Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอเล่าเรื่องความรัก(?)สมัยไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น (ไร้สาระ)

ตั้งกระทู้ใหม่
เคยอ่านเรื่องทำนองนี้ของหลายคนแล้วก็แอบอิจฉา 555
แต่ก็ดูชุ่มชื่นหัวใจดี เลยนึกถึงสมัยก่อน (แก่เนาะ)
ก่อนหน้านี้เคยโพสต์เรื่องนี้ตอบในกระทู้เก่าของเด็กดีมาแล้วค่ะ

เรื่องที่จะเล่าให้ฟังนี่ไม่มีอะไรเลย งงๆด้วย 555
แต่อยากเล่า ฮ่าๆ ช่วงนี้บ้าแท้ๆ
นึกที่ไรก็อมยิ้มแล้วก็เสียดายทุกที

มีครั้งนึงไปเป็นเด็กแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่เมืองเล็กๆในญี่ปุ่น ไปแบบมึนๆพูดญี่ปุ่นได้เท่าหางอึ่ง
ส่วนเด็ก High school ที่นู่นก็ภาษาอังกฤษไม่เอาไหนจริงๆ (ขอโทษค่ะ)
ส่วนใหญ่ก็เลยบ้าใบ้ไปวันๆ เวลาว่างเลิกเรียนก็ขี่จักรยานร่อนไปทั่วเมือง
เด็กที่นู่นส่วนมากเป็นมิตรดีแล้วก็ช่วยเหลือเสมอๆ
(แบบใบ้ๆ ชี้โบ้ชี้เบ้ หรือแบบอังกิดปนญี่ปุ่นมั่วตั้วทั้งคู่)

ในห้องเรียนก็จะมีเด็กชมรมเบสบอลคนนึง หัวเกรียน ตัวสูง หน้าตาก็ธรรมดาค่ะ
ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้หล่อมาก สรุปคือ มันเป็นหัวหน้าห้อง
แรกๆเราไม่ได้คิดอะไรกะมันเลย แทบไม่เข้ามาคุยกับเราด้วย
อยู่มาวันนึง ครูประจำชั้นถามเราว่าไปดูชมรมอะไรมาแล้วมั่ง ก็ว่าไปบลาๆ
สุดท้ายก็บอกว่ายังไม่ได้ดูชมรมเบสบอล
(ครูประจำชั้นเป็นผู้ชายค่ะยังหนุ่มอยู่ ใจดีมาก
ดูจะชอบเมืองไทย พยายามพูดภาษาไทยงูๆปลาๆด้วยตลอด ตลกดี
เด็กที่นู่น ชอบเรียกอาเบะจังค่ะ 555 แต่ไม่ได้มีบทบาทอะไรในเรื่องนี้
เป็นตัวประกอบค่ะขอโทษด้วย)
ครูก็เลยพาไปถามหัวหน้าห้อง ว่าเนี่ยคราวหลังพาเพื่อนไปดูชมรมหน่อยดิ๊
ประมาณนั้น เค้าก็บอกคับๆ เชิญเลยๆ Dozoๆ 555 ฟังออกหน่อยนึง
เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกันจริงๆ แต่แล้วก็ไม่ได้ไปดูแบบจริงจังซักทีไปแบบห่างๆ ตอนเย็นๆ
เพราะทั้งรอบสนามไม่มีใครไปนั่งดูเลย
แอบเขินเดี๋ยวคนจะคิดว่ามาแอบส่องหนุ่ม 555 คิดไปนั่น

แล้วมีครั้งนึงวันหยุดขี่รถเที่ยว มีเวลาเยอะเลยปั่นเข้าเมืองมาแถวรร.ซักหน่อยเนะ
(ปกติ รร กะบ้านโฮสต์อยู่ไกลกันมากปั่นมาที 30 นาทีแน่ะ
ปกติเย็นๆเลยไม่ค่อยเที่ยวแถว รร เพราะต้องรีบกลับบ้าน)
วันหยุดเลยมาเที่ยวเล่นแถวนั้นบ้างไรบ้าง
บังเอิญมาเห็นว่าเด็กชมรมเบสบอลกะลังซ้อมกันอยู่ตรงสนามหน้า รร.
เสียงโหวกเหวก ป้องแป้ง คิดว่าขยันดีกันดีเนาะ ไม่ได้คิดอะไรเลย
ก็ปั่นช้าๆผ่านรั้วตาข่ายไปอยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ ตาลซัง เสียงดังมาก
(โรงเรียนที่ไปเป็นไฮสคูลขนาดกลาง ตอนที่ไปใหม่ๆเขาประกาศแนะนำผ่านวิทยุ รร จากนั้น คนเรียกแบบนี้กันทั่วโรงเรียน เขินมาก)
ปรากฏหันไป คนเรียกเป็นอีหัวหน้าห้อง แล้วมันก็โบกมือให้ ทุกคนในสนามหันมามองเป็นตาเดียว (เวรกรรม ปกติชอบทำตัวเงียบๆ ไม่ชอบตกเป็นเป้าอย่างยิ่ง หาเรื่องใส่ตัวอีกละ)
ก็งงว่าแกจะเรียกทำไม แต่ก็ยังขี่ต่อไป แล้วก็โบกมือไปให้ทีนึงแบบงงๆตามมารยาท
(ดีนะที่ไม่สะดุดอะไรจนจักรยานล้มน่ะ)
เพราะปกติไม่เห็นจะมาคุยด้วยเลย หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มันก็ไม่เข้ามาคุย แล้วเราก็ไม่ได้สนใจก็คุยเล่นกะเพื่อนคนอื่นไป
ไม่ได้คิดอะไรใดๆ เพราะคิดว่าที่เค้าทักเพราะเป็นมารยาท

แล้วสุดท้ายก็เป็นวันที่ต้องลากลับประเทศ
ทุกคนในห้องช่วยกันพับนกกระดาษให้เป็นพวงสีสดใสเต็มเลยน่ารักมาก
แล้วแต่ละคนก็จะเขียนโน้ตเล็กๆให้ว่าคิดยังไง ส่วนมากก็จะเขียนว่า
"สู้ๆนะ" "โชคดีนะ" "ดีใจที่ได้เจอ" "สนุกมากที่ได้เที่ยวด้วยกัน" บลาๆ ยาวบ้างสั้นบ้าง
แล้วระหว่างที่เพื่อนคนอื่นๆเอากระดาษเขียนข้อความมาให้ อย่างชุลมุน
อีหัวหน้าห้องก็ยื่นมาให้เหมือนกัน
ก็ไม่ได้สนใจก็ขอบคุณแล้วก็รับไว้เพราตอนนั้นมันให้แบบธรรมดามาก
เหมือนไม่ได้มองหน้าเราด้วย เลยเฉยๆไม่ได้คิดอะไร แต่พอเหลือบมาดูข้อความในกระดาษก็อยากจะกรี้ดแล้ววิ่งไปกระชากคอเสื้อแล้วบอกว่า
"นี่มันหมายความว่ายังไงยะหล่อน" แต่ก็ไม่ทำเพราะพูดญี่ปุ่นแบบนั้นไม่ได้
แล้วก็คิดว่าพูดอังกิดไปเค้าก็คงงง
ก็เลยมึนๆงงๆ ที่อยากพูดแบบนั้นก็เพราะปรากฏว่าบนกระดาษมันเขียนว่า
"I like you. I miss you." พร้อมลงชื่อด้วย ย้ากกกก
(ทุกคนเขียนข้อความในการ์ดกระดาษแข็งธรรมดาโล่งๆ
ไม่ได้พับหรือใส่ซองใดๆค่ะ เลยเห็นได้ทันที)
ที่งงที่สุดคือแกไปชอบฉันตอนไหนวะ แล้วทำไมเพิ่งมาบอก
-บ้าาาาา (ตะโกนจากยอดภูเขาไฟฟูจิ 555)

แล้วพอร่ำลากันจบได้เวลากลับ กะลังเดินออกจากห้องเรียน
(บรรยากาศ รร. และห้องเรียนไม่มีอะไรมากเหมือนในการ์ตูนเดี้ยะ)
อาจารย์ประจำชั้นก็เอาของขวัญมาให้ (ข้างในเป็นหนังสือนิทานอาร์ตๆ สองภาษา)
อีหัวหน้าห้องก็กะลังยืนคุยกะเพื่อนผู้ชายกลุ่มนึงอยู่
พอเหลือบมาเห็นเรามันก็ขยับออกมาจากกลุ่มเพื่อนหน่อยนึงแล้วยื่นของขวัญให้
ห่อน่ารักเลยทีเดียว แต่รูปร่างดูยังไงก็เป็นหนังสือ ฉันเองก็เลยมึนไปอีกดอกนึง
ครูประจำชั้นก็งงเหมือนกันหันไปมองหน้าอีหัวหน้าห้อง
แต่ไม่ได้ว่ายังไง ดูอึ้งหน่อยๆ อาจเพราะดูเล่มใหญ่กว่าของครูเยอะ
ตัวฉันเองก็ไม่รู้จะพูดไงดียังงงกับเมื่อกี้อยู่ด้วย ก็เลยได้แต่ก้มหัว อะริงาโตะโกไซมัส
ไปตามเรื่อง เพื่อนๆรอบๆก็งงพอกัน
อะไรของมันเนี่ย ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าหมอนั่นทำหน้าตาว่าไง
แต่น่าจะแค่เฉยๆไม่แน่ใจ แล้วก็ไม่พูดอะไรซักคำ
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร แยกกันไป วันต่อมาฉันก็กลับประเทศมาแบบมึนๆ

เขาก็ไม่ได้ขอรายละเอียดเพื่อติดต่อกัน หรืออะไรอย่างอื่นเลย
ส่วนครั้นจะไปขอเองก็กลัวจะดูไม่ดี
เพราะบอกตรงๆว่าเพิ่งมีคนมาจีบ(รึป่าว) แบบนี้เป็นครั้งแรก คิดตามไม่ทันในวันเดียว
ก็เลยปล่อยให้เป็นแค่ puppy love (ของหมอนั่นคนเดียว) ต่อไป
อันนี้จะสรุปว่าเขาแอบชอบเราใช่ไหมนะ แต่บอกตรงๆว่าไม่ได้รู้สึกอะไรจริงๆ
จนกระทั่งวันสุดท้ายนี่แหละ ถึงได้มีคิดบ้างนิดนึง
แต่ที่ไม่คิดจะสานต่อเพราะยังไงก็จะกลับบ้านแล้ว
ให้มันอยู่แค่นี้ดีกว่า บอกตรงๆว่าแอบโมโหว่าที่ผ่านมาแกไปมุดอยู่ที่ไหนนน ย้าก
แอบเสียดายด้วย 55 ถือเปนความทรงจำที่ดีแบบงงๆ
กลับมาเลยตัดสินใจเขียนการ์ดส่งไปขอบคุณทุกคน รวมทั้งหัวหน้าห้องด้วยผ่านครูประจำชั้น
55 ก็ไม่รู้จะติดต่อยังไงนิ แต่ทุกอย่างก็นิ่งเงียบ ก็เลยจบอยู่แค่นั้น
ครูก็ไม่ได้เขียน จม ตอบมาว่าเอาการ์ดให้หัวหน้าห้องรึป่าวด้วย
ก็เลยพอ จะให้ลูกโฮสต์ช่วยก็ไม่เอาดีกว่าไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเดี๋ยวจะโดนเอาไปเม้ากับเพื่อนๆนางปล่าวๆ

สรุปว่าก็เป็นความทรงจำดีๆในวัยเรียน 55 ขี้ขลาดทั้งคู่เลย
บ้าจริง (เสียงนางเอกเกาหลีแบบเบบี้มายด
เจอหน้ากันทุกวัน แต่แทบไม่ได้คุยกันเลย อยู่ๆก็มาทำแบบนี้ ฮึ่ม
คราวหลังบอกให้ไวกว่านี้นะยะจะได้มีเวลาคิด

ขอโทษที่มาไร้สาระแถวนี้ค่ะ เขียนซะยาวเลย
ถ้ามีฟีดแบคอะไรก็ตอบกลับมาได้เลยค่ะ จะต่อว่า ว่า โง่ก็ได้ 555
นึกขึ้นมาได้แล้วอยากระบาย

ปล. พอกลับมาถึงบ้านโฮสต์ ก็เปิดห่อของขวัญปรากฏว่าเป็นหนังสือพับกระดาษ Origami ค่ะ เล่มหนาแถมสีสันสดใสดีที่เดียว คงคิดว่าอ่านญี่ปุ่นไม่ออกแน่ๆ เลยให้หนังสือพับกระดาษเด็กน้อยมาแทน แต่ข้างในก็ไม่ได้มีข้อความอะไรเป็นพิเศษ...

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

WWW-T 16 เม.ย. 57 เวลา 20:18 น. 2

จขกท เองค่ะ ถ้าใครมีประสบการณ์ความรักในต่างแดนก็มาแชร์ได้นะคะ
อยากอ่าน (ที่โพสต์เพราะบังเอิญได้ไปอ่านของคนอื่นมาค่ะ 55)

0
ครุคริ 16 เม.ย. 57 เวลา 22:28 น. 3

เคยตอนไปค่ายที่อเมริกาอ่ะ เป็นเหมือนค่ายของเด็กกิฟจากทั่วโลก ตอนแรกเพื่อนจากที่ไทยทุกคนอ่ะ แอบไปกรี๊ดฝรั่งกันหมด เหลือเราคนเดียว 555 แล้วทีนี้ พอสัปดาห์สุดท้ายอ่ะ เราเพิ่งได้รู้จักกับคนๆนึง ชื่อคริส เราก็เริ่มแอบกรี๊ดเค้า 5555 เค้านิสัยดีอ่ะ หน้าตาธรรมดาแต่กวนๆ แล้วพอคืนสุดท้ายมันมีงานพรอม เพื่อนเราก็ล้อเราแล้วก็จะให้เราเอาดอกไม้ให้คริส เราเลยวิ่งหนี แต่อยู่ดีๆ คริสก็วิ่งมาหาเราแล้วก็เอาดอกกุหลาบสีส้มมาให้ เราแบบ O____O!! ช๊อค เราก็เลยให้ดอกกุหลาบสีขาวเค้าไป แล้วเค้าก็ขอเราเต้น รู้สึกเต้นกันสักสามเพลงมั๊ง เราตื่นเต้นมากก เพิ่งเคยเต้นครั้งแรก แทบกรี๊ด 5555 แล้วตอนจะหมดคืนอ่ะ เค้าเป็นเพลง right here waiting ทุกคนในค่ายร้องให้กันหมดเลยเพราะค่ายมันสนุกมาก ไม่อยากกลับ เราก็เดินไปหาเพื่อนฝรั่งเราแล้วก็ลา กอด แบบเศร้า แล้วอยู่ดีๆอีคริสก็เดินมากอดเรา(อย่าคิดมาก มันวัฒนธรรมฝรั่ง 555)
พอตอนเช้า กำลังจะขึ้นรถบัสออกจากค่ายอ่ะ คริสก็มารอส่งเราตรงลอบบี้ แล้วก็บอกเราว่า i'm gonna miss you แล้วเราก็ขึ้นรถบัส ตอนนั้น พูดอะไรไม่ออก พอมาอยู่บนรถบัสเพื่อนเราที่เป็น roommate คริสก็บอกว่า เมื่อคืนอะ คริสพูดถึงเราด้วย แต่มันไม่ได้ฟัง นั่งทำการบ้านอยู่ เราแบบ แทบโดดถีบมัน 5555 แค่นี้แหละ มันเป็นประสบการณ์ที่ในชีวิตต้องมีสักครั้งอ่ะเราว่า 555 สนุกมาก

0
Bobbi Nan 17 เม.ย. 57 เวลา 00:22 น. 4

 อยากมีประสบการ์ณแบบนั้นบ้างงงงง><// ได้ข่าวว่าเอ็งมีแฟนแล้ว // อ่ะจ่ะอ่ะ

0
MINNY MOUSSE 17 เม.ย. 57 เวลา 19:02 น. 6

เหยยยยย จิกหมอนแป้ปปปป >.,< เขินแทนง่าาาาาาา ดีใจด้วยนะ -////- เราอยากรู้ว่าเธอไปของโครงการไรอ่า มีระยะสั้นด้วยอ่อน่าสนใจ *[]*

0
Tan ww 17 เม.ย. 57 เวลา 20:07 น. 7

ที่ไปเป็นโครงการระยะสั้นของ AFS ที่ร่วมมือกับ MEXT ของญี่ปุ่นค่ะ มีรับสมัครทุกปี เวลาที่ไปก็ช่วงปิดเทอมตอนตุลาพอดี ถือว่าได้ประสบการณ์ดีมาก เหมาะกับคนที่เก่งญี่ปุ่นมากๆไปเลย กะคนที่ไม่ได้จริงจังที่จะเรียนญี่ปุ่น แต่อยากไปสัมผัสโลกของญี่ปุ่น มากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ ส่วนเราถือว่าอ่อนญี่ปุ่นมากเพราะไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาไปใช้อยู่แล้ว ภาษาที่ได้ก็ได้มาแบบงูๆปลาๆ ต้องอยู่นานกว่านี้ถึงจะโอเคร ถ้าจะไปเพื่อฝึกภาษาอังกิดก็ลืมไปได้เลยค่ะ 555

0
BlacK x ZetteR 18 เม.ย. 57 เวลา 21:07 น. 9

จขกท.ชื่อเล่นเหมือนเราเลย~~~~//ข้ามไปเถิดหนาาา

อ่านแล้วฟินแบบ.....ฟินมาก ไร้คำบรรยาย ความจริงยิ่งกว่านิยาย งื้ออออออออออ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์มาให้นะคะ~~

0
Melissa S. 19 เม.ย. 57 เวลา 17:43 น. 12

เคยมีตอนแลกเปลี่ยนระยะสั้นเหมือนจขกท.เลยค่ะ แบบตอนนั้นเราไปแคนาดา เค้าเป็นคนเกาหลีที่อยู่ที่นั่น แต่หน้าตาเหมือนคนไทยมากกก ไม่เหมือนเกาหลีเลย เค้าเข้ามาทักเรา พาเราไปทำนู่นทำนี่ ข้าวก็กินด้วยกัน นั่งก้ด้วยกัน ตัวติดกันแทบตลอด 5555 แต่พอกลับมาก็ไม่ค่อยติดต่ออะไรกันเลย

0
rainbow-a-sugar 20 เม.ย. 57 เวลา 18:26 น. 15
"โง่"

เอิ่ม พูดเล่นค่่่ะ 55555555555 ใครจะว่าแบบนั้น บ้าจริง !

น่ารักมากเลยอ้ะ  >//////////<  อ่านแล้วชุ่มชื่นหัวใจแทน

ทำร้ายคนเหงายิ่งนัก

0
BE.Rapunzel 20 เม.ย. 57 เวลา 21:11 น. 17

น่ารักมากเลยค่ะ บอกเลยว่าเสียดายแทนจขกท.จริงๆ 
เขาน่าจะมาสารภาพก่อนหน้าที่จขกทจะกลับ โอ้ยย! 5555

0
littlewolf 21 เม.ย. 57 เวลา 00:49 น. 18

น่ารักดีค่ะ ความทรงจำดี มีไว้ให้หัวใจกระชุ่มกระชวย


คนญี่ปุ่่นไม่เก่งเรื่องแสดงออกค่ะ คบกันหลายปีก็ยังไม่เข้าใจว่า เอ๊ะ นี่หมายความว่าไง อะไรยังไง เรื่องตอบจดหมาย ลืมไปได้เลย ต้องอยู่ตรงหน้าถึงจะได้รับบทสนทนากลับ คิดว่าน่าจะเป็นกันหมด


0