Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

9 เรื่องขำขัน ฮาๆ คลายเครียด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ไอติม แปะก้วย
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนคนหนึ่ง ณ. MKสาขาหนึ่ง 
เพื่อน : โทษค่ะ...ขอไอติมแปะก้วย 5 ที่ 
พนักงานทำหน้างงๆ และถามกลับ 
พนักงาน : แน่ใจเหรอครับว่าเอา 5 ที่ ?? 
เพื่อน : ใช่ค่ะ (งงๆเหมือนกัน ทำไมมันถาม) 
พนักงาน : ไม่รับเป็น Banana Split แทนเหรอครับ ? 
เพื่อน : ไม่เอาค่ะ (เอ๊ะ ชักยังไง) จะเอาไอติมแปะก้วย 
พนักงาน หายไปประมาณ 10 นาที กลับมาพร้อมกับ 
กล้วยหั่นเป็นแว่นๆ แปะรอบไอติม 
"ไอติมแปะก้วย" (ไม้โท) 
ถ้าออกเสียงว่า "ไอติมแปะก๊วย" (ไม้ตรี) 
ก็คงได้กินสมใจไปแล้วล่ะ

ผู้หญิงกับกีฬา
ตอนสาวๆ ก็จะมีหน่มๆ มาจีบเยอะเปรียบได้กับฟุตบอล 
โตขึ้นอีกก็เปรียบได้กับบาสฯ ผู้เล่นเริ่มลดลง 
โตมาอีกก็เป็นปิงปองตบกันตบไปกันมา"แกเอาไป" "ฉันไม่เอา"อะไรอย่างเนี้ยนะ 
แต่พอมีใครคนหนึ่งได้ไปก็จะเป็นกอล์ฟ จะตีอยู่คนเดียวแล้วก็จะพูดว่า"ไปไกลๆ"

เห็นเป็น ผี
มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนขับรถแท๊กซี่ วันหนึ่งเขากำลังขับรถกลับบ้าน เขาเห็นผู้หญิงสาวสวยผมยาวโบกรถเพื่อให้ไปส่ง ขณะที่เขาขับรถไปเขาได้ดูกระจกรถ เขาไม่เห็นเธอ เขาเบรกรถกระทันหัน เขาขับรถต่อไปเรื่อยๆ พอหันมาอีกที เขาเห็นเธอมีเลือดออกจมูก หัวแตก เขาจอดรถทันทีเขาลงจากรถกราบไหว้อย่างหวาดกลัว เธอออกมาจากรถแล้วพูดว่า"นี่! ฉันไม่ได้เป็นผีสางนางไม้นะยะ! ฉันกำลังมัดเชือกรองเท้าอยู่คุณก็เล่นเบรกรถกระทันหันหัวฉันแตกเลยรีบพาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! เธอทำเอาเขาใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลยทีเดียว

ใครจะรู้ว่า ตด
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งหลงใหลในรสชาติของถั่วอบเป็นอันมาก 
แม้ว่าเขาจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้าง ยามเมื่อต้องปล่อยแก๊สออกมา 
แต่เขาก็ยังชอบที่จะกินถั่ว แล้ววันหนึ่งเขาพบหญิงสาวสวยถูกใจมากนางหนึ่ง 
หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันพอควร เขาก็ตกหลุมรักหล่อน 
และตกลงใจปลงใจที่จะแต่งงาน ตามด้วยการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ 
ที่จะเลิกกินถั่ว!! เพราะขืนยังกินอยู่ ต้องอายสาวเจ้าน่าดู๊... 
หลังจากงานแต่งงานผ่านไป 2-3 เดือนวันหนึ่งระหว่างทางขับรถบ้าน 
หลังเลิกงานรถเจ้ากรรมเกิดเสีย... เนื่องจากบ้านของเขาอยู่ในชนบท 
จึงไม่มีรถประจำทางไปถึง หนทางเดียวที่จะกลับบ้านได้ คือ ต้องเดิน 
เขาจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยา เพื่อบอกว่า เขาอาจจะถึงบ้านช้าสักหน่อย เพราะรถเสีย 
และต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้าน 
เขาเดินผ่านร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง แล้วกลิ่นถั่วอบก็โชยออกมายั่วใจเขา 
เขาจึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า กว่าจะเดินกลับถึงบ้านก็ต้องใช้เวลา 
และพลังงานมากน่าดู น่าจะหาอะไรรองท้องสักหน่อย ว่าแล้วเขาจึงเดินเข้าไปสั่ง 
ถั่วอบ 3 ถุงใหญ่พิเศษ! เพื่อเดินกินระหว่างทางกลับบ้านเขาเดินไปกินไป 
อย่างเพลิดเพลินจนถั่วหมดโดยไม่รู้ตัว และเขาก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ 
ครั้นเมื่อกดกระดิ่งปุ๊บ ภรรยารักเดินออกมาเปิดประตู พร้อมกับพูดว่า 
“สวัสดีค่ะ ที่รัก.. 
น้องมีสิ่งจะทำให้พี่ประหลาดใจอย่างที่สุดในอาหารมื้อเย็นวันนี้เลยละค่ะ” 
ว่าแล้วเธอ ก็ควักผ้าปิดตามาปิดฉับลงที่ใบหน้าสามี 
และจูงเขามานั่งที่เก้าอี้ที่หัวโต๊ะอาหาร และให้เขาสัญญาว่าจะไม่ใช้แทคติคใดๆ 
แอบมองอย่างเด็ดขาด ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่า 
มีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในท้องของเขา 
โชคช่วยที่เผอิญมีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น 
ภรรยาที่กำลังจะเอื้อมมือมาเปิดผ้าผูกตา จึงบอกว่า 
ขอเวลาไปรับโทรศัพท์ประเดี๋ยว แต่พี่ห้ามแอบดู ก่อนน้องจะกลับมานะ เธอย้ำ 
แล้วก็ไป... ขณะที่ภรรยาไปรับโทรศัพท์ เขาก็ฉวยโอกาสนี้ ผายลม 
เสียงของมันไม่ดังนัก แต่เหม็นราวไข่เน่าทีเดียว 
จนแม้แต่ตัวเขาเองยังต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไล่กลิ่น หลังจากรู้สึกว่า ดีขึ้น 
ลมระลอกใหม่ก็เริ่มบุกอีก แน่นอน เขาเริ่มผายลมระลอกใหม่ 
เสียงมันดังราวเครื่องยนต์ดีเซลกำลังทำงาน 
กลิ่นแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก...เขาจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไปมาอย่างรวดเร็ว 
โดยหวังว่า จะทำให้กลิ่นมันจางลงไปบ้าง แต่ไม่ทันไร ข้าศึกชุดใหม่ก็มาถึง 
คราวนี้แย่ยิ่งกว่า 2 ครั้งแรก หน้าต่างสั่นไหวเพราะแรงลม จานบนโต๊ะเขย่า 
และนาทีต่อมาดอกไม้บนโต๊ะก็เ่ยวเฉา ก็เพราะสัญญาว่าจะไม่เปิดตา 
เขาจึงไปไหนไม่ได้ นอกจากต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ รอจนกว่าภรรยาจะกลับมา 
เขานั่งรออยู่ราว 10 นาที และเป็น 10 นาที ที่มีกิจกรรมแบบว่าตลอด ผายลม.. 
โบกผ้าเช็ดหน้า.. ซ้ำไปซ้ำมา.. เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาวางโทรศัพท์ 
เขาจึงรีบพับผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋า และยิ้มให้ภรรยาอย่างไร้เดียงสา ราวกับว่า 
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภรรยากล่าวขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย และถามว่า 
เขาไม่ได้แอบดูแน่นะ... เมื่อเขายืนยัน เธอจึงปลดผ้าผูกตาให้เขา 
พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันชวนตื่นเต้นว่า “Surprise” 
เป็นช่วงเวลาอันน่าสะพึงกลัว... ที่เขาพบว่า มีแขกนั่งอยู่รอบโต๊ะกินข้าว 12 
คน เพื่อร่วมงาน Surprise party ในงานวันเกิดของเขานั่นเอง

ซิปใครหว่า
มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะขึ้นรถเมล์ในตอนเช้าซึ่งคนก็เบียดเสียดยัดเยียดกันมาก ผู้หญิงคนนั้นนุ่งกระโปรงสั้นและคับมาก เธอก้าวขึ้นบันไดลำบากจึงเอื้อมมือไปปลดซิปกระโปรงด้านหลัง เธอพยายามรูดซิปประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วผู้ชายข้างหลัง ก็ดันก้นผู้หญิงคนนั้น ให้ขึ้นไปบนรถเมล์ ด้วยความรักนวลสงวนตัว เธอจึงต่อว่าผู้ชายคนนั้นว่า คุณถือดียังไงมาดันก้นฉัน ผู้ชายคนนั้นก็ตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า แล้วคุณล่ะ ถือดียังไงมารูดซิปกางเกงผม

นรก ตามใจ
มีชายคนหนึ่งในขณะที่เขามีชีวิตอยู่นั้นเข้าทำแต่ความเลว และเขา ก็ได้ตกนรกในที่สุด และเขาก็ได้พบกับยมบาล 
ยมบาล : เจ้าชอบกินเหล้ามั้ย 
ชายหนุ่ม : ชอบสิ ข้านี่แหละคอทองแดง 
ยมบาล : งั้นวันจันทร์ จะเป็นวันที่เจ้าจะได้กินเหล้าทั้งวัน 
ชายหนุ่ม : ดีวุ้ยตกนรกแล้วยังมีเหล้ากินอีก ดีดี 
ยมบาล : แล้วเจ้าเล่นการพนันมั้ยล่ะ 
ชายหนุ่ม : เล่นสิ ข้านี่ทำคนอื่นหมดตัวมาหลายคนแล้ว 
ยมบาล : งั้นวันอังคาร เป็นวันเล่นการพนันทั้งวัน 
ชายหนุ่ม : นรกอารายวะมีการพนันให้เล่นด้วย ดีจิง 
ยมบาล : แล้วเจ้าชอบเสพยามั้ย 
ชายหนุ่ม : ชอบสิ ทั้งยาอี ยาบ้า โคเคน ข้าลองมาหมดแล้ว 
ยมบาล : งั้นวันพุธเจ้าได้เสพยาทั้งวัน 
ชายหนุ่ม : ดีใจจังโว้ย !!!! นรกอารายวะดีกว่าสวรรค์อีก 
ยมบาล : แล้วเจ้าชอบเกย์มั้ย 
ชายหนุ่ม : ไม่ล่ะข้านี่ man 100% เต็ม 
ยมบาล : งั้นวันพฤหัสหนักหน่อย 
ชายหนุ่ม ซีดดดด......

ข่าวดีข่าวร้าย
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คณะศัลยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาขาคนไข้ออกเสียงข้างหนึ่ง เพราะขานั้นเป็นโรคร้าย หากปล่อยทิ้งไว้จะลามไปส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย และเป็นอันตรายต่อชีวิต 
หลังจากพักฟื้นอยู่ 2 วัน คนไข้มีอาการดีขึ้นมากหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แพทย์ผ่าตัดคนไข้เข้ามาเยี่ยมคนไข้ 
" วันนี้ผมมีข่าวดีมาบอกคุณ เอ้อ มีทั้งข่าวดีและข่าร้อยนะ คุณจะให้ผมบอกข่าวดี หรือข่าวร้ายก่อนล่ะ" 
" คุณหมอบอกข่าร้ายก่อนเถอะครับ แล้วค่อยบอกข่าวดี" 
" ข่าร้ายก็คือว่า ทางคณะแพทย์ของเราต้องขอโทษคุณเป็นอย่างมาก ที่เราตัดขาของคุณออกผิดข้าง คือที่จริง เราพบว่าขาข้างซ้ายเป็นโรค แต่เราตัดขาข้างขวาออก" 
คนไข้หน้าซีดเซียวแต่มีความหวัง " แล้วข่าวดีหละครับหมอ" 
" ข่าวดีนะครับ ขอแสองความยินดีกับคุณจริง ๆ คือเราได้อ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ขาของคุณ แล้วพบว่าโรคร้ายนั้น ไม่ใช่เป็นของคุณแต่เป็นของคนไข้ห้องข้าง ๆ ของคุณนี่แหละ 
ขาข้างซ้ายของคุณที่เจ็บ ๆ ปวด ๆ นะไม่เป็นไรหรอก ผม ให้ยาไปทานที่บ้าน วัน สองวันก็หาย

บุญมีแต่ตาไม่ถึง
ในหมู่บ้านเล็กๆเห่งหนึ่งมีบาทหลวงนับถือในพระผู้เป็นเจ้ามาก 
วันหนึ่งน้ำท่วมใหญ่ทุกคนในหมู่บ้านต่างอพยพหนี แต่บาทหลวงยังสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า 
เมื่อระดับน้ำสูง มีชายคนหนึ่งบอกให้บาทหลวงขึ้นมาบนเรือ บาทหลวงปฎิเสธ แล้วบอกว่า 
"ท่านไปก่อนเถิด แล้วพระเป็นเจ้าจะมาช่วยเราเอง" 
หลังจากนั้นมีชายอีก 2 คนมาช่วยบาทหลวง แต่บาทหลวงยังคงยืนกรานเช่นเดิมจนบาทหลวงจมน้ำตาย และไปหาพระเป็นเจ้าบนสวรรค์ 
บาทหลวงถามพระเป็นเจ้าว่า
"ทำไมพระองค์ไม่ช่วยกระผมครับ" 
พระเป็นเจ้าตรัสตอบไปว่า " ข้าส่งคนไปช่วยเจ้าแล้ว แต่เจ้า...ปฏิเสธ " 
















































ครูสอนศิลปะ
ครูกำลังสอนวิชาศิลปให้นักเรียนห้องหนึ่ง โดยบอกให้นักเรียนทุกคนวาดรูปอะไรก็ได้ส่งครู 
เมื่อนักเรียนทุกวาดรูปเสร็จก็ส่งครู ยกเว้น นายนักเรียนคนหนึ่งส่งกระดาษเปล่า 
ครู : ทำส่งกระดาษเปล่า 
นร. : ผมไม่ส่งกระดาษเปล่านะครับ 
ผมวาดรูปวัวกินหญ้า ครับ 
ครู : ไหนล่ะวัวของเธอ 
นร. : คือวัวมันกินหญ้าอิ่มไปแล้วครับ 
ครู : แล้วไหนล่ะหญ้าของเธอ 
นร.: วัวมันกินหญ้าหมดไปแล้วครับ 
ครู: เริ่มปวดหัว เลยส่งกระดาษเปล่ากับคืนนักเรียน 
แล้วบอกว่า งั้นเธอไปตามวัวกลับมาส่งครู 
เดี๋ยวนี้ 
นร.: รับกระดาษกลับมา แล้วเอาดินสอวาดวนไป 
วนมาหลายๆรอบ แล้วส่งคืนครู 
ครู : สงสัยถามว่าก็ไม่เห็นมีวัวเลย 
นร.: มันเป็นภาพ สามมิติครับ

PS.  

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

กะไมทาคะเนียร์ 30 เม.ย. 56 เวลา 01:19 น. 2
ตอน ใครจะรู้ว่า ตด เเรกๆไม่อยากอ่านหรอก เเต่อ่านไปเรื่อยๆเเล้วมันร่ายยาวเกินเลยน่าอ่านเหมือนนิยาย 
พออ่านจบกรี๊ดเเตกเลยค่ะท่าน ไม่คิดว่าจะจบแบบนี้ ชอบมากๆค่ะ ><


ให้คะแนนเรื่องนี้ 

PS.  คนที่มองเพียงรอยยิ้มของเขา ก็เปลี่ยนวันที่หมองหม่นมาเป็นวันที่สดใส //2554
0