Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อน ไม่ไว้ใจเราว่าเราเป็นผู้ชาย แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่า เพื่อนผมเขาคิดอะไรกับผมรึเปล่า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ให้ท้าวความก่อนว่า
ช่วงนี้ผมกับเพื่อนทะเลาะกันแทบทุกวัน ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย ผมก็เหนื่อย เพื่อนผมก็เหนื่อย
ต่างคนต่างเอาชนะกันและกัน ไม่มีใครยอมกัน จนมีวันหนึ่งเขาทนไม่ไหวกับเรื่องที่เราทะเลาะกันอยู่ทุกวัน ทำให้เขาบอกกับผมว่า มันอยากลดระดับความสัมพันธ์ลง มันบอกผมว่า มันแคร์ความรู้สึกตัวเอง
มันไม่อยากจะมาคิดเรื่องพวกนี้อีกแล้ว จนมันไม่มีเวลาทำอะไร ทำไมต้องเอาเรื่องนี้เก็บมาคิดมาก
อยากให้คุยเป็นเพื่อนธรรมดา มันไม่อยากได้แล้วเพื่อนสนิท ซึ่งแน่นอนแหละ ผมเสียความรู้สึกมากและบอกว่า ถ้าจะให้ทำแบบนั้น ผมทำให้มันไม่ได้หรอก และผมเลยอยากรู้เหตุผลมันก่อนที่เราจะห่างกันจริงๆ เอาให้ชัดเจน
เขาก็เลยบอกกับผมว่า ผมไม่ค่อยฟังเขา เรื่องที่เขาไม่เข้าใจทำไมผมต้องมางี่เง่าใส่เขา เรื่องผมมาสาย?? และเรื่องผมไม่ตั้งใจเรียน?? เรื่องที่เพื่อนสนิท(ของผมอีกคน เป็นผู้หญิง) มีแฟนแล้ว ทำไมผมยังไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง มันบอกผมว่า ผมโครตงี่เง่าเลย และก็เรื่องมันนอนไม่หลับ เมื่อผมไปนอนด้วย ผมสงสัยประเด็นนี้ เลยถามไปว่าเพราะอะไร เขาเลยตอบผมมาว่า มันเป็นนิสัยเขา ตอนเขานอนกับแฟน(แฟนก็เป็นผู้หญิง เลิกกันไปนานแล้วเป็นปีๆ) เขาบอกเขาก็นอนไม่หลับแบบนี้??
ผมเป็นคน ตัวเล็ก นิสัยเหมือนผู้หญิง ก็เลยทำให้เพื่อนผมไม่ไว้ใจว่าผมเป็นหรือเปล่า ในครั้งแรก มันระแวงผม
เขามีอาการแปลกไป เมื่อยิ่งเราอยู่ด้วยกันสองคน หรือคนมาล้อ
ผมไม่ได้เป็นไงเลยย้ำให้เขาฟังตลอดเวลา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะย้ำให้ฟังทำไมหนักหนา
ผมก็เหนื่อยใจเหมือนกัน ทำไมเพื่อนไม่ไว้ใจ
ตอนแรกเขาก็สงสัย และก็เลยขอโทษเราไป เขากลายเป็นคนผิด
แต่ครั้งต่อมา เวลามันมีอาการ ผมก็บอก แต่กลายเป็นว่าไม่ใช่ ผมเป็นคนจับผิด (คือคิดมากไปเองนั่นแหละว่าเพื่อนไม่ไว้ใจ) ซึ่งครั้งนี้ผมกลายเป็นคนผิด
แต่เรื่องมันเกิดที่ว่า เวลาผมให้ความสนิทกับเพื่อน ผมสามารถให้ได้ไม่กี่คน แต่ก็ไม่ใช่แค่มันคนเดียวยังมีอีกหนึ่งคน แต่สนิทน้อยกว่ามันนะ เขาเป็นผู้หญิง ตอนปี 1 เทอม 1 ผมเคยสนิทกับเขามาก่อน และสนิทกับเขามากๆแค่คนเดียว แต่เขากลับคิดกับผมมากกว่าเพื่อน ผมเลยห่างๆกับเขาไป จนมาคุยตอนปี 2 เทอม 2 อีกรอบนึง (ตอนนี้ปี 3) ซึ่งเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว ทำให้ผมไว้วางใจว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับผมแล้ว ช่วงที่ผมทะเลาะกับมัน ผมมักจะมาปรึกษาเขา เขาก็เข้าใจผม เพราะเขารู้ว่าผมนิสัยยังไง และบอกให้ผมห่างๆออกมาดีกว่าไหม เขาบอกว่า บางเรื่องผมก็ไม่ผิด ทำไมต้องมายอมด้วย ทำไมถึงเป็นคนดี แคร์เพื่อนขนาดนี้ ผมก็เลยบอกเขาว่า ผมไม่ได้ผูกพันธ์กับใครง่ายๆ เหมือนเธอไง ที่เราก็แคร์เธอมากๆเหมือนกัน เขาก็เข้าใจผม และเราก็คุยกันได้สนิทใจมากๆ ที่ได้เพื่อนที่ดีของผมกลับคืนมา
เรื่องมันเกิดขึ้นที่ตรงนี้...มันมีหลายๆเรื่องเข้ามาให้เพื่อนสนิทผม(ผู้ชาย) กับผมทะเลาะกัน
1-2 ครั้ง(รุนแรง)/สัปดาห์
และทุกครั้งผมจะห่างหายไป ซึ่งไม่ถึงวันสองวัน ก็ดีกันแล้ว ก็เป็นแบบนี้
แต่จะมีเรื่องหนึ่งที่เพื่อนผมและผม จะห่างหายกันและไม่คุยกันเป็นสัปดาห์เลยก็คือ
เรื่องที่ผมไม่ไว้ใจมันว่ามันไม่คิดว่าผมเป็นผู้ชายจริงๆ (หรือเรื่องที่มันหาว่าผมจับผิดว่ามันคิดว่าผมเป็นเกย์)
เรื่องนี้ผมทำใจรับไม่ได้จริงๆ เพื่อนสนิทคบกันมาตั้งนานทำไม ต้องมาคิดอะไรแบบนี้ ในสายตาผม
แต่ในสายตามันก็คือ ทำไมผมต้องมาคอยจับผิดมันตลอดเวลา และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูกอยู่เสมอ ทั้งๆที่มันไม่ได้คิด
ทำให้เราห่างหายกันเลย แล้วก็มาเคลียร์กันใหม่เหมือนเดิม
แต่เรื่องนึงประเด็นสำคัญที่ทำให้ผมสงสัย กับการลดระดับความสัมพันธ์ของผมครั้งนี้ คือ มันเกี่ยวข้องกับ เพื่อนสนิทผู้หญิงอีกคน ที่ผมสนิทมาก ผมบอก(เพื่อนสนิทผู้ชาย) แล้วว่าผมคิดกับเขา(เพื่อนสนิทผู้หญิง) แค่เพื่อน เขาพูดเหมือนจะฟังผม แต่คำพูดที่เขาพูด มันกำลังบอกผมว่า มันกำลังไม่เข้าใจผม ว่าผมทำไมถึงไปสนิทขนาดนั้น ทำให้เราทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะเรื่องนี้ผมก็ไม่ยอม เพราะผมไม่ได้คิดอะไร แต่ผมก็สนิท แล้วมันจะเป็นอะไร
แต่อยู่ๆดีๆ เขากลับบอกผมว่า อยากลดระดับความสัมพันธ์ ทั้งๆที่เพื่อนสนิทไม่ควรพูดกันแบบนี้
ไม่ใช่แฟนกันสักหน่อย ซึ่งเขาบอกผมว่า อยากให้ผมลองสูญเสียอะไรสักอย่างดู อยากให้ผมลองมีแฟน และให้เลิกกันดู จะได้เลิกงี่เง่าแบบนี้
ผมก็บอกเขาว่า ทำไมต้องเอาเรื่องความสัมพันธ์มาเป็นข้อต่อรอง ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่ในฐานะแฟน แต่มืงเอาฐานะเพื่อนมาเป็นข้อต่อรอง และผมไม่อยากเสียมันไป เพราะผมรักมันมาก ผมก็พูดแบบนี้
มันก็พูดทำร้ายความรู้สึกทุกๆทางๆ เหมือนพยายามจะตัดผมแล้ว แต่สุดท้าย มันก็บอกว่า มันรักผมนะ แล้วก็ขอตัวไปกินข้าว ตอนแรกผมก็คิดมากว่าผมจะมองหน้าเพื่อนสนิทตัวเองติดไหมนะ จะไปคุยเหมือนเดิมยังไงดีให้สนิทเหมือนเดิม แต่อยู่ดีๆวันต่อมา ผมงงเลย อยู่ดีๆ เขาก็มานั่งกับผม[เก้าอี้ตัวเดียวกัน] (ผมนั่งกับเพื่อนสนิทผู้หญิงอยู่ เขานั่งอยู่ฝั่งซ้าย) เขายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เมื่อวานพูดแตกหักกับผมมาก ผมก็เลยดีใจที่เขากลับมา แต่ก็ยังสงสัย
ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เพื่อนสนิทผู้หญิงผมก็รู้เรื่องผมกับเขาทะเลาะกันทุกอย่าง เพราะผมก็เล่าให้ฟัง เขาก็เลยถามมันว่า เมื่อวานเห็นทะเลาะกัน ดีกันแล้วเหรอ (พูดทำนองประชด) เพื่อนสนิทผู้ชายผมก็เลยยิ้มแหยๆไป เขาก็ชวนผมคุยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เรานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน เขาก็เบียดผม เหมือนอยากใกล้ชิดกับผมอะนะ - - ทั้งๆที่ก็มีเก้าอี้ แต่มันบอกว่า ไม่อยากไปเอาข้างหน้า อาย ผมก็เลยเริ่มสงสัยแล้ว มืงเป็นอะไรมากไหม เมื่อผมอยากรู้เท่านั้นแหละ พอเลิกเรียน แล้วมันต้องไปทำงานต่อ ผมก็เลยขอกุญแจห้องมัน บอกมันว่า ผมจะไปดูหนัง แต่ว่ามันต้องรอนาน ไม่อยากกลับบ้าน มันไกล ไปเล่นห้องมืงก่อน (แต่ที่จิงจะไปเช็คว่า ที่ผมทะเลาะกับมันและห่างมันไป มันเช็คอะไรหาผมไหม) สรุปว่า เช็คแหะ เช็คทุกวันด้วย! ผมอึ้งที่มันใส่ใจผมขนาดนี้ แต่ผมก็ยังไม่คิดว่ามันจะคิดอะไรกับผมหรอก จนผมก็เล่นไปสักพัก มันก็เงียบๆใช่ไหม ผมก็ว่าจะเปิดเพลงฟัง แต่ละเพลงใน list ของมันเนี่ย มีแต่เพลงบอกเลิก เช่น รู้ตัวช้า ทำใจไม่ได้ ที่สำคัญ คือ เพลง รักเพื่อนนี่มีอยู่ เพียบ!!
มันทำให้ผมคิดย้อนกลับไปอีกทีว่า ที่มันทำไปแบบนั้น หรือการที่เราทะเลากันทุกๆวัน มันสื่อหรือมีความนัยน์อะไรกันแน่ หรือผมจะคิดมากไปเอง คือถ้าเป็นแบบนี้สงสัยผมคงต้องห่างจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

nonat 18 ส.ค. 56 เวลา 11:03 น. 1

ในความคิดเรานะ เค้าก็คงชอบคุณนั้นแล เพราะด้วยความที่ตัวคุณเองก็เอาใจใส่ เทคแคร์จนรู้สึกว่าได้ความรักมากกว่าคนที่เป็นเพื่อนทำให้ และเมื่อรู้ว่า คุณก็ทำอย่างนี้กับเพื่อนอีกคนเหมือนกัน(เพื่อนผู้หญิง) มันก็เลยกลายเป็นว่าเสียความรู้สึก เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของคุณคนเดียว แต่กลายเป็นว่ามีอีกคนที่เป็นคนสำคัญเหมือนกัน มันเลยกลายเป็นข้อที่ทำให้หาเรื่องทะเลาะตลอด

ส่วนเรื่องที่ถ้าเค้าอยากจะรู้ว่าคุณเป็นเกย์หรือป่าว?  มันก็แน่นอน ถ้าคุณชอบใครสักคน คุณก็ต้องอยากรู้ว่าเค้าจะมีโอกาสชอบคุณหรือป่าว แต่เท่าที่อ่านมา คุณก็เป็นชาย 100% ส่วนเพื่อนคุณ คุณก็ยังไม่แน่ใจ 

ถ้าคุณรู้สึกว่า เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้ ผมว่าคุณก็ครวห่างออกมา ทำเหมือนเพื่อนทั่วไป ไม่ต้องใส่ใจมาก เพราะถ้ายังแคร์กันมาก ๆ ใส่ใจกันมาก ๆ มันจะกลายเป็นว่าคุณแสดงออกว่ารักเค้ามากกว่าคำว่าเพื่อน

แต่ถ้าคุณโอเคร ถ้าเกิดมีโอกาสคบกันเป็นอย่างอื่นมากกว่าเพื่อน ก็ลองหาโอกาสอยู่ด้วยกัน 2 ต่อสอง ลืมเรื่องทุกอย่างแล้วคุยกัน หรือถ้าขัดเขินที่ต้องคุยกัน ลองหาโอกาสกอดเค้าจากด้านหลัง แล้วเค้าจะมีคำตอบให้คุณเอง ว่าเค้ารักคุณแบบไหน

0
sdsdds 18 ส.ค. 56 เวลา 16:12 น. 3

เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่ได้ชอบเขาตอบ คุณก็ต้องบอกให้เขารู้ไปเลยค่ะ
ว่าคุณไม่ใช่เกย์นะ คุณไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกัน
ถ้าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคุณก็แล้วไป แต่ถ้าเขาคิด เขาก็จะได้รู้ว่าเขาไม่มีหวังในตัวคุณ

0