[ขอระบาย] เรื่องมันยาว ! แต่มีสาระ ...
ตั้งกระทู้ใหม่
บทสนทนาที่ผมโทรหาอาจารย์เรื่องเกรดว่าทำไมได้ B+ (ประมาณนี้ครับ)
ผม : สวัสดีครับอาจารย์ครับ
อาจารย์ : จ๊ะ สวัสดีจ๊ะ นั้นใครค่ะ
ผม : ผมนักศึกษา (ชื่อ)........
อาจารย์ : มีอะไรหรอนักศึกษา
ผม : คือว่า อาจารย์ครับผมสงสัยเรื่องเกรดอะครับ ว่าทำไมผมถึงได้ B+ ทั้ง ๆ ที่ผมมั่นใจว่าผมทำได้นะครับ ผมขอดูข้อสอบว่าผมผิดพลาดอะไรตรงไหนได้มั้ยครับ ผมค้างคาอ่ะครับ อาจารย์ให้ผมดูได้มั้ยครับ
อาจารย์ : นี้เธอจะมาดูทำไม เธอได้ B+ แล้วเธอยังไม่พอใจอีกหรอ แล้วทำไมเธอไม่ทำให้ได้ A ล่ะ ทำไมเธอถึงไม่ทำคะแนนให้มันถึง A ล่ะ ความมั่นใจมันไม่เกี่ยวเลยนะ บางคนบอกมั่นใจยังได้ F ยังมีเลยเธอ
ผม : ไม่ครับอาจารย์ครับ เนื่องจากว่าครั้งนี้ผมอ่านเยอะ และผมก็มั่นใจด้วยครับ ว่าผมต้องได้ A ครับ แล้วคะแนนกลางภาคผมก็ได้เยอะอยู่พอสมควรอ่ะครับ ผมแค่อยากรู้ว่าผมพลาดตรงไหน แล้วผมแค่สงสัยเฉย ๆ ครับ ผมขอร้องครับอาจารย์ครับ ผมข้องใจจริง ๆ ครับ ขอแค่ดูแปปเดียวครับ ถ้าข้อสอบผมทำผิดพลาดจริง ๆ ผมจะได้หายข้องใจและผมก็ยอมรับในเกรด B+ ครับ อาจารย์
อาจารย์ : ฉันไม่บวกคะแนนให้เธอหรอก เธอได้แค่ B+ ยังไม่พอใจอีกหรอ นี้เด็กอื่นเค้าก็ F ก็โทรมาหาฉันแบบนี้ล่ะ ฉันไม่บวกคะแนนให้หรอก
ผม : ไม่ใช่ครับอาจารย์ ผมไม่ได้ให้อาจารย์บวกคะแนนให้ครับ คือว่าผมข้องใจ ผมสงสัยในใจ ผมรู้สึกเครียดอ่ะครับ เพราะว่าผมมั่นใจว่าทำได้แน่ ๆ ผมจึงขอแค่ดูข้อสอบเฉย ๆ ครับ อาจารย์ครับ
อาจารย์ : เด็กเป็นแบบนี้กันทุกคนมั้ยเนี่ย ไม่ไหวจริง ๆ กับเด็กพวกนี้ ได้เกรดแล้วก็ไม่พอใจ โทรมาโวยวายกับฉัน แล้วจะให้ฉันทำยังไง ต้องให้ A หมดทุกคนเลยมั้ย แล้วเด็กที่ได้ F เค้าไม่โทรมาโวยวายฉันตายเลยหรอ ตาย ๆ เด็กแบบนี้ ไม่ไหว ๆ
ผม : ครับอาจารย์ ผมขอโทษครับ อาจารย์ครับ ผมขอโทษครับ
แล้วอาจารย์ก็ตัดสายไปเลยครับ สรุป สิ่งที่ผมถามไปอาจารย์ก็ไม่ให้คำตอบผมเลยครับ ว่าให้ผมดูข้อสอบหรือป่าว และผมมีสิทธิ์ดูข้อสอบหรือป่าวครับ คืออย่างที่ผมบอกอ่ะครับ ว่าผมไม่ได้ไม่พอใจใน B+ แต่ผมมั่นใจว่าผมต้องได้ A กับวิชานี้ และก็อย่างที่บอกอ่ครับ ว่าขณะเดียวกันเพื่อนที่ได้คะแนนกลางภาคมากกว่า 1 ได้ A ครับ มันยิ่งเป็นข้อสงสัยในตัวข้อสอบปลายภาค ว่าผมจะทำไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ และผมก็ไม่ได้ขอให้อาจารย์เพิ่มคะแนน แค่ข้อดูข้อสอบ ถ้ามันผิดจริง ๆ และไม่ถึงจริง ๆ ผมก็ไม่ได้ขอให้เพิ่ม ผมก็ยอมรับใน B+ แค่ข้องใจเฉย ๆ เท่านั้นครับ เพื่อจะทำให้หายข้องใจและหายเครียดครับ
ตอนนี้ผมก็ไม่กล้าที่จะโทรไปหาอาจารย์ และถามแล้วครับ ผมต้องยอมและเป็นแบบนี้อ่ะครับ ตอนนี้เกรดผมก็ลดแล้วล่ะครับ ความหวัง 4.00 ผมก็หายไปแล้วครับ กับวิชาที่ไม่ควรได้ B+ (ถ้ามันเป็น B+ จริงก็พร้อมจะรับ) แต่มันพิสูจน์ไม่ได้แล้วล่ะ คงต้องข้องใจไปตลอดชีวิต ผมอยากได้เกรดดีดีไปสู้อาเซียนบ้าง ผิดด้วยหรอครับ
ตอนแรกก็มีความคิดที่จะดำเนินการเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่ดีกว่าครับ คิดซะว่าเป็นเวรกรรมผมครับ และที่มากระทู้วันนี้ไม่ได้หวังอะไรครับ ผมนอนไม่หลับหลายวันแล้ว อยากระบายครับ แค่ระบายเฉย ๆ ไม่มีเจตนาใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
ปล. ถ้าใครเป็นเด็กที่หวังในตัวเกรดสูง ๆ จะเข้าใจ จขกท. ว่ามันผิดหวังมาก ๆ
สำหรับใครที่อ่านจบก็ขอบคุณที่รับฟัง ในสิ่งที่ผมระบายด้วยนะครับ และสุดท้ายผมอยากรู้ว่าผมผิดหรือป่าวครับ
แก้ไข 23/3/57 18:30 น.
เนื่องจากว่ามีเพื่อนเห็นใจและ เพื่อน ๆ เชื่อว่าผมต้องได้ A ในวิชานี้ ก็ช่วยโทรหาอาจารย์เพื่อให้ผมได้ดูข้อสอบ แต่ก็ได้คำตอบเดิมครับ ด่ากลับมาเหมือนเดิมครับ
26 ความคิดเห็น
- น่าจะมีประโยคนี้ด้วยนะครับ เผื่อออาจารย์จะได้ใจอ่อน มั้ง // ผมใช้ประจำเลยประโยคเนี่ย
สู้ๆ ครับ
ผมเจอมาแล้วเหมือนกันครับ วิชาฟิสิกส์ได้2.5ได้ไงไม่ทราบ กลางภาคผมทำได้85%เลยนะ ปลายภาคก็ไม่น่าจะร่วงขนาดนั้นได้
พอเกรดออกก็ไม่รอช้ารีบโทรไปถามทันที
ครูแกก็ตอบง่ายๆครับ ครูบอกว่าคะแนนงานของเธอไม่ดี"มั้ง"
มั้งคืออะไรครับอาจารย์ = = ผมก็เถียงไปอย่างมั่นใจว่าไม่ใช่แน่นอนครับ ผมส่งตรงเวลาทุกชิ้น แล้วก็มั่นใจว่างานเรียบร้อยดีด้วย (ผมว่าผมลายมือสวยเป็นอันดับต้นๆของห้องเลยนะ)
ครูแกก็พูดปัดแค่ว่าเกรดออกแล้ว ยังไงก็แก้คะแนนไม่ได้หรอก แล้วก็ตัดสายไป = =
โอเคครับ เล่นอย่างงี้ก็ได้ เทอมถัดมาผมเล่ยฟิตแต่ฟิสิกส์จนคะแนนสอบเยอะมากพอจะเอาเกรด4โดยไม่ต้องพึ่งคะแนนงาน
ประเด็นคืออยากจะเอาชนะครูแกเท่านั้นแหละ...
บางครั้งผู้ใหญ่ก็ไม่มีเหตุผล
การตัดคะแนนของครูแต่ละคนต่างกัน อย่างไรก็ตามบุคคลเหล่านั้นก็เป็นมนุษย์ ที่มีความชอบ ไม่ชอบ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย พอใจ ไม่พอใจ เช่นเดียวกัน
หากอาจารย์ไม่อนุญาติให้ดูคำตอบ ก็พอเห็นภาพได้หลายกรณี
ได้ B+ จริงๆ
อาจารย์ไม่ชอบ attitude (ไม่อาจระบุได้ว่า อะไรตรงไหน)
อาจารย์วิเคราห์แล้วว่าไม่สมควรถึงขั้นเอ อาจมีทัศนคติเกี่ยวกับมุมมองต่อรายวิชา การเรียน การพัฒนา ไม่เพียงแค่วัดจากคะแนนสอบ แต่เป็นเรื่องของอีคิวหรืออื่นๆ
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ การใช้อำนาจครูในการตัดปัญหาการสอบสวนจากเด็ก นี่ต่างหากที่เป็นปัญหาระดับชาติ!!!!
นอกจากเด็กจะไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่มีสิทธิ์ในการรับรู้ผลการสอบของตนเอง ที่ทำ เป็นปมฝังใจเยาวชนรุ่นใหม่ ถึงอำนาจที่ก้าวก่ายและสอบสวนไม่ได้ ฝังหัวต่อรุ่นสู่ลูกหลานในอนาคต ไม่แปลกที่ประเทศไทยกฏหมายจึงไม่เป็นกฏหมาย เรียกร้องความยุติธรรมในประเทศก็ยังเหมือนฝัน เพราะระบบการกีดกัดให้เกิดความยุติธรรม โดยใช้ อำนาจ (ตำแหน่งใด อาชีพใดก็ตาม) บนฐานของระบอบศักดินา อุปถัมภ์ ที่จัดลำดับชั้นสังคม ห้ามตั้งคำถามต่อหัวหน้า ห้ามวิจารณ์ ห้ามสอบสวน ผู้ใหญ่ก็คือเด็กมาก่อน และคนเหล่านี้อยู่ในระบบนี้นานกว่าเรา ฝังรากทางความคิดจนบางครั้งพฤติกรรมเหล่านี้ที่พบเห็น จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าและบ่อนทำลายความหวังของเยาวชนรุ่นใหม่อย่างปฎิเสธไม่ได้
ทำอย่างไรจะไม่มีระบบนี้ ให้ความยุติธรรมในการสอบถาม ลดลำดับชนชั้น ระยะห่างระหว่างครู (นี่ขนาดไม่ต้องหมอบกราบกันแล้ว) ประเทศไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงระบบความคิดนี้เลย เมื่อมีการเปลี่ยนฐานอำนาจ ปัญหาการเมือง เรียกร้องประชาธิปไตย การยกเลิก คว่ำบาตร ปฏิวัติ จึงเกิดขึ้นเนื่องจากอำนาจใต้พรมที่ไม่เคยมีใครสนใจคุ้ย เกิดมีการตั้งคำถาม สอบสวน นั่นเอง
ทำอะไรไม่ได้คะ ต้องใช้เวลาในการปฏิวัติกวาดล้างระบบนี้อีกยาวนานหลายชั่วอายุคน จนกว่ารุ่นใหม่จะเกิดแต่ละรุ่นจะสัมผัสถึงคำว่าสิทธิ เสรีภาพทางความคิด ความเท่าเทียม และสัมผัสได้ตั้งแต่เกิดจนเป็นนิสัย กลายมาเป็นพ่อแม่คนที่มีลูกเกิดมาเห็นพ่อแม่ใช้สิทธิ์ที่ถูกต่้องเหล่านั้นในสังคม จุดนั้นคงเป็นตอนที่ประเทศเราเจริญแล้ว รอไม่ได้ค่ะ
สุดท้ายการได้ 4.00 อาจจะดีต่อ record ตัวเอง แต่ว่าที่สุดแล้ว ก็ไม่ได้เป็นทุกสิ่งในชีวิต อย่ายึดติดกับมันจนเป็นทุกข์เลยค่ะ บางครั้งความผิดหวังครั้งนี้อาจจะทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความไม่สมบูรณ์ของคน ของโลก ของตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากใคร เราก็เหมือนปลาตัวเล็กในมหาสมุทร อาจถูกกิน ตายเอง หรือชนหิน
ไม่มีอะไรได้ดั่งใจค่ะ เรียนรู้มันและก้าวข้ามมันไป หากเราเก่งจริง ไม่ต้องกลัวว่าอาเซียนจะไม่อ้าแขนรับ เขาไม่คัดคนที่เกรด 4.00 แน่นอน โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้ว มันเป็นแค่บางส่วนในการกรองคนเท่านั้น มีอีกหลายมุมในการวัดคนในสังคมว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหนนอกจากระบบท่องจำ สอบวัดเกรด อันล้าหลังของเมืองไทยนี้ ใช้จริงๆ ไม่ถึงเสี้ยวหรอกค่ะ จบไปแล้วจะพบว่า ภาษาอังกฤษสำคัญมาก ความรู้รอบตัวนอกตำราอีกมากที่ต้องใช้ไม่ว่าทุกอาชีพไหน เราอ่านแค่ไหน? หรืออ่านแต่ตำราในห้องเรียน? ถึงเวลานั้นมันไม่ได้แข่งที่ตัวเลขของเกรดแล้ว เวลาไม่เคยรอใคร จบไปแล้วโอกาสอ่านหนังสือทั้งปรัญญา ศาสนา เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปะ ที่ทั้งโลกจะตั้งคำถามคนไทย เรารู้มากพอหรือยัง ที่จะพูดกับคนในที่ทำงาน (อนาคตอาจเป็นเจ้านายฝรั่ง)
การปรับตัวในระบบที่ทำงาน หากเจอฝรั่งก็อาจได้รับความยุติธรรมทางสิทธิเสรีภาพหน่อย แต่หากอยู่ในระบบอุปถัมภ์ของไทยอาจหงุดหงิดแบบที่เจออยู่
คนไทยมีปัญหาเรื่องการคิดไม่เป็น ไม่ยอมพูด เพราะถูกฝังให้ยอมเจ้านาย ตามระบอบเก่า นี่คือเหตุผลที่เราถูกจัดให้เป็นประเทศที่ยังไม่พัฒนาหรือด้อยพัฒนา stereotype ที่ต่างชาติตัดสินเรา และจัดเกรดเรา ห้ามเขาไม่ให้คิดไม่ได้
มนุษย์นั้นมี perception ที่ต่างกัน ประกอบกับเหตุผล หลักฐาน ปัญหาในประเทศ ย้ำความเป็นเราในระบบนี้มาช้านาน รุ่นใหม่ต้องตื่นตัวและเข้าใจ ปรับตัวและยกระดับเพื่อรุ่นลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาก้มหัวบนความไม่ยุติธรรมเหล่านี้ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ครับขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจ ผมคงไม่กล้าโทรไปแล้วล่ะครับ ผมว่าโดนด่าเหมือนเดิมล่ะครับ เพราะขนาดผมขอร้องที่จะดู ยังไม่ได้เลยครับ ยังไงก็ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้นะครับ ขอบคุณครับ
หัวอกเดียวกันครับ ถ้าผมมีเรียนกับอาจารย์คนนี้อีก ผมก็คิดเหมือนกันครับว่าจะฟิตให้คะแนนเต็ม 100 เลยครับ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าไม่อยากจะเจอ เพราะว่าเห็นรุ่นพี่เค้าบอกว่า ถ้าอาจารย์มีอคติกับเด็กจะให้เกรดตามอารมณ์ ก็กลัวเหมือนกันอ่ะครับ แต่ผมไม่ได้ให้อาจารย์อคติเลย พูดดีดีครับ แต่กลัวว่าอาจารย์จะเข้าใจว่าเราอคติเค้า แล้วอาจารย์ก็เกิดอคติกับเรา กังวนเหมือนกันครับ แต่ยังไงผมก็จะสู้ครับ ถ้าได้เจอและได้เรียนกับอาจารยคนนี้อีก ^^" ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ หลังจากผมอ่านผมรู้สึกดีขึ้นจริง ๆ ครับ ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมก็ฝึกภาษาอังกฤษอยู่ครับ แบบว่าให้สามารถใช้แทนภาษาไทยได้เลยประมาณนี้ เพราะผมหยุดเข้าอาเซียน 6 เดือนอ่ะครับ ผมว่าแผนไว้แล้วครับ ว่าใน 6 เดือนนี้ ผมต้องขั้นเทพอังกฤษให้ได้ครับ และต้องทำให้ได้ครับ ขอบคุณการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ ^^"
อาจารย์แบบนี้มีเยอะเหมือนกันหรอเนี่ย ผมก็เคยไปขอดูว่าทำไมได้เท่านี้เท่านั้นแต่อาจารย์ไม่ให้ ไม่ยอมตอบตามที่ถาม แทนชอบด่ากลับมาอีก เห้อ
welcome abroad ^^
จากที่จขกท.พิมพ์มา ไม่เห้นว่าจขกท.ผิดตรงไหนเลย แค่อยากดูคะแนนเอง อาจารย์ปกติเค้าก็ชอบบอกนักเรียนว่าใครสงสัยคะแนนอะไรมาดูได้นะ ใครว่าได้น้อยไปสงสัยก็มาถามได้นะ เถือกๆนี้ อาจารย์คนนี้คงแปลกๆอ่ะ คิดว่าตัวเองถูก ไม่ก็มีอคติกับเด็กหวงเกรด กลัวตัวเองให้คะแนนผิดเลยบอกปัด ฯลฯ
เหมือนกันเลย วิทยาศาสตร์เราพยายามแทบตาย อ่านหนังสือตั้งเยอะ ตอนข้อสอบเราโคตรมั่นใจ ส่งงานครบทุกอย่าง แมร่งได้เกรด 1
วิชาจัดดอกไม้สดเราก็ติดร.แก้หลายครั้งแล้ว พอแม่ไปถามเหตุผลที่เราติดร. อาจารย์เค้าบอกว่า "นักเรียนเค้าก็ส่งครบทุกงานดี ที่ให้ติดร.เพราะหมั่นไส้"
เราได้ยินคำตอบนี่แล้วอยาก...มาก
อยู่มหาวิทยาลัยอะไร ทำไมอาจารย์ไม่รับผิดชอบเลย
1.อาจารย์เคยให้เกรดเราผิด จาก A เป็น B+
ก็ตามเรื่องกันอยู่นานแต่อาจารย์ก็แก้เกรดให้
(ที่มหาวิทยาลัยมีกฎว่าแก้เกรดอาจารย์เสีย 1,000)
2. เกรดออกมาได้ B ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองทำได้ และคะแนนพรีเซ้นเป็นที่ 1 ของห้องมาตลอด ก็ไปขออาจารย์ดูข้อสอบ บอกว่า "จะได้นำไปปรับปรุง" ก็ได้ดู
อาจารย์ก็อธิบายด้วยว่าทำไม เพราะอะไร เอาของคนที่ได้ A มาเทียบด้วย
บางครั้งมิดเทอมมากกว่า 1 คะแนน อาจจะคิดว่า "แค่ 1 คะแนน"
ไม่รู้ว่าแต่ละ ม. จะเหมือนกันรึเปล่านะ
แต่ม.เราบางวิชาตัด A ที่ 92 คะแนน ใครได้ 91.5 ก็ได้ B+
หรือแม้กระทั่งบางวิชา มิดเทอมเราห่างกับเพื่อน 2 คะแนน
เพื่อนได้ A เราได้ C ก็มี
แนะนำให้ส่งอีเมลล์ไปหาอาจารย์ หรือส่งเรื่องร้องเรียนไปเลย
เพราะมันคือสิทธิของเรา
ประมาณนั้นล่ะครับ ผมมีครั้งนี้ครั้งแรกครับ และคงต้องจำไปตลอดเลยครับ ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคับ
ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ ใช่ครับ ผมว่าอาจารย์กลัวว่าตนเองตรวจผิดแล้วก็เสียฟอร์มการเป็นอาจารย์ประมาณนี้มั้ง ^^"
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ ^^"
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ ส่วนเรื่องที่ว่าผมจะดำเนินยังไงต่อนั้น ผมคงไม่โทรไปแล้วล่ะครับ ไม่ขอให้อาจารย์อะไรแล้วล่ะครับ อย่างที่ผมบอกไปล่ะครับว่า ถ้าอาจารย์สอนในวิชาอื่นอีก ที่ผมจะต้องเรียนในอนาคต กลัวว่าถ้าอาจารย์อคติกับเรา บรรยากาศมันจะไม่น่าเรียนอ่ะครับ ก็เลย ว่าจะปล่อย และผมคิดว่าผมโทรไปขนาดนั้นแล้ว ถ้าอาจารย์จะให้ดูจริง ๆ ก็คงจะต้องให้ดูแล้วล่ะครับ ผมสังเกตุการจากการตอบของอาจารย์ตอนที่ผมโทรไปเค้าพยายามไม่ตอบคำถามผมเลย ทำเป็นบ่นเรื่องอื่น อ่ะครับ
ส่วนคะแนนที่บอกว่ากลางภาคมากกว่า 1 คะแนนก็เป็นไปได้ที่ว่าผมอาจจะได้น้อยเอง เลยไม่ได้ A และเพื่อนอาจจะได้มาก ใช่ครับ อย่างที่ผมได้พิมพ์บอกไว้ว่า ถ้าผมได้น้อยจริง ๆ ผมก็ยอมรับในการที่ผมทำคะแนนได้น้อยเอง แต่มันเป็นสิ่งที่ขัดใจอะไรประมาณนี้อ่ะครับ ว่ามากกว่า 1 คะแนน แต่ได้ A (แปลกดีจัง) ถ้าดูก็จะยอมรับเลยครับ แต่นี้พิสูจน์ไม่ได้ครับ
และสุดท้ายผมไม่ทำการเรียกร้องอะไรกับอาจารย์ขอดูข้อสอบแล้วครับ ผมยอมดีกว่าครับ เพราะอย่างที่ผมบอกว่าถ้ามันเป็นเรื่องใหญ่ ผมกลัวว่าผมจะไม่สามารถที่จะเข้าหาอาจารย์คนนี้ได้อีก เมื่อเค้ามีวิชาที่ผมต้องเรียนกับอาจารย์ท่านนี้ และอาจจะเป็นข้ออคติอาจารย์กับผมอีกก็ได้ครับ และถ้าผมปล่อยผมต้องยอมทุกข์เอง แต่สักพักเดี๋ยวก็หายทุกข์ครับ
ลืมบอกไปครับ ว่ามีเพื่อนช่วยโทรบอกอาจารย์ช่วยผมให้ผมได้ดูข้อสอบด้วยนะครับ เพราะเพื่อนเค้าก็มั่นใจว่าผมต้องทำได้ A แต่ก็ไม่สำเร็จครับ อาจารย์ด่ากลับเหมือนเดิมครับ
พี่จบจุฬาก็ดูได้นี่นา มันมีช่วงวันขอดูคะแนนแบบข้องใจนี่ล่ะ ลองไปดูระเบียบการมหาวิทยาลัยนะ
ถ้าเป็นมอที่คิดจะอาเซียนมันต้องโปร่งแสง. เอ๊ยโปร่งใส ถ้าไม่ให้ดู พอถึงช่วประเมินซึ่งอาจารย์ต้องแจกใบประเมินให้เราอีก
เราก็ใส่ห่วยสุดให้หมด แล้วอาจารย์คนนี้ก็จะเงินเดือนกับตำแหน่งไม่ขึ้นไปอีกนาน ถ้ามีคนกาช่องว่าห่วยแตกเยอะๆ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ ช่วงประเมินอาจารย์ ม.ผมประเมินก่อนจะดูเกรดครับ ก็ประเมินให้ปกติ (เพราะเรายังไม่รู้เกรด) ส่วนระเบียบการขอดูคะแนนนั้น อาจารย์บางท่านบอกว่า ถ้าใครข้องใจ และมาหาอาจารย์แล้วบอกกับอาจารย์ว่า ผมมั่นใจว่าผมต้องทำถูกเยอะ อาจารย์จะตรวจใหม่ให้เลย และอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด ซึ่งคำกล่าวนี้เป็นอาจารย์บางท่านครับ ซึ่งอาจารย์ที่เป็นคู่กรณีของผมไม่ได้กล่าวคำนี้ครับ
แต่ผมเชื่อว่า ระเบียบ ม. ต้องให้ดูได้ เพราะอาจารย์ตรวจข้อสอบเยอะ ก็ต้องมีผิดบ้างล่ะ ตาลายอะไรประมาณนี้ (เป็นการคาดคะเน)
เราก็เป็นเหมือนกันน
เทอมที่แล้วเลย แต่อาการหนักกว่า จขกท ค่ะ
คือวิชาที่เราเรียนอ่ะ เพื่อนเราได้คะแนนสอบประมาณเราเลย
(เค้าประกาศทั้งกลางและปลายภาค) รวมกันแล้วเพื่อนเราได้มากกว่าเรา
สองสามคะแนนค่ะ (เต็ม 50 เปอ) ที่เหลือเป็นคะแนนงาน
ซึ่งเรากับเพื่อนคนนี้ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน ( 30 เปอ) ละก็คะแนนงานชิ้นย่อยๆ อีก
คือแบบวันประกาศเกรด เราโคตรอึ้งอ่ะ คือเราได้ C+ ในขณะที่เพื่อนได้ A
ทั้งๆ ที่คะแนนมันไม่น่าจะต่างกันขนาดนั้น
เพื่อนเราไปขออาจารย์ก็ไม่ให้ดูเหมือนกันค่ะ แกยิ้มๆ แล้วก็ตอบประมาณว่า
ก็ตามเนื้อผ้าอ่ะนะ คือแบบ เราสตั้นค่ะ สามหน่อยกิตด้วย ฉุดเกรดเราแบบโคตรๆ เลยยยยย
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ ไม่เข้าใจว่าปัญหานี้จะแก้ไขได้ยังไง หลังจากที่มีมาแชร์ประสบการณ์ตรงแบบเดียวกับผม โดนแบบผม ทั้ง ๆ ปัญหานี้นักเรียน นักศึกษาไม่ผิดเลย *-*
เรายังไม่ได้ขึ้นมหาวิทยาลัยนะคะ แต่เข้าใจความรู้สึกค่ะ เพราะเราก็เคยเป็น
วิชาคณิตเนี่ย ครั้งแรกที่ตกแล้วตกอีก อีกคะแนนเดียวแท้ๆ ทำไมถึงตกได้ แค่สอบกลางภาคนะเนี่ย บลาๆๆ
แต่ก็ขอให้พี่สู้นะคะ เรื่องบางเรื่องอาจจะไม่ได้เหมือนที่เราคิดก็ได้ ตามที่พี่พูดค่ะ สู้ๆ!
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?