พ่อแม่รังแกฉัน..... ไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนเองเลยค่ะ T^T
สวัสดีค่ะทุกคนที่หลงหรือตั้งใจเข้ามาทุกๆ คน
ตอนนี้เรามีเรื่องกลุ้มใจอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะจัดให้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงแค่ไหน เพราะตอนนี้มันยังไม่ส่งผลออกมา
ปัญหานั้นก็คือ "พ่อแม่รังแกฉัน" ค่ะ
พ่อแม่รังแกฉัน จะมีความหมายประมาณว่า รักลูกจนไม่ยอมให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเอง เลี้ยงดูประดุจดั่งไข่ในหิน เมื่อวันใดที่ลูกไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ เขาก็จะทำอะไรไม่เป็น เพราะไม่มีประสบการณ์ และไม่มีใครสอนเขานั่นเอง
และตอนนี้เรากำลังเป็นแบบนั้นอยู่ค่ะ TT''
คือว่าตอนนี้เราอยู่ ม.4 อายุ 15(กับอีก 1 เดือน) เป็นลูกคนเดียว เรียนอยู่ ร.ร. สตรีล้วนแห่งหนึ่งในนนทบุรี สายการเรียน : วิทย์-คณิต-อังกฤษ (ไม่ใช่ E.P. นะ)
พ่อกับแม่ : หย่าร้างกันเมื่อตอนเรา ม.1
สถานะ : อยู่กับแม่ แต่พ่อก็มารับไปเที่ยวด้วยกันทุกวันอาทิตย์
พ่อแม่ไม่ปล่อยเราเลย ทำยังไงให้ท่านปล่อยเราบ้าง เราโตแล้วนะ ยังต้องไปรับไปส่งเราอีกหรอ...
พ่อเราห่วงเรามาก ขนาดที่ว่า ยังไม่เคยขึ้นรถเมล์เองคนเดียวเลยซักครั้ง = =;;
ทุกคนคงคิดว่าเป็นเรื่องดีที่มีแม่มารับมาส่ง แต่มันก็ไม่ดีเท่าไหร่ที่รับส่งจนทำอะไรไม่เป็นเลยแบบนี้ ม.4 แล้วนะ ม.4 ค่ะ รับส่งตั้งแต่ ม.1 จนตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่.........
11 ความคิดเห็น
บางทีเรารู้สึกอิจฉา จขกท. นะ เพราะพ่อแม่เราปล่อยจนรู้สึกขาดความอบอุ่น //เราอินขอโทษที
ในเรื่องของ จขกท. ในสายตาของพ่อแม่ไม่ว่าเราจะโตจนเครื่องบินชนก้นก็เถอะ เขาก็ยังคิดว่าเราเป็นเด็กอยู่ดีล่ะค่ะ ล่ะยิ่งจขกท.เป็นผู้หญิง ลูกคนเดียวอีกก็ต้องรักต้องห่วงเป็นธรรมดา ยิ่งปัจจุบันนี้ข่าวล่อลวงอะไรแบบนี้มันเยอะ เขาก็ต้องเป็นห่วงเรามากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าทนไม่ไหวอย่างมีอิสระก็พูดกับคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ แต่อย่าใส่อารมณ์เข้าไปในการสนทนานะค่ะ
สู้ๆ
พ่อกับแม่หย่ากันด้วยหรอคะ ?
บางทีอาจจะเป็นเพราะกลัวว่า จขกท. จะเป็นเด็กมีปัญหาอะไรแบบนี้รึป่าว
เขาเลยคอยดูแลอยู่แบบนี้น่ะ.. แต่มันก็จะพูดยังไงดี 5555
เราเองก็ยังไม่เคยขึ้นรถเมล์คนเดียวเลยคะ ไม่สิ หลายคนเลยแหละที่ไม่เคยขึ้นคนเดียว..
#เอาเป็นว่าข้ามเถอะ 55 = ='
ใจเย็นๆนะเราว่ามองในมุมกลับกันดุสิ คนเป็นแม่ยังไงเค้าก้อต้องห่วงลูกอยู่ดีอะไม่ว่าลูกจะอายุมากกว่าสิบห้า กลายเป็นห้าสิบเค้าก้อมองเทอเป็นเด็กอยู่ดีนะ
ประเด็นนี้ถ้าไม่เจอเองก้อคงไม่รู้คงต้องรอให้เทอเป็นแม่คนอย่างที่แม่เทอเป็นอยุ่ตอนนนี้บ้างแล้วเทอจะเข้าใจทุกอย่างที่เค้าทำนะ
เราเองกอแอบอิจฉาเทอเหมือนกันที่พ่อแม่หวง เป็นห่วงขนาดนี้อะ เพราะเราพ่อแม่ถึงจะอยู่ด้วยกันก้อไม่เคยจะไปรับส่งรึห้ามอะไรอย่างนี้เลยอะ เราต้องไป รร เองตั้งแต่อนุบาล พอประถมก้อต้องไปเองกับพี่ พอมองเห็นคนอื่นๆเค้านั่งบนรถมีพ่อแม่ไปส่งเราโค ตะ ระ อิจฉาเลยอะ แล้วอีกอย่างทุกวันนี้อะสังคมเลวร้ายแล้ก้อน่ากลัวขึ้นไปทุกวัน อย่าไปไหนคนเดียวอะดีแล้วแถมเทอยังอยู่แต่ รร หญิงล้วนคงจะไม่ทันเล่ แล้วก้ออะไรอีกเยอะแยะมากมาย ใจเย้นๆนะ เอาไว้โตเข้ามหาลัยก่อนเถอะแล้วค่อยอยากเป็นอิสระให้มากกว่านี้อะ
อย่าไปว่าพ่อแม่แบบนี้อีกเลยะ มันไม่ดีบาปด้วยนะ
ปล.คุยดีๆนะ อย่าใช้อารมณ์
จับเข่าคุยกับพ่อแม่ค่ะ ^-^ พ่อแม่เป็นห่วงนะสิ ถึงได้ทำแบบนี้ สู้ๆน้า คุยแบบมีเหตุผลนะจ๊ะอย่าใช้อารมณ์ >~< สู้ๆค่ะะ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
เราก็รู้สึกว่าเราโชคดีแหละที่มีแม่มารับส่ง แต่ว่าสงสารแม่มากเลยอ่ะค่ะที่ต้องมารับส่งเราเช้าเย็นจนไม่ต้องไปไหน เราเคยลองไปคุยกับแม่ดูแล้ว แม่ก็บอกว่า "ถ้าอยากขึ้นรถกลับบ้านเองก็จัดกระเป๋าให้มันเบาๆ ก่อนเถอะ" แต่เเม่จ๋า~ หนูมีคาบ 9 คาบ 10 นะคะ นั่นเบาที่สุดเเล้วค่ะ...
เราจะไปลองคุยกับพ่อแม่ดูอีกทีนะคะ ตามความคิดของ ค.ห.ที่4
เราไม่ได้จะว่าพ่อแม่นะคะเพราะเราก็รู้ว่าท่านเป็นห่วงเราแบบสุดๆ ตามประสาพ่อแม่ค่ะ
ปอออลอลิง. เราไม่ใช้อารมณ์ในการคุยกันแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง ^-^
จะสู้ต่อไปค่ะ. :)
ในสังคมเราสมัยนี้มันน่ากลัวนะคับ การที่พ่อแม่เป็นห่วงนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติ แม้ว่าบางทีเราอาจจะดูเหมือนกับว่าห่วงเกินไปก็ตาม แต่คุณรู้รึเปล่าว่าถ้าคุณออกจากบ้านแล้วรอบๆตัวคุณก็มีอันตรายถึง50%แล้วโดยเฉพ่าะคุณเป็นผู้หญิงด้วย...
ฉันด้วยคะ
ไม่ยอมปล่อยให้ทำไรเองเลยละคะ...
ไม่เคยไปเรียนเองเลยละคะ..
กลับเองก็ไม่เคย
ไปทำงานบ้านเพื่อนก็แค่ 2-3ครั้งเองคะ
อึดอัดมากเลยละคะ..
ฉันเข้าใจคะ...
เราไปกลับโรงเรียนเองนะ พ่อแม่ไม่ว่าอะไร แต่บางครั้งถ้าท่านขับรถผ่านโรงเรียน จะมารับเรากลับ แต่ปัญหาคือเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนอ่ะ ต้องคุยกับพ่อแม่ยาวหน่อย ยิ่งไปนอนบ้านเพื่อนยิ่งแล้วใหญ่เลย นี่เรียกว่ารังแกหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
เราก็เป็นน่ะ555 คือเป็นพวกไม่ระวังตัวเองแนวหมึนๆ55ที่พ่อกับย่าไม่ปล่อยเราก็คงเพราะงี้คือเราหน้าตาก็ไม่ใช่ดีน่ะแต่ก็ไม่เข้าใจทำไมถึงมีแต่พวกโรคจิตมาสนใจกูฟร่ะ- - เดินผ่านแรงงานผู้ชายสองคนอยู่ๆก็ถามน้องสาวจะไปไหนพอเราจะเดินหนีฉุดเราเฉยเลย แล้วตอนกลางวันด้วยน่ะเห้ย!!55 โชคดีย่าเห็นล่ะช่วยก็เลยรอดไป เราเข้าใจจขกท.น่ะคือบ้านเลี้ยงแบบไข่ในหินมากก แต่เราต่างจาก จขกท.คือ 1พ่อเราห่วงและหวงเรามากย่าด้วย555 2แม่เรานี่ปล่อยมากฟรีสุดๆคือลูกจะทำอะไรก็ทำเหอะแนวนั้นแต่กยังมีแอบห่วงเล็กๆ55 เห็นจขกท.บอกว่าพ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ม.1เขาอาจจะกลัวจขกท.ขาอความอบอุ่นหรือมีปมก็ได้น่ะ ของเรานี่เลิกกันตั้งแต่เราอนุบาล555 เอาความจริงเราอิจจขกท.มากเลยน่ะ555ของเรานี่บางทีแม่ก็ไม่โทรมา(เราอยู่กับพ่อ)เป็นเดือนเลยหรือบางครั้งก็เป็นปีนานๆทีเราจะเจอแม่ ส่วนพ่อเขาก็น่ะอยู่กับแฟนใหม่มากกว่าเราอีก555พอๆเราพล่ามเยอะล่ะอยากให้จขกท.ลองคุยกะแม่เลยคุยแบบตรงๆคุยไปเรื่อยๆอธิบายเหตุผลให้แม่ฟังเราว่าแม่จขกท.คงจะเข้าใจแน่ๆคะ สู้ๆน้า♡
ไม่แปลกหรอกค่านั่งรถเมลลํเองไม่เป็นไม่เคยไปไหนเองคนเดียว บางทีของแบบนี้มันต้องค่อยๆฝึก อย่าว่าแต่จขกท.เลยเรายังไม่เคยไปไหนเองคนเดียวเลย ไม่ต้องคิดมากนะคะสู้ๆ <3
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?