แฟนคลับเกาหลี
แฟนคลับเกาหลี
( BX25 : เรียบเรียง )
..
..
..
ในสังคมไทยของเราทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ากระแสเกาหลีนั้นมีอิทธิพลมากต่อสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่น อย่างเช่น ภาพยนต์ ซีรี่ย์ เพลง สื่อโฆษณา แฟชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือดาราและศิลปินเกาหลี ส่วนผู้ใหญ่ส่วนมากมักจะมองว่าคนที่ชอบเกาหลี บ้าเกาหลี ว่าขายชาติบ้าง ไร้สาระบ้าง ไม่สนใจการเรียนบ้าง บางครั้งถึงกับกล่าวหาว่าอาจจะฆ่าตัวตายตามเหมือนความนิยมในการแก้ปัญหาชีวิตของดารานักร้องเกาหลีบางคน
การชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่ผลงานของชาตินั้น ไม่ใด้หมายความว่าเราไม่รักแผ่นดินที่เราเกิดที่เราอาศัย เพราะถึงเราจะชอบศิลปินเกาหลีแต่เราก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย และใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง ต่างจากเด็กวัยรุ่นบางคนที่ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ"ภาษาวิบัติ"นั่นเอง หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำไมเด็กไทยไม่ชอบศิลปินไทยที่พยายามสร้างลุคเป็นเกาหลี นั่นก็เป็นเพราะเด็กเขามองว่า”พวกนี้คือพวกที่พยายามจะทำตามเกาหลี ฉันไปชอบของจริง เกาหลีจริงๆเลยดีกว่า”
..
มีผลสำรวจของมติชนออนไลน์ทำการสำรวจแฟนคลับเกาหลีจำนวน 280 คน ผลปรากฎว่าแฟนคลับเกาหลีจะเป็นผู้หญิง 95 เปอร์เซนต์ อีก 5 เปอร์เซนต์เป็นผู้ชายหรือที่เรียกกันว่า "แฟนบอย" การสำรวจช่วงอายุแฟนคลับเกาหลี 58 เปอร์เซนต์ อยู่ในช่วงอายุ 18-25 ปี อีก 16 เปอร์เซนต์ อายุต่ำกว่า 18 ปี ส่วนที่อายุมากกว่า 35 ปี หรือกลุ่มแฟนคลับ "อาจุมม่า" ที่เป็นภาษาเกาหลีแปลว่า "คุณป้า" ก็มีอยู่ราว 4 เปอร์เซนต์
แฟนคลับเกาหลีแต่ละวงนั้นก็จะมีชื่อเรียกแทนกลุ่มแฟนคลับของวงนั้นๆ เช่น E.L.F. (Super Junior) , Cassiopeia (TVXQ, DBSK) , VIP (BIGBANG) , BABY (B.A.P) , Inspirit(Infinite) , B2UTY (BEAST) , Hottests (2pm) , Blackjacks (2NE1) , A Plus (MBLAQ) และอื่นๆ อีกมากมาย
วิถีชีวิตของการเป็นแฟนคลับเกาหลีส่วนมากนั้นจะเริ่มตั้งแต่เวลาที่พวกเขาลืมตาตื่นนอน สิ่งแรกที่จะทำคือการเช็คข่าวคราวความเคลื่อนไหวของศิลปินคนโปรดผ่านทางทวิตเตอร์ อินสตาร์แกรม มีทูเดย์ หรือบอร์ดต่างๆ ตามด้วยการแชร์ข่าวคราวที่ได้รับรู้มากับเพื่อนในกลุ่ม ทั้งผ่านโลกไซเบอร์ โทรศัพท์ และคุยกันซึ่งๆหน้า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ข้อบังคับแต่อย่างใด เพราะมันไม่เคยสร้างความลำบากให้พวกเขาเพราะทุกอย่างที่กระทำลงไปนั้นจะถูกทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
หลายคนมองว่าเป็นแฟนคลับเกาหลีนั้นไร้สาระ แต่การที่พวกเราชื่นชอบพวกเขาและได้สนับสนุนพวกเขานั้นได้ข้อคิดต่างๆมากมาย เช่น พวกเราจะรู้จักรอมากขึ้น พวกเราต้องรอพวกเขามาทำงานที่เมืองไทย พวกเรารู้จักความหมายของความรักมากขึ้น เนื่องจากพวกเราต่างทำของเพื่อมอบให้พวกเขาโดยไม่หวังผลตอบแทน เราทุ่มเทเพื่อคนที่เรารัก สอนให้เราได้มีโอกาสที่จะไขว่คว้าหาทางที่จะเข้าหาพวกเขาให้ได้ และสอนให้เรารู้จักเก็บออมเงินเพื่อซื้อสิ่งที่อยากได้ด้วยเงินของตนเอง นอกจากนั้นพวกเราก็ยังได้ศึกษาภาษาที่ 4 คือ "ภาษาเกาหลี" ซึ่งความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญ รู้ไว้ก็ไม่ก่อผลกระทบที่เสียหายอะไร และบางครั้งพวกเราก็ได้ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยเมื่อไหร่ที่พวกเราพบชาวเกาหลีที่มาเที่ยวประเทศไทย พวกเราก็จะสามารถสื่อสารและแนะนำพวกเราได้
..
สุดท้ายนี้ได้มีนักจิตวิทยากล่าวว่า "จงอย่าดูถูกพวกเด็กๆ ที่บ้าศิลปินเกาหลี" หัวใจของพวกเขาบริสุทธิ์มากกว่าคนอื่นๆ พวกเขากล้าที่จะรัก และหาวิธีที่จะก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ อย่างเช่นภาษาและความต่างของเชื้อชาติ พวกเขาเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสันติ พวกเขาไม่แบ่งแยกเชื้อชาติและยังสามารถเป็นเพื่อนกับผู้คนต่างเชื้อชาติและภาษาที่ชอบและสนใจในสิ่งเดียวกัน. พวกเขาเป็นมิตรมากกว่าคนอื่นๆ พวกเขาจะไม่มีทางหักหลังคนที่พวกเขารักไปได้ง่ายๆ และจะไม่ยอมแพ้กับทุกสิ่งทุกอย่างแบบง่ายๆ อีกด้วย"
..
อ้างอิง : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328356756&grpid=
คู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 644
38 ความคิดเห็น
จริงอยู่นะ บางทีความคิดของพวกชอบเกาหลียังโตกว่าผู้ใหญ่บางคนเลย เอาจริงๆพวกที่ชอบเกาหลีอ่ะโตได้เองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาสอนเลยด้วยนะ
ดีครับ อยากให้ใครหลายๆคนที่อคติได้อ่านบ้าง
สุดยอดไปเลย
รักเกาลีจุงเบยยยย ซารังเฮ๊
เรารักเอ็กโซแฟน
ชอบมากกก พวกเราไม่ได้บ้าเกาหลลี พวกเขาคือแรงบันดาลใจ
เนื้อเรื่องดีมากเลย
ติ่ง //กระซิกๆ
ซึ้งอ่ะ
ชอบมากกกกเลย โดนใจจริงง
เจ๋งๆๆ
ชอบอ่ะ เข้าใจติ่งอย่างเราจริงๆ
รักเลยอ้ะ
โดนใจอย่างแรว้งงงง
น่ารักอะ
เราเป็นแฟนคลับเหมือนกัน บางครั้งเพื่อนเราก้อบอกว่าเราเพ้อเจ้า เหลวไหล ไร้สาระ บ้าเกาหลีแต่พอมาอ่านทู้นี้ โหซึ้งอ่ะ TT
ชอบ~ มาก...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?