Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ศิลปะการโจมตีคนร้ายผู้หญิง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ศิลปะการโจมตีคนร้ายผู้หญิง self defense kill women

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

หากว่าญาติคุณ ลูกสาวคุณ น้องสาวคุณ เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะสาวๆอย่างเราๆ ถ้าหากมีคนมาหาเรื่องหรือคนที่จะมาทำร้ายเป็นผู้หญิงซึ่งมาในทางตบตีกระชากผมหรือมีอาวุธต้องการทำให้เราเสียความสวย เหตุการณ์แบบนี้มาเยอะมากที่ผู้หญิืงเข้ามาทำร้ายตบตีกันและลงในyoutubeวิวเป็นล้านวิว เขาก็ต้องรู้จักวิธีเอาตัวรอดจริงไม๊คะ รู้ไว้ก็เป็นผลดี ดีกว่าการใช้อาวุธจิงป่ะ เคล็ดลับนี้เป็นเทคนิคง่ายๆส่งตรงมาจากประเทศจีนซึ่งมีมานานแล้ว และสามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

 

และที่สำคัญศาสตร์ศิลปะแห่งนี้ แน่นอนไม่มีที่ใดสอน เพราะมันเป็นศิลปะผสมผสานกับ ความเข้าใจ+ธรรมชาติ ที่จะมุ่งทำลายหรือหยุดการเคลื่อนไหวของเพศหญิง แล้วอะไรมันจะมาสู้กับปรัชญาธรรมชาติได้

ดังนั้น รู้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไร รู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ อิอิ

***หลักๆจุด3จุดตายของเพศหญิง มีดังนี้ค่ะ


 

1.เต้านม  ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าอก ตรงกลางด้านบนของลำตัว


 

***เป็นจุดอ่อน บอบบาง และเป็นจุดอันตราย เพราะถ้าหากว่าถูกกระแทกแรงๆ จะส่งผลให้เป็นมะเร็งเต้านมซึ่งเป็นโรคผู้หญิงถึงแก่ชีวิตได้ หรือ ภาวะเลือดไหลย้อนเข้าสู่ปอด(นมขวา)และหัวใจ(นมซ้าย)เมื่อถูกต่อยหรือกระแทกกดอย่างแรงสุดๆซึ่งจะส่งผลให้ถึงแก่ชีวิตได้

เทคนิคง่ายๆในการโจมตีเต้านมสตรีเพศ

1.ให้จับเต้านมให้ได้มากที่สุด แล้วดึงกระชาก หรือ บิดขึ้นบิดลงโดยไม่ออมแรง ขยี้นมด้วยมือเปล่าอย่างสุดแรงเกิด พยายามทำให้ฉีกขาดจนเลือดไหลออกมาทางหัวจุก ซึ่งทำได้ง่ายมาก

2.ต่อยหรือตบแรงๆจะเสยขึ้นนมจะมีลักษณะกระเด้งขึ้นด้านบน หรือ กระทุ้งตรงด้วยสันมือหรือหมัดหรือมือตบพุ่งเข้าไปหวังผลให้ยุบให้มากที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เต้านมอักเสบขึ้นรุึนแรงระบบอวัยวะของหัวใจและปวดจะผิดปกติถึงตายได้                              

 ผลระยะยาวที่เต้านมถูกกระแทกอย่างรุนแรง >>มะเร็งเต้านม<<

 


 

2.มดลูก&รังไข่

ตั้งอยู่บริเวณหน้าท้อง เรื่อยมาลงมาถึงบริเวณท้องน้อย(ใต้สะดือ) โดยรังไข่จะมี2อันอยู่ซ้ายขวาประกบมดลูก

เป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงเพราะบอบบางมากและเป็นจุดสลบและจุดตายได้ ซึ่งหากถูกกระแทกอย่างรุนแรง เช่น โดนชก โดนถีบ โดนเตะ โดนกระทืบ หรือแค่โดนกระทุ้งด้วยฝ่ามือ จะส่งผลให้ เลือดคลั่งในมดลูก มดลูกฉีกขาด มดลูกหย่อน ซีสต์ มดลูกบวม มดลูกแตกและรังไข่ด้วย จะส่งผลรวมไปถึงอวัยวะอื่นๆโดยรอบด้วย เช่น ปีกมดลูกและท่อนำไข่ ไส้ตรง ซึ่งตรงจุด.มดลูก&รังไข่ นี้จะเห็นชัดเจนได้เมื่อมีเหตุการณ์ที่ผู้หญิงถูกทำร้ายตรงบริเวณนี้ ถึงขึ้นสลบและบางรายถึงแก่ชีวิตได้ตามที่เป็นข่าว

และเป็นจุดอ่อนที่สุดของผู้หญิงทุกคนไม่เว้นแม้แต่นักกีฬา ต่อให้ออกกำลังกายแค่ไหน ตราบใดที่ยังมีอวัยวะเพศนี้อยู่ไม่สามารถรอดพ้นจากการถูกต่อยเตะหน้าท้องหญิงได้

 

เทคนิคง่ายๆในการโจมตีหน้าท้องสตรีเพศ

1.ใช้หมัดต่อยหรือกระทุ้งแรงที่สุดโดยไม่ออมมือ ถ้าใครแรงดีทีเดียวทำให้ตายได้ค่ะ

2.ใช้เท้าถีบตรงไปด้านหน้า เตะ หรือ กระทืบสุดแรงเกิด ผลลัพธ์ที่ได้ก็เช่นเดียวกันกับข้อ1.ค่ะอาจแรงกว่าด้วยค่ะ

3.อวัยวะเพศหญิง

 

เป็นจุดอันบอบบางมากไม่ใช่ว่าไม่เป็นจุดสำคัญ แต่เป็นจุดอ่อนเลยทีเดียวเชียว ซึ่งถ้าหากถูกกระแทกแรงๆ โดยการ เตะผ่าหมากผู้หญิง หรือถูกต่อยเสยขึ้นไป หรือแม้กระทั่งสิ่งของ อาทิเช่น แตงร้าน เหล็กเส้น ด้ามไม้กวาด หรือแม้กระทั่งออกหมัดทะลวงมือจนเข้าไปถึงแขนอาจจะไปถึงมดลูกและที่สำคัญถ้าดึงออกมาได้รังไข่จะถูกทำลายตายในทันที ผลที่ได้อื่นๆจะทำให้แคมระเบิด ช่องคลอดถูกฉีกแหวกออก และจะทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เลือดไหลไม่หยุดเหมือนถูกทำแท้ง เลือดไหลย้อนเข้าไปยังมดลูก&รังไข่ เพราะอวัยวะเพศหญิงมีลักษณะเป็นเสมือนแผลที่เปิดออกอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงตายได้เช่นกัน

 


แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

นางฟ้ามาใหม่ 17 เม.ย. 57 เวลา 16:15 น. 1

และนี่เป็นท่าอื่นๆซึ่งได้ผลดีมาก (มีคนขอมาเลยจัดเต็มค่ะ) และเอามาเสริมกับการโจมตีจุดอ่อน3จุดของเพศหญิง

มีดังนี้ค่ะ

1. ท่าแขวนคอด้วยปลายผม

ที่ตั้ง : ผมของผู้หญิงจะมีลักษณะยาว 

การโจมตี : ว่องไว เข้าหาผมด้วยความเร็ว (อย่าอ่อนข้อและออมแรง)

วิธีปฎิบัติ :

1. ถ้าเข้าด้านหน้า ให้โจมตีจุดตาย3จุดหรืออย่างใดก็ได้ เอาให้อ่อนกำลัง จากนั้นตบหรือตีไปที่หน้าเพื่อขัดขืนไม่ได้ จากนั้นก็ดึงผมเอามือข้างใดข้างหนึ่งจับปลายผมกำให้แน่น อีกข้างหนึ่งเอามือยันบริเวณตาใบหน้าไว้ ถ้าเข้าด้านหลัง ให้รีบคว้าผมเอาไว้ทันที

2. หลักจากที่มือจับผมได้แล้ว ให้กระชากผมเหวี่ยงเหมือนลูกข่าง ขาของเราต้องยืนเป็นศูนย์กลาง ด้วยความว่องไว ให้หาจังหวะพันผมของมัน ให้พันรอบคอแล้วทบมัดด้วยผมของมันเองนี่แหล่ะ จนกระทั้งผมยาวๆได้พันคอตัวเองเรียบร้อย

3. ลากโดยทันที บริเวณใกล้ๆมีเสา หรือลักษณะที่คล้ายๆกัน ให้ลากไปแล้ววนผมส่วนที่ยาวออกมาพันรอบเสา หรือถ้าเป็นที่ว่างๆให้วิ่งลากเหมือนช้างลากซุง

ผลการปฎิบัติ : ผมจะรัดคอด้วยผมของตัวเอง มีผลถึงแก่ชีวิตได้ไม่กี่นาที

(แต่หากเป็นคู่อริจัดการมันให้สำนึก ก็ดึงผมรัดคอมันจนกว่าจะบอกว่า"เลิกยุ่งกับคนของชั้น")

2. ตบหน้าสวยไปหมด

วิธีนี้คงไม่ต้องสอนอะไรมาก แค่มีมือ มีจังหวะในการตบ ก็ตบได้ และความสวยของมันก็จะหายไป

**แต่ข้อควรแนะนำ หากเจอมันเรียนมา ให้ใช้วิธีการโจมตีีจุดตาย3จุดก่อน เพราะว่าหลักสูตรอะไรก็ตามที่มีการสอน มันมีข้อจำกัดและมีกติกา แต่การโจมตี เต้านม ท้อง และหอย ไม่มีกติกาค่ะ

3. ท่อนแขนนางกาลี

แขนของผู้หญิงจะเล็กบอบบาง ใช้วิธีการจับบิด หรือหักได้ แม้ไม่ต้องไปเรียนหลักสูตรอะไรทั้งนั้น คุณก็หักหรือจับแขนมันดึงเข้าหาตัวพร้อมทั้งบีบคอมันหรือตบต่อยหน้ามันไปได้ด้วย และพร้อมๆกับโจมตีจุดตายทั้ง3จุด ครือ ควรโจมตีให้หมด

4.ต้นขาสกัดดาวยั่ว

 จุดนี้บางคนอาจไม่รู้ แต่เป็นจุดสำคัญอีกจุดนึง เพราถ้าโดนทุบหรือเตะ ก็จะทำให้หมดแรงได้ เหมือนการเตะเจาะยางของนักมวย เพราะขาของผู้หญิงบอบเบากว่าขาของผู้ชายถึง10-20เท่า

5. อาวุธมาก็ฆ่าทิ้ง

หากหญิงคนนั้นมีอาวุธหรือสิ่งของอะไรใดๆก็ตาม ไม่ยากค่ะ มองหาสิ่งของที่ตีรำฟันแทงได้ ขอย้ำ สิ่งของที่ตีรำฟันแทง

เช่น ก้อนหิน มีดสปริง ปืน เหล็กด้าม กระเป๋า จุดไฟเผามัน หรืออะไรก็ตาม โจมตีเอาให้อ่อน สุดท้ายแล้วถ้าแย่งสิ่งของที่มันถืออยู่นั้นมาให้ได้ ต้องแย่งมาให้ไว จากนั้นก็จัดการให้จอดสนิทให้ไวที่สุด จะได้ไม่มาแว้งกัดเราทีหลังค่ะ 

เคล็ดลับในการปฎิบัติ(ข้อนี้) : ไม่ปราณีต่อสตรีหน้าไหน

0
~ล่องลอย~ 17 เม.ย. 57 เวลา 19:32 น. 2

ตั้งกระทู้แบบนี้เป็นดาบสองคมนะ คมอีกด้านก็ใหญ่ซะด้วย
โดยธรรมชาติผู้หญิงก็เสียเปรียบอยู่แล้ว
แล้วข่าวอาชญากรรมต่างๆผู้ชายก็มักเป็นคนลงมือ ผู้หญิงอย่างมากก็ตบกันเอง ง้องแง้งไป คือเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเพศหญิงไม่ใช่เพศที่ได้เปรียบทางด้านร่างกาย นางๆทั้งหลาย(ที่อาจเป็นคนร้าย)คงไม่โง่พอจะเอาจุดอ่อนตัวเองมาปะทะ ถ้าจะเป็นส่วนมากจะเป็นนกต่อล่อเหยื่อไปให้ผู้ชายจัดการมากกว่า

เอาข้อมูลมาบอกแบบนี้ แทนที่จะได้ป้องกันตัวจากคนร้าย(ญ) อาจจะได้เป็นการบอกผู้ชายว่าจะจัดการกับผู้หญิงยังไงให้ง่ายขึ้น จากที่ง่ายอยู่แล้วมากกว่า

ขออภัยที่ขัด ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาที่เป็นข่าวลือซึ่งไม่เป็นความจริง และก่อให้เกิดการเข้าใจผิด บางครั้งมาจากฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ไม่จริงแล้วคนส่งต่อจนทำให้เข้าใจผิดกันเป็นวงกว้าง