เรียนอะไรดีระหว่าง 'นิติศาสตร์' กับ 'อักษรศาสตร์'
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
10 ความคิดเห็น
ไปบอร์ดการศึกษาเถอะ
มันขึ้นอยู่กับ ความชอบ และความถนัดของ จขกท มากกว่าเจ้าค่ะ ว่าต้องการแบบไหน เรียนจบอะไรมา จะหางานง่ายไหม มันขึ้นกับ ช่วงเวลาและโอกาสมากกว่า และความสามารถ เส้นสาย ในการสมัครงาน ถามใจตัวเองดีกว่าว่า ต้องการอะไร
ปอลิงถือลูกท้อ. น่าจะไปบอร์ดการศึกษามากกว่านะเจ้าคะ เพราะน่าจะมีความคิดเห็นและรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมมากมายกว่านี้
อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อยากจะบอกว่า
จบอะไร จะทำงานอะไรก็ได้ครับ มันกว้างมากอยู่แล้วถ้าไม่ใช่งานสายเฉพาะทาง ขอแค่มองหาโอกาส และรู้จักเพิ่มคุณค่าบุคคลากรให้ตัวเองอยู่เสมอ คงไม่อับงานนักหรอกครับ เลือกเรียนที่ชอบหรือมีความถนัดไปเลยอย่าเพิ่งตีกรอบตัวเองถึงข้อนี้
และขอโควตข้อความจากชาวบอร์ดนักเขียน ซึ่งน่าจะตรงกับคำตอบจากหลายท่านในนี้อยู่
"ไปบอร์ดการศึกษาเถอะครัชชช"
เราก็ไม่รู้นะ แต่เท่าที่หาข้อมูลมา เราว่านิติศาสตร์สายงานกว้างกว่านะ ทั้ง law firm, ทนาย, อัยการ, ผู้พิพากษา บลาๆๆๆ ส่วนอักษร เราไม่รู้อ่ะ 555 รอคนอื่นมาตอบละกันนะ แต่ส่วนตัวเราว่าเรียนนิติก็ดีนะ
นิติ - ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา นิติกร ฝ่ายกฎหมายภายในบริษัทต่างๆ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด และอาชีพอื่นๆ ที่ต้องใช้ความรู้ทางกฎหมาย ทั้งในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน
อักษร - นักเขียน นักแปล ล่าม ครู ทำงานUN
ทำงานสนามบิน แอร์กราว แอร์โฮสท์เทส สจ๊วต ไกด์
(อันแรกหาในเว็บ อันที่สองคิดว่านะ 555 #อักษรหาในเว็บไม่ค่อยเจอ )
Actually, you should ask 'Google'
แล้วแต่ถนัด
ปกติจะบอกให้ไปบอร์ดแอดมิชชั่น 55555 แต่คราวนี้รู้ เลยขอบอกละกัน
ในฐานะที่จบนิติหมาดๆกับมีเพื่อนสนิทเรียนอักษร น่าจะช่วยได้บ้าง
อักษรกว้างกว่านะคะ กว้างแบบเยอะมากกก แถมระหว่างเรียนถ้าได้เรียนภาษาเฉพาะเช่น ญี่ปุ่น หรือเก่งอังกฤษแบบขั้นเทพ มีงานรับพาร์ทไทม์เป็นล่ามแบบเงินดีๆเยอะแยะเลย จบมาก็ทำอะไรได้หลายอย่างตาม คห.บน ส่วนใหญ่อักษรมักจะทำงานกับสายงานทางเอกชน
แต่ช่วงเรียนงานเยอะมากๆ เยอะแบบสุดๆ มีงานตลอด โปรเจ็คท์นั่นนี่ แล้วเงินดีก็จริงถ้าจบมา แต่คุณต้องเก่งจริง เก่งแบบโดดเด่นอ่ะ เค้าถึงจะยอมจ้างคุณ
ต้องพยายามเพื่อที่จะเก่ง มีไหวพริบเวลาเป็นล่ามแปล
ส่วน นิติ ก็ตามคห.บน การงานดูเป็นสายราชการ แต่จะเอกชนก็ได้ถ้าเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทเอกชน ดูมีความมั่นคงนิดนึง แต่...
ระหว่างเรียนแม้จะไม่มีการบ้าน โปรเจ็คท์นั่นนี่ แต่คุณต้องสอบไฟนอลทีเดียว 100 คะแนนเพียว ไม่ทีคะแนนเก็บอะไรมาก่อนเลย อัตนัย 4 ข้อ ข้อละ 25 คะแนน ถึง 50 ผ่าน ไม่ถึง F ลงใหม่ แก้ใหม่ บางคนลงไป 3 รอบยังไม่ผ่านก็มี
แล้วด้วยความที่ไม่มีการบ้านและคะแนนเก็บ คุณต้องอ่านหนังสือเต็มๆ 2 เดือน วิชานึงอ่าน 3-4 เล้ม เล่มนึง 500-600 หน้า ตัวหนังสือล้วนๆ ท่องประมวล 40-50 มาตราต่อวิชา
จบนิติมาก็เรียนเนติต่อ (ถ้าอยากเป็นอัยการ ผู้พิพากษา) ก็ต้องสอบเนติให้ผ่าน จบเนติก็ต้องสอบๆๆๆๆๆ ชีวิตจะมีแต่การอ่านหนังสือเพื่อสอบ ทำงานสายนี้ก็ต้องอ่านหนังสือ
แล้วงานแบบนี้ ถ้าคนชินก็โอเคนะคะ แต่บาวคนว่างานมัน่าเบื่อ เจอแต่ปัญหา คดีความทะเลาะกัน
ถ้าน้องทนไหวกับชีวิตแบบนี้...ยินดีต้อนรับสู่คณะนิติศาสตร์ แต่ถ้าคิดว่ามันจะไม่ไหว...พี่อยากให้ดูอย่างอื่นเถอะค่ะ
เพราะนิติ ต่อให้ชอบ ยังทรหด อดทนขนาดนี้ ทรมานขนาดนี้เลย พี่อาจดูเหมือนขู่นะ...แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ
ในขณะที่พี่เห็นเพื่อนอักษรพี่ บางวันแปลหนังสือภาษาอังกฤษ บางวันปเป็นไกด์ชั่วคราวให้ต่างช่าติ เป็นล่ามงั้นนั้นนี้ งานมันดูสนุกกว่าอ่ะ (แม้จะเหนื่อยมากๆๆๆก็ตาม)
งานนิติมันก็สนุกคนละแบบ (ถ้ามองให้สนุก ชิงไหวชิงพริบ คดีงั้นงี้ แต่อย่างว่า อยู่ที่คนมอง)
โดยความเห็นส่วนตัว พี่ก็คิดว่า อักษร สายงานกว้างกว่าคะ แปล อาจารย์ โรงแรม ประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับท่องเที่ยว เป็นติวเตอร์ยังได้ อะไรก็ตามที่ต้องใช้ภาษาได้หมดค่ะ ยิ่งรู้หลายๆภาษา บอกเลย ตลาดแรงงานต้องการเยอะมาก เงินดีด้วย แต่พี่จบ บริหาร ส่วนตัวพี่ชอบภาษาอยู่แล้ว ตอนนี้พี่กำลังฝึก ญี่ปุ่น กับ เกาหลี อยู่ สู้เป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ นิติก็มีผู้โพสต์ไปแล้ว ก็ประมาณนี้คะ เกี่ยวกับ ทนาย ศาล นิติกร อาจารย์ สอบตำรวจได้ ก็ได้ ไทยจะเข้า สู่อาเซียน ภาษาจำเป็นมาก ในอนาคตต้องการผู้จบด้านนี้แน่นอน
แล้วแต่ความถนัดและความชอบค่ะ จขกท.รู้ดีที่สุดเรื่องนี้
ส่วนตัวคิดว่าสายภาษางานกว้างกว่านะคะ เดี๋ยวก็เปิดAECแล้ว + ทั่วโลกก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษกันทั้งนั้นรวมถึงภาษาที่ 3 แต่ถ้าเรียนนิติศาสตร์แล้วก็รู้ภาษา(ศึกษาเอง)ไปด้วยก็คงจะดีมาก แต่ถ้า จขกท.ทำ2สิ่งพร้อมกันแล้วไม่ดีทั้งสองอย่างก็เจ๊งเลยค่ะ เอาให้เก่งสุดๆด้านนึงไปเลยดีกว่า
อันนี้นิติ มธ.ป่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?