Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ัมัทรี (ช่วยถอดความหน่อยนะคะ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อถ มหาสตฺโต สมเด็จพระราชสมภาร เมื่อได้สดับสารพระมัทรีเธอแสนวิโยคโศกศัลย์
สุดกําลัง ถึงแม้นจะมิตรัสแก่นางมั่งจะมิเป็นการ จําจะเอาโวหารการหึงเข้ามาหักโศกให้เสื่อมลง
จึ่งเอื้อนโองการตรัสประภาษว่า นนุ มทฺทิดูกรนางนาฏพระน้องรัก ภทฺเท เจ้าผู้มีพักตร์อัน
ผุดผ่องเสมือนหนึ่งเอานํ้าทองเข้ามาทาบทับประเทืองผิว ราวกะว่าจะลอยลิ่วเลื่อนลงจากฟ้า
ใครได้เห็นเป็นขวัญตาเต็มหลงละลายทุกข์ ปลุกเปลื้องอารมณ์ชายให้เชยชื่น จะนั่งนอนเดินยืน
ก็ต้องอย่าง วราโรหา พร้อมด้วยเบญจางคจริตรูปจําเริญโฉมประโลมโลกล่อแหลมวิไลลักษณ์
ราชปุตฺตี ประกอบไปด้วยเชื้อศักดิ์สมมุติวงศ์พงศ์กษัตรา เออก็เมื่อเช้าเจ้าจะเข้าป่าน่าสงสาร
ปานประหนึ่งว่าจะไปมิได้ ทําร้องไห้ฝากลูกมิรู้แล้ว ครั้นคลาดแคล้วเคลื่อนคล้อยเข้าสู่ดง
ปานประหนึ่งว่าจะหลงลืมลูกสละผัว ต่อมืดมัวจึ่งกลับมา ทําเป็นบีบนํ้าตาตีอกว่าลูกหาย
ใครจะไม่รู้แยบคายความคิดหญิง ถ้าแม้นเจ้าอาลัยอยู่ด้วยลูกจริงๆ เหมือนวาจา ก็จะรีบกลับเข้า
มาแต่วี่วันไม่ทันรอน เออนี่เจ้าเที่ยวพเนจรนอนตามสนุกใจ ชมนกชมไม้ในไพรวัน สารพันที่จะมี
ทั้งฤๅษีสิทธ์วิทยาธรคนธรรพ์เทพารักษ์ผู้มีพักตร์อันเจริญ เห็นแล้วก็น่าเพลิดเพลินไม่เมินได้ หรือ
เจ้าปะผลไม้ประหลาดรสสดสุกทรามเสวยไม่เคยกิน เจ้าฉวยชิมชอบลิ้นก็หลงฉันอยู่จึ่งช้า อุปมา
เสมือนหนึ่งภุมรินบินวะว่อน เที่ยวซับซาบเอาเกสรสุคนธมาเลศ พบดอกไม้อันวิเศษต้องประสงค์
หลงเคล้าคลึงรสจนลืมรัง เข้าเถื่อนเจ้าลืมพร้าได้หน้าแล้วลืมหลังไม่แลเหลียว เที่ยวทอดประทับ
มากลางทาง อันว่าพระยานางสิเป็นหน่อกษัตริย์ จะไปไหนก็เคยมีแต่กลดกั้น พานจะเกรงแสง
พระสุริยันไม่คลาเคลื่อน เจ้ารักเดินด้วยแสงเดือนชมดาวพลาง ได้นํ้าค้างกลางคืนชื่นอารมณ์
สมคะเน พอมาถึงก็ทําเสขึ้นเสียงเลี่ยงเลี้ยวพาโลว่าลูกหาย เออนี่เจ้ามิหมายว่าใครๆ ไม่รู้ทัน
กระนั้นกระมัง หรือเจ้าเห็นว่าพี่นี้เป็นชีอดจิตคิดอนิจจัง ทิ้งพยศอดอารมณ์เสีย เจ้าเป็นแต่เพียง
เมียควรหรือมาหมิ่นได้ ถ้าแม้นพี่อยู่ในกรุงไกรเหมือนแต่ก่อนเก่า หากว่าเจ้าทําเช่นนี้ กายของ
มัทรีก็จะขาดสะบั้นลงทันตา ด้วยพระกรเบื้องขวาของอาตมานี้แล้วแล

สา มทฺทีส่วนสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี เมื่อได้สดับคําพระราชสามีบริภาษณานาง
ที่ความโศกก็เสื่อมสร่างสงบจิตเพราะเจ็บใจ จึ่งก้มพระเศียรลงกราบไหว้แล้ววันทนาพลาง นางจึ่ง
ทูลสนองพระราชบัญชาว่า พระพุทธเจ้าข้า ควรมิควรสุดแท้แต่จะทรงพระกรุณาโปรด ที่โทษานุโทษ
เป็นล้นเกล้า ด้วยข้าพระพุทธเจ้ากลับมาเวลาคํ่าทั้งนี้เพราะเป็นกระลีขึ้นในไพรวัน พฤกษาทุก
สิ่งสารพันก็แปรปรวนทุกประการ ทั้งพื้นป่าพระหิมพานต์ก็ผัดผันหวั่นไหวอยู่วิงเวียน เปลี่ยนเป็น
พยับมืดไม่เห็นหน ข้าพระบาทนี่ร้อนรนไม่หยุดหย่อนแต่สักอย่าง แต่เดินมาก็บังเกิดประหลาดลาง
ขึ้นในกลางพนาลี พบพญาราชสีห์สองเสือทั้งสามสัตว์สกัดหน้าไม่มาได้ ต่อสิ้นแสงอโณทัยจึ่งได้คลาเคลื่อน ใช่จะเป็นเหมือนพระองค์ดํารินั้นก็หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า ตั้งแต่เกล้ากระหม่อมฉัน
ตกมาเป็นข้าน้อย พระองค์เห็นพิรุธร่องรอยร้าวรานที่ตรงไหน ทอดพระเนตรสังเกตไว้แต่ปางก่อน
จึงเคืองค่อนด้วยคําหยาบยอกใจเจ็บจิตจนเหลือกําลัง พระคุณเอ่ยจะคิดดูมั่งเป็นไรเล่า ว่ามัทรีนี้
เป็นข้าเก่าแต่ก่อนมาดั่งเงาตามพระบาทาก็เหมือนกัน นอกกว่านั้นที่แน่นอนคือนางไหนอันสนิท
ชิดใช้แต่ก่อนกาล ยังจะติดตามพระราชสมภารมาบ้างละหรือ ได้แต่มัทรีที่แสนดื้อผู้เดียวดอก ไม่รู้
จักปลิ้นปลอกพลิกไพล่เอาตัวหนี มัทรีสัตยาสวามิภักดิ์รักผัวเพียงบิดาก็ว่าได้ ถึงจะยากเย็นเข็ญใจ
ก็ตามกรรม วนมูลผลหาริยา อุตสาหะตระตรากตระตรําเตร็ดเตร่หาผลาผลไม้ ถึงที่ไหนจะ
รกเรี้ยวก็ซอกซอนอุตส่าห์เที่ยวไม่ถอยหลัง จนเนื้อหนังข่วนขาดเป็นริ้วรอย โลหิตไหลย้อยทุก
หย่อมหนาม อารามจะใคร่ได้ผลาผลไม้มาปฏิบัติลูกบํารุงผัว ถึงกระไรจะคุ้มตัวก็ทงยากน่าหลากใจ
อกของใครจะอาภัพยับพิกลเหมือนอกของมัทรีไม่มีเนตร น่าที่จะสงสารสังเวชโปรดปรานีว่ามัทรี
นี้เป็นเพื่อนยากอยู่จริงๆ ช่างค้อนติงปริภาษณาได้ลงคอไม่คิดเลย พระคุณเอ่ยถึงพระองค์จะ
สงสัย ก็นํ้าใจของมัทรีนี้กตเวทีเป็นไม้เท้าก้าวเข้าสู่ที่ทางทดแทน รามํ สีตาวนุพฺพตา อุปมา
เหมือนสีดาอันภักดีต่อสามีรามบัณฑิต ปานประหนึ่งว่าศิษย์กับอาจารย์ พระคุณเอ่ยเกล้า
กระหม่อมฉานทําผิดแต่เพียงนี้ เพราะว่าล่วงราตรีจึ่งมีโทษ ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาโปรด
ซึ่งโทษานุโทษกระหม่อมฉันมัทรี แต่ครั้งเดียวนี้เถิด
เมื่อสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี กราบทูลพระราชสามีสักเท่าใดๆ ท้าวเธอจะได้ปราศรัย
ก็ไม่มี พระนางยิ่งหมองศรีโศกกําสรดสะอึกสะอื้น ถวายบังคมคืนออกมาเที่ยวแสวงหาพระลูกรัก
ทุกหนแห่ง กระจ่างแจ้งด้วยแสงพระจันทร์ส่องสว่างพื้นอัมพรประเทศวิถี นางเสด็จจรลีไป
หยุดยืนในภาคพื้นปริมณฑลใต้ต้นหว้า จึ่งตรัสว่า อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา ควรจะสงสารเอ่ยด้วย
ต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทองแสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องนํ้าค้างที่ขังให้ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งนํ้าพลอยพร้อยๆ อยู่พรายๆ
ต้องกับแสงกรวดทรายที่ใต้ต้นอร่ามวามวาวดูเป็นวนวงแวว ดั่งบุคคลเอาแก้วมาระแนงแกล้งมา
ปรายโปรยโรยรอบปริมณฑลก็เหมือนกัน งามดั่งไม้ปาริชาตในเมืองสวรรค์มาปลูกไว้ ลูกรักเจ้าแม่เอ่ย
เจ้าเคยมาอาศัยนั่งนอน ประทับร้อนสําราญร่มรื่นๆ สํารวลเล่นเย็นสบาย พระพายรําเพยพัดมา
ฉิวเฉื่อย เรไรระรี่เรื่อยร้องอยู่หริ่งๆ แต่ลูกรักของแม่ทั้งชายหญิงไปอยู่ไหนไม่เห็นเลย มหานิโคฺรธ-
ชาตํ อนิจจาๆ เอ่ยเห็นแต่ไทรทองถัดกันไป กิ่งก้านใบรากห้อยยื่นระย้า เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้า
ชวนกันแกว่งไกว แล้วเล่นไล่ปิดตาหาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส อิมา ตา โปกฺขรณี รมฺมา
เจ้าเคยมาประพาสสรงสนานในสระศรี โบกขรณีตําแหน่งนอกพระอาวาส นางเสด็จลีลาศไป
เที่ยวเวียนรอบ จึ่งตรัสว่านํ้าเอ๋ยเคยมาเปี่ยมขอบเป็นไรจึ่งขอดข้นลงขุ่นหมอง พระพายเจ้าเอ๋ย
เคยมาพัดต้องกลีบอุบล พากลิ่นสุคนธ์ขจรรสมารวยรื่น เป็นไรจึ่งเสื่อมหอมหายชื่นไม่เฉื่อยฉํ่า
ฝูงปลาเอ๋ยเคยมาผุดคลํ่าดําแฝงฟอง บ้างก็ขึ้นล่องว่ายอยู่ลอยเลื่อนชมแสงเดือนอยู่พรายๆ
เป็นไรจึ่งไม่ว่ายเวียนวง นกเจ้าเอ่ยเคยบินลงไล่จิกเหยื่อทุกเวลา วันนี้แปลกเปล่าตาแม่แลไม่เห็น
พระลูกเอ่ยเจ้าเคยมาเที่ยวเล่นแม่แลไม่เห็นแล้ว โอ้แลเห็นแต่สระแก้วอยู่อ้างว้างวังเวงใจ
นางก็เสด็จครรไลล่วงตําบล เที่ยวค้นหาพระลูกตามลําเนาเนินป่า ทุกสุมทุมพุ่มพฤกษาป่าสูง
ยูงยางใหญ่ไพรระหง พนัสแดนดงเย็นยะเยือกเงียบสงัดเหงา ได้ยินแต่เสียงดุเหว่าละเมอ
ร้องก้องพนาเวศ พระกรรณเธอสังเกตว่าสองดรุณเยาวเรศเจ้าร้องขานอยู่แว่วๆ ให้หวาดว่า
สําเนียงเสียงพระลูกแก้วเจ้าขานรับพระมารดา นางเสด็จลีลาเข้าไปหาดู เห็นหมู่สัตว์จตุบาท
กลาดกลุ้มเข้าสุมนอน นางก็ยิ่งสะท้อนถอนพระทัยเทวษครวญเสด็จด่วนๆ ดะดุ่มเดินเมิลมุ่ง
ละเมาะไม้มองหมอบ แต่ย่างเหยียบเกรียบกรอบก็เหลียวหลัง พระโสตฟังให้หวาดแว่วว่า
สําเนียงเสียงพระลูกแก้วเจ้าบ่นอยู่งึมๆ พุ่มไม้ครึ้มเป็นเงาๆ ชะโงกเงื้อม พระเนตรเธอแลเหลือบ
ให้ลายเลื่อม เห็นเป็นรูปคนตะคุ่มๆ อยู่คล้ายๆ แล้วหายไป สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง
พระพักตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยนํ้าพระเนตรเธอโศกา จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนี้เอ่ยจะ
มิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งไปเสียแล้วหรือกระไรไม่รู้เลย พระพายรําเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่
เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดละห้อย ทั้งดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อยลงลับไม้ สุดที่แม่จะติดตามเจ้า
ไปในยามนี้ ฝูงลิงค่างบ่างชะนีที่นอนหลับ ก็กลิ้งกลับเกลือกตัวอยู่ยั้วเยี้ย ทั้งนกหกก็งัวเงียเหงา
เงียบทุกรวงรัง แต่แม่เที่ยวเซซังเสาะแสวงทกแห่งห้องหิมเวศ ทั่วประเทศทุกราวป่า สุดสายนัยนา
ที่แม่จะตามไปเล็งแล สุดโสตแล้วที่แม่จะซับทราบฟังสําเนียง สุดสุรเสียงที่แม่จะรํ่าเรียกพิไรร้อง
สุดฝีเท้าที่แม่จะเยื้องย่องยกย่างลงเหยียบดิน ก็สุดสิ้นสุดปัญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด จะได้
พานพบประสบรอยพระลูกน้อยแต่สักนิดไม่มีเลย จึ่งตรัสว่าเจ้าดวงมณฑาทองทั้งคู่ของแม่เอ๋ย
หรือว่าเจ้าทิ้งขว้างวางจิตไปเกิดอื่น เหมือนแม่ฝันเมื่อคืนนี้แล้วแล

แสดงความคิดเห็น

>

24 ความคิดเห็น

นุ่น 18 มิ.ย. 57 เวลา 22:17 น. 1

เมื่อสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี กรายทูลพระราชสามีสักเท่าใด ๆ ท้าวเธอจะได้ปราศรัยก็ไม่มี พระนางยิ่งหมองศรีโศกกำสรดสะอึกสะอื้น ถวายบังคมคืนออกมาเที่ยวแสวงหาพระลูกรักทุกหนแห่ง กระจ่างแจ้งด้วยแสงพระจันทร์ส่องสว่างพื้นอัมพรประเทศวิถี นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพื้นปริมณฑลใต้ต้นหว้า จึ่งตรัสว่า ( อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา ) ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทอง แสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องน้ำค้างที่ขังให้ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งน้ำพลอยพร้อยๆพราย ๆ ต้องกับแสงกรวดทรายที่ใต้ต้นอร่ามวามวาวดูเป็นวงวนแวว ดั่งบุคคลเอาแก้วมาระแนงแกล้งมาโปรยโรยรอบปริมณฑลก็เหมือนกัน งามดั่งไม้ปริชาตในเมืองสวรรค์มาปลูกไว้ ลูกรัก เจ้าแม่เอ่ย เจ้าเคยมาอาศัยนั่งนอนประทับร้อนสำราญร่มรื่น ๆ สำรวลเล่นเย็นสบายพระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อยเรไรระรี่เรื่อยร้องอยู่หริ่ง ๆ แต่ลูกรักของแม่ทั้งชายหญิงไปอยู่ไหนไม่เห็นเลย ( มหานิโค.รธชาตํ ) อนิจจาเอ่ยเห็นแต่ไทรทองถัดกันไป กิ่งก้านใบรากห้อยยื่นระย้า เจ้าเคยมาห้อยโหนโยนชิงช้าชวนกันแกว่งไกว แล้วเล่นไล่ปิดตาเร้นแทบหลังบริเวณพระอาวาส (อิมาตา โปกฺขรณี รมฺมา ) เจ้าเคยมาประพาสสรงสนานในสระศรี โบกขรณีตำแหน่งนอกพระอาวาส นางเสด็จลีลาสไปเที่ยวเวียนรอบ จึ่งตรัสว่าน้ำเอ๋ยเคยมาเปี่ยมขอบเป็นไร จึ่งขอดขุ่นลงหมอง พระพายเจ้าเอ่ยเคยมาพัดต้องกลีบอุบล พากลิ่นสุคนธ์ขจรรสมารวยรื่นเป็นไรจึ่งเสื่อมหอมหายชื่นไม่เฉื่อยฉ่ำฝูงปลาเอ๋ยเคยมาผุดคล่ำดำแฝงฟอง บ้างก็ขึ้นล่องว่ายอยู่ลอยเลื่อยชมแสงเดือนอยู่พราย ๆ เป็นไรจึ่งไม่ว่ายเวียนวน นกเจ้าเอ่ยเคยบินลงไล่จิกเหยื่อทุกเวลา วันนี้แปลกเปล่าตาแม่แลไม่เห็น พระลูกเอ่ยเจ้าเคยมาเที่ยวเล่นแม่แลไม่เห็นแล้ว โอ้แลเห็นแต่สระแก้วอยู่อ้างว้างวังเวงใจ นางก็เสด็จครรไลล่วงตำบลเที่ยวค้นหาพระลูกตามลำเนาเนินป่า ทุกสุ่มทุมพุ่มพฤกษาสูงยูงยางใหญ่ไพรระหง พนัสแดนดงเย็นยะเยือกเงียบสงัดเหงา ได้ยินแต่เสียงดุเหว่าละเมอร้องก้องพนาเวศ พระกรรณเธอสังเกตว่าสองดรุณเยาวเรศเจ้าร้องขานอยู่แว่ว ๆ ให้หวาดว่าสำเนียงพระลูกแก้วเจ้าขานรับพระมารดา นางเสด็จลีลาเข้าไปดู เห็นหมู่สัตว์จตุบาทกลาดกลุ้มเข้าสุมนอน นางก็ยิ่งสะท้อนถอนพระทัยเทวษครวญเสด็จด่วน ๆ ดะดุ่มเดินเมิงมุ่งละเมาะไม้มองหมอบ แต่ย่างเหยียบกรอบก็เหลียวหลัง พระโสตฟังใหวาดแว่วว่าสำเนียงเสียงพระแก้วเจ้าบ่นอยู่งึม ๆ พุ่มไม้ครึ้มเป็นเงา ๆ ชะโงกเงื้อม พระเนตรเธอแลเหลือบให้ลายเลื่อมเป็นรูปคนตะคุ่ม ๆ อยู่คล้าย ๆ แล้วหายไป สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง พระพักตร์เธอฟูมฟองนองไปด้วยน้ำพระเนตรเธอโศกา จึ่งตรัสว่าโอ้โอ๋เวลาปานฉะนี้เอ่ยมิดึกดื่น จวนจะสิ้นคืนค่อนรุ่งเสียแล้วกระไรไม่รู้เลย พระพายรำเพยพัดมารี่เรื่อยอยู่เฉื่อยฉิว อกแม่นี้ให้อ่อนหิวสุดล่ะห้อย ทั้งดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อยลงลับไม้ สุดที่แม่จะติดตามเจ้าไปในยามนี้ ฝูงลิงค่างบ่างชะนีที่นอนหลับ ก็กลิ้งกลับเกลือกตัวอยู่ยั้วเยี้ย ทั้งนกหกก็งัวเงียเหงาเงียบทุกรวงรัง แต่แม่เที่ยวเซซังเสาะแสวงทุกแห่งห้องหิมเวศทั่วประเทศทุกราวป่า สุดสายนัยนาที่แม่จะตามไปเล็งแล สุดโสตแล้วที่แม่จะซับทราบฟังสำเนียง สุดสุรเสียงที่แม่จะร่ำเรียกพิไรร้อง สุดฝีเท้าที่แม่จะเยื่องย่องยกย่างลงเหยียบดิน ก็สุดสิ้นสุดปัญญาสุดหาสุดค้นเห็นสุดคิด จะได้พานพบประสบรอยพระลูกน้อยแต่สักนิดไม่มีเลย จึ่งตรัสว่าเจ้าดวงมณฑาทองทั้งคู่ของแม่เอย หรือว่าเจ้าทิ้งขว้างวางจิตไปเกิดอื่น เหมือนแม่ฝันเมื่อคืนนี้แล้วแล


ช่วยแปลหน่อยค่

2
แอปเปิ้ล40 15 พ.ย. 57 เวลา 13:06 น. 2

ถอด อถ มหาสตฺโต.....แล้วแล.
               เมื่อพระนางเสด็จกลับถึงพระอาศรมไม่เห็นสองพระกุมารจึงถามพระเวสสันดรแต่พระเวสสันดรไม่ทรงตอบและกล่าวตำหนิที่พระนางกลับมืดค่ำว่าที่ตอนก่อนไปทำเป็นร้องไห้ไม่อยากไป ทำพูดว่าห่วงลูกแต่พอได้เข้าไปในป่าก็หลงลืมลูกผัวกลับมาช้า และกล่าวต่อว่าคงจะไปพบกับสิ่งต่างๆที่อยู่ในป่าไม่ว่าจะเป็นผลไม้ พืชพรรณต่างๆแม้กระทั่งบรรดาฤาษี เทพารักษ์ต่างๆ โดยเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนผึ้งที่หลงดอมดมดอกไม้จนลืมรัง พอกลับมามืดค่ำไม่พบลูกก็ต่อว่าว่าลูกหาย  ซึ่งคำพูดต่อว่าทั้งหมดนั้นพระเวสสันดรทรงพูดขึ้นเพื่อให้พระนางเจ็บพระทัยจะได้คลายความทุกข์โศกถึงสองพระกุมาร สู้สู้

1
zeron 19 มิ.ย. 59 เวลา 13:32 น. 2-1

ถอดความตรงนี้ให้หน่อยสิครับ
อถ มหาสตฺโต สมเด็จพระราชสมภาร เมื่อได้สดับสารพระมัทรีเธอแสนวิโยคโศกศัลย์
สุดกําลัง ถึงแม้นจะมิตรัสแก่นางมั่งจะมิเป็นการ จําจะเอาโวหารการหึงเข้ามาหักโศกให้เสื่อมลง
จึ่งเอื้อนโองการตรัสประภาษว่า นนุ มทฺทิดูกรนางนาฏพระน้องรัก ภทฺเท เจ้าผู้มีพักตร์อัน

0
areeza 16 ธ.ค. 57 เวลา 20:34 น. 3

สา มทฺทีส่วนสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี เมื่อได้สดับคําพระราชสามีบริภาษณานาง
ที่ความโศกก็เสื่อมสร่างสงบจิตเพราะเจ็บใจ จึ่งก้มพระเศียรลงกราบไหว้แล้ววันทนาพลาง นางจึ่ง
ทูลสนองพระราชบัญชาว่า พระพุทธเจ้าข้า ควรมิควรสุดแท้แต่จะทรงพระกรุณาโปรด ที่โทษานุโทษ
เป็นล้นเกล้า ด้วยข้าพระพุทธเจ้ากลับมาเวลาคํ่าทั้งนี้เพราะเป็นกระลีขึ้นในไพรวัน พฤกษาทุก
สิ่งสารพันก็แปรปรวนทุกประการ ทั้งพื้นป่าพระหิมพานต์ก็ผัดผันหวั่นไหวอยู่วิงเวียน เปลี่ยนเป็น
พยับมืดไม่เห็นหน ข้าพระบาทนี่ร้อนรนไม่หยุดหย่อนแต่สักอย่าง แต่เดินมาก็บังเกิดประหลาดลาง
ขึ้นในกลางพนาลี พบพญาราชสีห์สองเสือทั้งสามสัตว์สกัดหน้าไม่มาได้ ต่อสิ้นแสงอโณทัยจึ่งได้คลาเคลื่อน ใช่จะเป็นเหมือนพระองค์ดํารินั้นก็หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า ตั้งแต่เกล้ากระหม่อมฉัน
ตกมาเป็นข้าน้อย พระองค์เห็นพิรุธร่องรอยร้าวรานที่ตรงไหน ทอดพระเนตรสังเกตไว้แต่ปางก่อน
จึงเคืองค่อนด้วยคําหยาบยอกใจเจ็บจิตจนเหลือกําลัง พระคุณเอ่ยจะคิดดูมั่งเป็นไรเล่า ว่ามัทรีนี้
เป็นข้าเก่าแต่ก่อนมา
แปลให้หน่อยค่ะ

1
ณัฏฐ์ฎาพร 19 พ.ค. 58 เวลา 17:39 น. 4

( สา มทฺที ) ปางนั้นส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา จำเดิมแต่พระนางเธอลีลาล่วงลับพระอาวาส พระทัยนางให้หวั่นหวาดพะวงหลัง ตั้งแต่พระทัยเป็นทุกข์ถึงพระเจ้าลูกมิลืมเลย เดินพลางทางเสวยพระโศกพลาง พระนัยเนตรทั้งสองข้างไม่ขาดสายพระอัสสุชล พลางพิศดูผลาผลในกลางไพรที่นางเคยได้อาศัยทรงสอยอยู่เป็นนิตย์ผิดสังเกต เหตุไฉนไม้ที่ผลเป็นพุ่มพวง ก็กลายกลับเป็นดอกดวงเดียรดาษอนาถเนตร แถวโน้นก็แก้วเกดพิกุลแกมกับกาหลง ถัดนั่นก็สายหยุดประยงค์และยมโดย พระพายพัดก็ร่วงโรยรายดอกลงมูนมอง แม่ยังได้เก็บดอกมาร้อยกรองไปฝากลูก เมื่อวันวานก็เพี้ยนผิดพิสดารเป็นพวงผล ผิดวอกลแต่ก่อนมา ( สพฺพา มุยฺหนฺ เม ทิสา ) ทั้งแปดทิศก็มืดมิดมัวมนทุกแห่งหน ทั้งขอบฟ้าก็ดาษแดงเป็นสายเลือด ไม่เว้นวายหายเหือดเป็นลางร้ายไปรอบข้าง ( ทกฺขิณกฺขิ ) พระนัยนเนตรก็พร่าง ๆ อยู่พรายพร้อย ในจิตใจของแม่ยังน้อยอยู่นิดเดียว ทั้งอินทรีย์ก็เสียว ๆ สั่นระรัวริก แสรกคานบันดาลพลิกพลัดลงจากพระอังสา ทั้งขอน้อยในหัตถาที่เคยถือ ก็เลื่อนหลุดลงจากมือไม่เคนเป็นเห็นอนาถ เอ๊ะประหลาดหลากแล้วไม่เคยเลย โอ้อกเอ๋ยมหัศจรรย์จริง ยิ่งคิดก็ยิ่งกริ่ง ๆ กรอมพระทัย เป็นทุกข์ถึงพระลูกรักทั้งสองคน เดินพลางนางก็รีบเก็บผลาผลแต่ตามได้ ใส่กระเช้าสาวพระบาทบทจรดุ่มเดินมาโดยด่วน พอประจวบจวนพญาพาฬมฤคราช สะดุ้งพระทัยไหวหวาดวะหวีดวิ่งวนแวะเข้าข้างทาง พระทรวงนางสั่นระรัวริกเต้นดั่งตีปลา ทรงพระกันแสงโศกาไห้พิไรร่ำว่ากรรมเอ๋ยกรรม กรรมของมัทรี โอเวลาปานฉะนี้พระลูกน้อยจะคอยหาอนึ่งมรคาก็ช่องแคบหว่างคีรี เป็นตรอกน้อยรอยวิถีที่เฉพาะจร ทั้งสามสัตว์ก็มาเนื่องนอนสกัดหน้า ครั้นจะลีลาหลีกลัดตัดเอาไปทางใดก็เหลือเดิน ทั้งสองข้างเป็นโขดเขินขอบคันข้นกั้นไว้ ( นีเจ โวลมฺพเก สุริเย ) ทั้งเวลาก็เย็นลงเย็นลงไร ๆ จะค่ำแล้ว ยังไม่เห็นหน้าพระลูกแก้วของแม่เลย อกเอ๋ยจะทำไฉนดี จึ่งจะได้วิถีทางที่จะครรไล พระนางจึ่งปลงหาบคอนลงวอนไหว้แล้วอภิวาทน์ ข้าแต่พญาพาฬมฤคราชอันเรืองเดช ท่านก็เป็นพญาสัตว์ในหิมเวศวนาสณฑ์ จงจงผินพักตร์ปริมณฑลทั้งสามรา มารับวันทนาน้อมไปด้วยทศนัขเบญจางค์ ( เม เมาะ มยา ) แห่งน้องนางนามชื่อพระมัทรี ( ราชปุตฺตี ) น้องก็กลายเป็นกัลยาณี หน่อกษัตริย์มัททราชสุริยวงศ์ อนึ่งน้องเป็นเอกองค์อัครบริจาริกากรแห่งพระเวสสันดรราชฤๅษี อันจำจากพระบุรีมาอยู่ไพร
ช่วยแปลหน่อยค้า

0
warmza114 9 มิ.ย. 58 เวลา 21:52 น. 5

บ้างก็ขึ้นล่องว่ายอยู่ลอยเลื่อยชมแสงเดือนอยู่พราย ๆ เป็นไรจึ่งไม่ว่ายเวียนวน นกเจ้าเอ่ยเคยบินลงไล่จิกเหยื่อทุกเวลา วันนี้แปลกเปล่าตาแม่แลไม่เห็น พระลูกเอ่ยเจ้าเคยมาเที่ยวเล่นแม่แลไม่เห็นแล้ว โอ้แลเห็นแต่สระแก้วอยู่อ้างว้างวังเวงใจ นางก็เสด็จครรไลล่วงตำบลเที่ยวค้นหาพระลูกตามลำเนาเนินป่า ทุกสุ่มทุมพุ่มพฤกษาสูงยูงยางใหญ่ไพรระหง พนัสแดนดงเย็นยะเยือกเงียบสงัดเหงา ได้ยินแต่เสียงดุเหว่าละเมอร้องก้องพนาเวศ พระกรรณเธอสังเกตว่าสองดรุณเยาวเรศเจ้าร้องขานอยู่แว่ว ๆ ให้หวาดว่าสำเนียงพระลูกแก้วเจ้าขานรับพระมารดา นางเสด็จลีลาเข้าไปดู เห็นหมู่สัตว์จตุบาทกลาดกลุ้มเข้าสุมนอน นางก็ยิ่งสะท้อนถอนพระทัยเทวษครวญเสด็จด่วน ๆ


ช่วยแปลตอนนี้หน่อยครับ
ขอบคุณพะคุณอย่างสูงล่วงหน้าครับ เศร้าจัง

0
ทราย 10 มิ.ย. 58 เวลา 22:20 น. 6

ยากมาก
ช่วยแปลมหาเวสสันดรกัณฑ์มัทรีให้หน่อยค่ะ
ที่จึ้นต้นด้วย อถ ปางนั้น
ประมาณนี้ค่ะ
ตกใจ

0
Suphattha 16 มิ.ย. 58 เวลา 21:01 น. 7

ช่วยแปลหน่อยนะค่ะ .....
นกเจ้าเอยเคยบินลงไล่จิกเหยื่อทุกเวลา วันนี้แปลกเปล่าตาแม่แลไม่เห็น พระลูกเอ่ยเจ้าเคยมาเที่ยวเล่นแม่แลไม่เห็นแล้ว โอ้แลเห็นแต่สระแก้วอยู่อ้างว้างวังเวงใจ นางก็เสด็จครรไลล่วงตำบล เที่ยวค้นหาพระลูกตามลำเนาเนินป่า ทุกสุมทุมพุ่มพฤกษาป่าสูงยูงยางใหญ่ไพรระหง พนัสแดนดงเย็นยะเยือกเงียบสงัดเหงา ได้ยินแต่เสียงดุเหว่าละเมอร้องก้องพนาเวศตั้งใจ

0
พรสิริ 21 มิ.ย. 58 เวลา 16:57 น. 8
ตกใจ สรุปแปลอันนี้ป่ะ สมเด็จพระราชสมภารเมื่อได้สดับสาร (จนถึง) จะนั่งนอนเดินยืนก็ต้องอย่าง
0
oooooooooo 15 ก.ย. 58 เวลา 15:53 น. 10

(วนมูลผลหาริยา) อุตสาหะตระตรากตระตรําเตร็ดเตร่หาผลาผลไม้ ถึงที่ไหนจะ
รกเรี้ยวก็ซอกซอนอุตส่าห์เที่ยวไม่ถอยหลัง จนเนื้อหนังข่วนขาดเป็นริ้วรอย โลหิตไหลย้อยทุก
หย่อมหนาม อารามจะใคร่ได้ผลาผลไม้มาปฏิบัติลูกบํารุงผัว ถึงกระไรจะคุ้มตัวก็ทงยากน่าหลากใจ
อกของใครจะอาภัพยับพิกลเหมือนอกของมัทรีไม่มีเนตร น่าที่จะสงสารสังเวชโปรดปรานีว่ามัทรี
นี้เป็นเพื่อนยากอยู่จริงๆ ช่างค้อนติงปริภาษณาได้ลงคอไม่คิดเลย พระคุณเอ่ยถึงพระองค์จะ
สงสัย ก็นํ้าใจของมัทรีนี้กตเวทีเป็นไม้เท้าก้าวเข้าสู่ที่ทางทดแทน (รามํ สีตาวนุพฺพตา )อุปมา
เหมือนสีดาอันภักดีต่อสามีรามบัณฑิต ปานประหนึ่งว่าศิษย์กับอาจารย์ พระคุณเอ่ยเกล้า
กระหม่อมฉานทําผิดแต่เพียงนี้ เพราะว่าล่วงราตรีจึ่งมีโทษ ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาโปรด
ซึ่งโทษานุโทษกระหม่อมฉันมัทรี แต่ครั้งเดียวนี้เถิด

แปลให้ทีเศร้าจัง

1
lkll 6 ส.ค. 61 เวลา 19:37 น. 10-1

รามํ สีตาวนุพฺพตา อุปมาแม้นเหมือนสีดาอันภักดีต่อสามีรามบัณฑิต ปานประหนึ่งว่าศิษย์กับอาจารย์ พระคุณเอ่ยเกล้ากระหม่อมฉานทำผิดแต่เพียงนี้เพราะว่าล่วงราตรีจึ่งมีโทษ ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาโปรดซึ่งโทษานุโทษกระหม่อมฉันมัทรีแต่ครั้งเดียวนี้เถิด เมื่อเสด็จพระยอดยิ่งเยาวมาลย์มัทรี กราบทูลพระราชสามีสักเท่าใดๆ ท้าวเธอจะได้ปราศรัยก็ไม่มี พระนางยิ่งหมองศรีโศกกำสรดสะอึกสะอื้น ถวายบังคมคืนออกมาเที่ยวแสวงหาพระลูกรักทุกหนแห่ง กระจ่างแจ้งด้วยแสงพระจันทร์ส่องสว่างพื้นอัมพรประเทศวิถี นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพื้นปริมณฑลใต้ต้นหว้าแปล พระนางมัทรีจงรักภักดีต่อพระเวสสันดรเป็นอันมาก เปรียบเสมือนลูกศิษย์จงรักภักดีต่ออาจารย์ พระนางมัทรีทำผิดเพียงครั้งเดียว แต่ทำไมจึงมีโทษนักหนา พระนางมัทรีจึงขอให้พระเวศสันดรให้อภัยตนอีกสักครั้ง ไม่ว่าพระนางมัทรีจะพูดอย่างไรก็ตาม พระเวศสันดรก็ไม่สนใจ พระนางมัทรีก็ยังร้องไห้ เพราะว่าน้อยใจที่พระเวศสันดรไม่สนใจ ส่วนลุกนั้นก็หายไป แล้วกราบลาพระเวศสันดรออกมาตามหาลูกในตอนกลางคืนโดยอาศัยแสงของพระจันทร์ในการตามหา จนพระนางมัทรีไปหยุดอยู่ที่ใต้ต้นหว้า

0
tangkwa 22 พ.ย. 58 เวลา 20:47 น. 11

ช่วยแปลหน่อยคะ
ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงพรหมจารี เมื่อสมเด็จพระมัทรีทรงกำสรดแสนกัมปนาทเพียงพระสันดานจะขาดจะดับสูญ ปริเทวิตฺวา นางเสวยพระอาดูรพูนเทวษในพระอุรานำ้พระอัสสุชลนาเธอไหลนองคลองพระเนตร ทรงพระกันแสงแสนเทวษพิไรร่ำ ตั่งแต่ประถมยามค่ำไม่หย่อนหยุดแต่สักโมงยาม นางเสด็จไต่เต้าติดตามทุกตำบลละเมาะไม้ไพรสณฑ์ศิขริน ทุกห้วยธารละหานหินเหวหุบห้องคูหาวาส ทรงพระพิไรร้องก้องประกาศเกริ่นสำเนียง พระสุรเสียงเธอเยือกเย็นระย่อทุกอกสัตว์ พระพายรำเพยพัดทุกกิ่งก้านบุษบงก็เบิกบานผกากร รัศมีพระจันทรก็มัวหมองเหมือนหนึ่งจะเศร้าโศกแสนวิปโยคเมื่อยามปัจจุสมัย ทั้งรัศมีพระสุริโยทัยส่องอยู่รางๆ ขึ้นเรืองฟ้า เสียงชะนีเหนี่ยวไม่ไห้หาละห้อยโหย พระกำลังนางก็อิดโรยพิไรร่ำร้อง พระสุรเสียงเธอกู่ก้องกังวานดง เทพเจ้าทุกพระองค์กอดพระหัตถ์เงี่ยพระโสตสดับสาร พระเยาวมาลย์เธอเที่ยวหาพระลูก พระนางเธอเสวยทุกข์แสนเข็ญ ตั่งแต่ยามเย็นจนรุ่งเช้าก็สุดสิ้นที่จะเที่ยวค้น ทุกตำแหน่งแห่งละสามหนเธอเที่ยวหา ปณฺณรสโยชนมคฺํค ํค ถ้าจะคลี่คลายขยายมรคาก็ได้สิบห้าโยชน์โดยนิยม นางจึงเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง สองพระกรเธอข้อนทรวงทรงพระกันแสงครวญคร่ำแล้วรำพันว่า โอ้เจ้าดวงสุริยันจันทรทั้งคู่ของแม่เอ่ยแม่ไม่รู้เลยว่าเจ้าจะหนีพระมารดาไปสู่พาราใดไม่รู้ที่ หรือจะข้ามนทีทะเลวนหิมเวศประเทศทิศแดนใด ถ้ารู้แจ้งประจักษ์ใจแม่ก็จะตามเจ้าไปจนสุดแรงนี่ก็เหลือที่แม่จะเที่ยวแสวงสืบเสาะหาเมื่อเช้าแม่จะเข้าไปสู่ป่า พ่อชาลีแม่กัณหายังทูลสั่งแม่ยังกลับหลังมาโลมลูบจูบกระหม่อมจอมเกล้าทั้งสองรา กลิ่นยังจับนาสาอยู่รวยรื่น โอ้ลูกข้านี้จะไม่คืนเสียแล้วกระมังในครั้งนี้ กัณหาชาลีลูกรักแม่นับวันแต่ว่าจะแลลับล่วงไปเสียแล้วละหนอใครจะกอดพระศอเสวยนมผทมด้วยแม่เล่า ยามเมื่อแม่จะเข้าที่บรรจถรณ์เจ้าเคยเคียงเรียงหมอนนอนแนบข้างทุกราตรี แต่นี่แม่จะกล่อมใครให้นิทราโอ้แม่อุ้มท้องประคองเคียงเลี้ยงเจ้ามาก็หมายมั่น สำคัญว่าจะได้อยู่เป็นเพื่อนยากจะฝากฝีพึ่งลูกทั้งสองคนมิรู้ว่าจะกลับวิบัติพลัดพรากไม่เป็นผลให้อาเพศผิดประมาณ เจ้าเอาแต่ห่วงสงสารนี่หรือมาสวมคล้องให้แม่นี้ติดต้องข้องอยู่ด้วยอาลัยเจ้าทิ้งชื่อและโฉมไว้ให้เปล่าอกในวิณญาณ์เมื่อเ้าแม่จะเข้าไปสู่ป่ายังได้เห็นเจ้าอยู่หลัดๆ ควรละหรือมาสลัดแม่นี้ไว้ เหมือนจะเตือนให้แม่นี้บรรลัยเสียจริงแล้ว ควรจะสงสารเอ่ยด้วยนางแก้วกัลณี น้อมพระเกศีลงทูลถามหวังจะติดตามลูกรักทั้งสองรากราบถวายบังคมลาลุกเลื่อนเขยื้อนยกพระบาทเยื่องย่างพระกานนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งสององค์ ดุจชายธงอันต้องกำลงลมอยู่ลิ่วๆสิ้นพระแรงโรยเธอโหยหิวระหวยทรวง พระศอเธอหงุบง่วงดวงพระพักตร์เธอผิดเผือดให้แปรผัน จะทูลสั่งก็ยังมิทันที่ว่าจะทูลเลย แต่พอตรัสว่าพระคุณเจ้าเอ๋ยคำเดียวเท่านั้นก็หายเสียงเอียงพระกายบ่ายศิโรเพฐน์ พระเนตรหลับหับพระโอษฐ์ลงทันที วิสญฺญี หุตฺวานางก็ถึงวิสัญญีสลบลงตรงหน้าฉาน ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดขาดระเนนเอนแล้วก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้านั้นแล
1
Call Center 28 พ.ค. 59 เวลา 10:43 น. 12

ช่วยแปล สา มทที ส่วนสมเด็จพระมัททรีสุนทรบวรราชธิดามหาสมุติวงศ์วิสุทธิสืบสันดานมา วราโรหา ทรงพระพักตร์ผิวผ่องดุจเนื้อทองไม่เทียมสียสสสินี มีพระเกียรติยศอันโอฬารล้ำเลิศศรีวิไลลักษณ์ยอดกระษัติร์ อันทรงพระศรัทธาโสมนัสนบนิ้วประนมน้อมพระเศียรเคารพทาน ท้าวเทอก้อชื่นบานบริสุทธิ์ด้วยปิยบุตรมิ่งมกุฎทานอันพิเศษฝ่ายฝูงอมเทเวศทุกวิมานมาศมนเทีนรทุกหมู่ไม้ก้อยิ้มแย้มพระโอษฐ์ดบพระหัตถ์อยู่ฉาดฉาน ร้องสาธุการสรรเสริญเจริญทานบารมี ทั้งสมเด็จอมรินทร์เจ้าฟ้าสุราลัยอันเป็นใหญ่ในดาวดึงส์สวรรค์ก้มาโปรยปรายทิพยบุปผากรอง ทั้งพวกแก้วและพวงทองก็โรยร่วงจากกลีบเมฆกระทำสักการบูชาแก่สมเด็จนางพระยามัททรีท้าวเธอทรงกระทำอนุโมทนาทาน เวสสนตรสส แห่งพระเวสสันดรราชฤๅษีผู้เป็นพระภัสดา อิติ เมาะ อิมินาปกาเรน ด้วยประการดังนี้แล

1
จินีน 5 มิ.ย. 59 เวลา 21:08 น. 14

ขอช่วยแปลให้หน่อยได้ไหมค่ะ TOT" มีส่งงานพรุ่งนี้
เมื่อสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี กรายทูลพระราชสามีสักเท่าใด ๆ ท้าวเธอจะได้ปราศรัยก็ไม่มี พระนางยิ่งหมองศรีโศกกำสรดสะอึกสะอื้น ถวายบังคมคืนออกมาเที่ยวแสวงหาพระลูกรักทุกหนแห่ง กระจ่างแจ้งด้วยแสงพระจันทร์ส่องสว่างพื้นอัมพรประเทศวิถี นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพื้นปริมณฑลใต้ต้นหว้า จึ่งตรัสว่า ( อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา ) ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทอง แสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องน้ำค้างที่ขังให้ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งน้ำพลอยพร้อยๆพราย ๆ ต้องกับแสงกรวดทรายที่ใต้ต้นอร่ามวามวาวดูเป็นวงวนแวว ดั่งบุคคลเอาแก้วมาระแนงแกล้งมาโปรยโรยรอบปริมณฑลก็เหมือนกัน งามดั่งไม้ปริชาตในเมืองสวรรค์มาปลูกไว้ ลูกรัก เจ้าแม่เอ่ย

0
ออออออ 5 ก.ค. 59 เวลา 20:18 น. 15

( สา มฺที )ส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทรบวรราชธิดามหาสมมุติวงศ์วิสุทธิสืบสันดานมา( วราโรหา ) ทรงพระพักตร์ผิวผ่อง
ดุจเนื้อทองไม่เทียมสี( ยสสฺสินี ) มีพระเกียรติยศอันโอฬารล้ำเลิศวิไลลักษณ์ยอดกษัตริย์ อันทรงพระศรัทธาโสมนัสนบนิ้วประนม
น้อมพระเศียรเคารพทาน ท้าวเธอก็ก็ชื่นบานบริสุทธิ์ด้วยปิยบุตรมิ่งมกุฎทานอันพิเศษ ฝ่ายฝูงอมรเทเวศทุกวิมานมาศมนเทียรทุก
หมู่ไม้ ก็ยิ้มแย้มพระโอษฐ์ ตบพระหัตถ์อยู่ฉาดฉาน ร้องสาธุการสรรเสริญทานบารมี ทั้งสมเด็จอมรินทร์เจ้าฟ้าสุราลัยอันเป็นใหญ่
ในดาวดึงส์สวรรค์ ก็มาโปรยปรายทิพยบุปผากรอง ทั้งพวงแก้วและพวงทองก็โรยร่วงจากกลีบเมฆกระทำสักการบูชาแก่สมเด็จ
นางพระยามัทรี ท้าวเธอทรงกระทำอนุโมทนาทาน ( เวสสฺสนฺตรสฺส )แห่งพระเวสสันดรราชฤๅษีผู้เป็นพระภัสดา
( อิติ เมาะ อิมินา ปกาเรน ) ด้วยประการดังนี้แล้วแลฟ แปลให้มั้ง

0
tanji 24 พ.ย. 59 เวลา 18:57 น. 16

ฝ่ายฝูงเทพยทุกสถานพิมานไม้ไศลเกริ่นเนินแนวพนาวาส ได้สดับคำประกาศสองกุมาร ทรงสั่งสาส์นจนสุดเสียง ดังทิพยาพิมานจะเอนเอียงอ่อนลงช้อยชด เทพยเจ้าก็เศร้าสลดพิลาปเหลียวมาดูดูมิได้   ภิชฺชิตหทยา วิย ปิ้มประหนึ่งว่าดวงหทัยจะปะทุทะลุลั่นละเอียดออกทุกอกองค์ ด้วยทรงพระอาลัยนั้นใหญ่หลวง ก็พากันข้อนทรวงทรงกรรแสงโศกอยู่ซบเซา

ช่วยถอดคำประพันธ์ให้หน่อยค้า
เศร้าจัง

0
กุสุมา 31 พ.ค. 60 เวลา 19:44 น. 17

เมื่อสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี กรายทูลพระราชสามีสักเท่าใด ๆ ท้าวเธอจะได้ปราศรัยก็ไม่มี พระนางยิ่งหมองศรีโศกกำสรดสะอึกสะอื้น ถวายบังคมคืนออกมาเที่ยวแสวงหาพระลูกรักทุกหนแห่ง กระจ่างแจ้งด้วยแสงพระจันทร์ส่องสว่างพื้นอัมพรประเทศวิถี นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพื้นปริมณฑลใต้ต้นหว้า จึ่งตรัสว่า ( อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา ) ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทอง แสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องน้ำค้างที่ขังให้ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งน้ำพลอยพร้อยๆพราย ๆ ต้องกับแสงกรวดทรายที่ใต้ต้นอร่ามวามวาวดูเป็นวงวนแวว ดั่งบุคคลเอาแก้วมาระแนงแกล้งมาโปรยโรยรอบปริมณฑลก็เหมือนกัน งามดั่งไม้ปริชาตในเมืองสวรรค์มาปลูกไว้ ลูกรัก เจ้าแม่เอ่ย เจ้าเคยมาอาศัยนั่งนอนประทับร้อนสำราญร่มรื่น ๆ สำรวลเล่นเย็นสบายพระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อย


ช่วยแปลทีคะ

0
pongporn 5 มิ.ย. 60 เวลา 19:48 น. 18

เมื่อสมเด็จพระยอดมิ่งเยาวมาลย์มัทรี กรายทูลพระราชสามีสักเท่าใด ๆ ท้าวเธอจะได้ปราศรัยก็ไม่มี พระนางยิ่งหมองศรีโศกกำสรดสะอึกสะอื้น ถวายบังคมคืนออกมาเที่ยวแสวงหาพระลูกรักทุกหนแห่ง กระจ่างแจ้งด้วยแสงพระจันทร์ส่องสว่างพื้นอัมพรประเทศวิถี นางเสด็จจรลีไปหยุดยืนในภาคพื้นปริมณฑลใต้ต้นหว้า จึ่งตรัสว่า ( อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา ) ควรจะสงสารเอ่ยด้วยต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้นดั่งฉัตรทอง แสงพระจันทร์ดั้นส่องต้องน้ำค้างที่ขังให้ไหลลงหยดย้อย เหมือนหนึ่งน้ำพลอยพร้อยๆพราย ๆ ต้องกับแสงกรวดทรายที่ใต้ต้นอร่ามวามวาวดูเป็นวงวนแวว ดั่งบุคคลเอาแก้วมาระแนงแกล้งมาโปรยโรยรอบปริมณฑลก็เหมือนกัน งามดั่งไม้ปริชาตในเมืองสวรรค์มาปลูกไว้ ลูกรัก เจ้าแม่เอ่ย เจ้าเคยมาอาศัยนั่งนอนประทับร้อนสำราญร่มรื่น ๆ สำรวลเล่นเย็นสบายพระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อยเรไรระรี่เรื่อยร้องอยู่หริ่ง ๆ แต่ลูกรักของแม่ทั้งชายหญิงไปอยู่ไหนไม่เห็นเลย

0
Pang_nn 13 มิ.ย. 60 เวลา 19:23 น. 20

อันว่าพระยานางสิเป็นหน่อกษัตริย์ จะไปไหนก็เคยมีแต่กลดกั้น พานจะเกรงแสง พระสุริยันไม่คลาเคลื่อน เจ้ารักเดินด้วยแสงเดือนชมดาวพลาง ได้นํ้าค้างกลางคืนชื่นอารมณ์ สมคะเน พอมาถึงก็ทําเสขึ้นเสียงเลี่ยงเลี้ยวพาโลว่าลูกหาย เออนี่เจ้ามิหมายว่าใครๆ ไม่รู้ทัน กระนั้นกระมัง หรือเจ้าเห็นว่าพี่นี้เป็นชีอดจิตคิดอนิจจัง ทิ้งพยศอดอารมณ์เสีย เจ้าเป็นแต่เพียง เมียควรหรือมาหมิ่นได้ ถ้าแม้นพี่อยู่ในกรุงไกรเหมือนแต่ก่อนเก่า หากว่าเจ้าทําเช่นนี้ กายของ มัทรีก็จะขาดสะบั้นลงทันตา ด้วยพระกรเบื้องขวาของอาตมานี้แล้วแล

#ช่วยแปลให้ทีค่ะ รีบมากเยยย

0