำให้อนิเมะเรื่องนี้เป้นอนิมเม้ามืด
Haiyore! Nyaruko-san W : (อันนี้ของผมเอง) ผมว่าภาคแรกเนียรุโกะหื่นไปหน่อย...มันทำให้เอียน...หวังว่าภาคนี้ไม่

Date A Live : น่ารักก็ว่าคิด
Photo Kano : ดำเนินเรื่องที่ไม่ได้ถึงใจ / น่าเบื่อเป็นบ้า...
Namiuchigiwa no Muromi-san : มุกตลกก็ถือว่าใช้ได้
Suisei no Gargantia : ลูกดิสโก้

...แต่นั่นไม่ได้รวมถึงเรื่องที่ผมได้ดูไปบ้างแล้ว
...ทายสิครับ เรื่องอะไร
...ใช่ครับ
...Aku no Hana

-ดิท- ตัดเรื่องการบ่นออกไป เอาไปแปะหลังท่าน แคมมี่ลงของท่านก่อนครับ (จะได้ไม่เสียจังหวะกระทู้)

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 14:33


PS.  Do you know what "War" and "Law" have in common? It's not about who's right. It's about who's the winner.
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 14:21 น. 15

 

Aku no Hana

 

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังอยู่ในสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดของเกาหลีเหนือ แต่ในวงการอนิเมะนั้นทั่วโลกมีข่าวใหญ่ที่น่าตกตะลึงไปทั่ว เมื่อมีอนิเมะเรื่องหนึ่งออกฉาย จนกลายเป็นดราม่าไปทั่งทุกหย่อมหญ้า

Aku no Hana หรือดอกปีศาจ (ดอกไม้แห่งความชั่วร้าย) เป็นอนิเมะดัดแปลงจากมังงะแนวจิตวิทยามืดมน ดราม่า กดประสาท โดย Shuzo Oshimi ที่ลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ 9 กันยายน 2009 และถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะออกฉายเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2013

Aku no Hana เป็นเรื่องราวของ “คาสึกะ ทาคาโอะ”  หนอนหนังสือที่ชื่นชอบนิยาย Les fleurs du mal ของชาร์ลส์ โบดแลร์ (Charles Baudelaire)  เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อที่วันๆเอาแต่อ่านหนังสือตลอดเวลาแต่ชีวิตประจำวันสุดแสนธรรมดา ของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อ เขานึกขโมยกางเกงบลูเมอร์ของ “ซาเอะกิ”  และพอดีในเวลานั้นสาวคนหนึ่งชื่อ “นาคามูระ” ได้เข้ามาเห็นเข้าพอดี และซาเอะกิได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเขาให้ไม่ธรรมดาอีกต่อไป

Aku no Hana เป็นอนิเมะที่ฮิตเงียบๆ ในบ้านของเรา (ตอนนี้มังงะได้ลิขสิทธิ์โดยวิบูลย์กิจแล้ว) ด้วยเนื้อหาดำมืด ตัวเอกทาคาโอะที่จิตใจเริ่มเสื่อมโทรมและมีพฤติกรรมต่อต้านสังคมเรื่อยๆ เพราะสองสาวที่เข้ามาในชีวิตของเขา บวกกับเนื้อหาที่เต็มไปด้วยจิตวิทยาที่สอนวัยรุ่นเกี่ยวกับสัญชาติของมนุษย์  อย่างไรก็ตามมันเป็นมังงะเฉพาะแนวที่ไม่เหมาะสำหรับคนทั่วไปนัก เคยมีนักอ่านบางคนสารภาพว่าครั้งแรกที่อ่านมังงะรู้สึกบัดซบมาก และเมื่อเขาเติบโตมา (พร้อมเนื้อหาการ์ตูนก็เริ่มชั่วร้านยมากขึ้นเรื่อยๆ) ก็พบว่ามังงะเรื่องนี้สุดยอด

อย่างไรก็ตาม ผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้มากมายนัก และผมไม่รู้สึกปวดตับอย่างที่หลายคนบอกแต่อย่างใด ผมรู้สึกอึดอัดการกระทำของตัวละคร ว่าเอ็งมาอารมณ์ไหนกันแน่มากกว่า โดยเฉพาะ การกระทำของพระเอกที่ความจริงแล้ว เขาสามารถแก้ไขได้เนินๆ ( แต่กลับทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก (จนบางครั้งผมสบถคำหยาบว่า “เมิ่งโง่เปล่าว่ะ” ) เป็นต้น   โดยส่วนตัวผมชอบอีกหนึ่งผลงานของคนเขียนเรื่อง Boku wa Mari no Naka มากกว่า (มีแปลไทยแล้ว) ซึ่งความจริงคนเขียนมีผลงานหลายเรื่องก่อนหน้า ซึ่งทุกเรื่องดราม่า ปวดตตับไม่แพ้กัน

นอกเหนือจากนั้นจุดเด่นการ์ตูนเรื่องนี้ตัวละคร “นาคามูระ” ที่น่ารักน่าชัง ความโมเอะผสมกับความโรคจิต ความคิดที่ชั่วร้ายที่ดึงจิตใจของทาคาโอะตกสู่ความมืดอยางช้าๆ นั้นได้ตราตรึงคนดูมังงะให้ติดตามว่า สุดท้ายแล้วมังงะจะจบในรูปแบบใดระหว่างจบแบบแอปปี้หรือเรือสวย?

จำได้คร่าวๆ ว่าตอนที่มีการออกข่าวว่าจะมีการทำอนิเมะเรื่องนี้ออกมา หลายคนเข้ามาอวยเป็นอย่างมาก และคาดหวังสูงที่จะได้เห็นนางเอกซาเอะกิมีตัวตนจริงๆ โลดแล่นเสียที ต่อมาเมื่อเปิดภาพตัวอย่างมากก็พบว่าน่าสนใจเพราะว่าภาพบรรยากาศนั้นช่างเหมาะเหมือนในมังงะดี ไม่ว่าจะเป็น บ้านนอกที่ดูอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว บรรยากาศที่น่าขนลุก เพลงประกอบดูหลอนๆ ล้วนทำให้หลายคนอยากดูอนิเมะเรื่องนี้แบบจดใจจดจ่อ

โดยหารู้ไม่ว่าหายนะกำลังเกิดขึ้นในไม่ช้า....................

 

 

 

หลายวันต่อมา ระหว่างที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นั้น ก็มีคนมาบอกผมว่า Aku no Hana ฉายแล้ว (หนอนนั้นแหละ) และเขาก็โพสภาพหนึ่งที่ผมตกตะลึง ได้  (ภาพที่สองด้านบน) ซึ่งเป็นภาพของนางเอกนาคามูระรูปร่างหน้าตาที่ไม่โมเอะเลย หน้าตาอย่างกับตัวประกอบบ้านๆ ที่น่าเกลียด เหมือนยัยตุ่มใส่แว่น ตอนแรกผมไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ นึกว่าเป็นมุกจาก  1 เมษายน วันคนโง่ แต่เมื่อลองเข้าไปหาข้อมูล และไปดูอนิเมะตอนแรกก็รู้ซึ้งเลยว่าภาพนี้เป็นของจริง

อนิเมะนั้นพูดตามตรงว่าฉากหลังและบรรยากาศนั้นงามหยดย้อย สีสันงดงาม ความระเลียด มุมมองคล้ายกับภาพยนตร์ บรรยากาศและเสียงประกอบแบบนี้แหละใช่เลย Aku no Hana แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เปิดตัวละครหลักๆ ของเรื่องออกมา ผมแทบอ้าปากค้าง ตัวละครนั้นแตกต่างจากต้นฉบับในมังงะชนิดที่หลายคนรับไม่ได้ เพราะตัวละครไม่มีความโมเอะชวนหลงใหลเลยแม้แต่น้อย

และเมื่ออนิเมะเรื่องนี้โลดแล่นมาได้สักพัก บอร์ดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไทยและเทศก็สั่นสะเทือน ด้วยเสียงด่าทอผู้กำกับเรื่องนี้ว่ามิ่งบ้าเปล่า คิดอะไรอยู่ ถึงทำแบบนี้ พวกเอ็งดูถูกโมเอะเหรอ ถึงได้ปฏิเสธรากเหง้าของโมเอะ ลายเส้นแบบนี้น่ะทำเป็นภาพยนตร์ไม่ดีกว่าเหรอ ฯลฯ สารพัดที่จะด่าและประชด (จนกลายเป็นมุกล้อเลียนที่ฮ่ามากในเวลานี้) มีเม้นหนึ่งตลกดี คือเม้นท้าให้โรสลิขสิทธิอนิเมะเรื่องนี้ไปครอง เพราะเป็นอนิเมะที่คนกล่าวถึงมาก และค่าลิขสิทธิ์น่าจะถูกชนิดเหมือนแจกฟรีด้วย.........

ก่อนอื่นขอบอกว่าอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้ใช้ลายเส้นจากการวาด แต่เป็นการใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า ว่า rotoscope สำหรับคนที่ไม่รู้จักว่า rotoscope คืออะไรนั้น มันก็คือเทคนิคการทำอนิเมโดยใช้วีดิโอที่ถ่ายจากคนจริงๆเป็นต้นแบบทำให้ภาพที่ได้ออกมานั้นดูสมจริงที่สุด ความจริงเป็นเทคนิคที่มีมานานแล้ว และหากทำเจ๋งจริงภาพจะออกมาเนียนและสวยงามกว่านี้ แต่ในอนิเมะนั้นภาพคนย่ำแย่ ไม่เนียนเลย ความละเอียดของตัวละครไม่มี (ทั้งๆ ที่ฉากหลังสวยงามแท้ๆ ) นอกจากนี้ปากก็ไม่ตรงกับเสียงพากย์ การเคลื่อนไหวก็ไม่ได้เนียน พร้อมกับสั่นตลอดเวลา และที่สำคัญ สเน่ห์ของตัวละครแทบไม่มีเลย ขนาดพระเอกหลายคนยังแซวเลยว่าหน้าเหมือนโน๊ต อุดม

เออ...ลืมไป Les Fleurs du Mal (The Flowers of Evil) หรือดอกไม้แห่งความชั่วร้าย ซึ่งหมายถึง มวลดอกไม้ที่บานอยู่ในความ สกปรก ความชั่ว เป็นบทกวีแต่งโดยกวีชาวฝรั่งเศสคือ Charles Baudelaire's  ซึ่งกวีบทนี้ถูกแบนในสมัยนั้น เพราะขัดกับศีลธรรมจรรยาอย่างแรง เนื้อหาของบทกวีนั้นเน้นกล่าวถึงผู้หญิงที่มีความงามภาพลักษณ์ภายนอก อารมณ์ความเศร้าโศก  หรือ ความคิดด้านลบ ดังนั้นอารมณ์ของการ์ตูนก็คือความกดกัน แต่อนิเมะนั้นกลับใช้ความหลอน ราวกับหนังผีของญี่ปุ่น เพลงเปิดเพลงปิดหลอน (แต่ผมปวดประสาทแถนกับเสียงที่ไม่ไพเราะเสียเลย) ตรงจุดนี้ทำให้หลายคนรับไม่ได้เหมือนกัน


 

 

หลังจากนั้นเรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ทางอนิเมที่จะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาตร์เลยก็ว่าได้ กับ Aku no Hana ฉบับอนิเมที่ทำเอาคนดูทั่วโลกช็อคและทนรับไม่ได้กับการใช้ rotoscope มาทำอนิเมตลอดทั้งเรื่องจนทำให้หน้าตาของตัวละครทั้งหมดในเรื่องดูสมจริงเหมือนมนุษย์จนน่ากลัว

เบื้องหลังของเรื่อง ผู้กำกับเรื่องนี้คือนากาฮามะ ฮิโรชิ (ผลงานอดีต Mushishi) ได้ออกมาสัมภาษษณ์ว่าคนเขียนการ์ตูนมังงะเรื่องนี้เห็นด้วยกับการทำภาพดังกล่าว อีกทั้งความปรารถนาของเขาก็คือการทำให้อนิเมสามารถทิ้งรอยบาดแผลเป็นให้กับคนดูได้

แน่นอนว่าตอนนี้ผู้กำกับสร้างรอยบาดแผลเป็นแก่คนดูเป็นที่เรียบร้อย (ในหลายๆ ความหมาย) จนหลายคนยอมแพ้การ์ตูนเรื่องนี้ไปแล้ว แม้แต่บางคนสาปส่งเรื่องนี้ว่า “ไปตายซะ”

อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนที่ติดตามอนิเมะเรื่องนี้อยู่ และมีบางคนออกมาแสดงความเห็นด้านบวกอนิเมะเรื่องนี้ด้วย โดยแสดงความเห็นว่าเป็นอนิเมะที่ทำออกมาดี เพราะเป็นอนิเมะกล้าคิดกล้าทำ ทำลายขนบวัฒนธรรมโมเอะ ไม่สนกระแสตลาดแต่อย่างใด ส่วนใหญ่เรามักดูอนิเมะดูที่ภาพมากกว่าดูที่เรื่องราวหรือศิลปะที่ถ่ายทอดออกมาจนลืมแก่นแท้ของอนิเมะ หลายคนอวยตัวละครเวอร์ จนไม่ดูที่เนิ้อหาสิ่งที่อนิเมะที่สื่อออกมา การที่ Aku no Hana ทำภาพออกมาแบบนี้เหมือนกับสื่อว่ามันเป็นอนิเมะนอกรีต ต่อด้านสังคม ที่ต้องการบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครที่มีความเหมือนมนุษย์ มันไม่ใช่การ์ตูนขยะที่หลายคนดูถูก ทมันคิออนิเมะงานฮาร์ต หนังคัลด์ ที่บอกเล่าเรื่องราวอย่างราวอย่างยอดเยี่ยม

แน่นอนว่าคำชมส่วนน้อยนี้ไม่ได้ทำให้หลายคนเปลี่ยนใจมากนัก แถมโต้กลับว่ามิ่งดูถูกโมเอะเหรอ หาว่าโมเอะเป็นของโหลใช่เปล่า แถมดูถูกคนเขียนว่ามังงะเอ็งลายเส้นตัวละครโมเอะฉันถึงได้ติดตามถึงทุกวันนี้ หากลายเส้นเหมือนอนิเมะน่ะ เอาปืนมาจ่อหัวก็ไม่ดูหรอก อนิเมะน่ะหน้าตาตัวละครอย่างกับมนุษย์ต่างดาว ลายเส้นต่างจากมังงะอย่างกับฟ้ากับเหว หากโมเอะน่าจะติดตาม แต่ทำแบบนี้รับไม่ได้เฟ้ย

(แนะนำว่าใครไม่ชอบโมเอะดูอนิเมะเรื่องนี้เลย)

จากนั้นต่างฝ่ายก็เถียงกันดุเดือด ซึ่งมันเป็นปัญหา เพราะมันเป็นเรื่องของความชอบและไม่ชอบในเรื่องเดียวกัน เหมือนคนไม่ชอบฮาเร็มและไม่ชอบฮาเร็ม คราวนี้มาถึงความเห็นของบ้างครับ ผมเคยพูดแล้วใช่เปล่าว่าอนิเมะที่ดัดแปลงจากมังงะนั้น มันขึ้นอยู่กับการทำให้ตรงกับต้นฉบับ ยิ่งทำเหมือนต้นฉบับ ทำอารมณ์เหมือนต้นฉบับ ได้อารมณ์ของต้นฉบับตามความรู้สึกของคนดูมากเท่าไหร่ยิ่งได้รับผลตอบรับสูงเท่านั้น

หากมังงะ Aku no Hana ทำลายเส้นเหมือน I an Hero จะไม่มีใครออกมาด่าเลย แถมชมด้วยซ้ำ

มันจะไม่มีใครเถียงเลย หากอนิเมะเรื่องนี้เป็นอนิเมะออจินอล เป็นเรื่องทำขึ้นเพื่ออนิเมะโดยเฉพาะ แต่พอดี Aku no Hana เป็นอนิเมะที่ ดัดแปลงจากมังงะ และพอดีมังงะนั้นตัวละครโมเอะมากกว่า ผลก็คือเสียงก้มด่าของเหล่าแฟนผลงาน

โอเคตอนนี้อนิเมะเรื่องนี้กลายเป็นอนิเมะที่หลายคนพูดถึงไปแล้ว มันเป็นงานศิลปะที่หลายคนชอบ หลายคนที่ไม่เคยดูมังงะก็กลับไปดูมังงะว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้ผู้กำกับทำได้แล้ว แต่สิ่งที่ลืมคือเพราะมันฮาร์ตมันไม่ส่งผลดีต่อกำไรของตลาดมากนัก เมื่อปัจจุบันอนิเมะเรื่องนี้ดูที่ยอดขายดีวีดีและบลูเรย์เป็นหลัก ส่วนมากอนเมะที่ได้กำไรคือโมเอะและเซอร์วิส และคิดเหรอว่า Aku no Hana จะสามารถสร้างผลกำไรเจาะตลาดการ์ตูนอนิเมะได้

นี่คือยุคขายคาแร็คเตอร์ไม่ใช่ยุคขายไอเดียและศิลปะ

และเมื่อเทียบอนิเมะในซีซั่นนี้หลายเรื่อง Aku no Hana สามารถสู้เรื่องไหนได้บ้างในแง่ยอดจองบลูเรย์หรือบลูเรย์ หรือความสนุกในการดู Aku no Hana เป็นการ์ตูนที่แนวไม่ใช่ตลาด ยิ่งยากที่จะเจาะตลาดดึงดูคนเชื่ออยู่แล้ว คนที่ซื้อคือเหล่าแฟนที่ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้ตั้งแต่มังงะ แต่ภาพในอนิเมะเรื่องนี้ทำภาพออกมาหลายคนจะรับได้เหรอ ขนาดแฟนผลงานมังงะยังแทบส่ายหน้าเป็นแถวเลย

ในเมื่อกล้าทำก็ต้องยอมรับผลเสี่ยงตอกกลับมาเป็นทวีคูณด้วย....

Aku no Hana จึงเป็นอนิเมะที่ผมมองตรงไหนก็ไม่เห็นอนาคต บรรยากาศน่ะสวย แต่ตัวละครทำออกมาแบบนี้ ยากจะทำให้ผมอยากติดตามดู มันไม่ได้อยู่ที่โมเอะหรือไม่โมเอะหรอก มันอยู่ที่หน้าตาตัวละครมากกว่า ที่ไม่สวยเลย อย่างน้อยน่าจะคัดหน้าตัวละครหน่อย ดูยังไงเหมือนคนอายุมากแต่งชุดนักเรียน ดูแบบจริงจัง ดูแบบต้นฉบับน่ะไม่ไหว นอกเสียจากดูเพื่อเอาตลก เพราะหน้าตาทุเรศแบบนี้ ผมฮ่าดี ขอบอกว่าตอนนางเอกปรากฏครั้งแรกผมฮ่ามากกว่ากดดัน

 



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 เมษายน 2556 / 00:50

PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0
Doggiebiz 13 เม.ย. 56 เวลา 14:41 น. 17
7. Toaru Kagaku no Railgun S




กลับมาอีกครั้งกับเนื้อหาสปินออฟของเลเวล 5 อันดับที่ 3 ของโรงเรียนโทกิวะไดที่ผมชอบมากกว่าเนื้อเรื่องหลักเสียอีก  สำหรับตอนแรกนั้นทำออกมาได้ทั้งยอดเยี่ยมสมกับที่หวังไว้ และน่าเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน

ตอนแรกเริ่มต้นด้วยรูปแบบเก่า ๆ จากภาคที่แล้ว  ซึ่งคุณภาพอนิเมชั่นและการเล่าเรื่องก็ยังคงทำได้ดีอยู่เช่นเคย  เทคนิกหลาย ๆ อย่างในตอนนี้ผมรู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นมาก่อนในเรื่องอื่น  เช่นการใช้โทนสีแปลก ๆ ตอนที่บิริบิริเผชิญหน้ากับอันดับที่ 5 เหมือนกับที่เคยใช้ในเรื่อง AnoNatsu เป็นต้น  สาว ๆ ก็ทำออกมาได้น่ารักเหมือนเคย

แต่กระนั้นหลังจากดูตอนแรกจบมันก็อดทำให้ผมเป็นห่วงเสียมิได้  โดยเฉพาะขึ้นชื่อว่าเป็น J.C. Staff ด้วย  สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาสำหรับภาคอนิเมในบทต่อไปคือ เนื้อหาช่วงซิสเตอร์นั้นจะเน้นที่ตัวมิซากะเพียว ๆ โดยที่ทั้งคุโรโกะ ซาเต็น และอุยฮารุจะบทหายจ๋อยไปเลย  ซึ่งผมสงสัยมาตลอดว่าแบบอนิเมจะแก้ปัญหาอย่างไร  ซึ่งหลังจากดูตอนแรกผมก็ได้รับคำตอบแล้วว่า... พี่แกคงจะเล่นผสมเนื้อหาของสอง Arc ลงไปแหงมเลย  ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าแบบฉบับที่ดัดแปลงของ J.C. Staff จะไปรอดสักแค่ไหน  แต่หากดูจากประวัติที่ผ่านมาแล้วค่อนข้างน่าเป็นห่วง


8. Ore no Imouto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai




ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น ย่าแว่น

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 14:42
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 14:43

PS.  de gustibus non est disputandum
0
หนอน(หมวกแดง) 13 เม.ย. 56 เวลา 14:42 น. 18


ถอดแว่นแล้วนารักอะ


ข่าวดี คือหากเราซื้อแผ่น BD ของเรื่องนี้ ภาพที่แท้จริงจะปรากฎนั้นคือภาพนี้




........

ปล.ผมโกหก

0
Prisma Dominatus 13 เม.ย. 56 เวลา 14:58 น. 19

@18
ถ้าท่านโกหก...ผมจะเอาค่าแผ่นส่งจดหมายแนบสำเนาใบเสร็จไปเคลม ข้อหาหลอกลวง
ผมล้อเล่นgเช่นกันครับ...เห็นข้อความที่ซ่อนไว้แล้วครับ


PS.  Do you know what "War" and "Law" have in common? It's not about who's right. It's about who's the winner.
0
cammy 13 เม.ย. 56 เวลา 15:10 น. 20

#19 อย่าไปว่าหนอนมันเลย เพราะมันอวยเรื่องนี้มาก มันเป็นแฟนพันธุ์ทางมังงะ พออนิเมะออกมามันชอบมากเลย บอกว่าพระเอกน่ารัก นางเอกก็น่าอวย

 ผมเองก็ชอบอนิเมะน่ะ เพราะตลกคลายเครียดดี นานแล้วไม่ได้ดูอนิเมะที่ฮ่าแบบนี้มาก่อน

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 เมษายน 2556 / 15:17


PS.  สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
0