Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากระบาย(ยาว) "อนาคตของฉัน...ใครกำหนด ???"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เรามีเรื่องอยากจะระบาย  เราเครียดมากๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี(มันยาวมากๆ อ่านไม่จบก็ไม่เป็นไร)
คือปีนี้เราก็อยู่ม.6 แล้ว เราต้องเลือกคณะ เลือกที่เรียน  แต่ทีนี้  ชีวิตเรามันถูกกำหนดมาตั้งแต่ม.4 แล้ว พ่อแม่เราอยากให้เราเรียนทันตะ เราก็โอเค(เราก็อยากเป็นหมอฟันด้วยล่ะ แต่ตอนนั้นเรายังไม่คิดว่าจะต้องเรียนเน้นหนักไปที่อะไรบ้าง รู้แต่ว่าเป็นสายวิทย์ ตอนนั้นเราก็เรียนโอเคอยู่ อยู่อันดับเลขเดี่ยวของสายชั้น :: เราเรียนสาธิต) พอเริ่มมาม.5 เราเริ่มรู้สึกว่าฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เราไม่ไหว เราเลยบอกพ่อกับแม่ ตอนแรกพ่อกับแม่ดูเหมือนจะไม่ยอม แต่วันนึง แม่เราได้ยินข่าวว่าลูกแม่เพื่อน จบมนุษย์ แล้วได้งานทำเงินเดือนสตาร์ท 50,000 ประกอบกับจะเข้ายุค AEC ด้วย แม่เราเลยบอกให้เราไปเรียนมนุษย์แทน (อันนี้เราเฉยๆ  ไม่ได้ชอบนะ  แต่ก็คิดว่าน่าจะทนได้กว่าสายวิทย์) ทีนี้พอเรารู้จุดหมายเราก็เตรียมตัวมาอย่างเต็มที่  เราอยู่ขอนแก่น  แม่เราเลยอยากให้เข้ามข. เวลาเดินมาเรื่อยๆ จนถึง 1 เดือนก่อนสอบโควต้า มข. เช้าวันหนึ่งเราตื่นมา พ่อบอกว่าใเรื่องจะคุยด้วย แล้วแม่ก็อยู่ด้วย พ่อกับแม่พูดกับเรา สรุปได้ว่า พ่อกับแม่อยากให้เราเปลี่ยนมาเรียนบัญชีเพราะอยากให้ทำงานธนาคารเหมือนพ่อ แล้วพี่หลังบ้านก็จบมาได้ทำงานธนาคาร พี่ที่หอ(บ้านเราทำหอพัก)ก็จบมาได้งานธนาคาร แม่เราเลยเห่อ (ที่จริงเราไม่เห็นด้วยหรอกนะ เพราะอีกเดือนเดียวก็จะสอบแล้ว  จะไปเตรียมตัวทันอะไร เพราะถ้าจะย้ายจากมนุษย์มาเป็นวิทยาการฯบัญชี ก็ต้องอ่านเพิ่มอีก 2 วิชา คือ คณิต (ซึ่งเราโง่มากๆ ถือว่าโง่บรมได้ 1.5 :: พอเริ่มม.5 มาเกรดเริ่มแย่ เริ่มน้อยกว่า 3.5 ) และวิทย์ (ซึ่งมันก็คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ รวมกัน มันคือวิชาที่เราหนี)  เราพยายามอธิบายให้พ่อกับแม่ฟังว่าเราไม่โอเค  แต่เราก็ทำอัไรไม่ได้  เพราะจะโดนว่าตลอด  มีแต่คนบอกให้เราลองพูดดีๆ  เราก็พูดดีๆ  (คือปกติเราเป็นคนพูดดีอยู่แล้ว พ่อแม่ก็ต้องเรียกว่าคุณพ่อ คุณแม่ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เรียกพ่อแม่เฉยๆ ต้องมีคะขา ตลอด เราก็ไม่เคยขาด  เราไม่เคยเถียงพ่อแม่  ฟังตลอด มีแต่ครั้งนี้ที่เราเริ่มเถียง  เพราะมันคือทางเดินของเรา ชีวิตของเรา ก็จริงว่าพวกเขาให้ชีวิตเรามา  แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของเรา) เราก็พูดดีๆว่าเราไม่โอเค  คือ... จากที่หลายคนอ่านมาคงคิดว่าเราไม่มีคณะที่เรายากเข้าเลยหรอ  ทำไมต้องเอาตามพ่อแม่ตลอด  ที่จริงเรามีคณะที่เราอยากเข้ามากๆอยู่คณะหนึ่ง คือ คณะรัฐศาสตร์สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  เราอยากทำงาน UN  แต่พ่อกับแม่เราไม่ยอม  บอกส่ามันหางานยาก  เราบอกว่าเรามั่นใจว่าเราทำได้  พ่อกับแม่เราก็ด่าว่าเราฝันสูง เพ้อเจ้อ  ไม่มีวันเป็นจริง  เราเลยต้องเลิกคิดถึงคณะที่เราฝัน  เราคุยอัไรไม่ได้เลย  เราเลยต้องลงบัญชี  โอเค  ในเมื่ออยากได้มากเราก็ลงให้  ทีนี้  หลังจาก โควต้า มข. จบ  มันก็มีหลายมหาวิทบาลัยที่เปิดรับตรง  เราก็อยากลองสมัคร  แต่ผลปรากฎว่า  พ่อกับแม่เราไม่ยอมให้สมัคร  โดยเฉพาะแม่เราเป็นหลัก  แม่เราด่า (ใช้คำนี้เลยนะว่าด่า เพราะตะคอกและพูดคำหยาบใส่เรา) แม่เราด่า ไม่ให้เราสมัคร  (คือเราอยากลองสมัคร ม.ธรรศาสตร์ ม.จุฬา ม.เกษตรงี้  เราไม่มีสิทธิ์เลย) แม่เราด่าว่าเปลืองเงิน คือ.. แค่ค่าสมัคร  นะ...  (บ้านเราก็ไม่ได้จนนะ  แต่ก็ไม่ถึงกับรวย  คือพ่อเราทำงานธนาคาา ก็ตำแหน่งใหญ่อยู่  แมาเราก็เป็นพยาบาลโรงบาลใหญ่ในจังหวัด  ตำแหน่งก็อาวุโส  บ้านเราก็ทำธุรกิจหอพักอีก 2 ที่ ) เราเลยคิดว่าแค่ค่าสมัคร  ขอแค่ลิงสมัครไม่ได้เลยหรอ  แม่เราก็ด่าเรากลับว่าเปลืองเงิน  เราเป็นลูกชั่ว ลูกเนรคุณ ผลาญเงินพ่อแม่(คำนี้เลย) คือ...  แค่ค่าสมัครสอบ!?? (บ้านเราไม่ได้มีหนี้เยอะขนาดจะต้องประหยัดเงินหลักร้อยขนาดนั้นนะ  แต่ถ้ามันจะมีภาระการเงินจริงๆที่เนาไม่รู้  แต่ต้องประหยัดถึงหลักร้อยแบบนั้นเลยหรอ  แล้วยิ่งเป็นค่าสมัครสอบเข้ามหาลัยด้วย) ง่ายๆอ เราไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะสมัครเรียนที่อื่นเลย  พอเราเข้าเรื่องจะไปเรียนที่อื่นก็บอกว่าเราเป็นลูกอกตัญญูไม่ดูแลพ่อแม่  เพื่อนเราแต่ละคนก็มีความฝัน  เราก็มีความฝัน เราก็คนคนนึงที่อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตตัวเอง  ก็รู้ว่าพ่อแม่หวังดี  แต่ขอแค่เราสมัคร  เร่แค่อยากลองสมะครเราก็ไม่มีสิทธิ์  เราต้องเรียนบัญชีเท่านั้น! มข.เท่านั้น!! เราไม่มีสิทธิ์เลือกิะไรเลย  คณะก็ไม่มีสิทธิ์เลือก มหาลัยยังไม่มีสิทธิ์เลือกอีก  ตอนแรกเราบอกพ่อแม่ว่าถ้าเราเรียนจบป.ตรีแล้วเราอยากไปต่อป.โทป.เอกที่ต่สงประเทศ  พ่อแม่เราก็ไม่ให้ไป  บอกว่าเปลืองเงิน ไม่มีเงินส่ง  เรสบอกว่าขอแค่ค่าเครื่องกับค่ากินอยู่  ค่าเรียนเดี๋ยวเราหาเอง  เรากะว่าจะไปทำงานที่นั่นเพื่อหาเงิน  ตุดประสงค์ที่เราอยากจะไปเรียนต่างปีะทศเพราะอยากได้ดีกรีดีๆ จะได้ได้งานดีๆทำ  แต่พ่อกับแม่ก็บอกว่าเปลืองเงิน (ส่วนมากจะใช้คำว่าเปลืองมากกว่าไม่มี  และส่วนมากจะเป็นแม่ที่พูดเรื่องเงิน  แล้วก็ใช่ว่าเราไม่เคยไปต่สงประเทศ  ตอนนั้นเราก็ไปอยู่อังกฤษตั้งหลายเดือน) โอเค ในเมื่อพ่อกับแม่เราไม่อยากให้ไปก็ไม่เป็ยไร  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง  เราเลยบอกพ่อกับแม่ว่า งั้นอยู่ไทยก็ได้ พอเรียนป.ตรีจบ ขอต่อ ป.โทเลย  (เราคิดว่าสมัยนี้ต้องเรียนป.โท ถึงจะเรียกว่าโอเคในระดับปริญญา  หลายคนก็เรียกว่าเป็นขั้นต่ำของปริญญาที่ควรจะเรียน) แต่แม่เราก็ไม่ให้เรียน แถมยังว่าว่าเป็นลูกอกตัญู ไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ มีแต่ผลาญเงินไปวันๆ(อีกแล้ววว??) นียนจบก็ต้องทำงานสิ! ทำงานหาเงินมาช่วยพ่อแม่ใช้หนี้! คือ... ในความคิดเรานะ  ถ้าเราเร้ยนป.โทอีกสักปีสองปี มันจะได้งาน ได้เงิน ที่ดีกว่าจบป.ตรีไหม  ถึงตอนนั้นจะได้ช่วยผ้อนหนี้ได้สบายขึ้น  แต่แม่เราก็ไม่ยอม  ถ้าเราคิดจะไปก็จะด่า (แล้วเป็นคำแบบ ลูกชั่ว ลูกแสนประเสริฐ! ลูกเทวดา ลูกเนรคุณ ลูกอกตัญญูแบบนี้ตลอด ถ้าเรากำลังจะพูดถึงเรื่องคณะอื่นที่ไม่ใช่บัญชี มหาลัยอื่นที่ไม่ใช่ มข. หรือเรื่องจะรียนต่อโท) บางทีเรายังไม่พูด เรากินข้าวอยู่  อบู่ดีๆก็ขุดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาแล้วก็เอามาด่า  บางครั้งเราหลับแล้ว ก็ไขกุญแจห้องเข้ามา  มาปลุแให้เราตื่นแล้วมาด่าเรื่องนี้  ทั้งๆที่เราก็จบไปแล้ว  ยอมทำตามแล้ว  แต่ทุกวันนี้ก็ยังขุดมาด่า  คือเราแค่อยากรู้ว่า เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกคณะ  หมาลัย ที่ตัวเองต้องการเลยหรอ  ขอแค่อย่สงเกียวก็ได้  คณะก็ได้ หรือ มหาลัยก็ได้  ที่เราจะขอเลือกเองบ้างแค่สักอย่สงก็ยังไม่ได้  แม้แต่สมัครสอบที่อื่นที่ไม่ใช่มข. เรายังไม่มีวิทธิ์สมัคร  ทำไม  ทำไม  เราถึงไม่สามารถเลือกทางเดินของเราได้บ้างเลย
:: ขอบคุณที่ทนอ่านและรับฟังมาถึงตอนจบ :)),, สุดท้ายนี้ เราอยากจะบอกว่าทเราอิจฉาเพื่อนๆที่สามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้ กำหนดอนาคตของตัวเองได้ ได้เมื่อเพื่อนๆได้สิ่งนี้แล้ว เราก็อยากให้ดพื่ยๆทำให้สุดความสามารถ เพนาะมันคือความฝันของเรา ,,,อย่าลืมทำเผื่อเราด้วยนะ เพราะเราคงไม่มีวันได้ทำตามความฝันของเราอีกแล้ว

แสดงความคิดเห็น

>

36 ความคิดเห็น

JustPinkOnly 23 พ.ย. 56 เวลา 02:14 น. 1

ขอโทษนะที่พิมพ์ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตกๆหล่นๆขาดๆไปหน่อย ก็ขออภัยด้วยนะ
::ขอบคุณค่ะ 

0
planktonn 23 พ.ย. 56 เวลา 19:38 น. 2

สู้ๆนะ เอางี้มั้ย จุฬาเธอลองแอบสมัครสิ เพราะจุฬายื่นแค่แกทแพท ไม่ต้องสอบตรง แต่ธรรมศาสตร์ต้องสอบ smart1 เดี๋ยวพ่อแม่จะรู้

ขอบคุณมากนะ วันนี้เราก็โดนด่าเหมือนกันว่าสอบหมอมาหลายที่ ยังไม่ติดสักที่ ตอนนี้ก็เหลือแค่ กสพท ที่สุดท้าย แต่เราก็ยอมรับแหละว่าสนามที่ผ่านๆมา เราไม่ได้อ่านหนังสือไปสอบเลย นี่ก็เหลือสนามสุดท้ายแล้ว เราอ่านบทความเธอแล้วเรามีกำลังใจอ่านหนังสือต่อขึ้นเยอะเลย สู้ๆนะ

ขอให้พ่อแม่เธอยอมให้เธอทำตามความฝันสักที

0
พี่ผ่านมา 23 พ.ย. 56 เวลา 21:02 น. 3

พ่อเป็นนายธนาคาร แม่เป็นพยาบาล ฟังดูแล้วเหมือนคนไม่มีเหตุผล ไม่มีสติปัญญา หรือเธอแปลเจตนาท่านผิดหรือเปล่า เธอลองหันมาดูใจ ดูการกระทำตนเองซิ ถ้าผิดปรับปรุงตัวก่อนจะสายเกินแก้ไขช็อค

0
Mochi_Matcha 23 พ.ย. 56 เวลา 21:26 น. 4

บางทีพ่อแม่อาจจะหวังดีต่อเรา แต่มองในด้านความเป็นจริงเถอะค่ะ ความคิดพ่อแม่ไม่ได้ถูกเสมอไป และสิ่งที่เค้าคิดว่าจะดี แล้วเลือกให้เราเนี่ย มันอาจจะไม่ดีอย่างที่เค้าคิดก็ได้ ถึงเค้าจะให้ชีวิตเรามา แต่นี้ก็เป็นหนึ่งในสิทธิของเราที่จะเลือกเส้นทางในชีวิตเช่นกัน

 

0
siwapon 23 พ.ย. 56 เวลา 22:56 น. 5

ทำไมคนไทยสมัยนี้ไม่ค่อยจะมีหัวคิดเลย ดูไม่ค่อยมีเหตุผล ตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างตามคนอื่นตลอด ความคิดพ่อแม่คุณก็มาจากคนรอบข้างนั่นแหละ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาง่ายเหลือเกินเหมื่อนไม่ได้ดูแต่ละคณะให้ละเอียด แค่เงินเยอะก็ตัดสินใจเลย ผมไม่ชอบมากคนแบบนี้อะนะ ลองถามกลับไปดูก็ได้ครับว่า สมัยก่อนปู่ย่าตายายคุณเขาบังคับพ่อแม่คุณแบบนี้หรือเปล่า กว่าพ่อแม่คุณจะทำงานหาเงินมาได้แบบนี้ ให้คิดอีกอย่างนะว่า คุณควรจะต้องอยู่ในกรอบที่พ่อแม่วางไว้ไปตลอดหรือเปล่า อย่าลืมนะว่าในวันที่พวกเขาไม่อยู่แล้วยังไงคุณก็ต้องยืนหยัดด้วยตัวเองอยู่ดี อีกอย่างนะผมไม่ค่อยชอบคำว่าอกตัญญูไม่เลี้ยงดูพ่อแม่เลย ในมุมมองของลูกเรารู้สึกเจ็บปวดนะที่โดนพูดแบบนี้ เพราะผมเมื่อตอนเด็กๆก็โดนเหมือนกัน(เรื่องเรียนนี่แหละ) แต่ลองมาคิดในมุมกลับกันนะผมคิดว่า เอ๊ะสรุปคือที่พ่อแม่มีเรานี่เพื่อที่จะให้เขาได้สบายตอนแก่อย่างงั้นหรอ? ลองคิดดูนะ คือเรื่องแบบนี้ พ่อแม่ที่ดีควรจะไม่เอ่ยปากพูดออกมา ส่วนลูกที่ดีก็ความจะรู้ว่าทำยังไงกับพวกเขาตอนพวกเขาแก่เฒ่า ครับ(ผมคนนึงที่ไม่ตั้งกรอบความคิดให้ลูกแบบนั้น)

0
AGFA 26 พ.ย. 56 เวลา 20:07 น. 6

เป็นเหมือนเราเลย ชะตาชีวิตเดียวกันจริงๆ TT
เราอยากเรียนสถาปัตย์มาก อุตส่าตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือได้ครึ่งนึงแล้ว
แต่พ่อกับแม่เราก็มาขัดขวาง ท่านบอกว่า เรียนไปทำไม จบมาหางานทำก็ยาก
เป็นข้าราชการดีกว่าตั้งเยอะ เงินเดือนก็มั่นคง

ตอนนั้นเราหัวดื้อมากเลย คัดค้านหัวชนฝา ก็นี่มันอนาคตของเรานี่
แต่แม่เราก็บอกว่า ถ้าอยากเรียนจริงๆ ก็หาเงินส่งตัวเองละกัน พ่อกับแม่จะไม่ช่วย
เราเคยคิดจะทำจริงๆด้วยแหละ 

แต่พอมาวันนึง มีปัญหาครอบครัวเกิดขึ้นกับตัวเรา พ่อพูดกับเราว่า อนาคตพ่อกับแม่อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน(ขอไม่บอกว่าเรื่องอะไรนะ แค่นี้ก็พอจะเดากันออก TT)
แม่เลยขอร้องให้เราสอบตำรวจหญิง เพื่ออนาคตจะได้เรียนจบเร็วๆ ละมาเลี้ยงแม่กับยาย ตอนนั้นเราคิดหนักมากเลย ใจนึงก็สงสารแม่ เลยตัดสินใจล้มเลิกความฝันของตัวเอง และเลือกสอบคณะนิติศาสตร์ ทั้งของ มช และ ธรรมศาสตร์ (ซึ่งเราเคยพูดกับตัวเองไว้ว่า ให้ตายยังไงก็จะไม่สอบคณะนี้เด็ดขาด เพราะมันยาก) เพราะกฎหมายต้องใช้ในการสอบตำรวจเหมือนกัน เราเลยต้องฝืนเลือก ยังไงก็ต้องอดทนสู้เพื่อแม่ T^T

ชีวิตเราก็เป็นเหมือนเธอแหละ แต่เราจะต้องไม่ยอมแพ้ สู้ไปด้วยกันเถอะ :))
อีก 10 วันจะสอบ GAT-PAT แล้ว >< สู้ๆ

0
hawaii Columnist 25 พ.ย. 56 เวลา 10:40 น. 7

อยากให้น้องลองคิดว่า ในอนาคตข้างหน้า น้องจะเป็นอะไร น้องจะมีความสุขมั้ย ที่ต้องอยู่กับงานที่น้องเลือก(จากการเรียนคณะที่น้องไม่ชอบ) น้องต้องอยู่กับมันทุกวัน มันดีหรือเปล่า

ลองเปิดใจคุยกับทางบ้านไปเลยครับ ว่าน้องอยากเรียนอะไร แล้วก็พิสูจน์ให้ท่านเห็นว่า เราทำได้ เราสอบเข้าได้ และเราจะมีชีวิตที่ดีได้ถ้าหากเรียนคณะนั้น 

พี่เองก็เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ที่บ้านบังคับให้เรียนคณะวิทย์ เรียนประมง เรียนกีฏวิทยา แต่ไม่ใช่ตัวพี่ เลยคุยกันเลย แล้วก็ไปสอบ อยากเรียนคณะมนุษย์ ก็สอบเข้าได้ เรียนได้ เกรดดี เรียนจบ มีงานทำ 

ต้องลองครับ เป็นกำลังใจให้นะ 

0
Fangirl EXO 25 พ.ย. 56 เวลา 11:36 น. 8

เธอเป็นเหมือนกับเราเลยนะ คือตอนนี้เราติด สัมภาษณ์ของ มศว ซึ่งเป็นคณะที่เราอยากเข้ามากกก แต่พ่อกับแม่อยากให้เราเป็นเภสัช(มากกกกกกกก) -เราก้เกลียดเคมีสุดๆ คือเลิกสนใจเรียนแบบแค่เอาเกรดไปแค่นั้น อยู่มาวันนึง บอกว่าต้องเป็นเภสัช!!! โนววววว หนูไม่อยากเป็น ก็ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันมาจนวันนี้ ปล.ตอนที่บอกพ่อกับแม่ว่าติด มศว ท่านดูไม่ดีใจเลย รู้สึกผิดชะมัด สู้ๆนะเธอ จะต้องผ่านมันไปให้ได้ เป็นกำลังใจให้เยี่ยม

0
Gamera 25 พ.ย. 56 เวลา 17:53 น. 9

อ่านที่เธอพิมพ์เเล้วน้ำตาจะไหล TT
เเม่เราตามใจเรามาก อยากเข้าอะไรแม่โอเค แม่หาข้อดีมันได้เสมอ
เเต่เรากลับทำตัวเหลวไหล ไม่ยอมอ่าน เอาเเต่เล่นๆๆ 
ไม่รู้เลยว่ามีเด็กคนอื่นที่แบบ ต้องฝืนทำอะไรที่ไม่ชอบ
ทั้งๆที่เรามีโอกาศเลือกทางของเรา เฮือก
กลับมานั่งอ่านหนังสือต่อหล่ะ TT
สู้ๆนะตัวเอง 

0
PA-DHi 25 พ.ย. 56 เวลา 18:47 น. 10

น้องลองค้นหาตัวเองให้เจอว่าจริงๆแล้วอยากเรียนอะไร แล้วจบมาทำงานอะไร รายได้ประมาณไหน คิดว่าเปิดอาเซียนแล้วจะหางานได้มั้ย เพราะอย่าลืมว่า การเปิดอาเซียนนั้น ทำให้คนจากประเทศอื่นๆเข้ามาหางานในบ้านเราได้อย่างอิสระ ถ้าเราคิดว่าเก่งพอที่จะสู้กับคนพวกนั้นได้ ก็ลองดู แล้วต้องทำให้พ่อแม่เห็นจริงๆ

ถ้าอยากลองสอบจริงๆก็ลองคุยกับพ่อแม่ แต่พี่ว่าพ่อแม่เราก็มีเหตุผลที่อยากให้เราเรียนมข.นะ น้องเป็นผู้หญิงใช่มั้ย (?) อันนี้ไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าเป็นผู้หญิง อีกเหตุผลนึงที่เค้าอยากให้น้องอยู่ใกล้ๆบ้านก็อาจจะเป็นเพราะเค้ายังห่วงอยู่ กลัวว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเค้าจะไม่สามารถตามไปดูได้ทัน ลองดูนะคะ แต่พี่ว่าลองเปิดใจนั่งคุยกับพ่อแม่ดูเนาะว่าเหตุผลที่ท่านกำหนดที่เรียนว่าต้องเป็นมข. แล้วทำไมเราถึงอยากไปที่อื่น ลองมานั่งคุยกันดีกว่า เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
อนาคตเด็กจิต มธ 25 พ.ย. 56 เวลา 19:06 น. 12

อ่านของเธอแล้วรุ้สึกผิดกับตัวเองจัง เพราะพ่อแม่เราเค้าไม่เคยบังคับเราเรื่องการเรียนเลย เค้าไห้เหตุผลว่า ถึงจะเรียนจบอะไรมาแต่คนส่วนมากก็จะทำงานไม่ตรงสายที่เรียนมาอยุ่ดี เพียงแต่ขอไห้เราตั้งไจเรียนไห้ได้สุงๆเกรดดีๆ และเรียนไห้จบภายไนระยะเวลาของสาขาที่เราจะเข้า ตอนเรียนจบจะได้หางานได้ง่ายขึ้นเงินเดือนจะได้ดีๆ ปัจจุบันเราเรียนๆเล่นๆจะเข้ามหาลัยแล้วยังอ่านหนังสือไปได้แค่นิดเดียวเอง ไม่รุ้จะทำตามคำขอของท่านได้ป่าว สุดท้าย เราขอไห้เธอสุ้ๆนะ เปนกำลังจัยไห้

0
ข้าวโพด 25 พ.ย. 56 เวลา 21:48 น. 14

น่าอิจฉา แต่ละคนเนอะ ความคิดผมคือ ผมไม่สนใจสิ่งรอบข้างเกิดมาเราเป็นลูกคนเดียว ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจตลอด เวลามีเพื่อนบ้านมาโม้อะไรให้ฟังแต่ละทีแม่เราจะพูดคุยแบบออกรสมาก เวลาเพื่อนบ้านกลับ สิ่งแรกที่จะได้เจอคือ ทำไมไม่เอาแบบอย่างคนอื่นบ้าง
เราได้ยินประจำเลย เอาไปเปรียบกับ คนนู้นคนนี้ อารมแบบ ลูกต้องเป็นงี้ งี้นะ

โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นประเภท หัวรั้นน เราจะจบ ปวช 3 เหลืออีกเทอมเดียว เหมือนกับอารมณมันพาไปหน่ะ เราเลยไปดรอปไว้(อีกเทอมเดียวก็จะจบ)
พ่อแม่เราก็ค้านหัวชนฝาเลย สารพัดคำด่า ร้อยคำบ่น เราคิดอย่างเดียว (เหนื่อยก็หยุดพูดเอง) มีคนบอกเราว่าเราโง่นะ พ่อแม่ส่งให้เรียนปกติก็ไม่เอา เรียนนู่นนี่ เรียนติว ตอบ สอบ ห่.. อะไีก็ไม่รู้ แรกเราก็ท้อมากท้อๆ สุดๆ เราเลยตัดสินใจมาหางานทำ (อยู่ชลบุรี) วุฒิติดตัว ม.3 อะไรก็ไม่มี ผมอายุ 18 ออกมาอยู่ตัวคนเดียว ทำงานได้ปีหนึ่ง ผมกลับไปเรียนต่องจนจบ พอมีเงินเก็บผมก็มาฝึกงานที่ปทุมธานี ตอนนี้ได้ตำแหน่งเป็นคนคุมเครื่อองจักร ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีชื่อติดปากกันทุกคน ผมอายุ 21 ย่าง เข้า 22 แล้วก็กำลังจะลงทุนเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งเงินของพ่อแม่แม้แต่สลึงเดียว
จากเด็กหัวรั้นอายุ 18 ตอนนี้จะ 22 ผมสามารถเก็บเงินได้หกหลัก เลขต้นๆ ด้วยวุฒ ม.สาม กับกำลังกาย(คำตำหนิคำด่า คำเสียดสีคือแรงผลักดัน)วุฒ ปวช ผมไม่ได้ใช้ เพราะมันคือกระดาษแผ่นๆหนึ่ง บางที จะเรียนสูงมาแค่ไหน มันไม่ใช่ประเด็น สิ่งสำคัญทำงานเป็น ประเด็นสำคัญ
ต่อให้คุณเรียนมาแค่ไหน มันคืออดีต
(สำหรับผม)
ผมจะเห็นแค่การลงทุนในปัจจุบัน เพื่อสร้างอนาคตต เท่านั้น แหละ

ขอบคุณที่ให้แสดงความคิดเห็น

0
Niramon 25 พ.ย. 56 เวลา 22:45 น. 15

เราก็เป็นคนนึงที่ไม่มีความฝัน ได้แค่ทำที่คนนั้นคนนี้บอก เราเคยสอบติดมหาวิทยาลัยชือดังแห่งนึง แต่ก้แค่สำรองน่ะ แต่ ณ ปัจจุบันนี้เราอยู่ปีสองแล้วถึงจะไม่ใช่มหาวิทยาลัยชื่อดัง และก้ไม่ใช่คณะที่อยู่ในความคิดเลย แต่ว่าเรากลับภูมิใจ แล้วก็ดีใจที่ได้อยู่ที่นี่ ตอนแรกพ่อแม่ก้ไม่สนับสนุนหรอก แต่พอเกรดเราออกมาอยู่ในระดับค่อนข้างดี ไม่ได้ขี้เหร่อะไร พวกท่านก้ยอมรับได้ เลยทำให้เราคิดได้ว่า เรายอมเป็นสิงโตในป่าเล็กดีกว่าไปเป็นตะกวดในป่าใหญ่ และกลายเป็นมนุษย์ที่เรียนเพื่อพัฒนาตน ไม่ใช่เรียนเพื่อพัฒนาผลการเรียนส่วนในอนาคตนั้น เราเชื่อว่าถ้าเราเก่งในเฉพาะด้านจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่เป็ดที่เป็นทุกอย่างแต่ไม่เก่ง หรือรู้จริงเลยสักอย่างน่ะนะ ยังไงก็สู้ๆนะ ทำอะไรคิดอะไรก็นึกถึงผลที่ตามมาแล้วคนรอบข้างให้มากๆ แล้วที่สำคัญอย่าลืมนึกถึงตัวเองด้วย มองให้เป็น4มิติ เพราะ3มิติสำหรับสมัยนี้คงไม่พอ ^^

0
นิมิต 26 พ.ย. 56 เวลา 00:13 น. 16

พ่อแม่น้องน่าจะมีเหตุผลอยู่ ที่ให้เราทำครับ ไม่ว่าปมเศรษฐกิจ(เงินเดือนในอาชีพ) หรือว่า ปม สังคมคนรอบข้างที่รู้จัก(ลูกเพื่อนบ้าน เรียน นู่น นี่ นั่น )

เรียนบัญชีก็โอเค เป็นสาขาที่ไม่อดตายของจริง

แต่สาขาวิชาชีพ อย่างพวกบัญชี หรือ การตลาด แม้แต่วิศวะ แนะนำ ให้หางานทำก่อนซักปีสองปี แล้วค่อยต่อ ป.โท ป.เอก ครับ

อีกเรื่อง คือเรื่องมีปากมีเสียง แนะนำให้ อดทน ครับ ทนจนจบ ป.ตรี หลังจากนั้น ก็จะเป็นเวลาพิสูจน์ ตัวตนของน้องล่ะ

สู้ๆครับ

0
DiabolicKiller 26 พ.ย. 56 เวลา 01:45 น. 17

ถ้าจะเข้า UN ท่านต้องพูดได้แปดภาษา ถ้าคิดว่าไหวก็ทำไป
(แต่ท่านต้องเตรียมตัวระยะยาวเลยนะ สเปนใช่จะง่าย รัสเซียยิ่งโคตรยาก(ก็รับมาจากกรีกนี่) ฝรั่งเศสมีแบ่งเพศ บลาๆๆ ถ้ามีละตินด้วยเตรียมจองโลงอ่ะ นี่พูดจริงนะอย่างสเปนงี้พี่เราเรียนมาสามปี พอเข้าจุฬาต้องมานั่งเรียนใหม่(เพราะมีพวกที่ไม่ได้เรียนมาก่อนอยู่) งานก็เยอะ สอบยิ่งยากแค่สอบนะข้อเขียนทุกข้อ บางวิชาใช้แปดหน้ากว่าจะตอบหมด ตอนแรกพี่ท่านจะเรียนภาษาอื่นต่อ ตอนนี้เริ่มคิดดูก่อน เพราะเรียนอักษรควบรัฐศาสตร์(คนละม. สอบไม่พร้อมกันนะ ม.นี้ปิดอีกม.สอบต่อเพราะเปิด-ปิดไม่พร้อมกัน) เรียนสเปนควบละติน(engได้อยู่แล้ว) แค่นี้ก็ไม่ไหวละ แล้วภาษานึงมันไม่น้อยนะ ญี่ปุ่นเรียนจบชั้นต้นต่อชั้นกลาง(สอบวัดระดับอีก) )

(และจากเพื่อนเราแม่ทำงานUNงานไม่น้อยนะ แต่เรื่องงานอาชีพไหนมันก็เยอะอยู่ดีนั่นแล...)

ทำไมเราอ่านที่ท่านพูดมามัน..เอ่อ..แบบคือเค้ามีแต่อยากให้เรียนต่อโท ต่อเอกไม่ใช่รึ เรียนนอกต่อโทบางคนอาจมองว่ามันเปลือง แพงไม่ๆๆ แต่สาเหตุหลักเลยนะที่คนส่วนมากจะไปต่อโทนอกคือเวลา เงินน่ะถ้าบริหารการใช้จ่ายเป็นเดี๋ยวก็ได้คืนมาแล้ว แต่เวลาถ้ามันเสียไปแล้วไม่มีทางเอาคืนมาได้นะเฮ้ยย ดังนั้นขั้นต่ำเลยบอกพ่อแม่ท่านไปเลยจะเลือกเงินหรืออนาคตลูก CU TUน่ะถ้าเข้าได้แค่เรียนให้เข้าใจมันยากเกินไปหรอก ระหว่างปิดเทอมยังมีพวก work and travel อีก ได้ทั้งฝึกภาษาและเงินนะ คณะน่ะจะเอาอันไหนเอาให้แน่ๆ มันไม่เหมือนต้มมาม่า 5นาทีเสร็จนะ มันต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว เรียนอาทิตย์สองอาทิตย์จะเอาอะไรไปสู้กับพวกที่เตรียมมาเป็นปีตอนสอบเข้า หา?!? (อย่างเพื่อนเราจะเป็นหมอตั้งแต่ม.1 หรือมากกว่านั้น เพราะบ้านมันหมอทั้งตระกูล แต่ถ้าท่านเป็นอัจฉริยะก็ไม่แน่นะ :))

อนาคตเรานะ มีคนเคยพูดไว้ 'พ่อแม่สามารถทำได้เพียงชี้แนะแนวทาง และคอยตักเตือน แต่คนที่จะเลือกทางเดินได้คือตัวเราเอง' เพราะมิฉะนั้นเค้าก็แค่หลงคารมและอยากมีอยากเป็นตามคนอื่นเท่านั้นแหละ ไม่ได้คิดถึงความสุขของท่านหรอก บ้านเราใครอยากจะทำอะไรก็ทำ อะไรไม่ดีหรือเกินขอบเขตพ่อแม่หรือญาติจะเป็นคนเตือน(บางทีเพื่อนก็มีนะ) แต่ถ้าเลือกคณะหรืออนาคต อาชีพจะแค่แนะเฉยๆ ไม่บังคับเพราะถือเป็นอนาคตของเราเอง (และแบบนี้มักจะประสบผลสำเร็จมากกว่าการบังคับนะ พี่สาวได้เรียนทันตะ พี่ชายเรียนอักษรควบรัฐ พี่ชายอีกคนจบนิติ เหลือแค่เรากับน้อง แต่น้องเราเรียนจีนด้วยนะ(ป4 :)) เราเรียนญี่ปุ่นควบสายวิทย์และนิติศาสตร์(ม.ปลายนะเออ -0-;) ) บัญชีก็รุ่นพี่เราเรียนอยู่นะ วิศวะเพื่อนก็เลือกตั้งแต่ม.ต้นฝันมันใหญ่เลยลงทุนไปแลกเปลี่ยนได้โฮสเป็นโปรแกรมเมอร์(ยุ่งยากมากกก) สถาปัตย์เพื่อนมันก็มีพี่เรียนอยู่เป็นแนวทาง แต่ละอันเรามีตัวอย่างให้เห็นและเคยเจอมากับตัวไงเลยรู้ว่ามันไม่ง่ายนะ!!! ถ้าฝันท่านไกลต้องตั้งใจและไปให้สุด ทำให้ได้และมันจะไม่มีใครมาแย้งท่านหรอก :)

//โพสยาวชิบ ขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปละกัน

0
fairy 26 พ.ย. 56 เวลา 17:04 น. 19

เป็นเหมือนเราเลยคือปีหน้าจะขึ้นม.สี่พ่อกับแม่ก็อยากจะให้สอบเข้าห้องพิเศษเราก็โอเคแต่ก็ไม่ได้อยากเรียน
เพราะเด็กห้องพิเศษมักเห็นแก่ตัวมากและเราก็ไม่ค่อยชอบเราเลยขอพ่อกับแม่ว่าถ้าสอบติดขอไม่เรียนได้รึป่าว
แต่จะทำเกรดไม่ให้ต่ำกว่า3.7เพราะเกรดเราไม่เคยต่ำกว่านั้นพ่อกับแม่ก็ไม่ยอมเพราะบอกว่าสอบได้ก็ต้องเรียนสิ
และอีกอย่างคือพ่อกับแม่บังคับให้เลือกเรียนต่อมหาลัยแค่สองขนะคือหมอกับวิศวะซึ่งมันยากมากๆแต่เราก็
ไม่ได้พูดอะไรเพราะเราไม่เแนคนเถียงพ่อแม่ตัวเองเราเป็รคนค่อนข้างเงียบๆมาก มันทำให้เร9าเข้าใจความรู้สึกเธอนะ
ทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่างเกรดตกก็โดนด่า ไม่เรียนห้องพิเศษก็โดนด่า ทำอะไรก็ผิดหมด
ถามว่าทำไปเพื่ออะไร?สุดท้ายก็คำตอบเดิมๆเพืรออนาคตของเรา?ของเราหรอนึกว่าของพ่อแม่

เศร้าจัง

0
My-EnigmA 26 พ.ย. 56 เวลา 19:02 น. 20

ไม่รู้จะแนะนำอะไรค่ะ แต่อยากมาให้กำลังใจ คือที่บ้านเราฟรีมากอ่ะ อยากเรียนอะไรก็เรียน ขอแค่รัก และทำอย่างเต็มที่ก็พอ

แต่มีเพื่อนเราคนนึงนะ อยากเรียนพยาบาลแล้วพ่อแม่ไม่เห็นด้วย แล้วอยู่วันนึงเกิดทะเลาะกันขึ้นมาอ่ะ คือเพื่อนเราก็เป็นคนเย็นๆแบบจขกท.นั่นแหละ แล้วจู่ๆมันก็ระเบิดขึ้นมาเลย ประมาณว่า "จะเอาอะไรนักหนา ก็อยากเรียนพยาบาล พ่อจะให้หนูใช้เวลาสามสิบปีเพื่อทำในสิ่งที่หนูไม่ชอบหรอ โตขึ้นหนูต้องการทดแทนบุญคุณพ่อแม่อยู่แล้ว จะเอาอะไรอีก ต้องการให้ลูกตกนรกทั้งเป็นใช่ป่ะ"

คือไม่ได้ยุให้เธอทะเลาะกับพ่อแม่นะ แต่สำหรับพ่อแม่เผด็จการบางคน เราก็ต้องรู้จักยืนหยัดเพื่อตัวเองให้เขาเห็นบ้าง ถ้าตามเค้าไปเรื่อยๆ เค้าจะคิดว่าเราอ่อนแอ

ไม่รู้ดิ มันครอบครัวเธออ่า แต่ละครอบครัวมันก็ต่างกันไป

แต่ขอเป็นกำลังใจให้จขกท.นะ สู้ๆนะ อย่าน้อยใจนะ เราขอเป็นกำลังใจให้จริงๆ

0