รายได้ในอนาคต ความชอบ และความถนัด กับการเลือกคณะเรียนต่อ

[Parkon Srisanguan]

อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะ

ทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเงินมีบทบาทมากในชีวิตประจำวัน และมันคือสิ่งที่สำคัญมาก คือเราไม่ได้บอกว่าเงินทำได้ทุกอย่าง แต่มันก็ทำได้หลายอย่าง การที่ตัวเราจะเลือกเรียน หรือทำอาชีพอะไรต่อไปในอนาคต เรายอมรับเลยว่าที่เราคิดเรื่องแรกคือเรื่องเงิน ซึ่งมันอาจจะดููไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่ลองคิดดูถ้าคุณมีเงิน คุณก็จะสามารถดูแลคนที่คุณรักได้อย่างเต็มที่ สมมติว่าวันหนึ่ง คุณพ่อ คุณแม่ คุณป่วยเป็นโรคที่ต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก และถ้าคุณไม่มีเงินตุณจะทำอย่างไร? รอเข้าคิว 30 บาทรักษาทุกโรคหรอครับ? คุณทนได้หรอ? ประสิทธิภาพการรักษาของ รพ.รัฐ ก็อาจจะไม่ต่างจาก รพ. เอกชนมาก ที่แตกต่างกันคือเรื่อง "เวลาที่จะได้รักษา"
เรายอมรับ เราเลือกที่รายได้เป็นอันดับแรก ลองลงมาคือความชอบ ถ้าเราทำอะไรที่มันฝืนกับความรู้สึกของเรา แต่ถ้าเราสามารถดูแลทุกคนที่เรารักได้อย่างดีที่สุด มันก็คุ้มใช่ไหม?

เราขอความคิดเห็นทุกคนหน่อยนะ

Comments

[จางพุงแบก]

ถ้าคุณคิดจะหาเงินด้วยความคิดจากตัวของคุณเองหรือสิ่งแวดล้อมทำให้ต้องคิดไม่ผิด

แต่ถ้าคุณหรือเพื่อนหรือ...หว่านล้อมให้ทุกคนต้องคิดเรื่องเงินก่อนเหมือนคุณ อันนี้ผิด

คือการคิดเรื่องเงินก่อนหรือไม่ ควรจะเป็นสิ่งที่ออกมาจากตัวของเขาเอง เช่นนี้จึงไม่มีผิดถูก

[Kaly]

ถ้าเป็นเรา เราจะเลือกจากความชอบของตัวเองก่อน แล้วค่อยดูเรื่องเงินนะ(คือเงินเป็นอันดับสอง)

เราจะเลือกให้สองอย่างนี้มันไปด้วยกันได้นะ
(แต่เราดันไม่มีอาชีพหรือคณะในฝันอะดิ)

[Parkon Srisanguan]

ไม่หรอกครับ เราแค่เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่มีเงิน กับ ไม่มีเงิน มันต่างกันในด้านคุณภาพชีวิต สวนเรื่องความสุขมันอาจจะไม่ต่างกันมาก เพราะความสุขมันอาจจะไม่ได้เกิดจากเงิน แต่เราก็อยากดูแลและทำเผื่อคนที่เรารักให้ได้ดีที่สุดเหมือนกัน :)

[Rut Thidarat]

เราคิดเหมือนเจ้าของกระทู้น่ะ
เราขอเลือกเงินก่อน บางคนอาจจะมองว่าเราไม่ดี
แต่ฐานะทางบ้านเราไม่ดี พ่อเราก็เสียแล้วเราเหลือแม่คนเดียว แม่ก็ไม่ค่อยสบายอายุก็มากแล้ว เราอยากให้แม่มีชีวิตที่สุขสบาย มีกินมีใช้ไม่ตต้องมาขายของให้เหนื่อย ทำสวยให้เหนื่อย เราอยากให้แม่สบาย มีเงินมีทองใช้ แล้วที่พ่อเราตาย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าบ้านเราจน ไม่มีเงินรักษา ....
คนที่บ้านมีฐานะก็อาจจะไม่เข้าใจในความคิดของเรา
เรายอมทนดูคนที่เรารักไม่สบายและไม่ได้รับการรักษาเป็นอย่างดีไม่ได้ ตั้งแต่พ่อเราตายเราก็เปลี่ยนความคิดจากความชอบมาก่อนกลายเป็นเงินเดือนในอนาคตและอัตราการตกงานมาก่อน แล้วความชอบค่อยตามมา ถึงจะไม่ค่อยมีความสุขมากนักเวลาเรียนแต่เวลาเห็นครอบครัวมีความสุขมันก็มีความสุขมากพอแล้ว
มีกินมีใช้ ไม่ต้องลำบาก มีเงินเก็บ มีเงินไปเที่ยว มีบ้านเป็นของตัวเอง
แค่นี้ก็พอแล้ว

[kidkung14122]

สู้ๆต่อไปนะครับ เราเองก็ไม่ได้ฐานะดีอะไรหรอก พ่อเราทำงานทั่วไปน่ะเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ส่วนแม่ก็เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยธรรมดา แต่เขาก็ไม่เคยต้องให้เราลำบาก เราจะทำให้ดีที่สุดเหมือนกัน :)

[Rut Thidarat]

ขอบคุณน่ะค่ะ :)

[Pitch]

ของเราคือหลายๆอย่างรวมกัน 
มันก็เลยตอบยากอ่ะนะ

[รรรรรร]

บางทีถ้าเราเลือกเงินก่อน แล้วพอไปทำงาน
ปรากฏว่าเรามีเพื่อนร่วมงานทีแย่มาก
หรือเพื่อนร่วมงานประเภทที่ต่อหน้าเราละก็พูดดี จริงใจ
แต่ลับหลังนี่สุมหัวกันนินทาเราประจำ หาโอกาสใช้เงินเราตลอดแบบว่าไปกินข้าวก็ชอบให้เราเลี้ยง
ชอบมาบอกว่าที่บ้านมีปัญหา ขอยืมเงิน
หรือแย่กว่านั้นคือถ้าสมมติเราต้องทำงานที่มันจำเป็นต้องคุยกับลูกค้า(ที่บางครั้งก็เรื่องมาก)/คนไข้(ที่บางครั้งต้องผ่าตัดยากๆมีความเสี่ยงหรือบางครั้งก็มีแผล มีเลือด มีหนองอะไรพวกนี้นะ)/หรืออะไรก็ตาม ซึ่งเราไม่ถนัดเลย ไม่ชอบที่จะทำแบบนั้นเลย อย่างเช่น ทำงานอาทิตย์ละ 5 วัน เข้างานเช้า เลิกงานตอนค่ำๆ นั้นก็หมายความว่าเราต้องทนทำงาน และก็ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ทุกวันๆเพื่อแลกกับการที่เราจะต้องได้เงินมาใช้ซึ่งบางทีเราก็ไม่มีเวลาใช้เงินซะด้วยนะ !!
ถามจริงๆเถอะว่าเราจะอยากเอาความสุขทั้งชีวิตของเราไปแลกกับเงินจริงๆหรอ ?
หรือถ้าคิดว่าเรื่องในที่ทำงาน ไม่ว่าแบบไหนเราก็อยู่ได้อย่างนั้นหรอ ?

ถ้าอยู่ไหนก็ได้เราสมมติว่าอาชีพกรรมกร ที่ต้องสร้างตึกสูง 800-900 ชั้นเนี่ยนะ เสี่ยงตายอยู่ทุกๆวันเลย
แถมต้องแบกปูน ฉาบ ก่อ ขัดๆถูๆ บางวันก็ไม่ได้กลับบ้าน(จนกว่าตึกจะสร้างเสร็จ) ก็นอนอยู่กับกองหิน กองทราย กับเครื่องมือก่อสร้าง สภาพตัวนี่ก็มอมแมม เปื้อนไปด้วยฝุ่น
แต่ได้เงินคุ้มมากๆเนี่ยนะ จะทำหรือเปล่า

ลองกลับไปคิดดูนะ

[ตามนั้น]

ขอไม่ตอบโพลนะ

เพราะ ตอบไม่ได้

คือปฎิเสธไม่ได้ว่าเงินไม่สำคัญ

แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้อีกเหมือนกันเพราะรู้อยู่ว่าชอบอะไร

[dekCUhaha]

เงินก็สำคัญกับชีวิต การที่เราได้ทำอะไรที่เราชอบเราถนัดก็สำคัญต่อชีวิตเหมือนกัน