Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

หมอกับเภสัชอะไรดีกว่ากันค่ะ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โตขึ้นไปอยากจะหาวิธีรักษาโรค โรคนึงให้หายค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอะไรจะดีกว่ากันระหว่างหมอกับเภสัช แล้วสองอาชีพนี้อะไรให้รายได้ดีมากกว่ากันและอาชีพทั้งสองนี้อันไหนจะ มีเวลาส่วนตัวมากกว่ากัน? ขอคำตอบด้วยค่ะ..

แสดงความคิดเห็น

>

39 ความคิดเห็น

.... 26 ม.ค. 57 เวลา 13:59 น. 2

ถ้าอยากจะรักษาโรคๆนึงให้หาย เรียนเภสัชเหอะคับ
แล้วต่อ ป.เอก ไปทำงานในห้องทดลอง
สร้างยาตัวใหม่ขึ้นมาให้ได้ =[]=;

ป.ล. หมอรายได้ดีกว่า(มากๆ)

0
SONE 26 ม.ค. 57 เวลา 16:34 น. 3

อยากเรียนอะไรละ หมอรายได้ดีก็จริงแต่ไม่มีเวลาใช้เงินเลยนะ งานหนักมาก ส่วนเภสัชงานเบากว่าหมอ เงินก็น้อยกว่าหมอ ความก้าวหน้าทางอาชีพก็น้อยกว่าหมอด้วยนะ แล้วแต่อ้ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

volk 26 ม.ค. 57 เวลา 23:33 น. 5

เอ่อ...
ความก้าวหน้าน้อยกว่าเลยเหรอ ไม่ขนาดน้านนน
เภสัชมันมีหลายทางให้ไปอ่ะน้อง
อย่างถ้าน้องไปทำงานวิจัยบริษัทยา เงินเดือนภายใน 3 ปีแรก อาจถึง 50000 ได้
ถ้าเกิดว่าอยู่รพ.ทั่วๆไป แต่อยู่เวรเยอะๆ ก็เกิน 30000 แน่ๆ
จิปาถะอ่ะ
แต่หมอเงินโดยเฉลี่ย มากกว่าเภสัชอยู่แล้ว
เรื่องความเหนื่อย ก็แล้วแต่สายงาน เภสัชบางงานก็ทำงานยันดึกดื่น ประชุมวิดีโอคอนเฟอเร๊นซ์ข้ามประเทศก็มีค่ะน้อง

ไม่เห็นด้วยกับความก้าวหน้าน้อยกว่าหมอนะ เอาอะไรมาวัดเนี่ยยยยย

ปล. ส่วนน้อง จขกท. ก็ลองคิดดีๆ ว่าอยากทำงานอะไรแน่ เดี๋ยวนี้แต่ละม.เค้ามี open house เยอะแยะ สมัครไปเลยน้อง

0
จุบจิบ 27 ม.ค. 57 เวลา 00:20 น. 6

มันวัดกันไม่ได้หรอกค่ะ แต่ถ้าให้ตอบตามค่านิยมของคนสมัยนี้ก็คงจะตอบว่าหมอเพราะว่ารายได้เยอะกว่า แต่พี่จะบอกอย่างนึงนะคะ พี่ก็เป็นักศึกษาเภสัช อยากจะบอกว่าไม่ได้เรียนง่ายไปกว่าหมอเลย เรียนยากเหมือนกัน แล้วที่คนอื่นมองกัน เค้าจะติดภาพว่าเภสัชเป็นแค่คนจ่ายยาตามที่หมอสั่ง จริงๆก็แอบน้อยใจนะ ที่เรียนมาก็ยากแต่มีบทบาทที่ถูกมองว่าเป็นรองหมอตลอดแต่อยากบอกว่าเภสัชก็มีบทบาทเยอะเหมือนกันนะ มีหลายสายงาน น้องลองหาข้อมูลเพิ่มดูนะ อยากให้เลือกที่คิดว่าใช่ตัวเองจริงๆ ไม่อยากให่เลือกแบบที่หวังผลตอบแทน เพราะว่าสิ่งนี้มันจะติดตัวเราไปตลอดชีวิตเลยนะ เงินทองน่ะ ไม่ว่าอาชีพไหนก็มีโอกาสรวยได้หมด ขอแค่รู้จักคำว่าพอดีสำหรับตัวเอง เพราะว่าคำว่ารวยของเรามันอาจไม่เท่ากันก็ได้ บางคนมีเงินเดือนพอใช้ ทำงานในสิ่งที่ตนเองรัก อย่างนี้ก็เรียกว่ารวยได้ ถึงแม้จะไม่รวยมีหน้ามีตาทางสังคมแต่อย่างน้อยแล้วคนๆนั้น เค้าก็เป็นคนที่รวยความสุขนะ
ขำ

0
Dream's zenith 27 ม.ค. 57 เวลา 10:48 น. 7

พี่เคยอ่านเจอมีพยาบาลท่านหนึ่งบอกลูกว่าถ้าจะทำงานด้านสาธารณะสุข ต้อง จบหมอเท่านั้น แม่ผมก็บอกแบบนี้ ผมเชื่อว่าคนในสายงานนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องเชียร์ให้เป็นหมอดีกว่า

1
Lalapry 19 มิ.ย. 61 เวลา 15:26 น. 7-1

ไม่เสมอไปค่ะ แม่เป็นพยาบาล เชียร์เภสัชสุดใจขาดดิ้นเลยค่ะ แม่ให้เหตุผลว่าคุณภาพชีวิตดีกว่า(ในที่นี้ หมายถึง เวลาส่วนตัว และในเรื่องความเครียด ความรับผิดชอบต่อผู้ป่วย เพราะถ้าทำงานในฝ่ายสาธารณสุขจริงๆ จะทราบว่า หมอค่อนข้างเสี่ยงต่อการโดนผู้ป่วยฟ้องร้องมาก) ทั้งนี้ทั้งนั้น การมองว่าอาชีพไหนดีกว่า ก็ขึ้นกับว่า น้องเหมาะกับอาชีพไหน ใจรักในวิชาชีพไหนค่ะ

0
หนวดเเมว6เส้น 27 ม.ค. 57 เวลา 12:20 น. 8

เห็นด้วยกะ คห.บนนะ เรื่องความก้าวหน้าเนี่ย เอาอะไรมาวัด คนละอาชีพกันมันก็มีความก้าวหน้าที่ต่างกันนะ อีกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยว่าคนคนนั้นจะทำให้ตัวเองมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ยังไง เอาเป็นว่าทั้งหมอ ทั้งเภสัชเรียนแล้วก็ดีหมดนั่นแหละ มันขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละคนล่ะเนอะดีจ้า

0
วิศวะจุฬาค่ะ 27 ม.ค. 57 เวลา 15:57 น. 9

เภสัชไม่มีสาขาเรียนเฉพาพทางที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานจ้า

หมอมีสาขาเฉพาะทางโดดเด่น เช่น อายุรศาสตร์ กุมารเวชศาสตร์ ผิวหนัง

ทันตะมีสาขา เช่น จัดฟัน ทันตกรรมประดิษฐ์

สาขาเหล่านี้เมจ่อทำงานเอกชน รับเงินเดือนหลักแสนค่ะ

เภสัชไม่มีสาขาโดดเด่นที่ รพ.ต้องการ แถมสอบเข้าง่ายกว่า 2 เท่านะค่ะ

ืี่อายุ 30 ปี ทำงานเอกชน หม ทันตะได้เงินเดือน +150,000-200,000 บาท ต่อเดือน

แต่เภสัชได้ในช่วง 30,000 - 50,000 ค่ะ

ที่รู้เพราะมีพี่เป็นเภสัช น้องคนเล็กเรียนหมอค่ะ

รักเลย

0
หนวดเเมว6เส้น 27 ม.ค. 57 เวลา 18:04 น. 10

เภสัชก็มีเรียนสาขาเฉพาะทางนะคะ มีอยู่ 2 สาขาค่ะ คือ สาขาโรงงาน(เน้นเรื่องการผลิตยา คิดค้นยา) กับสาขาบริบาล(เน้นเรื่องการนำยาไปใช้รักษาผู้ป่วย) แล้วแต่ละสาขาเนี่ย จบมาก็มีสายงานกว้างมากเลยค่ะ สามารถประกอบอาชีพได้มากมาย โดยเฉพาะในสายเภสัชกร เช่น เภสัชกรโรงพยาบาล เภสัชกรประจำร้านยา เภสัชกรชุมชน เภสัชกรการตลาด เจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค หรือรับราชการในกระทรวงทางด้านอาหารและยา และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯลฯ เภสัชกรอุตสาหกรรม เภสัชกรฝ่ายผลิตยา เภสัชกรแผนกควบคุมมาตรฐานตัวยา เภสัชกรฝ่ายการวิจัยคิดค้นตัวยา หรือรับราชการในกระทรวงทางด้านอาหารและยา หรือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯลฯ
หรืออาจจะสายอาชีพอื่นที่เกี่ยวกับยา เช่น เซลล์ขายยา เจ้าหน้าที่ในบริษัทเครื่องสำอาง เป็นต้น
ส่วนเรื่องเงินเดือนนี่ ยอมรับได้เลยว่าไม่ได้มากมายนักค่ะ เทียบหมอ เทียบทันตะไม่ได้ แต่เงินเดือนประมาณนี้ ก็ทำให้อยู่อย่างมีความสุขได้ค่ะ

เอ่อ จิงๆ ก็ไม่ได้เป็นเภสัชกรหรอกนะคะ แต่ที่รู้เพราะ ตอนนี้ อยู่ ม.5 ปีหน้าจะเอนท์คณะเภสัชค่ะ เลยต้องหาข้อมูลคณะนี้ไว้ แหะๆ
สู้สู้

0
praew 27 ม.ค. 57 เวลา 20:52 น. 11

น้อง หนวดแมว6เสัน.
ความรู้แน่นมาก แสดงว่าอยากเข้าคณะนี้จริงๆ ถึงคนทั่วไปจะไม่ค่อยรับรู้บทบาทเภสัชกรเท่าไหร่ แต่เภสัชเป็นบุคลากรที่แพทย์ พยาบาลให้ความสำคัญมาก. เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านยา พี่นศภ อยู่ปี2 แล้ว เอาใจช่วยน่ะ

0
praew 27 ม.ค. 57 เวลา 21:09 น. 12

อย่ามองเรื่องเงินทองเลย พี่คนนึงเคยอยากเรียนหมอแต่สอบไม่ติด เลยเบนไปเรียนเภสัชแทน ที่เรียนก็ยากอยู่แล้ว เรียนแพทย์คงไม่ไหวเรียนไปเรียนมาเริ่ม ชอบ และเรียนได้ดีด้วย อยากให้มองวิชาที่ตัวเองชอบถ้ามีความจำที่ดี เคมีเยี่ยม อังกฤษพอได้ คิดวิเคราะห์ เหตุผลเป็น เรียนเภสัชน่าจะรอด
ส่วนแพทย์ต้องมีทุกอย่าง รวมทั้งเวลาในชีวิตดัวย แปรผันตามผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคณะมีความยากในตัวเองอยู่แล้ว อย่าเปรียบเทียบเลยเรียนที่ตัวเองชอบดีที่สุด ถ้ายังไม่รู้อยากเรียนอะไรผลสอบเข้าจะเปนตัวบอกคุณเองว่ามีคุณสมบัติพอไหม เพราะเกณฑ์ต่างกันอยู่ค่ะ

0
real 27 ม.ค. 57 เวลา 22:35 น. 13

ถ้าพูดถึง "อยากจะรักษาโรค โรคนึงให้หาย" แนะนำให้เรียนหมอนะคะ
แพทย์จะมีบทบาทมากกว่าเกี่ยวกับโรค การรักษานะคะ

การคิดยาออกมา 1 ตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ ยากมากๆๆๆ
ทำให้เกิดขึ้นจริงได้ยาก
ประเทศไทยยังไม่มีบริษัทไหนคิดยาออกมาเองได้นะคะ ไม่มีเลย ย้ำ
มีแต่ อ.ที่ไปเรียนต่อ ทำวิจัย (ก็ยังน้อยมากๆอยู่ดี พี่ทราบแค่อาจารย์พี่ 1 คน ท่านเก่งมากๆ)

เนื้อหาที่เรียน บทบาทในการทำงาน แพทย์กับเภสัช แตกต่างกันค่อนข้างมาก
แต่มีจุดประสงค์เดียวกัน คือทำให้การรักษา/ดูแลมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เรื่องรายได้ แพทย์ได้มากกว่าค่ะ รายได้ดี เวลาส่วนตัวน้อย ความรับผิดชอบสูง
หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาผู้ป่วย แพทย์เป็นจำเลยที่หนึ่งนะคะ
เป็นผู้เสียสละตน (นับถือมากๆ)

รายได้เภสัชขึ้นอยู่กับว่าทำงานด้านไหน
ถ้าทำงานใน รพ. รวมๆ ประมาณ 25,000 ขึ้นค่ะ
เป็นเภสัชในร้านยา ก็ได้มากกว่าอีกนิดนึง
ผู้แทนยา(ดีเทล) รายได้แล้วแต่ความสามารถค่ะ การแข่งขันสูง ขึ้นกับโอกาศ(ว่าได้เดินยาอะไร) รายได้สูงมาก ถ้าปิดยอดได้
ผู้แทนยามักไม่เปิดเผยรายได้ให้คนอื่นรู้นะคะ

พี่เสนอความคิดเห็นว่า
อย่าเลือกคณะที่เรียนจากรายได้ ไม่ว่าอาชีพอะไรก็สามารถทำเงินได้ ถ้าเรามีความสามารถจริงๆ
ให้น้องเลือกจากสิ่งที่น้องอยากทำ
ซึ่งน้องจะต้องศึกษาก่อนว่า
คณะนั้นๆ สอนอะไร****(สำคัญมาก)แล้วมีบทบาทอะไร ใช่ตัวน้องรึเปล่า

ตอนนี้พี่เรียนเภสัชปี 4 ค่ะ
จบไปคิดว่าจะทำงานใน รพ.
ถึงแม้รายได้จะไม่มากเท่าอย่างอื่น
แต่พี่อยากทำ พี่อยากใช้ความรู้ที่พี่เรียนมาทำงานในด้านนี้


ค้นหาตัวเองให้เจอนะคะ

0
จิ๊จ๊ะ 28 ม.ค. 57 เวลา 00:45 น. 15

พี่เรียนเภสัชนะคะ เคยเป็นคนนึงที่อยากเรียนแพทย์ แต่ว่าสอบไม่ติด และตอนนั้นพี่ออกจะแอนตี้เภสัชด้วยซ้ำ เพราะ "ยังไม่รุ้อะไรลึกกว่าที่เห็น" จนพอเมื่อพี่ได้เข้ามาเรียนเพราะแม่อยากให้เรียน ไปๆมาๆ ก็ดันชอบซะงั้น แอบอยากตบปากตัวเองที่เคยดูถูกวิชาชีพด้วยซ้ำ ตอนนี้พี่พูดได้คำเดียวว่าพี่ภูมิใจมว๊ากกก 555555 เข้าเรื่องดีกว่า เป็นข้อๆละกัน

ที่น้องบอกว่าอยากรักษาโรคๆนึงให้หาย

แพทย์นั้นจะเน้นไปทางการรักษาโรค วินิจฉัยโรคต่างๆ เวลาเรียนก็เน้นพวกอนาโตมี่อะไรพวกนี้ซะเยอะ ส่วนเภสัชนั้นจะเน้นไปทางการรักษาด้วยยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยาจากพืชสมุนไพร ยาจากสัตว์ แร่ธาตุ หรือยาที่สังเคราะห์ขึ้น เวลาเรียนก็เน้นไปทางยา การเกิดปฏิกิริยาของยาภายในร่างกาย บลาๆ

ถ้าหากถามว่าอันไหนเรียนยากกว่ากัน

พี่ว่ายากพอกัน หนักพอกันของพี่เหมือนจะหนักตั้งแต่ปี 2 แต่แพทย์อาจจะหนักไปทางเนื้อหามากกว่า เภสัชจะเน้นทำแล็ปยาต่างๆ เคมีนี่หัวระเบิด 555555

ส่วนเรื่องรายได้
แพทย์ มากกว่าค่ะ เพราะทำงานหนักกว่า แต่เภสัชจะแล้วแต่สาขานะคะ ถ้าหากเป็นดีเทลยาก็จะมากกว่า เภสัชที่ทำงานอยู่ รพ แต่เภสัชจะมีเวลามากกว่าค่ะ ในความคิดของพี่นะ แต่หากน้องโอเคกับเงินเดือน 3 หมื่นอัพก็โอเคอะ แต่เงินเดือนมันสามารถอัพได้ค่ะ พี่บัณฑิตพี่เล่าให้ฟังว่าอัพโดยการทำผลงานเป็นลำดับขั้นไป

ใน ความเห็นพี่รายได้โอเคเหมาะสมกับเวลาและงานที่ไม่หนักเกินไป พี่ว่ามันอยู่ได้อะสำหรับพี่
แต่หมอเขาก็รายได้ดีกว่าอยู่แล้ว เงินเดือนสูงกว่าแต่ต้องแลกกับเวลาที่เสียไปด้วยค่ะ โอกาสเที่ยวก็มีค่อนข้างน้อย แต่ก็คงมีอยู่แล้วล่ะไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย

ปล. แต่แอบน้อยใจบางความเห็นนะคะที่คิดว่าเภสัชไม่มีความก้าวหน้า ความจริงเภสัชมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่เราก็พึ่งมารู้ตอนเรียนนี่แหละค่ะว่าเภสัชมีแบบนี้ด้วยหรอ นึกว่าไม่มี อย่างพวกสาขาต่างๆ สายงานเมื่อจบไป 555555555
ปลล. จขกท. ต้องลองคิดดูให้ดีๆนะคะ ตามความชอบและความถนัดของตัวเองค่ะ อีกอย่างเป็นงานที่เราจะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิตนะคะ :)

0
white_violet 28 ม.ค. 57 เวลา 22:54 น. 19
โตขึ้นไปอยากจะหาวิธีรักษาโรค โรคนึงให้หายค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอะไรจะดีกว่ากันระหว่างหมอกับเภสัช แล้วสองอาชีพนี้อะไรให้รายได้ดีมากกว่ากันและอาชีพทั้งสองนี้อันไหนจะ มีเวลาส่วนตัวมากกว่ากัน? ขอคำตอบด้วยค่ะ..???

พี่ว่า
หาวิธีรักษาโรค น่าจะเป็นหมอละมั้ง (ต้องทำวิจัยแบบนี้หรือเปล่า ก็หมอมีความรู้เรื่องสรีระ กายวิภาค พยาธิสภาพเยอะนี่เนอะ น่าจะหาวิธีได้? แต่ที่แน่ๆหมอสามารถบอกว่าคุณเป็นโรคอะไรได้ วิธีการรักษาก็มีหลายแบบ อาจไม่จำเป็นต้องให้ยาก็ได้)
ส่วน
หายารักษาโรค ก็เภสัช (ต้องหาสารที่เอาไว้รักษาโรค ทดลองมากมาย ทำในสัตว์ในคนกว่าจะได้ยาออกมาสักตัว >> เภสัชรู้เรื่องยาดีที่สุด อาจคิดยาที่ดีกว่าเดิม หรือพยายามคิดบางโรคที่ยังไม่มียารักษาหายได้)

*** อย่างไรก็ตามการหานั้นไม่ง่ายเลยทั้ง
หาวิธีรักษาโรค หรือ หายารักษาโรค ลองมาเรียนดูสิ เราต้องมีความรู้ให้มากเข้า ทั้งหมดที่เป็นความรู้ทั้งขั้นพื้นฐานและระดับที่ยากขึ้นที่มีอยู่แล้ว ไม่งั้นเราจะคิดสิ่งใหม่ๆได้ไง? 

เรื่องรายได้ดีมากกว่า >> หมออ่ะจ่ะ (เว้นแต่ตัวเธอไปเป็นดีเทลยา เงินไหลมาเทมาไม่แพ้หมอ แต่ต้องพูดเก่งนะ)

เวลาส่วนตัวมากกว่ากัน >> แล้วแต่นะ ขึ้นกับคน หมอตรวจคนไข้ทั้งวัน เภสัชก็ต้องจ่ายยาเฝ้าห้องยา(ก็อยู่ด้วยกันกับหมอเนี่ยแหละ) แต่ต้องยอมรับเลย หมอต้องเฝ้าเวร เคสด่วนเข้า ถ้าใจไม่รักจริงก็ลองถอยออกมาสองก้าว ถามตัวเองว่าอยากเป็นอะไรมากกว่ากัน ระหว่างหมอกัยเภสัชล่ะ????


0
นศภ.คนนึง 29 ม.ค. 57 เวลา 23:43 น. 20

พี่เรียนเภสัสัชปี 5 ค่าาา

ก้ถ้าถามเรื่องเรียนอะเน๊าะ บอกได้เลยว่ายากมาก เพราะมันเป็นวิชาชีพก้เลยต้องเรียนลึกซึ้ง เข้าใจในเรื่องต่างๆ เรื่องของยาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เราก้จะต่างคนละขั้วกับหมอตรงนี้เลย
น้องจะได้เรียนเคมีแบบเข้มข้น หลังจากนั้นก้จะเข้าวิชาคณ ะ เน๊าะ ก้จะได้เรียนกาทำยาเตรียมในรูปแบบต่างๆ เราก้ต้องรู้แม้กระทั่งศาสตร์ของมัน พวกวิชาคณิต ฟิสิสก เบื้อต้นตอนเรียนปี 1 ไรเงี้ย ก้อยาทิ้ง ได้ใช่ค่า และก้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ ทุกตำรับยาเตรียม ที่นศภ.จะเจอก้จะ มีศาสตร์และศิลป์ในการเตรียมแตกต่างกันไป เราเรียนกันถึงว่า สารตัวนี้ทำหน้าที่อะไรบ้างในตำรับ จะทำยาโลชัน ครีมเนี่ย จะต้องเตรียมยังไง method ไหน คำนวนยังไง แล้วก้เปนพวก QC อีก ก้ยากมากกกก นอกจากนี้เป็น นศภ.ต้องรู้กฏหมายยา รู้หลังเศรษฐศาสตร์เบื้อต้นอะเน๊าะ // สมุนไพร Pharmcog เราเรียนแม้กระทั่งทุกส่วยของต้นไม้มีอะไรบ้าง พืชนี้อยู่วงศ์ไหน สารสำคัญมีอะไร จะสกัดยังไง เอามาใช้แก้อะไร...// Medcinal chem เรียนก้เยอะมาก นศภ.ต้องรู้โครงสร้างยาทุกกลุ่ม ขอย้ำ!! ว่าทุกกลุ่มมม เราเรียนแม้กระทั่งว่าาา ถ้าเปลี่ยนตรงนี้ ตน.นี้ ฤทธิ์ยาจะเปนยังไง /// พอมาพวกคลินิก ..guideline การรักษา ทำ SOAP โคตรโหด ... น้องต้องรุจักยาที่จะใช้รักษาคนเกือบทุกโรค ที่สำัญ เราจะรู้กลไก การเกิด ADR ของมันไรงี้ /////////////////


อันนี้คร่าวๆๆ แต่พี่เชื่อว่า น้อง นศภ. หรือเพื่อนๆ ที่เรียนในคณะนี้ ความหนักเป็นยังไง

แต่เราก้จะหนักคนละขั้วกับหมอเลยย แตแพทย์เค้าก้หนักกว่าเราแหละ

ส่วนเรื่องอะไรดีกว่าอะไร ก้ถามใจตัวเองเน๊าะ ว่าชอบแบบไหน

ส่วนตัวพี่ชอบเภสัช เพราะพี่ชอบพวกเคมี ชอบพวกการทดลองอย่างนี้ค่่่าาาาา

แล้วก้ไม่อยู่เวรหนักหนาสาหัสแบบแพทย์ด้วยย

สู้ๆๆนะเด็กๆๆ ค้นหาตัวเองให้เจอ เพราะเราต้องอยู่กับอาชีพนี้ไปตลอดชีวิตจ้าาา

## จะสอบสภา ละ พี่ขอไปอ่านต่อละกันนนนน ## ขอบคุณมาก ที่ให้พี่มาแสดงความเหนในบอร์ดนี่ค่าโกรธแล้วนะ

0