Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โรคฮิตของคนไทยคือ....??

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ภูมิแพ้โรคฮิตของคนไทย 

       ปัจจุบันนี้สภาพอากาศแปรปรวนผิดกับสมัยก่อนทำให้สภาพร่างกายของมนุษย์เราผิดปกติไปด้วยธาตุในร่างกายก็ปรับสภาพไปตามสภาพแวดล้อมทำให้มนุษย์เราเกิดโรคต่างๆนาๆรุมเร้าเข้ามามากมายซึ่งบางครั้งร่างกายคนเราอาจต้านไม่ไหวจึงอาจแพ้ภัยโรค ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยหรือไม่ก็เกิดความผิดปกติของระบบต่างๆในร่างกายและความผิดปกตินั้นส่วนมากจะมาจากภาวะภูมิวัยเกินของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยในแต่ละปีที่ยังคงเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆซึ่งผู้คนเรียกโรคฮิตนี้ว่าโรคภูมิแพ้                                                                                                                                                                              

สาเหตุของโรคภูมิแพ้
         โรคภูมิแพ้มีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาที่ไวเกินไปในการตอบสนองสิ่งแปลกปลอมแบบผิดปกติทั้งๆที่สิ่งแปลกปลอมนั้นไม่มีอันตรายกับร่างกายแต่เป็นความเข้าใจผิดของร่างกายที่คิดว่ามีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างเป็นอันตรายจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการผลิตสารภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อกำจัดและทำลายสิ่งแปลกปลอมนั้นและแทนที่สารภูมิต้านทานที่ร่างกายผลิตขึ้นจะเป็นเครื่องปกป้องร่างกายก็กลับกลายเป็นว่าเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเจ็บปวดเสียเองจึงทำให้อาการแพ้

ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค
1.พันธุกรรม

          แม้ว่าประมาณ 10-20% ของเด็กที่อาจเป็นโรคภูมิแพ้ได้โดยที่พ่อแม่ไม่เป็นแต่ถ้าพ่อแม่เป็นภูมิแพ้หนึ่งคน ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ50%และจะเพิ่มขึ้นเป็น70% ถ้าพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้ทั้งคู่และมักจะมีอาการเร็วต่อสิ่งแวดล้อมและมักจะติดต่อกันในเพศเดียวกัน 

2.สิ่งแวดล้อมทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน

          สิ่งแวดล้อมภายในบ้านจะมีตัวไรฝุ่น สัตว์เลี้ยงต่างๆ เชื้อรา  ส่วนภายนอกบ้าน ได้แก่ เกสรหญ้า พืชบางชนิด ต้นไม้ เชื้อราในอากาศ สิ่งเหล่านี้ถ้าเด็กได้รับมาตั้งแต่เด็กหรืออายุน้อยและเป็นเวลานานๆจะเกิดอาการแพ้ได้

 ชนิดของการแพ้ จะแบ่งออกเป็น 4 ชนิดใหญ่ๆที่พบมากในประเทศไทย

          1.โรคภูมิแพ้อากาศ  มักจะมีอาการทางจมูกซึ่งเกิดจากเยื่อบุจมูกอักเสบซึ่งสัมผัสสารก่อภูมิแพ้เป็นระยะเวลานานจนกระทั่งเกิดอาการของโรคขึ้น ผู้ป่วยมักมีอาการคัดจมูก คันจมูก หายใจไม่สะดวก น้ำมูกไหล อาจจะกระแอมบ่อยๆเนื่องจากมีน้ำมูกไหลลงคอ และเนื่องจากโรคภูมิแพ้อากาศก็เป็นโรคหนึ่งซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรมมักมีประวัติการเจ็บป่วยเดียวกันในครอบครัว

          2.โรคภูมิแพ้ผิวหนัง  จะเกิดจากผิวหนังที่มีอาการแพ้ซึ่งจะมีผื่นแดงขึ้นตามตัวและจะเป็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจจะเป็นๆหายๆใน 6 สัปดาห์ ซึ่งจะเกิดจากอาหารและสารปรุงแต่งอาหาร ยา การติดเชื้อ แมลงกัดต่อย การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือสิ่งแวดล้อม แสงแดดหรืออีกอย่างหนึ่งก็คือความเครียดทางอารมณ์

          3.โรคภูมิแพ้อาหาร  อาจเกิดขึ้นกับระบบในร่างกายของมนุษย์ มีอาการทันทีที่รับประทานอาหารที่แพ้เข้าไปหรือหลังจากนั้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นผลทางภายนอกร่างกาย

          4.โรคภูมิแพ้ยา  มักจะเกิดอาการหลังรับประทานยาทันทีหรือไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งมีผลเสียที่เกิดจากยา

อาการของโรค
ปฏิกิริยาภูมิแพ้จากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนนั้นจะแสดงอาการต่างกันไปแม้แต่สารชนิดเดียวกันก็ตาม

          -ภูมิแพ้อากาศ  จะมีอาการคันจมูก หายใจไม่สะดวก น้ำมูกไหล กระแอมบ่อยๆ ตาแดง คันตา

          -ภูมิแพ้ผิวหนัง  จะมีอาการผื่นแดง คันตามตัวเฉพาะตอน บ่าย-เย็น บางคนเกาเรื่อยๆจนผิวแห้งและมีอาการผิวหนังเรื้อรัง ซึ่งอาการข้างต้นเป็นการแพ้ทางผิวหนังที่เรียกว่า ลมพิษ ซึ่งลมพิษเป็นโรคภูมิแพ้ทางผิวหนังที่พบบ่อยที่สุดและเป็นโรคที่ก่อความรำคาญให้แก่ผู้ป่วย รบกวนการทำงาน และการนอนหลับด้วย จากการวิจัยพบว่าในชีวิตของคนเราอย่างน้อยจะต้องเป็นโรคลมพิษ 1 ครั้ง

          -ภูมิแพ้อาหาร  จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้องแบบบิด มีผื่นขึ้นบริเวณริมฝีปาก ลิ้น และช่องปากบวม เวลาที่เราหายใจจะมีเสียง หายใจลำบาก อึดอัด แน่นในลำคอ และอาจเกิดอาการที่รุนแรงที่สุด คือ อาการช็อค ซึ่งเกิดขึ้นได้จากปฏิกิริยาภูมิแพ้อย่างรุนแรง

          -ภูมิแพ้ยา  จะมีอาการเป็นผื่นลมพิษหน้าและผิวหนังจะบวม น้ำมูกไหล หลอดลมเกร็งทำให้แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หากเป็นมากตัวอาจจะเขียว ริมฝีปากเขียว ความดันโลหิตต่ำ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือไซนัสอักเสบจะแพ้ได้ถึงร้อยละ30-40

วิธีการป้องกันและดูแลรักษา

        ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือรับประทานยาต้านก็สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้แบบเจาะจงได้หรือไม่ก็บำบัดด้วยสารก่อภูมิแพ้ซึ่งจะฉีดเข้าไปในร่างกายที่ละน้อยเพื่อให้ร่างกายสร้างระบบภูมิคุ้มกันต่ออาการแพ้นั้นได้

          -ภูมิแพ้อากาศ  รักษาโดยการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ประเภทมีขน หากมีอาการแพ้มากควรรับประทานยาแก้แพ้ที่แพทย์จัดให้ ซึ่งยาแก้แพ้จะมีหลายชนิดมาก คือ ยาต้านฮิสตามีน ในอดีตใช้บ่อยและคอลเฟนิรามีน ซึ่งมีราคาถูกมากแต่มีข้อเสีย คือ ง่วงนอน แต่ในปัจจุบันนี้ยาแก้แพ้ชนิดใหม่ๆเกิดขึ้นทำให้เกิดอาการง่วงน้อยลง

          -ภูมิแพ้ผิวหนัง  รักษาได้โดยยาต้านฮีสตามีน เป็นยาสามัญประจำบ้านชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์แก้แพ้ แก้คัน และลดน้ำมูก ซึ่งยาชนิดนี้จะมีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึมมาก ซึ่งยากลุ่มนี้ใช้ในวงการแพทย์มานาน ราคาถูก ผลข้างเคียงไม่ค่อยรุนแรงและได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีผลข้างเคียงน้อย

          -ภูมิแพ้อาหาร  รักษาได้โดยหาอาหารที่แพ้ให้พบและหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ลองปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการหลีกเสี่ยงอาหารเหล่านั้นและหันมารับประทานสารอาหารทดแทน เช่น ถ้าแพ้นมวัว อาจใช้นมที่ที่มีสูตรพิเศษซึ่งมีโปรตีนชนิดพิเศษแทน  

          -ภูมิแพ้ยา  รักษาได้โดยให้หยุดยานั้นทันทีสำหรับผู้ที่มีผื่นลมพิษให้ใช้ยาแก้แพ้รับประทาน 

การปฏิบัติตนของคนเป็นโรคภูมิแพ้

       คนที่มีอาการเป็นโรคภูมิแพ้ควรจัดบ้านให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่เลี้ยงสัตว์มีขน ไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศมลพิษ หมั่นดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี หลีกเลี่ยงสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำด้วยขน และศึกษาวิธีรักษาและปฏิบัติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือในหนังสือวารสารก็สามารถศึกษาได้

       ที่มา  http://health.kapook.com/view13691.html

นางสาว สุกัญญา  นาคปน  ม.5/5 เลขที่ 23



แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Dark_master 18 ก.พ. 57 เวลา 21:37 น. 1

เราจะแพ้กันทุกอย่างเลยใช่ไหม ? 5555

Me...แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (วิ่งหนีออกไปนอกกระทู้)

0