Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์ตรงจากรุ่นพี่เภสัชมหิดล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

        พี่บอกตรงๆเลยว่าพี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความฝันอยากที่จะเป็น"นักธุรกิจ"ตั้งแต่พี่จำความได้แต่แล้วชีวิตพี่ก็เปลี่ยนไปเพราะว่าคำดูถูกของพี่ชายตอนที่พี่จะเลือกเรียนสายศิลป์  ทำให้พี่เปลี่ยนใจมาเรียนสายวิทย์ จากนั้นชีวิตของพี่ก็เปลี่ยนไปอีกครั้งนึงหลังจากที่พี่ได้ไปเรียนพิเศษกับอาจารย์เคมีชื่อดังแถวพญาไทกับฟิสิกส์ที่สอนโดยแพทย์ทำให้พี่อยากเรียนวิศวะเพราะทำคะแนนในวิชาฟิสิกส์กับเคมีได้ดีมากๆแล้วแต่พี่ก็เปลี่ยนใจอีกครั้งนึงเมื่อได้ไปเรียนชีวะกับหมอคนนึงที่พญาไทอีกเช่นกันมันทำให้พี่อยากที่จะเป็นแพทย์ขึ้นมาทันทีจนถึงม.5
       และแล้วเวลาสอบตรงก็มาถึงที่แรกที่พี่ไปสอบตรงคือคณะวิศวะโยธา มศว ซึ่งปีพี่สอบ800รับ10คนซึ่งเด็กเตรียมเยอะมากๆตอนไปสอบพี่เองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเก่งขนาดติดหรอกแต่แล้ววันประกาศผลพี่กลับมีชื่ออยู่คนที่6ซึ่งตอนนั้นเองทั้งตระกูลของพี่เองทุกคนก็บอกว่าให้เอาไปเลยซึ่งจริงๆแล้วพี่คิดว่าพี่ไม่ได้อยากเป็นวิศวะพี่ก็เลยสละสิทธิ์ไปตอนนั้นก็แอบเครียดอยู่ว่าถ้าไม่ติดที่อื่นจะทำไงดี(เภสัช มศว ไม่ให้เด็กกรุงเทพสอบครับก็เลยลองสนามด้วยคณะวิศวะ) แล้วจากนั้นพี่ก็ไปสอบGatPat ซึ่งคะแนนที่ปีได้ก็คือ Gat236.09  Pat1 100  Pat2 174 Pat3 173  (ตอนที่สอบPat1ทะเลาะกับอาจารย์ด้วยเพราะคุยกันเสียงดังไม่มีมารยาทในการคุมสอบเลยได้คะแนน้อยในรอบแรก  อิอิข้ออ้างชัดๆ) จากนั้นพอพี่เห็นคะแนนตัวเองแล้วพี่ก็รู้สึกเลยว่าโชคดีมากๆที่สละสิทธิ์วิศวะ มศว ไปเพราะคะแนนพี่ยืดวิศวะฬได้เลยด้วยซ้ำ(ถ้าฟังความเห็นคนอื่นมาเกินไปก็ไม่ดีนะครับกรณีนี้เป็นตัวอย่างเลยเพราะน้องๆทุกคนรู้อยู่แล้วว่าน้องน้องเป็นใครความสามารถอยู่ที่ระดับไหน"You must know who you are"ไม่มีใครรุ้จักตัวของเราดีไปกว่าเราเองหรอก จากนั้นพี่ก็ยืดรับตรงของเภสัช วลัยลักษณ์ ครับปรากฎว่าได้คะแนนเป็นอันดับ2ของคณะ แต่ก็สละสิทธิ์ไปอีกเพราะคิดว่าตัวเองทำได้ดีกว่านี้ แล้วจากนั้นก็สอบตรงศิลปากรรอบแรกซึ่งพี่ก็ติดอีกตามเคยแต่ก็สละสิทธิ์อีกเพราะเขาตัดสิทธิ์แอดมิชชั่นครับ คือตอนนั้นพี่รอแอด เภสัชฬกับมหิดล อยู่ครับ

       จากนั้นพี่ก็ไปสอบเภสัช หัวเฉียวครับซึ่งที่นี้เป็นที่แรกที่พี่เข้าไปสอบสัมภาษณ์เพราะพี่อยากเรียนเภสัชมากๆแล้วหัวเฉียวเขาไม่ตัดสิทธ์แอดมิชชั่นพี่ก็เลยมอบตัวไว้ก่อนครับ ซึ่งพี่ก็สอบได้ที่2ของคณะอีกตามเคย(ใครที่1ฟะจะฆ่า  อิอิ) แต่วันนั้นเป็นวันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตวันนึงเลยก็ว่าได้ครับคืออาจารย์เรียกพี่เข้าไปสัมภาษณ์อีกครั้งนึงหลังจากที่ทุกคนสอบสัมภาษณ์แล้วเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยหัวเฉียวให้เขียนจดหมายแนะนำตัวให้ทางคณะแต่มีพี่เขียนส่งคนเดียวเท่านั้น  พี่ก็เขียนไปว่า"พี่อยากเป็นนักธุรกิจเนี่ยแหละแต่ว่าอยากเรียนเภสัชเพราะว่าอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับยาครับ" ซึ่งพี่คิดว่าจริงๆแล้วสาเหตุของการที่ทำให้พี่ถูกเรียกเข้าไปสัมภาษณ์อีกรอบนั้นก็คือเขาน่าจะอยากให้ทุนพี่เพื่อเป็นอาจารย์สอนที่นั้นแต่พี่ก็บอกเขาไปตรงๆว่า"พี่อยากเป็นนักธุรกิจนะ"ทำให้หลุดทุนครับ แต่ก็มีสิทธิ์เข้าศึกษาที่หัวเฉียว จากนั้นพี่ก็ไปรับน้องที่หัวเฉียวบอกตรงๆสนุกมากครับเพราะช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตช่วงนึงเลยละครับ จนทำให้พี่เกือบลืมความฝันว่าพี่อยากเข้าเภสัชฬแล้วเรียนที่หัวเฉียวซะเลย แต่พี่เองก็เตรียมแผนสำรองไว้3ชั้นครับพี่กะว่าจะไปสอบเภสัช ศิลปากรรอบ2ไว้อีกทีแล้วก็แอดฬกับมหิดล ซึ่งผลแอดมิชชั่นประกาศก่อนวันสัมภาษณ์ศิลปากร1วัน แล้วผลแอดก็คือว่า!!!!!!"พี่ติดเภสัชมหิดลครับ" ทำให้พี่สละสิทธิ์ศิลปากรเป็นครั้งที่2  และเลือกที่จะเรียนเภสัชมหิดลครับ(ตอนแรกแอบเสียใจนิดๆที่ไม่ติดฬแต่พอเข้ามาเรียนที่มหิดลปุ๊บรุ้สึกว่าโชคดีมากๆที่ได้เรียนที่มหิดลครับ)  แต่พอเขามาเรียนก็มีอย่างนึงที่ทำให้พี่รู้สึกแย่เพราะความตั้งใจของพี่อยากนึงคืออยากเรียนเภสัชโดยที่สละสิทธ์แพทย์ครับ ซึ่งในปีแรกตอนม.6อะครับพี่สอบไม่ติดแพทย์เพราะหลายปัจจัยคือมีคนมาขายหอยแมลงภู่ตอนสอบเลขทำให้คิดเลขไม่ออก  จับเวลาวิชาเคมีผิดคิดว่าเลิกสอบบ่ายโมงเลิกเที่ยงครึ่งทำไม่ทันเลย  แล้วสุดท้ายตอนสอบความถนัดแพทย์ดันไปนั่งข้างๆคนที่น่ารักมากๆจนทำให้สติแตกตอนทำข้อสอบ!!!!!!โอ้ยแม่เจ้า!!!!  (ซวยหรือโง่วะเลยอดหล่อตอนเข้าไปเรียนเภสัชมหิดลเลยแบบ"เห้ยกุสละสิทธิ์หมอมานะ^^" แล้วความตั้งใจของพี่ก็ตามมาหลอกหลอนพี่ถึง1ปีเต็มเรื่องสอบแพทย์ไม่ติดทำให้ตอนพี่อยู่ปี1ต้องไปสอบแพทย์อีกครั้งนึงสอบแบบไม่อ่านอะไรไปเลยอะวันก่อนสอบไปเตะบอลกะรุ่นพี่ที่คณะด้วย555
     ปรากฎว่าคณะพี่ถึงคณะทันตะสงขลากับแพทย์รังสิตครับทำให้พี่หมดความกังวลในเรื่องนี้ไป(แม่งไม่หล่อและช้าไปปีนึงนะ)  ซึ่งตอนนี้พี่กำลังจะขึ้นปี2ที่คณะเภสัชมหิดลครับ  ที่เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังเพราะอยากให้น้องๆเป็นตัวของตัวเองเลือกคณะที่ตัวเองอยากเรียนเพราะเราจะต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิตครับ  อย่างเช่นว่าถ้าเกิดว่าน้องๆกลัวศพก็อย่าไปเรียนแพทย์เพราะพ่อแม่บอกว่าดี  ถ้าเกลียดยาอย่ามาเรียนเภสัช  ไม่อยากอยู่กับปากเหม็นๆอย่าไปเรียนทันตะ  กลัวแดดอย่าไปเรียนวิศวะ  พี่ขอยกคำพูดคำหนึ่งของสตีฟ จ็อป มาบอกน้องๆนะครับ"หางานของคุณให้เจอแล้วจากนั้นคุณจะไม่มีงานตลอดชีวิต"         
     จะแอดกันแล้วเลือกทางของตัวเองให้ดีๆนะครับเราต้องอยู่กับมันไปอีกนานอย่าเลือกเพราะเงินเยอะเลือกคณะเพราะคิดว่าเราชอบมันแล้วใครที่เลือกที่จะแอดเพราะมหาวิทยาลัยบอกตรงๆครับมันไม่ควรมหาลัยจะอยู่กับคุณแค่4-6ปีแต่วิชาชีพจะอยู่กับคุณตลอดชีวิตครับ   ถ้าใครจะซิ่วก็ขอแนะนำว่ารีบทำเลยครับถ้าคุณคิดว่ามันดีเพราะบางครั้งตอนม.6เราเองก็ยังไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรมารู้ตอนเรียนไปแล้วว่าไม่ชอบ
3สิ่งเปลี่ยนชีวิตเคยได้ยินกันไหมครับ
1.คณะที่เลือกเรียน
2.งานที่เลือกทำ
3.คู่ครอง
                                              ขอให้โชคดีครับทุกคน                        
----------------------------------------------  Kokutera-------------------------------------------------

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

อยากเป็นหมอยา 31 ม.ค. 58 เวลา 23:33 น. 8

โอ้ยยยยยพี่เป็นคนที่เก่งมากๆๆ อยากคุยอยากปรึกษากับพี่มากๆเลยค่ะ พอจะไลน์หรือเฟสไหมค่ะ ถามป่านนี้นานไปไหม5555555555 พี่เป็นไอดอลของหนูเลยนะเนี่ยเยี่ยม


0
เจ้าหญิงไส้ติ่งรั่ว 5 ธ.ค. 59 เวลา 18:23 น. 9

ขอบคุงค่าาามีความรู้มากขึ้นเยอะเลยอยากเข้าเภสัชที่มหิดลมากๆเลยค่ะตอนนี้อยู่ม.1 เทอม2 ล่ะว่าจะเตรียมไว้ก่อนเดี๋ยวไม่มีความรู้ไปต่อสู้กับคนอื่นเข้าตอนนี้ก้อกำลังปั่นงานให้ ม.1ผ่านไปด้วยดีเพราะเทอมแรกแย่มากแต่ตอนนี้ปรับตัวเข้ากับ รร. ใหม่ได้ล่ะ

0