Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถ้าอยากสายตาสั้นจงมาทางนี้เรื่องจริงจาก จขกท.

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หลับดีกว่า สวัสดีชาวเด็กดีทุกคนวันนี้มีเรื่องมาเล่า
เมื่อวันเสาร์ จขกท.ได้ไปที่ร้านตรวจสายตาของคุณหมอ จขกท. มีอาการแสบตาเป็นอย่างมากๆพอจขกท.ไปได้คิวที่15พอไปถึงคุณหมอได้ถามว่าเป็นอะไรมา จขกท.ก็เลยตอบว่าเล่นคอมมากจนแสบตาแล้วคุณหมอใช้เครื่องอะไรไม่รู้ตรวจ จขกท.ได้เลื่อนไปเลื่อนมาพอเสร็จุณหมอบอกว่าอาจจะได้สายตาสั้นถาวร หรือตาบอด จขกท.รู้สึกกลัวมากเพราะไม่อยากตาบอดแต่อยากสายตาสั้นแต่ก็สั้นจริงๆเพราะมันเป็นสายตาสั้นเทียมตอนนั้นรู้สึกกว่ามากๆเลยแต่ก่อนยังไม่เป็นมีอาการแสบตาตอนนี้นอยากสายตาสั้นอยากใส่เก๋ๆความคิดปัญญาอ่อนของ จขกท.อะนะ อยากฝากบอกชาวเด็กดีทุกนควรรักษาสายตาไว้ไม่ต้องอยากสั้นเพราะอยากใส่แว่นเก๋ๆแต่อนาคต จขกท.ได้ใส่แว่นแน่ๆเริ่มจะเคื่องกับแว่นแล้วสิขอตัวไปดูโลกสวยงามก่อนจะสายตาสั้นดีกว่า ห้ามเล่นคอมมากเกินไปนะ

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

PiZZaPeaCH Columnist 28 ต.ค. 56 เวลา 11:29 น. 2

พี่สั้น 1050 ใส่แว่นครั้งแรกตอนป. 4 ค่ะ ซึ่งตอนนั้นก็สั้น 250 แล้วอ่ะ (กว่าจะรู้ว่านั่นคือสายตาสั้น โทษครูตั้งนานว่าเขียนลายมืออ่านยาก 555) แล้วก็สายตาสั้นเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 150 จนช่วงม.ปลายเป็นต้นมาเหลือเพิ่มปีละไม่เกิน 100 

แว่นพี่หนาเตอะ เชยสุดยอดในโลกหล้า นี่ขนาดสั่งทำให้บางที่สุด เลนส์ดีที่สุด แต่ก็ยังหนาอลังการยิ่งกว่าก้นขวดนมเยอะเลยค่ะ ใส่แล้วเป็นเจ้าคุณป้ามากๆ ตอนม. 5 เลยเปลี่ยนมาใส่คอนแท็คเลนส์แทน จะใส่แว่นเฉพาะอยู่บ้านค่ะ (หน้าจะเนิร์ดจนเหมือนเป็นเด็กฟิสิกส์โอลิมปิกเลยค่ะ)

ซึ่งมันลำบากมากกกกกกกก สั้นซะขนาดนี้ (ยังไม่รวมเอียงแต่ละข้างอีกนะ) ขาดแว่นขาดเลนส์ปุ๊บนี่มองอะไรไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ต่อให้ทานข้าวกับเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็บอกไม่ได้ว่านี่คือใคร จะเห็นเป็นแถบสีขาวๆ เป็นปื้นๆ หรือไม่ก็เห็นสีเสื้อเป็นปื้นๆ พอบอกได้ว่ามีคนอยู่ตรงนี้ แต่ระบุไม่ได้เลยว่าเป็นใคร เพศอะไร หรือถ้าเอาตุ๊กตาตัวยาวๆ มาวางแทน พี่ก็ยังคิดว่าเป็นคนได้เลย จะไปเที่ยวต่างจังหวัดทีก็ลำบากโคตร ต้องพกไปทั้งแว่นทั้งเลนส์ ตลับเลนส์ ขวดน้ำยาอีก ยุ่งยากมากๆ เลย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้สายตาสั้นก็คือ  นั่งดูทีวีแบบใกล้มากๆๆๆๆๆๆ มาตั้งแต่จำความได้ ชอบอ่านหนังสือในที่มืด อ่านใต้เตียง อ่านใต้ผ้าห่มแล้วเปิดไฟฉาย หรืออ่านบนรถ นอนตีลังกาอ่านยังเคยทำเลยตอนเด็กๆ แล้วก็ชอบนอนอ่านด้วยค่ะ ทั้งนอนคว่ำ (หัวตัวเองบังแสงไฟ) นอนหงาย (หนังสือบังแสงไฟ) นอนตะแคง (คาดว่าน่าจะมีส่วนทำให้สายตาเอียงไม่มากก็น้อย) จำได้ว่าตอนเด็กๆ ถ้านั่งรถไปต่างจังหวัดตอนกลางคืน จะรอจนแม่หลับ แล้วพ่อจดจ่อกับการขับ พี่ก็ควักหนังสือที่ซุกมาเปิดอ้ารอไว้ แล้วเวลาผ่านไฟถนนทีนึง มันก็สว่างส้มๆ มาให้ทันอ่านได้บรรทัดนึง พี่ก็นั่งเพ่งรออ่านแบบแว้บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้จนจบ นอกจากนี้ก็ไม่ค่อยกินผักด้วย ขาดวิตามิน A มากๆ 

นอกจากหนังสือและทีวีแล้ว คอมพิวเตอร์ก็ตัวดีเลยค่ะ (แล้วตอนนี้ทำงานกับคอมทุกวันเนี่ยนะ) พี่เริ่มใช้คอมตอนป.2 ตอนป. 5-6 นี่คือเซียนคอม (ยุคนั้น) เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งคอมพิวเตอร์ระดับประเทศ แถมยังรับจ้างทำรายงานให้เพื่อนๆ ในห้องเป็นอาชีพเสริม พออยู่มัธยมก็ขยายการค้าครอบคลุมไปจนถึงรับโหลดรายการจากต่างประเทศที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย แล้วไร้ท์ใส่แผ่นไปขายเพื่อนๆ ช่วงม.ปลายก็ติดเกมออนไลน์อยู่ 2 เกม สลับกันเล่นวนไปมาทั้งวันทั้งคืน ถึงวัยมหาวิทยาลัยก็เป็นยุคเฟซบุ๊คเพิ่งกำเนิด เล่นเฟซและเกมในเฟซอย่างไม่ลืมหูลืมตา เรียนจบแล้วมาทำงานก็ทำงานที่ต้องใช้คอมตลอดอีก T_T ไม่นานก็คงบอดแล้วแหละ 


ถ้าไม่อยากมีชีวิตน่าเบื่อน่ารำคาญแบบนี้ อย่าปฏิบัติตัวตามพี่เด็ดขาดนะคะ

0