Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

5 อันดับผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก !!!! o-0

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

5 อันดับ “ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก” 0.0 !!!!!

 ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก อันดับ 5. แมรี่ แอนน์ คอตต้อน ( Mary Ann Cotton ) 

นาง แมรี่ แอนน์ คอตต้อน สตรีชาวอังกฤษ เป็นนักฆ่าต่อเนื่องเพื่อผลประโยชน์อีกรายหนึ่ง แต่งงานเมื่ออายุ 12 ปีกับ นายวิลเลียม มาวเบรย์ คู่แต่งงานใหม่นี้อาศัยที่ไพลเมาท์ เมืองเดวอน ต่อมาพวกเขามีลูกด้วยกันห้าคน สี่คนตายเพราะโรคกรดในกระเพาะอาหารและปวดท้องอย่างรุนแรง จากนั้นพวกเขาก็ย้ายไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ แต่เหตุการณ์ร้ายก็ยังตามมา เมื่อลูกที่เลี้ยงตายถึงห้าคนในระยะเวลาไล่เลี่ยงกัน ต่อมานานวิลเลียมก็ตามลูกๆ ไปด้วยโรคลำไส้ไม่ทำงานในเดือนมกราคม ปี 1865ประกันสังคมของอังกฤษจ่ายเงินสินไหมชดเชยให้เธอถึง 35 ปอนด์สเตอริง แต่เหตุการณ์ร้ายก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะต่อมา สามีคนที่สองของเธอ จอร์จ วาร์ด ก็เสียชีวิตเพราะปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เช่นเดียวกับหนึ่งในลูกอีกสองคนที่ เหลือของเธอ ด้วยการตายถี่ของคนในครอบครัวแมรี่ทำให้มีการสอบสวนเกิดขึ้น จนพบว่า นาง แมรี่ แอนน์ มีความผิดฐานวางยาสามีสามคนคู่รักเพื่อน,แม่ของเธอและลูกๆอีกหนึ่งโหล ทั้งหมดเสียชีวิตจากอาการป่วยที่ท้อง ผลคือเธอถูกแขวนคอที่ เดอร์แฮม เคนท์ตี้ กาออล ในวันที่ 24 เดือนมีนาคม ปี 1873 ด้วยข้อหาฆาตกรรมด้วยการวางยาพิษสารหนู เธอตายอย่างช้าๆ เพราะเพชฌฆาตใช้เชือกแขวนคอสั้นเกินไปสำหรับการประหาร

 

ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก อันดับ 4. อิลซ่า คอชห์ ( Ilse Koch )

ได้ รับฉายาเยอะจริงสำหรับผู้หญิงคนนี้ เช่น “ นางแม่มดแห่งบูเชนวาล์ด” , “ หญิงเลวแห่งบูเชนวาล์ด เธอเป็นภรรยาของนายพลคาร์ล คอชห์ ผู้บัญชาการแห่งค่ายกักกันของนาซีประจำค่ายบูเชนวาล์ด(1937-1941) และมาจดาเนค (1941-1943)เธอเป็นคนบ้าอำนาจมากและเมื่อเธอได้ทำงานแทนสามี เธอก็มีเวลาว่างแสนสนุกสนานกับการทรมานและข่มขืนนักโทษในค่ายกักกันจนฉาวโฉ่ จนเป็นที่ร่ำลือในความโลกีย์ ว่ากันว่ารอยสักตามตัวของเธอนั้นจากการสังหารคนในค่ายกักกันหนึ่งคนต่อ หนึ่งขีด (ขีดในร่างกายเธอมีประมาณ 250,000 ขีด!!) แต่ผลสุดท้าย เธอแขวนคอฆ่าตัวตายใน เรือนจำหญิงอิคช์แอคช์ ในวันที่ 1เดือนกันยายน ปี 1967

 

ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก อันดับ 3. เออร์ม่า เกรเซอ (Irma Grese) 

อีก หนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าภูมิใจ (ในความอัปยศ) ของนาซีในยุคหลัง เออร์ม่า เกรเซอ หรือ “ หญิงเลวแห่งเบลเซ่น ” เธอเป็นทหารรักษาการณ์ที่แคมป์กักกันเรเวนส์บรุคค์ค่ายนรกเอาสช์วิทซ์ และ เบอร์เย่น – เบลเซ่น ถูกย้ายมาประจำการที่เอาสช์วิทซ์ในปี1943 โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลสำรองพิเศษหน่วยควบคุมดูแล ซึ่งเป็นยศที่ใหญ่เป็นลำดับสองของทหารหญิงในค่าย ในวันสิ้นปี เธอจับนักโทษหญิงชาวยิวกว่า 30,000 คน มาสนุกกับเกมส์ของเธอ ประกอบด้วย ทารุณกรรมเหล่านักโทษด้วยให้สุนัขที่ถูกฝึกฝนและกำลังหิวโหยกัดการทารุณกรรมทางเพศต่างๆจนนักโทษรับไม่ไหวการยิงปืนตามอำเภอใจการตีอย่างทารุณด้วยแส้แบบเปีย และเลือกนักโทษเข้าห้องรมแก๊ส เธอชอบเรื่องซาดิสต์ทรมานคนมากๆ จนนักโทษหลายคนในค่ายรู้จักเธอดีในภาพลักษณ์หญิงใส่รองเท้าบูทหนักและพกปืน สั้นเพื่อให้สะดวกในการทรมานนักโทษ

 

ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก อันดับ 2. แคทเธอรีน ไนท์ ( Katherine Knight ) 

แค ทเธอรีน ไนท์ สตรีชาวออสเตรเลียนคนแรกให้ประหารชีวิตโดยไม่มีการอุทธรณ์ เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าสามีเธออย่างโหดมที่สุดเท่าที่โลกมีมา เธอเคยบดฟันปลอมของสามีเก่าคนหนึ่งของเธอจนแหลกละเอียด และปาดคอลูกสุนัขอายุ สัปดาห์ของสามีอีกคนหนึ่งก่อนจะเชือดตาของเขาออก แต่ดังที่สุดคือ คดีฆ่า นายจอห์น ชาร์ล โธมัส ไพรซ์ เมื่อ นายไพรซ์ยื่นฟ้องต่อนางแคทเธอรีน     ขอหย่า จนนางไนท์แค้นมาก เลยใช้มีดแล่เนื้อ แทงนายไพรซ์ถึงแก่ความตาย เขาถูกแทงอย่างน้อย 37 ครั้ง ทั้งหน้าและหลังและหลายแผลแทงทะลุอวัยวะภายในที่สำคัญหลายแห่ง จากนั้นเธอก็ถลกหนังเขาแล้วแขวนหนังที่ถลกแล้วไว้กับขอบประตูห้องนั่งเล่น ตัดหัวเขาออกแล้วใส่ในหม้อซุป อบส่วนสะโพกบั้นท้ายของเขา แล้วเตรียมน้ำเกรวี่และผักเพื่อเป็นเครื่องเคียงเนื้ออบ โดยอาหารมื้อพยาบาทนี้ถูกจัดเตรียมไว้ให้เด็กๆ ในบ้านกิน…….. แต่โชคดีที่ตำรวจมาเจอก่อนที่เด็กๆจะกลับถึงบ้าน(เหอๆ)

 

ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก อันดับที่ เอลิซาเบธ บาโธรี่ ( Elizabeth Bathory ) 

แน่นอนอันดับ น้อยคนนักจะไม่รู้จักเธอ นักฆ่าที่โด่งดังที่สุดสุดในฮังการีและของโลกที่ฆ่าคนเพราะคิดว่าถ้าเอาเลือดมา ชำระร่างกายผิวเธอจะสวยสดตลอดกาล……โดยเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อมีข่าวลือ หลายปีเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงชาวไร่ชาวนาหายไปในเขตการปกครองของเธอ จนกษัตริย์แมทเทียสที่ ต้องออกมาทำการตรวจค้นที่ปราสาทของเธอและจนได้พบศพของเด็กหญิงที่ตายอย่าง โหดร้ายสุดจะบรรยาย เช่น ร่างพรุนด้วยเข็ม ศพไหม้ หรือศพโดนตัดแขนหรือขาหรือส่วนสำคัญของร่างกายออก บางศพมีการบิดเนื้อบิดหน้าแขน และส่วนเกี่ยวกับร่างกายอื่นๆ และทำให้อดอาหารตาย โดยเหยื่อทั้งหมดถูกคิดว่าให้ตัวเลขเกินกว่าร้อยศพ แต่ เนื่องจากสถานะเกี่ยวกับสังคมของเธอจึงไม่ถูกประหาร แต่ให้ขังตลอดชีวิตในห้องขังเดี่ยว ใต้หอคอยแทนจนกระทั้งสิ้นใจตายในที่สุด

 

 ที่มา: teen.mthai.com


แสดงความคิดเห็น

>

59 ความคิดเห็น

jeut 17 ต.ค. 56 เวลา 14:26 น. 6

ในความคิดเรา เราว่าอันดับ2โหดสุด เพราะอันดับอื่นมันมีแรงจูงใจ หรือไม่ก็บ้าอำนาจอะ แต่อันดับ2หน้าตาไม่ให้เลย แต่กลับฆ่าหั่นศพได้
การจะฆ่าหั่นศพคนเป็นชิ้นๆขนาดนี้ได้จิตใจต้องแข็งและโหดน่าดู เพราะร่างกายมนุษย์หนาและขาดออกจากกันยากมาก โดยเฉพาะหัว
ถ้าฆ่าตัดหัวที่แสดงว่าต้องเอามีดมาหั่นหัวย้ำๆๆอยู่สักพักกว่าจะแยกออกจากกันเลยแหละ

0
Saoirse 17 ต.ค. 56 เวลา 16:00 น. 10

เราว่าอันดับที่ 2 ที่หั่นศพสามีแล้วนำไปปรุงเป็นอาหาร เหมือนเป็นการฆ่าให้ตายแล้วกำจัดศพเลยล่ะ เมื่อไม่ต้องการให้เรื่องบานปลาย เลยกินเขาเพื่อทำลายศพ... ทว่าเพราะตำรวจจับได้เสียก่อน เลยถูกดำเนินคดี

แต่ถ้าเป็นการชำแหละ เพราะแค้นเขาก็อีกเรื่อง...

อย่างไรก็ตาม ต่อให้ทำลายศพเขาแล้ว ยังไงเธอก็น่าสงสัยที่สุดอยู่ดี เพราะเป็นคนใกล้ชิดกับผู้ตาย แถมก่อนหน้านี้ผู้ตายยังฟ้องหย่าเธออีกด้วย...

ส่วนอันดับ 1 รายนี้ เราได้อ่านประวัติเธอบ่อยที่สุด เพราะเธอไม่ได้ฆ่าเพราะแค้น หรือต้องการทรมานธรรมดา ๆ แต่เธอฆ่าคน แล้วรีดเลือด ชโลมทั่วร่างกาย เพื่อคงความงามของผิว รายนี้เลยมีเครื่องทรมานพิสดารมากมาย และวิธีใช้ก็สยองสุด ๆ ฮือ~

ปล. เหมือนเป็นตัวละครที่หลุดมาจากนิยายสยองขวัญเลยอะ

0
Ma-Bung (มะบุง) 17 ต.ค. 56 เวลา 16:13 น. 11
อิลซ่า คอชห์ (Ilse Koch) - เธอมีเวลาว่างแสนสนุกสนานกับการทรมานและข่มขืนนักโทษในค่ายกักกัน

ข่มขืนนักโทษในค่ายกักกัน...
นักโทษผู้หญิงผู้ชายอ่ะคะ
แล้วนางข่มขืนยังไงนั่น =[]=.......
0
σяgαиɴєѕs 17 ต.ค. 56 เวลา 22:22 น. 18

ถ้าผมมีแฟนแบบนี้คงสยองน่าดู
แต่คุณท่านอันดับหนึ่งนี่ติดอันดับตลอดกาลจริงๆ เคยมีหนังที่สร้างจากประวัติเธอด้วย (ลืมชื่อเรื่อง) แต่จำได้ว่าฉากทรมานคนมัน...

0
BadASS 18 ต.ค. 56 เวลา 02:37 น. 20

เกลียดอันดับที่ 3 อ่ะ ดูนางมีความสุขกับวิธีการฆ่าชาวยิวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
นาง racist หรือเปล่า หรือว่าเเค่อยากพลิกวิกฤษให้เป็นโอกาสหาความสนุกให้ตัวเอง

0