Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 เรื่อง ที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับกางเกงยีนส์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



1. มีมานานมาก
ตั้งแต่สมัย ค.ศ 1800 กว่าๆ คือแรกเริ่ม มันก็ถูกใส่กันเฉพาะคนงาน
เพราะมันถูกตัดจากผ้าใบเรือ เพื่อให้ชาวกะลาสี ใสกันแดด ต้นกำเนิด
อยู่อิตาลีนะ ไำม่ใช่้อเมริกา หลายคนเข้าใจว่าอังกฤษ หรือเยอรมัน ริเริ่มก่อน

2. ไม่ใช่ของถูก
คือบางที หลายคนเห็นเด็กช่างใส่กัน ก็คิดว่าตัวแค่ หลักร้อย แต่มันไม่ใช่นะ
กางเกงยีนส์ หากแพงไม่แพง คุณดูจากเนื้อผ้าเลย ถ้าใส่แล้วดูดี ใส่แล้วขึ้น
ราคาน่าจะหลายพัีน เป็นหมื่นก็มี แต่เริ่มต้นหากเอาพอสวยก็ พันกว่าบาทแล้ว

3. ไม่ต้องซักบ่อย
คือเป็นอีกข้อนึงที่ ต้องย้ำเลยครับ ซักอาทิตย์ละครั้งก็พอ หากใส่ครั้งแรก
ก็เอาตากแดดไว้นะครับ หรือกางเอาไว้ หากจะใส่ให้ไม่อับ ก็ทาแป้งตรง
ง่าม ตรงตูดเยอะๆ และพอถอดก็สะบัดๆ วางไว้ใส่ได้อีก 3 - 4 ครั้งเลยเชียว

4. มันจะช่วยซอฟไม่เห็นเกิดแผลได้ ตอนคุณหกคะล้ม
อันนั้น ดีนะ เพราะหากคุณใส่ผ้าบาง บาง แม่แต่ตอนขี่รถ
ถ้าล้มลงที่ความเร็ว 60-80 ก็จะแค่ถลอกๆ..หากไม่เจอสิบล้อเสนซะก่อนอ่านะ

5. นั่งบนพื้นปูนได้แบบสบาย ไม่เจ็บก้นมาก เพราะผ้ายีนส์จะหนากันปูนดูดตูด

6. คุณจะดูดีขึ้นอีก 20% หากใส่ยีนส์ คู่กับร้องเท้ายี่ห้อรูปดาว ( ไม่จำเป็นต้อง
ใส่คู่เสื้อลาย เป็นเด็กช่างนะ คุณใส่คู่กับเสื้อยืด เท่ห์ๆ หรือ เสื้อเชิ๊ตก็ดูดีั

7. หมากัดไม่เข้า ผมเคยลองใส่แล้ว พูดเดิ้ลแอบมากัดขา ไม่เข้าครับ!! ผ้าหนามาก

8. มีหลายแบบ หลายสี เลือกได้ว่าจะใ่ส่เท่ห์ หรือใส่ ให้ไฮโซ

9. ใส่นอนได้ หน้าหนาว จะไม่หนาวขา

10. ข้อนี่สำคัญ ห้ามแอบตด!! เพราะกลิ่นมันเหมือนจะไม่มี
แต่ตอนเราต้องไปเจอคนอื่นหลัีงจากตด กลิ่นมันจะลอยออกมา
ตามขากางเกง หรือ ขอบเอวโดยรอบ มันซึมผ่านผ้าไม่ได้ 555




ใครกดโหวตให้ลุง ขอให้ได้แฟนหน้าตาดี
เปลี่ยนแฟนใหม่ ได้แฟนดูดีกว่าเดิม
หากชอบหน้าเลว ก็ขอให้ได้หน้าโหดๆ


เพี้ยง!!!


PS.  หากวันใดที่คุณเริ่มชอบผม ผมก็จะถอยออกมาจากคุณทีละนิด - ชอบเขียนนิยาย~

แสดงความคิดเห็น

>

21 ความคิดเห็น

kwangkoyha 23 พ.ค. 56 เวลา 16:56 น. 1

หึ หึ หึ มาโหวดให้ลุงตอนสุดท้ายนี่แหล่ะ 


PS.  เราหลงรักนิยาย Yaoi เข้าไส้ติ่งเลยล่ะ แต่เราไม่ได้ประหลาดนะเว้ย อย่ามองเช่นนั้น
0
BEAMY 23 พ.ค. 56 เวลา 17:31 น. 3

จะไม่ตดตอนใส่กางเกงยีนส์เเล้ว(เเต่ถ้าตัวละร้อยเก้าเก้าคงตดได้ใช่ไหมคะ)5555

0
♕ I'm Run Devil Run ♕ 23 พ.ค. 56 เวลา 17:38 น. 4

Oh mu gosh 


PS.  I'm SONE & V.I.P อ่านทุกเรื่องที่มี TOPFANY เป็นพระเอกนางเอกและอ่านทุกเรื่องที่มีอิปู่ท๊อป ชอบทุกอย่างในตัวของ BIGBANG & SNSD เข้าใจป่ะ เนี่ยคู่จิน
0
^^" 26 พ.ค. 56 เวลา 13:57 น. 10

ข้อ2เนี่ยจริงคะที่่เด็กช่างใส่กันไม่นะใส่กันตัวละพักกว่าบาทขึ้นทั้งนั้น
ปล.อย่าสงสัยพี่เปนเด็กช่าง

0
Tanachi 26 พ.ค. 56 เวลา 15:57 น. 11
ปูนดูดตูด

//รับพรแล้วแอบหนีไปอย่างว่องไว
PS.  เมื่อก่อนเคยรักเธอมากเท่าไหร่.... ตอนนี้ก็ยังรักเธอมากเท่านั้น.....
0
EkOkc 26 พ.ค. 56 เวลา 20:13 น. 13

ลองให้พิทบูลกัดดู มันเข้าอ่ะ


PS.  Follow,Add @EkOkc ยินดีพร้อมคุย,ให้คำปรึกษาทุกคนครับ
0
piepudding 27 พ.ค. 56 เวลา 09:25 น. 15

ยีนส์มีกำเนิดมาหลายร้อยปีแล้วอย่างที่ตั้งข้อสงสัยจริง ๆฝรั่งเรียกยีนส์ว่า บลูยีนส์ (Blue Jeans) เพราะยีนส์มีสีโทนน้ำเงินมาแต่กำเนิด ไม่ได้มีสีต่าง ๆ ให้เลือกอย่างในปัจจุบัน ผ้ายีนส์ขนานแท้เป็นผ้าฝ้ายลายสอง ใช้สำหรับตัดเย็บเสื้อผ้าใส่ทำงานที่ต้องการความทนทาน ผ้ายีนส์ทั่วไปทอจากเมืองเจนัว (Genoa) ประเทศอิตาลี แต่ช่างทอผ้าชาวฝรั่งเศสเรียกเมืองนี้ว่า แชน(Genes) อันเป็นที่มาของคำว่า ยีนส์ นั่นเอง อย่างไรก็ดีต้นกำเนิดของยีนส์นั้นดำเนินควบคู่มากับประวัติของช่างเสื้อวัย ๑๗ ที่ชื่อลีวาย สเตราส์ (Levi Strauss) ซึ่งอพยพมาอยู่ซาน ฟรานซิสโก ในยุคเฟื่องของเหมืองทอง ราวทศวรรษที่ ๒๓๙๓-๒๔๐๓ แต่แทนที่เขาจะร่วมเสี่ยงโชคขุดทองดังวัตถุประสงค์ของผู้คนทั้งหลายที่หลั่งไหลเข้าชาน ฟรานซิสโก ด้วยสายตานักธุรกิจที่กว้างไกลเขากลับนำผ้าใบมาขาย ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดในช่วงนั้นมาก นักขุดทองพากันซื้อผ้าใบมาใช้เป็นเต็นท์และใช้คลุมรถ ความฉลาดเฉลียวของพ่อหนุ่มคนนี้ยังมองเห็นช่องทางอื่นอีก เขารู้ว่าคนที่ทำงานในเหมืองต้องการกางเกงที่เหมาะกับลักษณะงานลุยมาก เขาจึงนำผ้าใบซึ่งทนต่องานหนัก ๆ ได้ดีมาใช้ตัดเย็บเสื้อกางเกง ถึงแม้กางเกงจากฝีมือของเขาจะหยาบและผ้าก็กระด้าง แต่บรรลุความต้องการใช้งานได้ดียิ่ง ทำให้สเตราส์กลายเป็นช่างที่ทุกคนเรียกหา ในต้นทศวรรษที่ ๒๓๙๔-๒๔๐๔ เขาได้เปลี่ยนจากผ้าใบมาใช้ผ้าฝ้ายที่มีเนื้อนุ่มกว่า เป็นผ้าที่ทอจากเมืองนีม ประเทศฝรั่งเศส ชาวยุโรปเรียกผ้าชนิดนี้ว่า แซร์จ เดอ นีม (Serge de nimes) แต่คนอเมริกันเรียกเป็น เดนิม (denim) นายสเตราส์ยังค้นพบด้วยว่า สีของผ้าเดนิมซึ่งเป็นสีฟ้าครามช่วยปิดบังรอยเปื้อนดินได้ดี ดังนั้นสินค้าปรับปรุงใหม่ของเขาจึงขายดิบขายดีไม่ยิ่งหย่อนกว่าเก่า พวกคาวบอยซึ่งต้องการกางเกงที่กระชับจะใช้วิธีใส่กางเกงแล้วลงไปแช่ในรางซึ่งใส่น้ำไว้ให้ม้ากิน จากนั้นจึงลุกมานอนตากแดดให้ผ้าเดนิมหดเข้ารูป ถึงผ้าเดนิมจะขาดยาก แต่ลูกค้าคนงานในเหมืองก็ยังติว่า ฝีเย็บกระเป๋ามักจะแตกเพราะต้องใส่เครื่องมือหนัก ๆ สเตราส์จึงแก้ปัญหาด้วยการหยิบยืมความคิดของช่างเสื้อชาวยิว-รัสเซีย ผู้หนึ่ง ชื่อ จาคอบ ดาวิส ในปี ๒๔๑๖ เขาจึงใช้หมุดทองแดงติดย้ำที่ตะเข็บกระเป๋า และที่ฐานของสาบกางเกงเพื่อกันตะเข็บปริขณะนั่งร่อนทอง แต่หมุดทองแดงก็ก่อปัญหาใหม่ขึ้น เพราะคนงานเหมืองไม่ค่อยอินังขังขอบกับการสวมกางเกงใน เวลานั่งผิงไฟยามค่ำคืนหมุดทองแดงจะร้อนและไหม้ผิว การใช้หมุดทองแดงจึงต้องเลิกราไป ส่วนหมุดที่กระเป๋าใช้กันอยู่จนถึงปี ๒๔๘๐ จึงเลิกไปด้วยเหตุผลคนละอย่าง กล่าวคือ สมัยนั้นเด็ก ๆ ใส่ชุดยีนส์ไปโรงเรียน หมุดที่กระเป๋าหลังจึงขูดขีดโต๊ะเก้าอี้ไม้เป็นรอย ต้องซ่อมแซมกันเป็นการใหญ่ยีนส์ปรากฏหลักฐานการเข้าสู่วงการแฟชั่นในปี ๒๔๗๘ ด้วยการลงโฆษณาในหนังสือโว้ค เป็นภาพผู้หญิงที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงสังคมสองคนสวมยีนส์ทรงคับ ดึงแนวโน้มแฟชั่นให้เป็น 'เท่แบบตะวันตก' แต่ความคลั่งไคล้ในช่วงนั้นยังไม่อาจเทียบกับช่วงทศวรรษที่ ๒๕๑๓-๒๕๒๓ ซึ่งมีการประชันขันแข่งการออกแบบชุดยีนส์กันอย่างเข้มข้น กางเกงยีนส์จึงเปลี่ยนหน้าที่จากการรับใช้งานหนักมาเป็นกางเกงสำหรับใส่เล่น จนถึงกับทำให้เกิดอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้าน ยีนส์ยี่ห้อดังบางยี่ห้อขายได้ถึง ๒๕๐,๐๐๐ ตัวต่อสัปดาห์ทีเดียว “ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”

0
xaou057 29 พ.ค. 56 เวลา 14:15 น. 20

พวกพี่ ใส่ กัน ตัวละ 1000 นะ อย่าพยายาม ดูถูก เราเลยยยยย

ปล.เด็กช่างเจ้าครับ

0