Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระบาย_สังคมไฮสคูลอเมริกา

ตั้งกระทู้ใหม่
คือเรามาอยู่เมกาเกือบ3เดือนแล้ว เราอยู่ Henderson Nevada ไม่มีเพื่อนเลยสักคน เรามาอยู่กับป้า ป้าเราแต่งงานที่นี้
ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้มาเราดีใจมาก กว่าแม่เราจะให้
แต่พอมาอยู่ที่นี้แล้วเรากลับไม่มีความสุขอย่างที่คิด จะกลับก็ไม่ได้แล้วด้วย
เปิดเทอมวันแรก คือเราไปไหนไม่ถูกคือเราไม่รู้จะเข้าหาเพื่อนยังไง ชั้นเรามีเด็กเอเชียน้อยมากแะเรียนด้วยกันน้อยมาก
ตอนเราเข้าห้องผู้หญิงบางคนแสดงสีหน้าใส่เราเลย ประมาณว่า รังเกียจอย่าเข้ามาไกล้อะไรแบบนี้
ปกติเราเป็นคนขี้อายอยู่แล้วกับคนแปลกหน้าเราจะทำตัวไม่ถูก ป้าเราบอกว่าให้ยิ้มเข้าไว้แล้วเพื่อนจะมาเอง
แต่คือเรายิ้มไม่ออกเลย เราเคยพยายามคุยกับคนที่นั่งข้างเรา แต่เขาหัวเราะและหันไปพูดกับเพื่อประมาณเพื่อนว่า ยัยนั่นคุยกับฉันว่ะ แล้วก็หัวเราะกันใหญ่เลย
เราไม่รู้เลยว่าเราผิดปกติตรงไหน คือใครๆก็ไม่อยากคุยกับเรา ที่นี่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะคุยแต่เรื่องแฟชั่น นินทา และก็ปารตี้ ส่วนบางคนที่ดูเป็นเด็กเรียนก็จะอ่าหนังสือเฉยๆคือไม่สนใจอะไรเลย เราว่าเราไม่สามารถเข้ากลับใครได้เลย
เราเคยพยายามจะเขาหาเพื่อนผู้ชาย เขาชอบหาว่าเราชอบ คืออยู่ดีๆก็ถามตรงๆต่อหน้าคนอื่นเลยว่า เธอชอบฉันใช่ไหม
เราไม่ได้ชอบเราก็บอก คือเราแค่คิดว่ามีเพื่อนผู้ชายก็น่าจะดี ผู้ชายส่วนใหญ่เล่นกีฬาทุกนแล้วอีกอย่างคือผู้หญิงและผู้ชายที่นี้พูดเรื่องsexกันโจ้งแจ้งมาก เราอายเลยพอได้ยินที
แล้วมีอยู่วันหนึ่งเรามีเรียนวิชาพละ พอเรียนเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัว ปรากฎว่าทุกคนเอาน้ำผสมสีมาสาดกันไปมาคือเราเข้าไปแล้วโดนสาด มันเข้าจมูกเราเต็มๆ ดีที่เราหลับตาทัน
แล้วพอทุกคนเห็นเราโดนสาดก็หัวเราะกันใหญ่เลย แบบเราอายมากจนร้องไห้ตรงนั้นเลย แล้วคนที่สาดเราก็พูดว่า อย่าร้องไห้ ตอนนี้ตัวเธอน่ากินมาก แล้วหัวเราะ
คือแบบเราไม่อยากไปโรงเรียนอีกแล้ว แต่เราทำอะไรไม่ได้ เราเป็นคนขอแม่มาเอง เราไม่อยากทำให้แม่เสียใจ แม่เราเสียเงินกับเรามาเยอะมาก
ทุกวันนี้คืนเราไปโรงเรียนคนเดียว ไม่ได้กินข้าวสักวันเพราะไม่มีที่นั้ง เราร้องไห้เกือบทุกวันเลย เราเล่าให้ป้าฟังป้าก็บอกว่าให้เราอดทนเดี้ยวก็ปรังตัวได้
คือเราทรมาณมากๆ เราคิดถึงแม่กับเพื่อนมากๆ เราอยากกลับบ้านมาก แต่ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้เลย

แสดงความคิดเห็น

>

113 ความคิดเห็น

Jiji16 13 พ.ย. 56 เวลา 06:03 น. 3

สู้ๆนะคะ ตอนนี้เราก็มาแลกเปลี่ยนที่อเมริกา แล้วเราก็มีเพื่อนน้อยมากๆ แต่เราอาจจะโชคดีหน่อยที่คนที่นี่นิสัยดี เราว่าลองพยายามเข้าหาคนเอเชียด้วยกันก่อนมั้ย หรือว่าถ้าย้ายไปรร.ที่มีเด็กเอเชียเยอะกว่านี้จะได้มั้ย เราเข้าใจวามรู้สึกของจขกท.นะ เพราะบ่อยครั้งเราก็เหงาเหมือนกัน แต่ยังดีที่ไม่โดนแกล้ง สู้ๆนะคะ ทุกปัญหามีทางแก้ไขเสมอตั้งใจ

0
B-ME 13 พ.ย. 56 เวลา 06:20 น. 4
จขกท.ไม่เป็นไรนะ >>ปกติเราเป็นคนขี้อายอยู่แล้วกับคนแปลกหน้าเราจะทำตัวไม่ถูก ป้าเราบอกว่าให้ยิ้มเข้าไว้แล้วเพื่อนจะมาเอง
แต่คือเรายิ้มไม่ออกเลย เราเคยพยายามคุยกับคนที่นั่งข้างเรา แต่เขาหัวเราะและหันไปพูดกับเพื่อประมาณเพื่อนว่า ยัยนั่นคุยกับฉันว่ะ แล้วก็หัวเราะกันใหญ่เลย<<
-เหตุการณ์พวกเนี้ย เราโดนประจำ นับปัจุบันก็จะครบปีละ-_-; เราก็ค่อนข้างชินแล้วนะ เราเปลี่ยนคำดูถูก การกระทำแย่ๆ มาเป็นแรงฮึดของเรา สู้ๆไว้ มันจะค่อยๆผ่านไป เราก็ไม่มีเพื่อนหรอก กินข้าวคนเดียว(เราไม่เคยเฉียดไปโรงอาหารเลย ยืนสูดผัดไทยฝีมือแม่อยู่แถวๆทางเดินนั่นแหละ) จขกท.ไม่ต้องแคร์ไรหรอก ในเมื่อไม่มีใครสนใจเรา ไม่อยากคบเรา ก็ไม่ต้องแคร์ เธอไม่มีใครแต่เธอก็ยังมีตัวของเธอเองนะ สู้ๆ
@line เรา มาคุยกันได้นะ^^ beam1711
0
nukaunn 13 พ.ย. 56 เวลา 09:31 น. 5

เป็นไปได้ไหมว่าที่เค้าแกล้งแล้วแกล้งอีก เพราะเธอเป็นคนไม่ตอบโต้อ่ะ แถมยังร้องไห้อีก ยิ่งแกล้งมันก็ยิ่งสะใจ ไรงี้ ส่วนเรื่องsexอย่าลืมว่าเธออยู่ต่างประเทศ ไม่ใช่ไทย เค้ามองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา คุยได้อย่างเปิดเผย ยิ่งเธอไม่กล้าเค้าก็จะยิ่งแกล้ง เท่าที่ดู เราว่าเธอควรปรับตัวตัวเองด้วยนะ ไปอยู่บ้านเมืองเค้า ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากะเค้า ถ้าปรับตัวไม่ได้ ก็กลับมาเหอะ การไปอยู่สังคมที่แตกต่าง มันจะฝึกให้เราเข้มแข็ง ไม่ใช่อ่อนแอ
เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามนะ
อย่ากลัวที่จะเข้าหาเค้า ถ้าเธอไม่ลองคุยกะเค้าจริงจัง มัวแต่กลัว มัวแต่เศร้า แล้วเมื่อไหร่จะหาเพื่อนได้
ลองเปิดใจตัวเองสิ ถ้าคุยไปแล้ว เค้าไม่คุยด้วย ก็ค่อยว่ากันต่อไป

0
สู้ๆ 13 พ.ย. 56 เวลา 11:44 น. 8

ตอนพี่ไปแลกเปลี่ยน ตอนแรกๆก็ไม่มีเพื่อนนะ แต่พี่เป็นคนยิ้มง่ายและอารมณ์ดีเกินกว่ามนุษย์ปกติ และโชคดีที่ รร ที่พี่ไปอยู่ พ่อเพื่อนแม่เพื่อนเคยมาประเทศไทย และชอบคนไทย เวลามีปาร์ตี้ มีงานก็ชวนพี่ไปตลอด แค่2-3 เดือน เพื่อนเต็มเลย
มีปัหาอะไรเผชิญกันไปเลย ใครไม่ชอบเราๆก็ลองถามเขาว่าไม่ชอบตรงไหน แล้วเราก็พยายามปรับตัว
ส่วนเรื่องโดนแกล้งพี่ก็เคย จะว่าไปพี่ก็เห็นเด็กเมกาเองโดนแกล้งไม่น้อย โดยเฉพาะเด็กเนิด
โดยสาดน้ำใส่บ้าง จับโยนถังขยะบ้าง แต่ก็อดทนไปเถอะ อย่าไปมีเรื่องกันเลย
แรกๆก็ลำบากหน่อย เด่ะเวลาผ่านไปมันก็ดีขึ้นเอง

0
Pitta 13 พ.ย. 56 เวลา 12:00 น. 9

สู้ๆค่ะ จขกท. เราเข้าใจ คนไทยปกติเป็นคนขี้อายและสุภาพทำให้อาจถูกมองว่าขี้อาย เราว่าจขกท.อย่าพยายามปิดกั้นตัวเองว่าาต้องคบกับเด็กเอเชียเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมมายความว่าจะเป็นเพื่อนไม่ได้ แต่เราว่ามันไม่โอเคเลยนะที่เค้า bully จขกท. แบบนี้ จขกท.ต้องมีความมั่นใจในตัวเองนะคะ ก็จริงที่เวลาจะทำให้อะไรดีขึ้น แต่เชื่อเถอะ จขกท.ก็ยังจะไม่มีเพื่อนถ้าเกิดไม่ทำอะไร ปล่อยให้เค้ารังแกเรา เราเชื่อว่ายังมีเด็กนักเรียนบางคนในร.รที่ nice และอยากรู้จักกับจขกท. แค่ยังไม่กล้า ฉะนั้น เราว่าจขกท.เริ่มชวนคุยก่อนเลย เอาคนที่ดู nice นะ พวกที่ทำไม่ดีกะจขกท. ก็อย่าไป care และถ้าเค้ารังแก ก็ถามกลับไปเลย "What the heck is your problem?" เพราะอย่าลืมที่นี่ไม่เหมือนที่ไทย ทำร้ายร่างกาย ผิดทั้งกฎหมายทั้งกฎ ร.ร bully ก็ผิดกฎร.ร racist ก็ผิด ฉะนั้นจขกท. ต้อง stand up for yourself and be brave และก็พยายามคิดถึงเรื่องดีๆนะ เป็นกำลังใจให้ ส่วนพวกผู้ชาย ถ้านิสัยไม่ดีก็ไม่ต้องไปยุ่ง และ ว่างๆก็ไปลง club or sport เพราะจะทำให้ได้เจอคนมากขึ้น ตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่ดี แต่ เชื่อเถอะเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ถ้าแย่จริงๆ ก็อย่าทน บอกแม่ บอกน้า และย้ายร.ร ไม่มีอะไรน่าอาย สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจให้ตั้งใจ

0
fluffyunicorn 13 พ.ย. 56 เวลา 12:17 น. 11

I'm studying at the Hudson School in New Jersey and no one is ever mean to me though and I have lots of friend already. Is your school a public school? my school is a private school and if any student has any conflict with anyone, they can just go and talk to the student advisor and the school counselor. or if you can't adjust yourself then you'd transfer the school. :)

1
Migale 13 พ.ย. 56 เวลา 14:12 น. 12

ฮืออออ เคยเข้าไปอ่าน story (นิยาย) ของพวกที่ไปแลกเปลี่ยนเมกาในเว็บสยามโซนนน แม่เจ้าาา แต่ละคนได้แบบตัวเองป๊อปปูล่า ฝรั่งนิยมเอเชียทุกคน มาโรงเรียนแค่วันแรกมีคนตามจีบเป็นฝูง หลงเชื่อมาตั้งนาน ตอนนี้ตรัสรู้แล้วว่าพวกนางมโน แต่ดิฉันดันกินหญ้าที่พวกนางปลูก ToT

0
Chopperiones 13 พ.ย. 56 เวลา 14:30 น. 13

ก็เงี้ยแหละสังคมเมืองนอก อย่าไปคิดมากถือสาอะไรเลย ยิ่งhigh school ด้วยเด็กพวกนี้แรงมากแน่ๆ จากที่ฟังมาก็น่าจะเป็นพวกjocksกับprepละสิ ทางที่ดีเราแนะนำอยู่สองทางน่ะ ถ้าไม่กลับไปเมืองไทย ก็ต้องเข้มแข็งมากขึ้นเสียบ้าง ไม่ได้ขอให้ไปทำตัวแรงๆหรือไปแรดกับใคร แต่แค่เป็นตัวของตัวเองและปกป้องตัวเองให้เป็นก็พอ ถ้าเข้าเห็นว่าเอาเปรียบเราไม่ได้เข้าก็ไม่เข้ามาทำอะไรเราหรอก อารมณ์ความรู้สึกน้องนะมันsensitiveมาก ทางที่ดีน่ะ ออกไปสนุกๆกับการอยู่เมืองนอกแล้วค่อยมานั่งคิดนั่งกังวลเรื่องเพื่อนดีกว่า อยากทำอะไน อยากไปเที่ยวไหนก็ทำไปสะ อย่าลืมถ่ายรูปด้วยละ ถ้ายังไม่มีความสุขอยู่ก็หาเพื่อนใหม่นอกโรงเรียนเนี้ยแหลพ เมกาก็ใหญ่หาได้อยู่แล้ว 

สู้ๆน่ะ

0
1234566 13 พ.ย. 56 เวลา 17:07 น. 14

เราว่านะ เราควรจะแบบ...ปรับตัวเอง ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนตัวเองนะคะ หมายถึงเป็นในแบบที่เราเป็น เราคิดว่าเราเจ๋งยังไงเราก็ปล่อยไปเรื่อยๆ คนพวกนี้ชอบคนเด่นดังค่ะ แต่ไม่ใช่ให้ปรับตัวเองนะคะ ลองทำความเข้าใจกับนิสัยพวกเขาดู แล้วเท่าที่สังเกตมาลองขอย้ายโรงเรียนเลยค่ะ รร.ดีๆมีเยอะแยะ :)

0
มนุษย์คนหนึ่ง 13 พ.ย. 56 เวลา 17:36 น. 15

อย่าย่อท้อนะครับ ทุกที่ก็มีปัญหาทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับปัญหาเหล่านั้นและปรับเปลี่ยนมันมาเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเราอย่างไร สู้ๆครับ

0
Tina' 13 พ.ย. 56 เวลา 17:39 น. 16

เป็นเรื่องธรรมดานะคะที่จะเจอแบบนี้ ในความคิดพี่นะถ้าเวลามีเพื่อนว่าเรา นินทาเรา หรืออะไรก็ตาม ที่พี่เคยทำคือพี่จะเฉยๆ
อย่าไปตอบโต้เขา อย่าร้องไห้ให้เขาเห็น อดทนอดกลั้นไว้ค่ะ ยิ่งเราไปอ่อนแอให้เขาเห็นมันก็เข้าทางเขา
เพื่อนผู้ชายไม่แนะนำให้สนิทมากนะ เพื่อนผู้ชายดีๆไม่ใช่ไม่มี แต่ส่วนน้อยค่ะ ตั้งใจเรียนไว้นะคะ
ครูเค้าจะเห็นความตั้งใจของเรา แล้วถ้าเค้าเห็นเพื่อนแกล้งเรา ว่าอะไรเราเค้าช่วยเราแน่ค่ะ เราวินๆอยู่แล้วเพราะว่าเราเครดิตดีกว่า
ไม่มีเพื่อนก็กินข้าวคนเดียว ไม่อยากซื้อก็เอามาจากบ้านเลยค่ะ สักวันเราจะเจอเพื่อนที่เค้ารับเราได้ เข้ากับเราได้
อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่อย่าท้อนะคะ ส่วนเรื่องยิ้ม ยิ้มๆไว้ก็ดีค่ะ เราไปหน้าบึ้งเดี๋ยวเพื่อนก็คิดว่าเราไม่อยากคุยกับเค้า
มีอะไรก็ยิ้มๆไว้ก่อนเลยค่ะ ใครจะหาว่าเรายิ้มทำไมก็อย่าไปสนค่ะ แต่ก็ระวังด้วยน๊าา เดี๋ยวเพื่อนผู้ชายมันคิดว่าเราไปกวนมันเป็นเรื่องอีก
อดทนเข้าไว้นะคะ วันนี้น้องมีโอกาสมากกว่าใครหลายๆคน ไม่อยากคิดมากเรื่องโรงเรียนก็เรียนๆๆมันเข้าไปเลยค่ะ
จะได้ไม่ต้องไปคิดมาก เมื่อวันข้างหน้าน้องมองกลับมา น้องจะภูมิใจว่าเราผ่านมันมาได้หรืออาจจะคิดว่าเราผ่านมาได้ยังไงกันนะ
พี่เป็นกำลังใจให้นะคะ อย่างน้อยน้องก็ยังมีป้าคอยให้กำลังใจนะ สู้ๆค่ะ อุปสรรคมีให้เราก้าวข้ามมันไป

0
Weeluv 13 พ.ย. 56 เวลา 18:01 น. 18

ความรู้สึกเรา เราคิดเหมือน คห. 4 นะ คือที่จขกท.ต้องเข้าใจในอีกมุมนะว่าโดยพื้นฐานแล้ว นิสัยเราและเค้าต่างกันแทบจะทุกเรื่องหากเราปรับตัว เพื่ออยู่กับเค้า มันต้องได้อยู่แล้วล่ะ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนตัวเองนะบางทีที่เราต้องปรับตัวก็เพื่อควาามอยู่รอด การอยู่คนเดียวก็ดีใช่ เราก็จะไม่มีเรื่องทะเลาะกันในกลุ่มเพื่อนแต่มันเหงาใช่ไหมล่ะที่เราไม่มีใคร แล้วที่นู้นเค้าจะไม่มีสอนแบบ งานกลุ่มเลยหรือ บางทีการปรับตัวเล็กๆน้อยอาจจะช่วยได้นะ
อย่างเช่นถ้าเป็นเรา
โดนสาดน้ำสีใส่อย่างนั้นเราจะไม่ร้องไห้เราจะเข้าไปแย่งน้ำแล้วสาดกลับสะเลยแล้วก็หัวเราะดังๆ ประมาณว่า"สนุกโคตรๆเลย" อาจจะได้เพื่อนใหม่ๆก็ได้นะ ลองดูคะ ^^ ลองดึงความกล้าของเราออกมานะคะ :)

0
highschooler 13 พ.ย. 56 เวลา 18:34 น. 19

นี่มัน หยามกันชัดๆ!
#อินเกิน

Omg dude it's fine like seriously. In real life it's even harder than this so just grit your teeth yeah? They tease you right? They made fun of you right? Then beat the - outta them. I mean it, but not like physically, beat them on other things you know? Do you know why asians in my school had never once been looked down on? Because we're better than them in many ways. Find the things you're good at, and just keep on improving until you became the best. Then people can't look down on you anymore, because basically you're on top and they're at the bottom. Same goes to me, although when i first started school it wasn't as bad as yours. I'm a swimmer, a track and fielder, a pianist, a flautist, and i do good trust me. Most of all, i study...hard. And they can't beat me. They can't look down on me. Because I'm the one dominating not them. And be confident. That's the key. Just keep your head held high, laugh at whatever jokes they made on you, and pity them. Pity that they had nothing else better to do. Pity that they will have a hard time in the future because of their attitude, the 'everything evolves around me' kind of attitude. Pity them.

เขียนมาซะยาว สู้ๆค่ะ :)

0