อยากซิ่วทันตแพทย์
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้เรียนเภสัชอยู่ คิดว่าจะชอบ แต่ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ใช่ว่าจะชอบอะไรมากมาย
ถามว่าเรียนได้มั้ย มันก็เรียนได้ค่ะ
แต่ในใจลึกๆก็ยังอยากเรียนทันตแพทย์ตามที่ใฝ่ฝันไว้
ถ้าซิ่วไม่ติด กลับมาเรียนที่เดิมก็จะมีปัญหามากถ้าดร็อปไป
ถ้าไม่ติดแล้วเปลี่ยนไปเรียนอย่างอื่น ก็กลัวว่าครอบครัวจะเสียใจ เพราะเภสัชก็ดีอยู่แล้ว
จะทำยังไงดีค่ะ ถ้าเรียนไป อ่านซิ่วไป จะทำได้ไหม มีใครเคยทำแบบนี้แล้วติดบ้างมั้ยคะ ?
ตอนนี้รู้สึกไม่มีความสุขเท่าไหร่เลยคะ TT
9 ความคิดเห็น
แต่อย่าลืมตอนแอดมิดชั่น มีเด็กซิ่วมาสอบทันตะมากมายนะค่ะ เอาสถิติมาให้ดูกัน
สถิติการเข้าศึกษาของคณะที่มีผู้ที่กลับมาเอ็นใหม่ในรอบที่ 2 หรือเด็กซิ่ว มากที่สุดปี 2556 ในระบบแอดมิดชั่น
1. คณะทันตแพทยศาสตร์
1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับ 32 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 19 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 59.38% จากจำนวนรับทั้งหมด
2.มหาวิทยาลัยมหิดล รับ 20 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 11 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 55% จากจำนวนรับทั้งหมด
3.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับ 30 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 17 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 56.66% จากจำนวนรับทั้งหมด
4.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รับ 20 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 13 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 56.52% จากจำนวนรับทั้งหมด
5.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับ 23 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 13 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 56.52% จากจำนวนรับทั้งหมด
6.มหาวิทยาลัยขอนแก่น รับ 39 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 21 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 53.85% จากจำนวนรับทั้งหมด
7.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับ 14 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 11 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 78.57% จากจำนวนรับทั้งหมด
8.มหาวิทยาลัยนเรศวร รับ 45 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 34 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 75.55% จากจำนวนรับทั้งหมด
9.มหาวิทยาลัยรังสิต รับ 30 คน มีเด็กซิ่วเข้าศึกษา 26 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 83.67% จากจำนวนรับทั้งหมด
คณะทันตแพทย์ รับรวมทั้งหมด 253 คน มีเด็กซิ่วรวม 165 คน ,
คิดเป็นเด็กซิ่วเข้าศึกษา 65.21% จากจำนวนรับทั้งหมด
สรุปจำนวนผู้ที่สอบติดคณะทันตแพทย์ ในปี 2556 ในระบบแอดมิดชั่น
คะแนนสูงสุด ของคณะทันตแพทยศาสตร์ รวม 9 สถาบัน
คือ 24,926 ( 83.08 % )
คะแนนต่ำสุด ของคณะทันตแพทยศาสตร์ รวม 9 สถาบัน
คือ 22,676 ( 75.59 % )
2. คณะเภสัชศาสตร์
1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับ 190 คน เด็กซิ่ว 90 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 47.37% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 40.54% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 42% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 73.33% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 56.52% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 69.33% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 45.33% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 50% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 51.43% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 42.85% จากจำนวนรับทั้งหมด
คิดเป็นเด็กซิ่ว 70% จากจำนวนรับทั้งหมด
12.มหาวิทยาลัยรังสิต รับ 80 คน เด็กซิ่ว 40 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 50% จากจำนวนรับทั้งหมด (ไม่ใช้ระบบแอดมิดชั่น)
13.มหาวิทยาลัยสยาม รับ 75 คน เด็กซิ่ว 39 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 52% จากจำนวนรับทั้งหมด (ไม่ใช้ระบบแอดมิดชั่น)
14.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ รับ 20 คน เด็กซิ่ว 9 คน
คิดเป็นเด็กซิ่ว 45% จากจำนวนรับทั้งหมด (ไม่ใช้ระบบแอดมิดชั่น)
คิดเป็นเด็กซิ่ว 41.43% จากจำนวนรับทั้งหมด (ไม่ใช้ระบบแอดมิดชั่น)
คิดเป็นเด็กซิ่ว 50% จากจำนวนรับทั้งหมด (ไม่ใช้ระบบแอดมิดชั่น)
คณะเภสัช รับรวมทั้งหมด 1,127 คน มีเด็กซิ่วรวม 558 คน ,
คิดเป็นเด็กซิ่ว 49.51% จากจำนวนรับทั้งหมด
สรุปจำนวนผู้ที่สอบติดคณะเภสัช ในปี 2556 ในระบบแอดมิดชั่น
คะแนนสูงสุด ของคณะเภสัชศาสตร์ รวม 11 สถาบัน
คือ 22,835.65 ( 76.12 % )
คะแนนต่ำสุด ของคณะเภสัชศาสตร์ รวม 11 สถาบัน
คือ 18,146.60 ( 60.48 % )
เราก้เรียนทันตเเพทย์นะ ซิ่วมาจากเภสัชอ่ะ
เราไม่ได้ดรอปนะ ก็อ่านไปเรื่อยๆอ่ะ
สู้ๆนะ
เป็นกำลังให้เด็กซิ่ว'57 ทุกๆคนนะครัชชช
ช่วยตอบเราหน่อยว่าคนที่เรียนเก่งแต่ไม่ได้รักในอาชีพ กับคนที่เรียนปานกลางแต่รักในอาชีพ แบบไหนที่จบมาแล้วสามารถทำงานได้ดีกว่ากัน มีคนกี่คนที่ฝันอยากเรียนเภสัชแต่ก้อพลาดหวังไป เพราะเรียนอยู่ในระดับปานกลาง แล้วคนที่เรียนเก่งๆบางคนสอบติดไปเรียนเพื่อรอซิ่วเข้าหมอหรือทันตะ เราไม่ได้สอบไม่ติดเภสัชนะเพียงแต่แค่เก็บเอามาคิดว่า บางทีก่อนสมัครสอบเค้าน่าจะคัดเลือกคนที่อยากเข้าเรียนเภสัชจริงๆมากกว่านะ
เอาประสบการณ์จากทึ่ที่ผ่านมาแล้วกัน ไม่เอาที่อื่น
จาก 180 คน คงเหลือประมาณ 30 ถ้าคัดเอาแต่คนที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ไม่ได้หลุดคณะอื่นมา ไม่คิดซิ่วออก
จริงๆ ไม่ได้พูดเล่น
ถามว่าใครทำงานได้ดีกว่า
ตอบเลย คนเก่งแต่รักปานกลาง เฉยๆกับวิชาชีพ
คนที่รักในเภสัชมากๆ สอบไม่ผ่าน ตกรุ่นเยอะแยะถมไป (เรียนปานกลางนะ ไม่ได้โง่เลย แต่เจออัดหลายๆวิชาพร้อมกันลองดู)
เพื่อนซิ่วมาจากวิดยาจุฬาด้วยซ้ำ
ไม่ได้โลกสวย แต่เภสัชเป็นคณะที่ไม่ได้ง่ายขนาดที่แค่รักแล้วจะจบได้
อาจารย์สอบสัมภาษณ์ถาม ให้ตอบตรงๆ ว่ารักเภสัชจริงมั้ย จะซิ่วมั้ย หลายคนก็ตอบตามความจริง คือหลุดแพทย์ - ทันตะมา ถามอันดับแอดว่า ลงเป็นที่เท่าไหร่ ส่วนน้อยที่จะลงเป็นอันดับ1
หลายคนที่บอกว่าไม่ซิ่ว แต่พอไปเจอตัวเภสัช วิชายา ก็ค้นพบ แล้วก็ซิ่วก็มี เพราะภายในกับภายนอกมันคนละอย่างเลย
อีกอย่าง สำหรับคนที่พลาดเภสัช
ถ้าแค่นี้สอบไม่ติดนะ เราให้ได้ไกลสุดแค่ปี1 เทอม2
บางคนตกวิชาที่มีตัวต่อ ก็ต้องซ้ำชั้น
ถ้ามีโอกาสเข้าไปเรียน แล้วจะรู้ว่า เรียนหนักไม่ต่างจากแพทย์เลย สอบบ่อยมาก แค่ไม่มีราววอร์ด ไม่มีหัตถกรรม นอกนั้นก็คล้ายๆกัน
แล้วคนที่รักในวิชาชีพ ก็มีมุมมองต่างจากตอนที่เข้ามาสัมผัสจริงๆ
คนที่เรียกได้ว่า Born to be อยากเรียนเภสัชตั้งแต่ม.2 อ่านหนังสือจนสอบติด มารู้ตัวว่ามันไม่ใช่ตอนขึ้นปี 3 (สายรหัสเราเอง) แต่ก็ไม่อยากซิ่ว เพราะมันจะครึ่งทางแล้ว
แต่เราไม่ได้ว่า เภสัชไม่ดีนะ เพราะเพื่อนรักเราหลายคนก็เรียน กลัวก็เป็นอาชีพที่ปิดทองหลังพระที่สุดละ
แต่มันไม่เหมาะกะเรา เลยซิ่วออกมา
----------------
ส่วนตอบจขกท เรากับเพื่อน เรียนเภสัชด้วยกัน อ่านหนังสือซิ่วแบบไม่ได้ดรอป เกรดเราตกนะ แต่เพื่อนไม่ตก
เพื่อนเราติด ทันตะรอบ กสพท มช
ไม่ได้ดรอป เกรดในม ดี กล้วก็เป็นหลีดคณะด้วย ทำกิจกรรม
ของเราไม่ติดอ่ะ เลยดรอปทั้งปี ถึงติดปีต่อมา
จริงๆมันก็แล้วแต่คนนะ ว่าจะบริหารเวลาเก่งรึป่าว
ถ้ามีความรับผิดชอบสูง ไม่ดรอปก็ติด
แต่ถ้าต้องการเวลามากๆ อย่างเรา เรียนพิเศษด้วย ก็ดรอปเถอะ
แต่ต้องเผื่อใจว่าะ้าซิ่วไม่ติดด้วยนะ
เป็นกำลังใจให้
หมายความว่าเราต้องลองไปเรียนจริงๆก่อน ถึงจะรู้ว่าเรียนไหวหรือไม่ไหวเหรอคะ
ซิ่วเยอะ ว้ากก !
อยากเรียนทันตะจริงๆนะ
ป่าวๆ เราเดาเอานะ ว่าเธออยากเรียนเภสัช แต่สอบไม่ติด
ก็เลยคิดว่า คนที่มาเรียนรอซิ่ว นี่กันที่พวกที่อยากเรียนจริง (ถ้าไม่ใช่เราขอโทษนะ)
แต่เราอยากมองในมุมมองเราว่า เนื้อหาม.ปลายง่ายกว่าเภสัชหลายเท่า สอบยังไม่ติดแล้วจะเรียนไหวเหรอ
ซึ่งถ้าสัมภาษณ์เอาคนที่จะซิ่ว เอาคนที่ไม่ชอบเภสัชจริงๆออก คนที่อยากเรียนจริงๆคงคะแนนไม่ถึงตั้งแต่แรก เรียนไปคงมีปัญหาแน่นอน
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก บางคนมาขยันในมหาลัยก็มี บางคนจบป.ตรีสาสุข, พยาบาล, กายภาพมาเรียน ก็เก่งๆกัน
แต่ที่เราเห็น คนที่เรียนไม่เก่ง กับคนเรียนปานกลาง มักจะตกวิชาที่มันหนักๆ เช่น กายวิภาค พฤกษศาสตร์ สรีระ เคมึอนินทรีย์ หรือแม้แต่วิชาคำนวณยา (เอาชื่อภาษาไทยทั้งนั้นเลยนะ) ซึ่งอันหลังนี่ ใช้แค่สูตร aN1V1 ง่ายๆเลยนะ ก็ยังมีตก
อันนี้พูดถึงคนเก่ง กับไม่เก่งนะ คนเก่งมีแววจะจบตามเกณฑ์ และได้ทำงานก่อนเยอะ คนไม่เก่งและปานกลางต้องขยันมากๆ
ส่วนพูดถึงความใจรัก บางคนมองภาพเภสัชไว้อย่างสวย แต่พอมาเรียน มันก็ดี แต่ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย
มีประมาณ 30 กว่าคนที่ใช่ ชอบ รัก และรักมากๆ เหมือนที่ฝันไว้
ส่วนไหวไม่ไหว ถ้าชอบจริงนะ ถ้าสอบเข้ามาได้ ไม่ว่าจะซิ่วมา ม.6 แอด โควตา เอกชน หรือรัฐบาล คุณมีศักยภาพพอที่จะเรียนจบแน่นอน 100%
ถ้าอดทน
อ่อ เราเข้าใจละ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?