10 หลุมศพแปลกจากทั่วโลก
ตั้งกระทู้ใหม่
10 หลุมศพแปลกจากทั่วโลก ที่เห็นแล้วต้องทึ่ง อึ้ง แต่สร้างสรรค์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก oddee.com, cremationresource.org, io9.com,cemeteryexplorers.blogspot.com, neatorama.com
10 หลุมศพแปลกจากทั่วโลก ที่เห็นแล้วต้องทึ่ง อึ้ง แต่สร้างสรรค์ ว่าแต่ 10 หลุมศพแปลก มีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน
หลุมศพ เปรียบเสมือนบ้านหลังสุดท้ายของทุกชีวิตที่ถือกำเนิดมาบนโลกนี้ คนต่างต่างถือกำเนิด เติบโต และเมื่อถึงเวลาอันสมควรในที่สุดก็จะกลับมาสู่ผืนดินอีกครั้ง ในเมื่อมันเป็นที่พำนักของร่างที่ไร้ลมหายใจซึ่งจะสถิตอยู่ ณ ที่นั้นไปชั่วนิรันดร์ หลุมศพจึงได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามให้สมกับกับเกียรติของผู้ที่จากไป แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นหลุมศพที่ดูสวยแบบแปลก ๆ ก็มีอยู่ด้วยไม่น้อย ถ้าได้ลองไปเดินสำรวจดูในสุสานสักตั้ง คุณอาจได้พบกับความงามแบพอลึก ๆ ในสุสานที่สงบสงัด อย่าง 10 หลุมศพแปลกจากทั่วโลก เหล่านี้ ที่เห็นแล้วต้องทึ่ง อึ้ง ไปเลยล่ะ (แต่ก็สวยอยู่นะจะบอกให้)
1. แม้กำแพงก็ยังขวางกั้น จนวันสุดท้ายของชีวิต
หลุมศพของคู่รักชายหญิงซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ต่างนิกาย เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงศพของทั้งสองจึงไม่อาจถูกฝังไว้เคียงคู่กัน นายทหารม้าชาวดัตช์กับภรรยาแต่งงานกันในปี 1842 (พ.ศ. 2385) และใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา 38 ปี จนกระทั่งฝ่ายชายเสียชีวิตลงในปี 1880 (พ.ศ. 2423) ร่างของเขาถูกฝังติดกำแพงที่สุสานชาวโปรเตสแตนท์ ส่วนภรรยาเสียชีวิตในอีก 8 ปีให้หลัง โดยก่อนตายเธอแสดงเจตจำนงขอถูกฝังอยู่ที่อีกด้านของกำแพงข้างหลุมศพสามี ที่ยอดของแท่นหลุมศพถูกสร้างขึ้นเป็นรูปมือของทั้งคู่เกาะเกี่ยวกันไว้ บ่งบอกว่าแม้มีกำแพงขวางกั้นจนวันสุดท้ายของชีวิต แต่ก็จะไม่ยอมพรากจากกันอีก
2. หลุมศพคู่ชีวิตที่หันหลังให้กัน
หลุมศพของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่สุสานรีโคเลตา ประเทศอาร์เจนตินา สร้างความงุนงงให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย เมื่อศพของทั้งคู่ถูกฝังไว้ร่วมกันแต่รูปปั้นเหนือหลุมศพกลับหันหลังให้กันเสียนี่ !? ที่มาของความประหลาด คือฝ่ายสามีเป็นผู้เสียชีวิตลงก่อน ทางครอบครัวได้จัดการฝังตามประเพณี และสร้างรูปปั้นของเขานั่งบนเก้าอี้มองไปที่เส้นขอบฟ้าด้วยหน้าตาเคร่งขรึม ส่วนฝ่ายภรรยาเสียชีวิตในอีกไม่กี่ปีต่อมา โดยก่อนตายเธอขอให้ฝังศพเธอไว้เคียงคู่กับสามี แต่ขอให้หันหลุมศพกันไปคนละทิศ รวมถึงรูปปั้นก็ให้สร้างขึ้นให้หันหลังแก่กัน เพื่อสื่่อว่าชีวิตแต่งงานที่อยู่ด้วยกันมา 30 ปี เขาและเธออยู่โดยไม่พูดกันเลยสักคำ
3. ศิลปินผู้อยากมองหน้าภรรยาไปตลอดชีวิต
เฟอร์นานด์ อาร์เบลอต คือนักแสดงและศิลปินชาวฝรั่งเศส เขาเสียชีวิตลงเมื่อปี 1990 (พ.ศ. 2533) และถูกฝังไว้ที่สุสาน Père Lachaise หลุมศพนี้สร้างขึ้นตามความปรารถนาของเขาที่ต้องการจะมองเพียงใบหน้าของภรรยาผู้เป็นที่รักตลอดไป
4. หลุมศพหมู่ใต้ต้นไม้
หลุมศพหมู่ได้ต้นไม้นี้อยู่ที่สุสาน St. Pancras ในกรุงลอนดอน เดิมทีหลุมศพก็เรียงกันละลานตาเยี่ยงสุสานทั่ว ๆ ไป จนกระทั่งช่วงปี 1860 (พ.ศ. 2403) มีการเคลียร์ทางเพื่อทำรางรถไฟ ผู้ออกแบบหนุ่มจึงออกไอเดียให้ย้ายหลุมศพและป้ายไปอยู่ใต้ร่มไม้เดียวกัน ซึ่งผู้ออกแบบหนุ่มรายนั้นก็คือ โทมัส ฮาร์ดี้ กวีชื่อดังแห่งยุคนั่นเอง
5. หลุมศพของนักเขียนแสนโรแมนติก
ที่สุสาน Père Lachaise ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นสถานที่พำนักสุดท้ายของคนดังและศิลปินหลายคน หนึ่งในนั้นก็มี จอร์จ โรเดนบาค นักเขียนชาวฝรั่งเศส เจ้าของหนังสือ Bruges-la-Morte ที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี 1982 (พ.ศ. 2525) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้อาภัพเฝ้าครวญหาภรรยาที่จากไป หลุมศพของโรเดนบาค ถูกสร้างขึ้นโดยนำเรื่องราวจากหนังสือที่เขาแต่งมาเป็นแรงบันดาลใจ กลายเป็นรูปหล่อสำริดตัวของเขาผุดออกมาจากหลุมศพ พร้อมถือดอกกุหลาบไว้ในมือ
6. หลุมศพแฟนคลับ BMW
รถยนต์ BMW รุ่น M3 คันงามสีดำ จอดอย่างเท่อยู่เหนือหลุมศพของนายสตีฟ มาร์ช แฟนพันธุ์แท้ของรถยนต์ BMW ในสุสาน Manor Park ในย่านอีสต์ลอนดอน การเอารถมาจอดทับหลุมศพเช่นนี้ไม่ถือเป็นการลบหลู่แต่อย่างใด เพราะนั่นคือความประสงค์ของผู้ตายเอง
7. เด็กสาวผู้หลับใหลเหนือหลุมศพตัวเอง
หลุมศพของแคโรไลน์ วอลเตอร์ อยู่ที่สุสาน Alter Friedhof ในประเทศเยอรมนี เธอเสียชีวิตลงเมื่อปี 1867 (พ.ศ. 2410) ด้วยโรควัณโรค ด้วยความอาลัยรักพี่สาวของแคโรไลน์ จึงได้จ้างช่างให้มาสลักเสลารูปปั้นขนาดเท่าคนจริงเหนือหลุมศพของเธอ เป็นรูปของแคโรไลน์เผลอหลับไปขณะที่กำลังอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
8. หลุมศพของดาวโรงละคร
กลาดิส สเปนเซอร์ ดาวรุ่งจากโรงละคร Music Hall เสียชีวิตลงเมื่อปี 1931 (พ.ศ. 2474) ด้วยวัย 31 ปี ร่างของเธอถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน โดยด้านบนเป็นหินสลักรูปเปียโนพร้อมตัวเธอที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเอนตัวเปียโนด้วยแววตาเศร้าสร้อยเลื่อนลอย ราวกับอาลัยที่ต้องจากโลกและอาชีพที่เธอรักไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
9. หลุมศพของภรรยาแสนรัก ที่กลายเป็นบ้านหลังที่สองของสามี
โจนาธาน และ แมรี่ รีดส์ เป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันอย่างดูดดื่ม การจากไปของฝ่ายหญิงเมื่อปี 1893 (พ.ศ. 2436) จึงเป็นเรื่องที่โจนาธานทำใจได้ยาก ร่างไร้ลมหายใจของเธอถูกฝังที่สุสานเอเวอร์กรีน ในสหรัฐฯ ที่ซึ่งโจนาธานออกแบบให้เป็นเหมือนบ้านหลังเล็ก ๆ และเขาก็ยึดที่นั่นเป็นบ้านหลังต่อมาเพื่อที่จะไม่ต้องแยกจากภรรยาไปอีก โจนาธานใช้ชีวิตเยี่ยงนั้นอยู่กว่า 10 ปี ก่อนจะเสียชีวิตลง และแน่นอนร่างของเขาก็ถูกฝังไว้ข้างเคียงกับคนรักไม่ต้องแยกจากกันสมดังปรารถนา
10. หลุมศพที่หนีบผ้ายักษ์
หากเข้าไปเดินในสุสานแล้วเจอที่หนีบผ้ายักษ์อยู่เหนือหลุมศพแล้วคงรู้สึกประหลาดพิลึก แต่นี่คือสิ่งที่คุณจะได้เจอจริง ๆ กับสุสานของนานแจ็ค โครเวลล์ เจ้าของโรงงานผลิตที่หนีบผ้า National Clothespin Company ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตที่หนีบผ้าที่ทำมาจากไม้แห่งสุดท้ายในสหรัฐฯ (ปัจจุบันโรงงานหันไปผลิตที่หนีบผ้าจากพลาสติกแล้ว) เดิมที่โครเวลล์อยากให้ไม้หนีบผ้ายักษ์มีสปริงจริง ๆ เป็นแกน เพื่อที่จะให้เด็ก ๆ ขึ้นไปกระโดดเล่นได้ด้วย แต่สุดท้ายก็สลักขึ้นมาจากหินทั้งหมดแทน และกลายเป็นหลุมศพที่หน้าตาประหลาดที่สุดในสุสานนั้นแทน
ขนาดเรื่องราวหลังความตายก็ยังกลายเป็นศิลปะได้ แถมยังเป็นศิลปะที่ไม่ซ้ำใครเสียด้วย ใครอยากให้โลกจดจำการจากไปของคุณไว้บ้าง ลองออกแบบหลุมศพของตัวเองให้พิลึกพิลั่นหรือสวยอลังการไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้นะ
ที่มาจาก : http://hilight.kapook.com/view/101443
หรือเราควรจะออกแบบหลุมศพเอาไว้ล่วงหน้าก่อนดี ฮ่าๆ ล้อเล่น
8 ความคิดเห็น
ภาพไม่ขึ้นเลยค่ะ =3=
โหสวยยย (ยังไม่เหนรูปเลยย)--*
รูปไม่ขึ้นค้า
ของเราขึ้นน่ะ บอกได้คำเดียวว่า อลังค์การรร แถมอึ้ง- หลุมสพแฟนพันธ์แท้ BMW นี่ -0- แล้วถ้าฉันตายนี่ไม่ต้องเอาเป็นรูปนิยายเลยมั้ง 555
สวยค่ะสวย ชอบ
ปล. ภาพไม่ขึ้นนะตัวเอง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?