เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลกที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

[ซ็อคเกอร์ศาสตร์]

อีกเพียงหนึ่งเดือนกว่าเท่านั้นก็จะถึงมหกรรมฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 20 นี้ กับ 32 ทีมสุดแกร่ง รวมทั้งทีมชาติดังๆพาเหรดมาครบ ทั้งอังกฤษ, สเปน, เยอรมัน, อิตาลี, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส ฯลฯ มากมาย Soccerศาสตร์ ความรู้คู่ฟุตบอล ขอนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลกที่ผ่านมาที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน มีอะไรบ้าง เชิญรับชมครับ

1. "อินเดีย" ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 1950 และแบ่งสายเรียบร้อย แต่กลับถอนตัวก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาภายในสมาคมฟุตบอล การขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ และอาจเป็นเพราะฟีฟ่าห้ามไม่ให้เล่นฟุตบอลด้วย "เท้าเปล่า"


2.(เซอร์) อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งหนึ่ง เขาเคยคุมทีมชาติสกอตแลนด์ลุยศึกฟุตบอลโลก 1986 เนื่องจากผู้จัดการทีมคนก่อนหน้า เสียชีวิตในระหว่างคุมทีมเล่นรอบคัดเลือกในครั้งนั้น (scotishfa)


3. หากบราซิลคือทีมที่เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครบทั้ง 20 ครั้ง เยอรมันกับอิตาลีคือชาติที่เล่นรองลงมาคือ 18 ครั้ง แต่เยอรมันจะเริ่มตั้งแต่ปี 1954 ส่วนอิตาลีเริ่มตั้งแต่ปี 1962 นอกจากนี้ยังมีประเทศที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายติดต่อกันได้แก่ อาร์เจนติน่า ตั้งแต่ 1974 สเปน ตั้งแต่ 1978 และเกาหลีใต้ ตั้งแต่ 1986

4. ดัตช์ อีสต์ อินดี้ส์ (ภาพด้านล่าง) หรือปัจจุบันคือประเทศอินโดนีเซีย เป็นชาติเอเชียชาติแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แต่ปาเลสไตน์กับอิสราเอลคือชาติแรกของเอเชียที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในปี 1934 และ 1938


5. ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 1966 ทีมในโซนแอฟริกาต่างพร้อมใจกันถอนตัวจากการแข่งขัน เพื่อประท้วงฟีฟ่าที่ไม่ให้โควตาในรอบสุดท้ายแก่พวกเขา แต่ต้องไปแข่งขันกับโซนเอเชียแทน (ครั้งนั้นเกาหลีเหนือได้ผ่านเข้ารอบไป theguardian)


6. เอสโตเนีย, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก และปาเลสไตน์ สี่ชาตินี้คือหนึ่งใน 31 ทีมที่ลงเล่นฟุตบอลโลก 1934 รอบคัดเลือกซึ่งเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก และปัจจุบันทั้งสี่ประเทศนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยเฉพาะลักเซมเบิร์ก ประเทศเล็กๆในยุโรปที่เข้าร่วมตั้งแต่ปี 1934 และไม่เคยขาดตอนแม้แต่ครั้งเดียว

7. ฟุตบอลโลกปี 1930 มีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 13 ทีม แต่มีเพียงสี่ทีมเท่านั้นที่มาจากยุโรปคือ ฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม, โรมาเนีย และยูโกสลาเวีย (ปัจจุบันคือประเทศเซอร์เบีย) ทำให้ฟุตบอลโลกครั้งต่อมา อุรุกวัยตัดสินใจไม่เดินทางไปป้องกันแชมป์ที่อิตาลี เพื่อแก้เผ็ดชาติยุโรปที่ไม่ยอมลงทุนข้ามทะเลมาแข่งที่บ้านพวกเขา

8. ฟุตบอลโลกปี 1954 ทีมชาติสกอตแลนด์ หนึ่งใน 16 ทีมรอบสุดท้าย ให้ผู้เล่นไปสวิสเซอร์แลนด์เพียง 13 คนเท่านั้น ที่เหลือ 9 คน เป็นตัวสำรองโดยอยู่ที่บ้านแทน  (ปัจจุบันฟุตบอลโลกทุกทีมต้องมีนักเตะทั้งสิ้น 23 คน โดยต้องมีผู้รักษาประตูสามคน)

9. เมื่อฟุตบอลโลกปี 1994 ทีมชาติแคเมอรูนเป็นหนึ่งใน 24 ทีมรอบสุดท้าย ผู้เล่นทั้ง 22 คน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 27.04 ปี โดยผู้เล่นที่อายุมากที่สุดคือ "โรเจอร์ มิลล่า" อายุ 42 ปี ส่วนหนุ่มที่สุดคือ "ริโกแบร์ ซง" อายุเพียง 17 ปีเท่านั้น ห่างกันมากกว่าสองรอบเลยทีเดียว


10. ในฟุตบอลโลกปี 1994 รัสเซียชนะแคเมอรูนไป 6-1 นัดนั้นมีสองเหตุการณ์สำคัญคือ โอเล็ก ซาเลนโก้ ทำคนเดียว 5 ประตู ส่วนแคเมอรูนตีไข่แตกได้จากโรเจอร์ มิลล่า วัย 42 ปี เขาเป็นนักฟุตบอลอายุมากที่สุดในโลกที่ทำประตูในฟุตบอลโลกได้


11. ฟุตบอลโลกปี 1954 เยอรมันตะวันตก เป็นแชมป์โลกทีมเดียวที่มาจากนักเตะสมัครเล่น เนื่องจากลีกอาชีพหรือบุนเดสลีกานั้นเพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 1963


12. “เปาอั๋น” ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ผู้ตัดสินในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยลงทำหน้าที่คู่ระหว่างโมร็อกโคกับนอร์เวย์ในนัดแรกกลุ่มเอ และ ไนจีเรียกับปารากวัยในนัดสุดท้ายกลุ่มดี


ที่มา facebook.com/Soccerknowledge

Comments

[แง่งขิง]

ปีนี้เชียร์ สเปน เยอรมัน  เอากัปตันเจิดอีกทีมกันเหนียว (_-_) เหมือนจะพนันกับใครเน๊าะ