Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ติวถาปัตย์ที่ A-Le Paint กับ Artstudio

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือผมอยากทราบว่าระหว่างสถาบัน A-Le Paint กับ Artstudio
2 ที่นี้ที่ไหนดีกว่ากันอะครับ ดังทั้ง 2 ที่เลย แล้วทั้ง 2 ที่มีรูปแบบการเรียนยังไงบ้างครับอยากทราบ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

เมโกะ 7 พ.ย. 56 เวลา 19:46 น. 1

เราไม่เยเรียน a le paint นะ แต่เคยเรียน artstudio แต่ก็เลิกเรียนไปด้วยความเห็นส่วนตัว แล้วมาที่ต่อแจมเมอกับ ไอแอมอาร์ทสุดท้ายเราก้ย้าย สรุปเราย้ายมาเรียนแห่งหนึ่งแถวสยามอ่ะ แต่ไปสอบศิลปากรมามั่นใจมาก เพราะพี่เค้าติวตรงกับที่จะสิบอ่ะ อัดให้แน่นมาก แล้วผลออกจะบอกนะว่าติดภาคอะไร สู้ๆเช่นกัน

0
Glossy 1 ต.ค. 58 เวลา 17:12 น. 3

Artstudioเราไม่รู้แต่ที่A-Le Paint อย่าไปเรียนเลยมันไม่ดีอะเราเคยไปเรียนแล้วที่นี่อะถ้าวาดรูปไม่เก่งจริงๆเรียนไปไงก็ไม่ติดเพราะเค้าจะไม่สนใจเลยแบบว่าถ้าเราสอบติดเค้าก้จะเอาเราไปพูดต่อว่าเราสำเร็จได้เพราะเค้าซึ่งจริงๆอาจจะไม่ใช่และถ้าเราไม่ติดเค้าก้จะไม่สนใจเราเลยแบบลอยแพที่ผ่านๆมามีคนสอบติดแค่ไม่กี่คนเอง ที่นี่เค้าจะออกแนวนักธุระกิจมากกว่าครูหรือพี่ติวที่อยากให้เราติดจริงๆ ง่ายๆคืออย่าไปเรียนเปอเซนจะโดนลอยแพมี98เปอเซนเพราะรุ่นล่าสุดมีติดสอบตรงแค่1คนจาก50กว่าคน

0
N1QRI 2 ธ.ค. 59 เวลา 22:42 น. 4

เราเรียน A le paint นะ เรียนรุ่น10-11(เราเรียนตอนม.5-6) เราว่ามันโอเคมากนะ คือเราไม่ใช่คนวาดเก่งอะไรอะ คือเข้าไปเรียนแบบงงๆ ไปถึงก้มีคนเก่งกว่าเยอะแยะไปหมด ตอนแรกก้เกร็งๆ แต่พี่ๆที่สอนเค้าก้เข้ามาดูทุกคนอะ คนไหนยังไม่โอเคเค้าก็จะเข้ามาช่วยสอนช่วยดูให้ เราก็จะได้เทคนิคหลายๆอย่างจากพี่ๆหลายๆคนที่มาสอนเราด้วย แต่คือห้องเรียนมันใหญ่ คนค่อนข้างจะเยอะอะ บางทีคนที่ไปเรียนก็ต้องรู้จักหาทางพัฒนาตัวเองเองด้วยอะ คือถ้าพี่เค้าไม่เห็นเรา เราก็เรียกเค้าได้ไรงี้ พอเรียนๆไปมันก็ได้เพื่อนอะ ได้สังคมใหม่ๆ เราว่าตรงนี้มันดีมากนะ คือเราจะได้เรียนรู้จากเพื่อนๆด้วย ผลัดกันแบ่งปันไรงี้(ฟังดูโลกสวยแต่แม่งจริงมากกๆ) คือที่นี่อะมันเรียนสนุกมาก มีแต่คนประหลาดมารวมกัน ละก็ทำไรบ้าบอด้วยกัน แต่ตอนเรียนก้โคดแน่น เค้าจะมีทั้งเลคเชอร์ละก้มีให้ทำงานในห้อง ให้ทำการบ้านเก็บคะแนนก็มี คือมันเป็นการบังคับให้เราต้องรุ้จักขยันอะ

ตอนนี้เราก้อยู่ปี2แล้ว รุ่นน้องเราไม่รู้ แต่รุ่นเราก้สอบติดเยอะอะ แค่ที่มอเราก้เป็นสิบแล้ว พอเข้ามาก้มีรุ่นพี่ที่a le paintเยอะ ปีล่าสุดก้มีรุ่นน้องมาอีกเยอะ จนตอนนี้เรายังเป็นเพื่อนกับเพื่อนๆกลุ่มที่a le paintอยู่เลย มีไรก็ยังช่วยเหลือกัน เราว่าถ้าอยากพัฒนาความสามารถ อยากได้เพื่อนได้สังคมใหม่ๆ อยากเรียนละทำไรสนุกๆ คือที่นี่ก้โอเคมากนะะ

ปล.ตอนเรียนคิดว่าจะสอนครอบจักรวาลไปไหนวะ แต่ตอนนี้คือรู้เลยว่าความรู้นั้นมันได้ใช้จริงๆอะ ในมหาลัยมันมีอะไรให้ต้องรู้โคดดดดดๆๆๆเยอะโดยที่เราต้องรู้เองอะ ที่มหาลัยเค้าไม่มานั่งสอนแล้ว แต่ที่a le paintเค้าก้พยายามสอนให้เรารู้มากที่สุดที่จะอัดมาได้ เรียนละรู้สึกเหนือมา5555ตั้งใจ

1
Sunny vongbeasaj 15 ก.พ. 60 เวลา 17:08 น. 5

ผมจำไม่ได้แล้วเกี่ยวกับเหตุผลที่เลือกเข้ามาเรียนติวสถาปัตย์ที่นี่ รู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่ในห้องวันแรกที่นี่แล้ว(ตะลึงกับตู้เก็บของเล่นเป็นครั้งแรก) ได้รู้จักกับพี่นัน พี่เอกครั้งแรก ผู้ซึ่งได้เปิดใจว่าวิธีการสอนและเรียนสถาปัตย์ที่นี่เป็นยังไง(แอบเงิบเล็กๆตอนที่พี่นันเผยตัวตนครั้งแรก)

หลังจากนั้นก็ได้รู้จักพี่คนอื่นๆเพิ่มมากขึ้น ได้เรียนอะไรที่ไม่เคยได้เรียนที่โรงเรียน ได้รู้จักกับเพื่อนคนที่อยากเป็นแบบเดียวกับเรามากขึ้น มันเกิดความผูกพันที่สะสมแบบไม่รู้สึกตัวนะ

แต่สิ่งที่รู้สึกได้เลยชัดเจนก็คือ ใครก็ได้ที่เข้ามาอยู่ที่นี่ จะมีความ ‘จริงใจ’ เป็นพิเศษ
ทุกคนทำความรู้จักกัน พูดคุยกัน แบบไม่มีใครใส่หน้ากากเข้าหากัน เราคุยกันอย่างเป็นตัวเอง100% หรือมากกว่านั้นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งผมว่าเรื่องความจริงใจนี่เป็นสิ่งสำคัญมากนะกับคนที่อยากเรียนคณะนี้
เราต้อง’มีความเป็นตัวเอง’อย่างชัดเจนมากที่สุด เพื่อสะท้อนวิธีคิด ทัศนคติ ลงในผลงานต่างๆที่เราทำด้วย
ซึ่งที่นี่ได้งัดความเป็นตัวเองเหล่านั้นของผมออกมา สิ่งที่คิดได้ก็คือ ‘กูจะทำงานแบบบ้าตาย แล้วกูก็จะเล่นอย่างบ้าตาย’

เรียนๆไป ผ่านบทเรียนนู้นนี้ไป ไม่ได้คิดเลยครับว่าเราเลือกที่เรียนถูกป่าววะ หรือคิดว่าแบบนี้คือสิ่งที่เรียกว่า’สอนดี’รึปล่าว ผมไม่รู้ตัวจริงๆ แต่รู้สึกแค่ว่า ‘กูอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกมีความสุขกับคำว่า สถาปัตย์’

พี่ๆสอนไปเรื่อยๆ ผ่านไปเป็นวันๆ เล่นมั่ง จริงจังมั่ง สลับกันไป ทำให้ได้ความรู้อะไรมากขึ้น และบางความรู้เป็นสิ่งที่เราคิดว่า’เฮ้ย -อย่างงี้แม่งเจ๋งดีว่ะ ถ้ากูได้รู้ในสิ่งนี้ คงเท่ห์ไม่เบา’ ความคิดนี้เกิดขึ้นในตอนที่พี่นันสอนเลคเชอร์(อย่าเรียกเลคเชอร์เลยครับ เรียกว่านั่งคุยเรื่องสถาปัตย์กันไปเรื่อยดีกว่า)เกี่ยวกับโครงการต่างๆในกรุงเทพฯ ได้ยินชื่อสถาปนิกคนนั้นคนนี้ ที่เขาประสบความสำเร็จ แล้วก็เกิดขึ้นในตอนที่พี่เอกสอนวาดการ projection เงาของวัตถุ(ซึ่งกูห่วยมาในเรื่องนี้)

สิ่งที่ได้จากที่เรียนติวที่นี่ ซึ่งมากกว่าความรู้ทางสถาปัตยกรรม หรือวิชาชีพสถาปนิก คือ’คำถาม’
คำถามที่ว่า ‘สถาปนิกเค้ากินอะไรกันวะ สถาปนิกเค้าถ่ายรูปกันยังไงวะ สถาปนิกเค้าอ่านหนังสือเล่มไหนกันวะ สถาปนิกเค้ามองโลกกันยังไงวะ’
สิ่งที่ผมได้มากกว่าจากที่นี่ก็คือ ‘ความรู้สึกที่อยากจะเป็นสถาปนิก’ มากขึ้นทุกวัน
ไม่ได้แค่หมายถึงอยากทำอาชีพสถาปนิก แต่หมายถึง อยากได้ความคิดแบบที่สถาปนิกเค้าคิดกันด้วย

สิ่งที่ได้รับเหล่านี้มันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณ ขอบคุณอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้ผมเลือกเรียนสถาปัตย์ที่นี่ ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยพัฒนาตัวผมให้เก่งขึ้น(อย่างมาก) ไม่เชื่อก็ไปดูภาพวาดภาพแรก ที่พี่นันให้เขียนภาพที่คิดว่าตัวเองวาดได้สวยมากที่สุดในวันแรกที่เข้ามาเรียนเอแอล ขอบคุณพี่ๆal12 ที่ให้น้องอย่างผมนั่งเรียนข้างๆ แล้วก็แน่นอนที่ขาดไม่ได้เลย ขอบคุณพวก-ทุกตัวal13 พวก-ทำให้เข้าใจความหมายของคำว่า’เรียนเป็นกรุป’ ได้ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา

สุดท้ายนี้ขอฝากถึงเอแอลละกัน ถึงไม่ได้กลับไปหานานแล้ว แต่ขอให้รู้ไว้ว่ายังคิดถึงที่นั่นอยู่เสมอ ความทรงจำทุกมุมในห้อง AL Knight Park ยังคงอยู่ในหัวเสมอ โดยเฉพาะแม็กนั่มฟรีในตู้นั้น กับเลข3600ที่เพียงกล่าวก็รู้กัน

รักเสมอ
พรพัฒน์(ซันนี่) AL13เยี่ยม

0
jumbpuk 3 ก.ย. 62 เวลา 13:41 น. 7

ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้เราติดแล้วนะ อยู่ปี1 นะ แค่มาบอกว่าเคยเรียนที่นี่

เรากับเพื่อนเรียนมาทั้งสองที่เลย ติดทั้งคู่แต่เราว่าทั้งสองที่มีอะไรที่เหมือนกันคือ

เค้าทำธุรกิจเป็นแมสๆอ่ะ ถึงเด็กจะติดเยอะก้จริงแต่เพราะคนที่เรียนมันเยอะมากๆเลยไง

ที่มีบางคนรู้สึกเหมือนโดนลอยแพก้เพราะเหตุนี้แหละ นร.เยอะเกินกว่าจะจำชื่อได้ทุกคน

คนที่บอกว่าดีก้มีเพราะอาจเป็นคนที่สนิทกับพี่ๆที่สอน หรือเด่นเก่งอยู่แล้ว


แต่ถ้าถามเรานะ เราว่าเรียนกับพี่ที่สอนเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือตัวตัว ดีกว่าเพราะมันทั่วถึง

มีเวลาคุยกันมากกว่า สนิทกันปรึกษาได้ตลอด แล้วจะมีเรื่องที่เค้าเล่าให้ฝังแบบชีวิตมหาลัยอ่ะ

ซึ่งพอมาเรียนจริงๆเออ มันเป็นแบบที่พี่บอกเลยว่ะ 55555




เราเรียนกะพี่คนนี้นะ maiscale หาในไอจีได้ๆ



0