IS 2 หัวข้อ เชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส "เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆนะค่ะ"^^
ตั้งกระทู้ใหม่
เชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส
สมมติฐาน คนสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้เชื้อติดต่อเข้าสู่ร่างกายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอีสุกอีใส
เชื้อ Varicella Zonster Virus เป็นเชื้อทีี่สามารถติดต่อกันได้ง่ายมากโดยการสัมผัสจับต้อง หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยทำให้เชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส เชื้อนีีสามารถเกิดได้กับทุกสภาวะและทุกวัย เชื้อนี้จะเป็นอันตรายมากหากเกิดสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ป่วยที่มีครรภ์ หาเมื่อเป็นโรคอีสุกอีใสแล้วจะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต เชื้อนี้ไม่หายไปจากร่างกายมันยังคงอยู่ในเส้นประสาทเมื่อร่างกายอ่อนแอมากจนภูมิต้านทานมีน้อยอาจนำมาให้เกิดโรคอีสุกอีใสซ้ำอีกครั้ง
สาเหตุของการเกิดโรคอีสุกอีใส
การสัมผัสถูกตุ่มน้ำของผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส หายใจรดกัน ใช้สิ่งของหลายๆอย่างร่วมกับผู้ป่วย ไม่มีการป้องกันตนเองจากผู้ป่วยที่มีเชื้อ Varicella Zonster Virus
วัตถุประสงค์
1. เพื่อรายงานการดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อ Varicella Zonsier Virus
2. เพื่อศึกษาถึงโรคอีสุกอีใส
3. เพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์ต่อตนเองและผู้ทีี่ต้องการศึกษา
จากการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อ Varicella Zonster Virus หมายถึงเชื้อทีี่มีการติดต่อกันได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นกับเด็กหรือผู้ใหญ่ Varicella หมายถึงโรคที่มีลักษณะคล้ายฝีดาดการติดเชื้อ VZV ติดต่อได้ทางการหายใจ การสัมผัสต่างๆกับผู้ป่วย จะทำให้ผู้ที่สัมผัสเกิดอาการไข้และทำให้ป่วยมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นในบริเวณลำตัว
จากการศึกษาเกี่ยวกับ โรคอีสุกอีใส หมายถึง โรคที่มีตุ่มน้ำใสขึ้นทั่วตัวจากเชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามลำตัว และมีผื่นขึ้นตามร่างกายและจะหายเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ โรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่ไม่รุนแรงถึงแม้จะติดต่อกันได้รวดเร็วก็ตาม ดูแลรักษาได้ภายใน 7-10 วัน แต่ความรุนแรงของโลกขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของผู้ป่วย โดยความรุนแรงของโรคสูงขึ้น(มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงแทรกซ้อนสูงขึ้น)ถ้าอาการนี้ยังไม่ดีขึ้นโดยเฉพาะในเด็กเล็กควรไปพบแพทย์
จากการศึกษารายงานการวิจัยที่เกียวข้องสรุปได้ว่า โรคอีสุกอีใสเกิดขึ้นจากเชื้อ Varicella Zonster Virus เป็นโรคที่ไม่รุนแรงเกิดได้กับทุกวัยตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ อาการจะหายภายใน 2 สัปดาห์อาจมีแผลเป็นให้เ็ห็นได้ สำหรับการติดเชื้อ Varicella Zonter Virus ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เด็กีท่เป็น Leukemia,HIV หรือมะเร็งชนิดอื่นๆมีอันตรายมาก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการติดเชื้อทารกในครรภ์ทำให้เกิดการพิการ สมองเสื่อม และอาจถึงตายได้
สรุปองค์ความรู้ทั้งหมด
คนสัมผัสกับผู้ป่วยทีี่มีเชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสโดยการหายใจรดกัน การสัมผัส การจับต้องสิ่งของของผู้ป่วยเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในบริเวณเยื่อเมือกทางเดินหายใจแล้วเชื้อจะกระจายไปทั้งตัวทำให้มีไข้ออกผื่น กระจายจากลำตัวไปแขนขา อีสุกอีใสเป็นโรคที่หายเองได้ อาการจะมีไข้ปวดศรีษะ ปวดท้อง เจ็บคอ อ่อนเพลีย ประมาณ 1-2 วันไข้อาการต่างๆจะดีขึ้นแต่ผิวหนังจะขึ้นผื่นอย่างรวดเร็ว ส่วนมากผื่นจะขึ้นบริเวณหน้าและลำตัวและมีตุ่มน้ำใสๆขึ้นตามมาซึ่งคันมา ต่อจากนั้นจะตกสะเก็ดภายใน 1-3 วัน สะเก็ดแผลจะค่อยๆหายลอกไป
แนวทางแก้ไขปัญหา
1. แยกเด็กที่ป่วยไว้ต่างหากเพราะถ้าหากเอาไว้รวมกันแล้วเชื้อในตัวเด็กอาจแพร่มาสู่ร่างกายโดยการหายใจ การสัมผัสถูกตัวเด็ก
2. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ป่วยเพราะเชื้ออาจปนอยู่กับสิ่งของที่เขาจับ เมื่อเราไปจับซ้ำทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้
3. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส นอกจากประโยชน์โดยตรงที่ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคอีสุกอีใสแล้วยังมีประโยชน์อื่นๆอีกเช่น ลดความเสี่ยงจ่อการเกิดรอยแผลเป็นอันเนื่องมาจากเป็นโรคอีสุกอีใส ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อนจาก การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นต้น วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสแนะนำให้ฉีดได้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีขึ้นไป ซึ่งจากประสบการณืในประเทศญี่ปุ่นหลังฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็มให้ภูมิคุ้มกันยาวนานถึง 20 ปี
เชื้อ Varicella Zonster Virus เป็นเชื้อทีี่สามารถติดต่อกันได้ง่ายมากโดยการสัมผัสจับต้อง หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยทำให้เชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส เชื้อนีีสามารถเกิดได้กับทุกสภาวะและทุกวัย เชื้อนี้จะเป็นอันตรายมากหากเกิดสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ป่วยที่มีครรภ์ หาเมื่อเป็นโรคอีสุกอีใสแล้วจะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต เชื้อนี้ไม่หายไปจากร่างกายมันยังคงอยู่ในเส้นประสาทเมื่อร่างกายอ่อนแอมากจนภูมิต้านทานมีน้อยอาจนำมาให้เกิดโรคอีสุกอีใสซ้ำอีกครั้ง
สาเหตุของการเกิดโรคอีสุกอีใส
การสัมผัสถูกตุ่มน้ำของผู้ป่วยโรคอีสุกอีใส หายใจรดกัน ใช้สิ่งของหลายๆอย่างร่วมกับผู้ป่วย ไม่มีการป้องกันตนเองจากผู้ป่วยที่มีเชื้อ Varicella Zonster Virus
วัตถุประสงค์
1. เพื่อรายงานการดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อ Varicella Zonsier Virus
2. เพื่อศึกษาถึงโรคอีสุกอีใส
3. เพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์ต่อตนเองและผู้ทีี่ต้องการศึกษา
จากการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อ Varicella Zonster Virus หมายถึงเชื้อทีี่มีการติดต่อกันได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นกับเด็กหรือผู้ใหญ่ Varicella หมายถึงโรคที่มีลักษณะคล้ายฝีดาดการติดเชื้อ VZV ติดต่อได้ทางการหายใจ การสัมผัสต่างๆกับผู้ป่วย จะทำให้ผู้ที่สัมผัสเกิดอาการไข้และทำให้ป่วยมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นในบริเวณลำตัว
จากการศึกษาเกี่ยวกับ โรคอีสุกอีใส หมายถึง โรคที่มีตุ่มน้ำใสขึ้นทั่วตัวจากเชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามลำตัว และมีผื่นขึ้นตามร่างกายและจะหายเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ โรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่ไม่รุนแรงถึงแม้จะติดต่อกันได้รวดเร็วก็ตาม ดูแลรักษาได้ภายใน 7-10 วัน แต่ความรุนแรงของโลกขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของผู้ป่วย โดยความรุนแรงของโรคสูงขึ้น(มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงแทรกซ้อนสูงขึ้น)ถ้าอาการนี้ยังไม่ดีขึ้นโดยเฉพาะในเด็กเล็กควรไปพบแพทย์
จากการศึกษารายงานการวิจัยที่เกียวข้องสรุปได้ว่า โรคอีสุกอีใสเกิดขึ้นจากเชื้อ Varicella Zonster Virus เป็นโรคที่ไม่รุนแรงเกิดได้กับทุกวัยตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ อาการจะหายภายใน 2 สัปดาห์อาจมีแผลเป็นให้เ็ห็นได้ สำหรับการติดเชื้อ Varicella Zonter Virus ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เด็กีท่เป็น Leukemia,HIV หรือมะเร็งชนิดอื่นๆมีอันตรายมาก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการติดเชื้อทารกในครรภ์ทำให้เกิดการพิการ สมองเสื่อม และอาจถึงตายได้
สรุปองค์ความรู้ทั้งหมด
คนสัมผัสกับผู้ป่วยทีี่มีเชื้อ Varicella Zonster Virus ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสโดยการหายใจรดกัน การสัมผัส การจับต้องสิ่งของของผู้ป่วยเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในบริเวณเยื่อเมือกทางเดินหายใจแล้วเชื้อจะกระจายไปทั้งตัวทำให้มีไข้ออกผื่น กระจายจากลำตัวไปแขนขา อีสุกอีใสเป็นโรคที่หายเองได้ อาการจะมีไข้ปวดศรีษะ ปวดท้อง เจ็บคอ อ่อนเพลีย ประมาณ 1-2 วันไข้อาการต่างๆจะดีขึ้นแต่ผิวหนังจะขึ้นผื่นอย่างรวดเร็ว ส่วนมากผื่นจะขึ้นบริเวณหน้าและลำตัวและมีตุ่มน้ำใสๆขึ้นตามมาซึ่งคันมา ต่อจากนั้นจะตกสะเก็ดภายใน 1-3 วัน สะเก็ดแผลจะค่อยๆหายลอกไป
แนวทางแก้ไขปัญหา
1. แยกเด็กที่ป่วยไว้ต่างหากเพราะถ้าหากเอาไว้รวมกันแล้วเชื้อในตัวเด็กอาจแพร่มาสู่ร่างกายโดยการหายใจ การสัมผัสถูกตัวเด็ก
2. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ป่วยเพราะเชื้ออาจปนอยู่กับสิ่งของที่เขาจับ เมื่อเราไปจับซ้ำทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้
3. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส นอกจากประโยชน์โดยตรงที่ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคอีสุกอีใสแล้วยังมีประโยชน์อื่นๆอีกเช่น ลดความเสี่ยงจ่อการเกิดรอยแผลเป็นอันเนื่องมาจากเป็นโรคอีสุกอีใส ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อนจาก การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นต้น วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสแนะนำให้ฉีดได้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีขึ้นไป ซึ่งจากประสบการณืในประเทศญี่ปุ่นหลังฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็มให้ภูมิคุ้มกันยาวนานถึง 20 ปี
10 ความคิดเห็น
ขอบคุณน๊าค่ะ
น้องผมมันเข้าข่ายเป็นอยู่นะเนี่ย ดังนั้นผมจะไม่เข้าใกล้มัน
ขอบคุณมากๆนะครับ
วิชา IS ใช่มั๊ยอวยพรนะครับ สู้ๆ
ขอบคุณมากก ได้ความรู้เยอะเลยย
ได้ความรู้เยอะมากค้าบบบบบ เอาไว้ใช้ประโยชน์ต่อไปได้ (y)
ไม่รู้เลยนะเนี้ย ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ค่ะ ><
ได้ความรู้มากเลยค่ะ
สุดยอดคร๊าบ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?