Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

การแต่งกายในแต่ละยุคของฝรั่งเศส (รูปสวยหรูหรามากกกกกกกกกก)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เครดิตรูปภาพสวยๆ ค่ะ วาดไว้สวยจริงๆ
http://pantip.com/topic/30694389
http://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/09_6.html


เริ่มที่ ฝรั่งเศส 

ฝรั่งเศสสมัยกลาง 









สมัยกลางอันนี้ได้รับอิทธิพลจากอิตาลี ยังไม่ค่อยหรูหรา-*-

เริ่มมีการใส่สุ่มในกระโปรง เริ่มมีการใช้น้ำหอม ( เพราะเสื้อใส่หลายชั้นไม่สะดวกในการอาบน้ำจึงต้องใช้นำหอมแทน)
สมัยราชวงศ์ The Valois 

พระเจ้าชาร์ลที่ 9 และพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 (1560-1574, 1574-1589)

สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 (1610-1643) 




หลุยส์ที่ 14 

มาดามปอมปาดัวร์ 




มาดาม ดูว์ บาร์รี่ (madame du barry) โสเภณีชั้นสูง ก่อนที่จะได้รับเป็นพระสนมในพระเจ้าหลุยส์ที่15
marie louise of savoy
สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ครองราชย์ต่อมาไม่นานก็ลง สำเร็จโทษโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ฉะนั้น การแต่งกายของสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จะมีการ เปลี่ยนแปลงเครื่องประกอบการแต่งกายเล็กน้อย ทรงผมของผู้ชายจะสวมวิกที่เรียกว่า Cadogan wig มีม้วนเป็นหลอดอยู่สองข้าง รูปทรงของหมวกและการผูกผ้าพันคอของผู้ชาย ส่วนของผู้หญิง รูปทรงกระโปรงยังคงบานในลักษณะวงกลมเช่นเดิม มีโครงในกระโปรงเรียกว่า Doble Panmiers ชุดก็ยังคงมีลูกไม้และริบบิ้น ตกแต่งเป็นผ้าต่วนไหมและกำมะหยี่ กระโปรงจะมีผ่าหน้าและยกหยัก รั้งด้านข้าง ทั้ง 2 ข้างขึ้น ไปพองอยู่ด้านข้าง 2 ข้าง
ต่อไปอลังการมากกกกกกก บุคคลในประวัติศาสตร์ก่อนการปฎิวัติฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยที่16 และพระนางมารี อองตัวเนตต์ ที่ดังไปทั่วโลก

ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 มีความสุรุ่ยสุร่าย หรูหรามาก ประกอบกับพระมเหสีคือ พระนางมารี่อองตัวเนตต์ ชอบการแต่งกาย ฉลองพระองค์ด้วยเสื้อ รัดรูป คอลึก กระโปรงพอง ด้านหลังด้วยการจับจีบเดรฟ มีโครงกระโปรงที่เรียกว่า สุ่มไก่ ทำด้วยโลหะสามารถกางและหุบได้ ทรงผมประดับด้วยไข่มุก ขนนก และดอกไม้ 

ผู้ชายจะสวมเสื้อคลุมยาวปิดสะโพก นุ่งกางเกงรัดขา ใส่ถุงเท้ายาว เสื้อชั้น ในเป็นเชิ้ต มี จีบระบายที่อกและแขน มีเสื้อตัวสั้น ทับก่อนใส่เสื้อคลุม


---------------------------------------------------------------------------------

ภาพการ์ตูนล้อเลียนการทำผมของสาวๆผู้มีอันจะกินในสมัยก่อนปฎิวัติฝรั่งเศส
หลังจากปฎิวัติฝรั่งเศส ราชวงศ์ขุนนาง รวมถึงพระมหากษัตริย์โดนโค่นล้มราชบังลังก์และสำเร็จโทษด้วยกิโยตินไปจนหมด แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงการแต่งกายใหม่ทั้งหมดเพราะ สมัยพระเจ้าหลุยที่16 เป็นการแต่งกายที่ฟุ่มเฟือยมากใครแต่งกายจะต้องถูกประหารด้วย เครื่องกิโยติน (น่ากลัวมากกกกกกกกกกก)

-----------------------------------------------------------------------
ยุคของนโปเลียน





สมัยฝรั่งเศสคอนซูเลท และเอ็มไพร์ 

The French Consulate and first Empire 1799-1815 

ในสมัยนี้ประเทศฝรั่งเศสจะตกอยู่ในการปกครองของจักรพรรดิ โปเลียน ซึ่งทำการปฏิวัติ มาจากคณะไดเรคโตรี่ 

เครื่องแต่งกายจะเหมือนกับสมัยของ Directories แต่จะเรียกทรงเอ็มไพร์ หรือเรียกอีก อย่างหนึ่งว่า คลาสสิเคอร์ สไตล์ “Classical Style” มีลักษณะเหมือนกับกรีกและโรมัน คือ ลักษณะชุดกระโปรงจะตรงลงไประดับของเอวอยู่ใต้อก 

เครื่องแต่งกายชายเริ่มจะเป็นปัจจุบันมากขึ้น เริ่มนุ่งกางเกงทรงใหม่ ๆ เริ่มใช้ผ้าพันคอ และออกแบบเสื้อสูทแบบต่าง ๆ มีทั้งแบบ Claw hammer taill เป็นเสื้อสูทที่ข้างหน้าสั้น แค่เอว ข้างหลังเป็นหางยาวคลุมสะโพกมีแหวกตรงกลาง และแบบเต็มทั้งตัว 

ในสมัยนี้จะมีเสื้อยกทรงตัวแรกทำด้วยผ้ามัสลิน เรียก แบนเดิน “Bandean” ซึ่งต่อมา วิวัฒนาการเป็นเสื้อยกทรง

สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 (1815-1824) 

จะเป็นสมัยที่ฝรั่งเศสกลับมาหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างเดิมอีก โดยนำเอาการแต่งกายของ สมัยพระนางแมรี่ อังตัวเนต และพระนางโยเซฟฟิน ซึ่งเป็นมเหสีของนโปเลียนมาผสมผสานกัน มีการตกแต่งหรูหราเพิ่มขึ้น แต่พอควร ให้ความรู้สึกละเอียดอ่อน เอวซึ่งเคยสูงก็กลับมาอยู่ในระดับ ปกติและรัดรูป กระโปรงบานออก แขนใหญ่ พองฟู ติดลูกไม้หรือโบว์ที่ขอบแขนเสื้อ แขนเสื้อทรง ขาหมูแฮม ผมเป็นลอนที่ท้ายทอยและหน้าผาก











สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (1942) 

เป็นภาวะที่ฝรั่งเศสขาดแคลนเครื่องแต่งกาย สินค้าผ้าขาดแคลน การแต่งกายของผู้หญิง ต้องมีการจำกัดเรื่องผ้า เป็นกระโปรงทรงตรง ๆ แคบ ผ่าข้างหลัง หรือหน้าเพื่อให้เดินสะดวก ชายเสื้อกระโปรงพับได้ไม่เกิน 1 นิ้ว

นี่ขนาดคลาดแคลน นะเนี่ย 



ช่วงแรกๆ ฮิตกระโปรงทรงดินสอแคบเข้ารูป    แบบภาพด้านบน



ยุค '50s มีสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือ  กระโปรงบ๊านบาน ความยาวคลุมเข่า ข้างในกระโปรงเสริมผ้าตาข่ายหลายๆ ชั้น  เน้นทรวดทรงองค์เอว


แสดงความคิดเห็น

>

1 ถูกเลือกโดยทีมงาน

DESIGN 15 มี.ค. 57 เวลา 16:41 น. 7
ของไทยนะ เห็นมีคนอยากดู555


สมัยทวาราวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-16) 
สมัยศรีวิชัย (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 13-18) 
จริงๆมีรูปผู้หญิงด้วยนะ แต่ติดเรท18+  55555
สมัยลพบุรี (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 16-19) 
สมัยเชียงแสน (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 – 24) 
สมัยสุโขทัย (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 19 – 20) 
สมัยอยุธยา (พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 2310) 
การแต่งกายสมัยอยุธยา (สมัยที่ 1) 
การแต่งกายสมัยอยุธยา (สมัยที่ 2) 
การแต่งกายสมัยอยุธยา(สมัยที่ 3)
การแต่งกายสมัยอยุธยา (สมัยที่ 4) 

สมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ 1-3 พ.ศ. 2325 – 2394 ระยะ 69 ปี

การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 1-3

การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 4 (หญิง) 
การแต่งกายสมัยต้นสมัยรัชกาลที่ 5 
การแต่งกายสมัยกลางสมัยรัชกาลที่ 5
ารแต่งกายสมัยปลายรัชกาลที่ 5 
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 6 
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 7 
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 8 
สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน 
(รัชกาลที่ 9 พ.ศ. 2489) ทรงครองราชย์มาถึงปัจจุบัน 

ชุดไทยพระราชนิยม 


0

93 ความคิดเห็น

สาวศิลปะ DESIGN 15 มี.ค. 57 เวลา 13:18 น. 1

แถมของประเทศอื่น
มาดูกันค่ะ


Italian Renaissance 
ประเทศอิตาลี่ คศ. 1450 -1500 
ประเทศอังฤษ
สมัย The Elizabethan Queen 
ในสมัยศตวรรษที่16อังกฤษอยู่ในสมัยราชวงศ์ทิวดอร์ ช่วงปลายราชวงศ์ปกครองโดยราชินีพรหมจรรย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นยุคสมัยที่เรืองรองที่สุดยุคนึงของอังกฤษ ซึ่งสะท้อนผ่านเครื่องแต่งกายที่หรูหราและประดับประดาไปด้วยเครื่องเพชร ยุคนี้เริ่มใช้เทคนิคการปักและประดับประดามากขึ้นแม้ว่าจะเหลือถึงยุคปัจจุบันไม่มากแต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งได้เป็นอย่างดี
  เครื่องแต่งกายที่เห็นในภาพเป็นช่วงราวปีคศ. 1575-1600เป็นช่วงปลายสมัยอลิซาเบธ ชุดเครื่องแต่งกายจะสวมฟาร์ธิงเกลหรือโครงสุ่มขนาดใหญ่ท่อนบนนั้นตัวเสื้อจะดูชะลูดยาวเพื่อให้เข้ากับโครงสุ่มขนาดใหญ่บางครั้งอาจทำให้ช่วงขาดูสั้นกว่าความเป็นจริงแขนเสื้อจะพองฟู จุดเด่นที่สุดของยุคนี้คือ รัฟฟ์ หรือแผงคอผลิตจากผ้าลินินปักลายหรือบางครั้งเป็นลูกไม้ถักมือลงแป้งให้แข็งบางครั้งด้วยขนาดที่ใหญ่จึงต้องมีตะแกรงเหล็กรองรับ 
อังกฤษ ในสมัยพระนางเจ้าวิกตอเรีย
ในภาพเป็นชุดในช่วงปี1880 จุดเด่นที่สุดของยุคนี้คือbustleซึ่งคือหมอนเสริมบั้นท้ายให้โป่งงอน ยุคนี้เป็นยุคที่คลั่งคอร์เซตอย่างมากโดนจะใส่คอร์เซตรัเให้เอวมีขนาดเล็กและสะโพกผายอกนูน ชุดที่สวมใส่ในงานกลางคืนจะลากชายหางโป่งยาว ราวอกจะเป็นตัวV สังเกตุว่ายุคนี้เป็นยุคที่เคร่งครัดด้านศิลธรรมจรรยามากกว่ายุคใดแต่เครื่องแต่กายนั้นกลับตรงกันข้ามมีการเน้นและเสริมอกรัดเอวกิ่วเสริมบั้นท้ายกันเอิกเกริกมากกว่ายุคใดๆเช่นกัน ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นการแสดงออกถึงความต้องการจริงๆของมนุษย์ในกฏระเบียบอันบีบรัดของสังคมก็เป็นได้

ข้ามมาสเปนกันมั้งนะค่ะ
THE GUARDINFANTE STYLE

กลับมาอังกฤษต่อนะค่ะ
ในช่วงต้นศตวรรษที่18 ชุดราชสำนักอังกฤษแบบนี้เรียกว่า ม็องตูอา หรือ มองโต เป็นศัพท์แฟชั่นใช้เรียกชุดที่ตัวเสื้อและกระโปรงติดกันหรือไม่แยกออกจากกัน โดยทำจากผ้าผืนเดียว เชื่อกันว่าได้อิทธิพลมาจากชุดของชาวตะวันออกกลาง เริ่มใส่กันเมื่อปลายศตวรรษที่17ครับและเริ่มหายไปเมื่อกลางศตวรรษที่18 ชุดแบบที่เห็นนี้ใส่บนโครงสุ่ม ฟาร์ธิงเกล ขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบตั้งครับ เป็นสไคล์ราชสำนักอังกฤษขนานแท้ ทรงผมนั้นเรียกว่า tete de mouton แต็ต เดอ มูตง หรือทรงหัวแกะ ลักษณะเป็นการดัดลอนทั่วศีรษะเหมือนขนแกะ
SOUTHERN BELLE
อเมริกาใต้
ยุคนี้อยู่ในช่วงปี1860 กระโปรงจะบานและใหญ่เป็นพิเศษว่ากันว่าชุดสไตล์นี้เกิดจากจักพรรดินี Eugenie ของฝรั่งเศสที่ได้แรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ของ มารี อังตัวเนตต์ 


ประเทศรัสเซีย

0
สาวศิลปะ DESIGN 15 มี.ค. 57 เวลา 13:25 น. 3
ชุดประจำชาติอาเซียน

ขอบคุณเว็บนี้ด้วยนะค่ะ วาดภาพได้สวยจริงๆ เครตดิต :  
http://pantip.com/topic/30581329

ประเทศไทย

 

ลาว

  
กัมพูชา

  
พม่า

 

เวียดนาม

ฟิลิปปินส์

  

มาเลเซีย


สิงคโปร์

  

อินโดนีเซีย

  

บรูไน

  
ทิ้งท้ายด้วยว่าที่อาเซียน
ติมอร์เลสเต

0
DESIGN 15 มี.ค. 57 เวลา 16:41 น. 7
ของไทยนะ เห็นมีคนอยากดู555


สมัยทวาราวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-16) 
สมัยศรีวิชัย (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 13-18) 
จริงๆมีรูปผู้หญิงด้วยนะ แต่ติดเรท18+  55555
สมัยลพบุรี (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 16-19) 
สมัยเชียงแสน (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 – 24) 
สมัยสุโขทัย (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 19 – 20) 
สมัยอยุธยา (พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 2310) 
การแต่งกายสมัยอยุธยา (สมัยที่ 1) 
การแต่งกายสมัยอยุธยา (สมัยที่ 2) 
การแต่งกายสมัยอยุธยา(สมัยที่ 3)
การแต่งกายสมัยอยุธยา (สมัยที่ 4) 

สมัยรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ 1-3 พ.ศ. 2325 – 2394 ระยะ 69 ปี

การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 1-3

การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 4 (หญิง) 
การแต่งกายสมัยต้นสมัยรัชกาลที่ 5 
การแต่งกายสมัยกลางสมัยรัชกาลที่ 5
ารแต่งกายสมัยปลายรัชกาลที่ 5 
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 6 
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 7 
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 8 
สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน 
(รัชกาลที่ 9 พ.ศ. 2489) ทรงครองราชย์มาถึงปัจจุบัน 

ชุดไทยพระราชนิยม 


0
โออิโช 15 มี.ค. 57 เวลา 19:04 น. 11
แต่ละชุด แต่ละประเทศเริสมาก
ถ้าปัจจุบันเราทุกคนยังต้องแต่งกายแบบในยุคอดีตแบบนั้นน่ะ
ชุดผู้หญิงของไทยเราบางชุดยังดูว่าซักง่าย ทำความสะอาดง่าย ดูทะมัดทะแมงกว่านะ
แต่ชุดทางฝั่งนู่นสิ = =; 555

#เปิดกระทู้มาดูชุดแต่ละชุด มันจะมีความรู้สึกหรูขึ้นเพราะเพลงที่มากับกระทู้เนี่ยหล่ะ 555
0
DESIGN 15 มี.ค. 57 เวลา 19:25 น. 12

ของไทยประเทศร้อนแต่งมากไม่ได้ ฮ่าๆ
ส่วนฝั่งยุโรปจะหนาวต้องแต่งกายหลายชั้นทับๆกัน เชื่อมะ??พระเจ้าหลุยที่14 อาบน้ำแค่3 ครั้งในชีวิต 5555 อีกอย่าง พระราชวังแวร์ซายก็ไม่มีห้องน้ำ -*-

ปล. ไม่แปลกใจที่ฝรั่งเศสถึงได้เป็นเมืองน้ำหอม

0
โออิโช 15 มี.ค. 57 เวลา 19:59 น. 13

เราเชื่อเธอนะ ว่าฝรั่งเศสส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบอาบน้ำหรือพวกประเทศเขตหนาวๆอ่ะ แค่ฤดูหนาวของไทยบางทีเรายังไม่อยากอาบเลย 555

0
0..0 16 มี.ค. 57 เวลา 10:14 น. 14

ของฝรั่งเศสจะอลังการไปไหน.....

ปัจจัยการแต่งตัวที่นอกจากสภาพอากาศคือฐานะ เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ตั้งแต่ช่วงก่อนปฏิวัติฝรั่งเศส

รวยทั้งที อาบน้ำหน่อยก็ดีนะพูดถึง สร้างห้องอาบน้ำไปเลยก็ได้ 5555555555

0
Kanokpon 16 มี.ค. 57 เวลา 11:33 น. 20

เอาจริงของไทยสวยเรียบง่ายสุดละ  อันอื่นอลังเกินกว่าจะแต่งเสร็จปาไปครึ่งวันละ 555555ตลกจังตลกจัง








0