[ ถาม ] ชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ช่วยหน่อยสิฮะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คือว่าอย่างนี้นี้นะคะคือเราสงสัยว่า
ชาวคริสต์นิกาย นิกายโปรเตสแตนท์ กับ โรมันคาทอลิก เเตกต่างกันอย่างไร เเล้วเเต่ละนิกายจะมุ่งมั่นปฏิบัติไปสู่อะไรคะ
-เเล้วส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะนับถือนิกายไหนมากกว่ากัน
- เล้วก็พีธีกรรมที่ทำกันนี่เหมือนกันหรือเปล่าคะพิธีกรรมทางศาสนาของเเต่ละนิกาย
จะเป็นเเบบไหนเหรอคะทำอะไรบ้างอย่างไรช่วยอธิบายหน่อยนะคะ
- เเล้วการใช้คัมภีร์หรือคำเพลงสรรเสริญพระเจ้าหรือว่าเพลงที่ใช้
จะเหมือนกันหรือเปล่าหรือเเตกต่างกันยังไง ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ
ช่วยตอบหน่อยนะคะ
24 เม.ย. 56 เวลา 14:20 น.
495
views
6 ความคิดเห็น
ศาสนาคริสต์ ก้อมีความเชื่อหลักอยู่ที่ พระเยซูคริสต์เป็นหลักจ้าา คือ เชื่อว่า มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาป และเราไม่สามารถทำดีด้วยตัวของเราเองเพื่อไปสวรรค์ได้ เราจะสามารถไปสวรรค์ได้โดยการเชื่อว่า พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าและมนุษย์และยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน และสามารถช่วยเราไปสวรรค์ได้
แต่ความแตกต่างระหว่าง นิกายโรมันคาทอลิก กับ นิกายโปเตสแตนต์คือ
นิกายโรมันคาทอลิก จะเชื่อว่า เราจะสื่อสารกับพระเยซูโดยตรงไม่ได้ จะต้องผ่านพระแม่มารีย์
นิกายโปเตสแตนส์ จะเชื่อว่า เราจะสื่อสารกับพระเยซูได้โดยตรงเลย
คนไทยนับถือนิกายไหนมากกว่าไม่แน่ใจเหมือนกัน
พิธีกรรมกับเพลงก้อไม่เหมือนกัน จะมีความแตกต่างกัน เพราะมีความเชื่อที่ต่างกัน
ส่วนพระคัมภีร์ก้อมี 1 เล่มที่ใช้เหมือนกัน คือ พระคัมภีร์(HOLY BIBLE) แต่รู้สึกว่าคาทอลิกจะมีใช้อีกเล่มเสริมด้วย
** ไม่รู้ว่าเราตอบครบตามที่ต้องการไหม ถ้าอยากถามเพิ่ม ทักเพิ่มที่ facebook เราก้อได้นะ ที่ amtida sawattabovorn น้า
PS. oilio
2.น่าจะนิกายโรมันคาทอลิกมั้งคะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
3.น่าจะเหมือนกันในบางพิธีค่ะ แต่เท่าที่ดูนิกายโรมันคาทอลิกจะมีพิธีเยอะกว่านิกายโปรเตสเตนท์
4.พระคัมภีร์น่าจะเหมือนกันค่ะแต่ต่างกันที่จำนวนของพันธสัญญาเดิม ส่วนเพลงสรรเสริญของคาทอลิกไม่แน่ใจว่าใช้เหมือนกันรึเปล่า เท่าที่รู้นิกายโรมันคาทอลิกจะมีบทสวดอยู่แล้วน่ะค่ะ ปล.เราโปรเตสเตนท์อ่ะ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องของนิกายโรมันคาทอลิก แหะๆ^^;
โปรเตสแตนท์ต่างจากคาทอลิกก็มีหลายเรื่องนะ
- โปรฯไม่มีนักบวช เพราะถือว่าบุคคลสามารถอ่านพระคัมภีร์เพื่อเข้าถึงพระเจ้าเองได้ แต่โปรฯจะมีศาสนาจารย์(เรียกว่าอาจารย์)เป็นผู้อุทิศตนเพื่อศาสนาครับ
- คาทอลิกมีนักบวช เป็นตัวกลางสื่อไปถึงพระเจ้า
- โปรฯถือศีล 2 ข้อส่วนคาทอลิกถือศีล 7 ข้อ
- โปรฯให้เคารพไม้กางเขนแบบเรียบ ๆ ไม่มีลายได้ แต่ไม่ให้เคารพรูปปั้นอื่นเด็ดขาดฃ
- คาทอลิกให้เคารพไม้กางเขนมีพระเยซูตรึงบนไม้กางเขนได้ เคารพรูปปั้นพระเยซูและพระแม่มารีย์ได้ แต่เคารพรูปปั้นอื่นไม่ได้เช่นกัน
- เรามุ่งไปสู่อาณาจักรของพระเจ้าเหมือนกันครับ แค่แนวทางบางอย่างที่ต่างกัน
ในประเทศไทยจะมีโปรเตสแตนท์มากกว่าคาทอลิก ดูได้จากคริสตจักรของโปรเตสแตนท์ที่มีอยู่ทั่วไปกับโบสถ์คาทอลิกก็ได้ครับ ที่จริงเซิร์ชหาจำนวนโบสถ์ของแต่ละนิกายในไทยดูก็ได้นะ จะชัดกว่าครับ เขาบอกเป็นจำนวนเลยล่ะ
-พิธีกรรมก็ต้องต่างกันสิจ๊ะ =w= โปรฯตัดพิธีกรรมที่ต้องอาศัยนักบวชในการประกอบพิธีกรรมออกหมดครับ ดังนั้นจึงเหลือศีลเพียง 2 ข้อไง (จากทั้งหมด 7 ข้อ)
- และสุดท้าย...ผมเป็นโปรเตสแตนท์ ไม่อาจตอบได้ว่าคาทอลิกใช้เพลงสรรเสริญแบบไหนเพราะอาจารย์ผมไม่ให้เข้าไปในโบสถ์คาทอลิค รู้แต่ว่าโปรเตสแตนท์ก็ร้องสรรเสริญด้วยเพลงสตริงค์ธรรมดานี่ล่ะครับ หาฟังในยูทูบได้เลยนะ เพลงเยอะครับ ส่วนพระคัมภีร์...ไม่แน่ใจ ผมไม่ได้สมาคมทางฝั่งคาทอลิกเลยไม่รู้เรื่องฝั่งนั้นเท่าไหร่ ชาวคาทอลิกน่าจะตอบได้ดีกว่าครับ
คอมเม้นนี้ดีมากๆเลยค่ะ แต่จะมีส่วนที่บอกว่า"เคารพไม้กางเขนแบบนั้นแบบนี้" จริงๆแล้วเคารพไม่ได้นะคะ แต่เราใส่จี้ไม้กางเขน หรือแสดงสัญลักษณ์กางเขน เพื่อเป็นเครื่องประดับ เพื่อให้คนภายนอกรู้ว่าเราคือลูกของพระเจ้า พวกเขาจะได้เห็นความดีของพระเจ้าผ่านชีวิตของพวกเรา แล้วจะได้รู้ว่า "อ๋อออ...เพราะเราเป็นคริสเตียนนี่เอง ถึงว่าล่ะทำไมดีจัง" เราจะเป็นดั่งแสงสว่างให้กับคนอื่นที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า เป็นส่วนหนึ่งให้พวกเขากลับใจมารับเชื่อพระเยซูค่ะ
ปอลิง.ชาวโปรเตสแตนท์จะให้เกียรติพระแม่มารีย์ในฐานะที่เป็นมารดาของพระเยซูครับ
นั่นมันคาทอลิคค่ะ ชาวคริสเตียนไม่นับถือพระเเม่มารีย์ค่ะ
สิ่งที่เหมือนกัน
1. เชื่อในพระเจ้าองค์เดียว ผู้สำแดงพระองค์เป็น พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ (เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนน้ำ มี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และไอ)
2. เชื่อว่าพระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า ที่ลงมาตายเพื่อไถ่บาปของมวลมนุษย์ทุกคนในทั้งให้พ้นจากกรรมเวรต่างๆ
3. เชื่อว่ามนุษย์เกิดและตายครั้งเดียวเท่านั้น
4. เราใช้พระคัมภีร์ 1 เล่มใหญ่มี 66 เล่มย่อย แบ่งเป็นภาคพันธสัญญาใหม่ 27 เล่ม และพันธสัญญาเก่า 39 เล่ม ฉบับภาษาไทยการใช้ภาษาอาจต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับการแปล แต่ความหมายใจความทั้งหมดมุ่งไปที่พระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์
5. เชื่อในหลักข้อเชื่อของอัครธรรมทูต
สิ่งที่ต่างกัน
1. คาทอลิกให้เกียรติและยกย่อง และเคารพนับถือเรียกว่าพระแม่มารีย์ม ส่วนโปรเตสแตนท์ จะเรียกว่านางมารีย์
2. ศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ของคาทอลิก มี 7 โปรเตสแตนท์มี 2 พิธีคือ บัพติสมา กับ มหาสนิท เพราะเป็นพิธีที่พระเยซูทรงกระทำ
3. การนมัสการแตกต่างกัน เนื่องจากการตีความหมายที่ต่างกัน
4. นักบวชในคาทอลิก ถือ พรหมจรรย์ มีการบวช เรียกว่า บาทหลวง หรือ สาธุคุณ ในโปรเตสแตนท์ไม่ถือว่าเป็นนักบวชแต่เรียกว่าผู้รับใช้พระเจ้า(เต็มเวลา) มีครอบครัวได้ มีศาสนศักดิ์เรียกว่า ศาสนาจารย์ ครูศาสนา
5. เพลงนมัสการใช้แตกต่างกัน เพลงนมัสการของคาทอลิกเน้นความเรียบง่ายไม่หวือหวา ใช้เครื่องดนตรีออร์แกนเท่านั้น โปรเตสแตนท์เพลงนมัสการมีหลายรูปแบบเพราะมีหลายคณะมากกว่า 300 คณะ ดังนั้นรูปแบบการนมัสการ เพลงที่ใช้ในการนมัสการก็มีหลายแบบ เช่น แบบ Hymn Gospel song ฯลฯ และใช้เครื่องดนตรหลากหลาย ตั้งแต่ เปียโนตัวเดียว กับจนถึงวงสตริงคอมโบ เป็นต้น
6. คาทอลิกมีพระคัมภีร์อีกฉบับ 1 คือเซปตัวจินท์ โปรเตสแตนท์มีเล่มเดียวดังกล่าวข้างต้น https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5
มีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต่างกัน เปรียบเหมือนวิธีการแสดงความรักของลูกๆแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน แต่เรามีพระเจ้า(พ่อ)องค์เดียวกันค่ะ
ปล.ไม่ใช่คาทอลิก คำตอบเกี่ยวกับคาทอลิกอาจไม่ชัดเจน
กราบเรียนท่านผู้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ หรือผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ว่าควรจะมาเป็นคริสเตียนดีหรือไม่
ก่อนอื่นต้องไปดูที่มากันก่อน เราจึงจะรู้ว่าทำไมจึงมีการแยกเป็นสองคณะใหญ่และย่อยอีกเยอะมาก
นิกายโปรเตสแตนต์มีกำเนิดมาจากความคิดเห็นที่แตกแยกกันในเรื่องความเชื่อและการใช้ชีวิตของคริสตชน โดยคำว่า "โปรเตสแตนต์" (Protestant) แปลว่า "ผู้ประท้วง" หรือ "ผู้คัดค้าน" แยกตัวออกมาจากคริสตจักรโรมันคาทอลิกในปี ค.ศ. 1529 โดย มาร์ติน ลูเทอร์ และผู้สนับสนุน ในช่วงที่คริสตจักรคาทอลิกเกิดปัญหาขึ้นมากมาย
มาร์ติน ลูเทอร์ (10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1483-1546) เกิดที่เมืองไอสเลเบน รัฐซัคเซิน ประเทศเยอรมนี บิดามารดาเป็นคนยากจนและไม่ได้รับศึกษา เมื่อเติบโตขึ้นก็ไม่มีเงินจะให้ลูเทอร์เข้าโรงเรียน ลูเทอร์ต้องเที่ยวร้องเพลงขอทานตามบ้านต่าง ๆ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนในโรงเรียน เผอิญมีหญิงมั่งคั่งคนหนึ่งเกิดความเมตตาได้ช่วยเหลือให้เข้ามหาวิทยาลัยเมื่อ ค.ศ. 1500
ลูเทอร์ได้ศึกษาเทววิทยา วรรณคดี ดนตรี และที่เอาใจใส่มากที่สุดคือกฎหมาย บิดาของลูเทอร์ก็ปรารถนาให้ลูเทอร์เป็นนักกฎหมาย แต่เมื่ออายุ 22 ปีเกิดเหตุการณ์หนึ่งคือเพื่อนของลูเทอร์ถูกฆ่าตายในระหว่างดวลต่อสู้กับบุคคลหนึ่ง ทำให้ลูเทอร์กลายเป็นคนกลัวผี ขี้ขลาด ต่อมาอีก 2-3 วันลูเทอร์จะเข้าประตูมหาวิทยาลัย ก็เกิดฝนตกฟ้าร้อง ฟ้าผ่ามาใกล้ ๆ ลูเทอร์ได้อธิษฐานว่า ถ้ารอดพ้นไปได้จะบวชเป็นพระ
ต่อมาในไม่ช้าในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1505 ลูเทอร์ก็เข้าไปอยู่ในอารามคณะออกัสติเนียนในมหาวิทยาลัยวิทเทนแบร์ก ตั้งหน้าศึกษาคัมภีร์ไบเบิลอย่างเอาใจใส่ เป็นคนเฉลียวฉลาด พูดเก่ง จนในที่สุดก็ได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้น
ในปี ค.ศ. 1511 ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในอาราม ลูเทอร์ได้มีโอกาสไปแสวงบุญที่โรม และได้พบเห็นชีวิตของพระสันตะปาปาโอ่โถงหรูหราจนเกือบไม่มีกษัตริย์องค์ใดสู้ได้ และเห็นว่านักบวชไม่ควรดำเนินชีวิตอย่างนั้น
จนในปี ค.ศ. 1515 สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 อยากจะสร้างโบสถ์ให้งดงามสมตำแหน่งจึงได้ตั้งบัญญัติใหม่ว่า ถึงแม้จะทำความผิดเป็นอุกฉกรรจ์มหันตโทษเพียงไร ก็สามารถล้างบาปได้โดยซื้อใบยกโทษบาป และบรรดานายธนาคารทั้งหลายในประเทศต่าง ๆ ก็ตกลงเป็นเอเยนต์รับฝากเงินที่คนทั้งหลายจะชำระล้างบาปโดยไม่ต้องส่งไปกรุงโรม ลูเทอร์ได้เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกประชุมผู้รู้ทั้งหลายมาปรึกษา โต้เถียงกับบัญญัติใหม่
จนเดือนตุลาคม ค.ศ. 1517 ลูเทอร์ได้นำประกาศที่เรียกว่า ”ญัตติ 95 เรื่อง” (The 95 Theses) ไปปิดไว้ที่ประตู้หน้าโบสถ์เมืองวิทเทนแบร์ก ซึ่งมีเนื้อหาประณามการขายใบไถ่บาปของสมเด็จพระสันตะปาปา และการกระทำที่เหลวแหลกอื่น ๆ ความคิดของลูเทอร์ได้รับการสนับสนุนจากมหาชนเยอรมันเป็นจำนวนมาก แล้วแพร่หลายออกไปทั่วยุโรป
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สมเด็จพระสันตะปาปาและฝ่ายมุขนายกไม่พอใจ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1520 ลูเทอร์ได้รับหมายขับออกจากศาสนจักร (Excommunication) ทำให้ลูเทอร์ต้องออกจากเขตปกครองของจักรพรรดิ ไปหลบที่วอร์มส์พร้อมกับผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ที่นั่นท่านได้แปลพันธสัญญาใหม่เป็นภาษาเยอรมัน และได้เขียนงานเกี่ยวกับพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งมิสซาและพิธีศักดิ์สิทธิ์ (Sacraments) ซึ่งลูเทอร์ตั้งใจที่จะให้ชาวบ้านซึ่งไม่เข้าใจภาษาละติน สามารถเข้าถึงหลักคำสอนและมีส่วนร่วมในพิธีกรรมต่าง ๆ ได้ (ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย แต่มีที่วิกีพีเดียอธิบายยังไม่หมด โดยเฉพาะในเรื่องของหลักคำสอนที่แตกต่าง)
นี่คือที่มาของคำว่า "โปรเตสแตนต์" (Protestant) แปลว่า "ผู้ประท้วง" หรือ "ผู้คัดค้าน"
ส่วนความแตกต่างนั้นเรามาดูกันว่าโดยหลักๆมีอะไรบ้างในหัวข้อถัดไป เพราะมันยาวมากขอรับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?