Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ถาม] ประสบการณ์พี่ๆ (ที่สอบเข้า) "คณะรัฐศาสตร์" ทุกมหาวิทยาลัย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ทุกคน :) 

ตอนนี้ก็คงเป็นช่วงเวลาที่พี่ๆ หลายคนเริ่มผ่อนคลายกันบ้างแล้ว (คิดว่านะ .___.)

ก็เลยอยากจะ "ถามถึงประสบการณ์ การสอบ การเตรียมตัว ฯลฯ" ของพี่ๆ ที่ตั้งใจเข้า "คณะรัฐศาสตร์" ของทุกมหาวิทยาลัยเลยค่ะ (โดยเฉพาะจุฬาฯ)

***เราตั้งใจเข้าสาขาระหว่างประเทศค่ะ***

อาทิ 
-เกณฑ์ที่ใช้ยื่นคะแนน
-รับตรง/แอด
-การเตรียมตัว
-แนะนำที่ติวคณะรัฐฯโดยเฉพาะ
-แนวข้อสอบ
-ฯลฯ

ขอรายละเอียดทู๊กกกกกกกกกกกกกกกอย่างเลยค่ะ

ขอความกรุณาด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้ามากๆ ค่ะ



แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

Cool74 12 พ.ค. 57 เวลา 21:14 น. 1

สวัสดีครับคุณน้อง

ก่อนอื่นพี่ขออวยตัวเองหน่อยเลยว่า น้องโชคดีมากนะครับ ที่พี่บังเอิญมาเห็นกระทู้คุณน้องเข้าเป็นคนแรกๆ(บอกแล้วว่าอวยตัวเอง 555) ทำไมนะรึ? เพราะพี่เนี่ย...ยังไม่ติดรัฐศาสตร์ครับ!(ตะหลึ่งตึ่งโป๊ะ!) ม่ายช่าายยย คือพี่เนี่ยผ่านสนามสอบรัฐศาสตร์มาถือว่าค่อนข้างเยอะ(สอบ 3 ยื่นคะแนน 2) พี่เชื่อว่าพี่แนะนำน้องในด้านพื้นฐานกว้างๆได้น่าจะครอบคลุมอยู่ ส่วนในแง่เบื้องลึกเฉพาะทางก็อาจจะต้องให้พี่ๆเพื่อนๆในเด็กดีชวยกันแนะนำ เสริมเพิ่มเติมกันซะหน่อย

ก่อนอื่นเลย ต้องถามก่อนว่าน้องอยากเข้าที่ไหนครับ? จุฬา? ธรรมศาสตร์? ถ้าดีที่สุดของประเทศก็ 2 ที่นี้หละครับ ที่หนึ่งทั้งคู่(พูดกันตรงๆ no offence นะ) หรือถ้าจะเอารองลงมาหน่อยก็เชียงใหม่ หรือเกษตร(ตอนนี้เชียงใหม่อันดับ 3 นะครับ no offence เช่นกัน ^ ^") หรือถ้าอยากติดคนแรกๆ แต่ม.ไม่ธรรมดา ก็ มศว ครับ(สอบกันยายน ธันวาคมรู้เรื่อง)

เอาหละ เข้าเรื่อง การเข้าคณะรัฐศาสตร์ในประเทศไทย ทั้งหมดมี 3 ทางครับ

1.สอบตรง
2.รับตรง
3.แอดมิชชั่นกลาง

เห็นว่าน้องอยากให้เน้นจุฬา งั้นเราก็จะเริ่มจากทางที่ไม่ใช่จุฬาก่อนนะครับ 555

เส้นทางหมายเลข 1 "สอบตรง"

การ สอบตรงนั้นเป็นทางที่พี่เชื่อว่าเท่าเทียมกันใช้ได้ครับ คือทุกคนใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน ซึ่งทางม.เป็นคนออกข้อสอบเอง ทำให้ม.ได้คนที่มีคุณภาพในแบบที่ต้องการเป๊ะๆ

ม.ที่ใช้วิธีสอบตรงมี หลักๆ 2 ม.คือ มศว กับ มธ. ครับ(ขอใช้ตัวย่อนะ) ซึ่งก็จะมีรายละเอียดบางอย่างต่างกัน คือข้อสอบ มศว วัดความรู้ทั่วๆไปที่เราเรียน(ไทย อังกฤษ สังคม ความถนัดทางการเรียน(คล้ายๆทดสอบไอคิว))และความรู้พื้นฐานทางรัฐศาสตร์ แต่ข้อสอบ มธ. วัดความรู้พื้นฐานทางรัฐศาสตร์ล้วนๆ

มันจะสนุกก็ตรง นี้ละครับ เพราะความรู้พื้นฐานทางรัฐศาสตร์เนี่ย...ไม่มีสอนในห้อง!!!(จริงๆก็มีตอนม.4 นะ แต่ปริมาณเนื้อหามันแค่ไม่ถึง 1% ของข้อสอบ)คนตั้งใจเรียนกับไม่ตั้งใจเรียนจึงต้องเริ่มใหม่เหมือนกัน(ที่ว่า เท่าเทียมกันก็ตรงนี้ละ) ที้นี้ทำยังไงละ? ก็มี 2 ทางครับ คืออ่านเองกับเรียนพิเศษ ซึ่งถ้าน้องไม่ค่อยจะมีหัวทางด้านนี้เนี่ย เรียนไปเถอะครับ ราคาถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับเวลาที่น้องจะเสียไปกับการอ่านเองอย่าง งงๆ(แต่พี่อ่านเองนะ 555)
แต่! แต่นะครับแต่ ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ที่แค่เรียนก็ติดแล้ว เพราะทางม.เริ่มไหวตัวทัน หลบแนวข้อสอบหักปากกาเซียนกันเป็นแถว(แบบข้อสอบมธ.ล่าสุด) พี่เลยขอแนะนำว่า ถ้าจะเรียนให้เรียนแค่พื้นฐานพอครับ จากนั้นต้องเอาข้อสอบปีที่แล้วๆมาลองทำดูครับ แล้วค่อยอาศัยเนื้อหาข้อสอบเก่าตีกรอบความกว้างของเนื้อหาที่ควรจะอ่าน ครับ(ยุ่งยากเนอะ) ถ้าน้องไม่ทำอย่างนี้น้องจะจับแนวไม่ถูกครับ เพื่อนพี่หลายคนเลยที่เชื่อตามที่เก็งกันไว้จากที่เรียนพิเศษ สุดท้ายไม่ออกครับ เขาหลบแนว ไม่ติดกันเป็นแถว

อ้อ ลืมบอกไปเลย ข่าวปัจจุบัน ณ ตอนนั้นสำคัญมากนะครับ คิดเป็นประมาณ 30% ของข้อสอบได้ ต้องเกาะติดข่าวให้แน่นยิ่งกว่าเกาะจรวดไปดาวอังคารอีกนะครับ เน้นข่าวใหญ่ๆครับ ทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศไม่ยากครับ ตามทีวีหนังสือพิมพ์ แต่ต่างประเทศจะยากนิดนึงครับ เพราะสื่อบ้านเราตามไม่ค่อยจะทัน พี่แนะนำให้น้องดูพวก bbc cnn ครับ(แอพมือถือของเขาเวิร์คมาก โหลดซะ) ไม่งั้นอาจหลุข่าวได้

สรุปนะ ครับ เรียนพื้นฐานเรียนได้ครับ แต่จากนั้นต้องอาศัยการอ่านเองเป็นสำคัญ ข้อสอบเก่าจะทำให้น้องเข้าใจแนวของเนื้อหาที่จะออกได้มากขึ้น และต้องคอยตามข่าวอยู่ตลอดเวลาด้วยครับ

เส้นทางหมายเลข 2 "รับตรง"

การ"รับ ตรง"ต่างจาก"สอบตรง"ก็ตามชื่อครับ คือไม่ต้องทำข้อสอบ...ของมหาลัยนะครับ(อย่าด่วนดีใจ อิอิ) รับตรงจะเป็นลักษณะการเอาคะแนนที่เราทำได้จากข้อสอบกลางไปยื่นกับทางมหาลัย มหาลัยจะเอาคะแนนของเราไปคำนวนตามสูตร(เพราะบางวิชาน้ำหนักคะแนนไม่เท่า กัน)จากนั้นก็รวมคะแนนแล้วจัดอันดับ ใครอันดับถึงก็มีสิทธิไปสอบสัมภาษณ์ต่อ เช่นรับ 10 อันดับ 1-10 ก็ได้ไป แต่ถ้าแค่ 5 คนอันดับ 6-10 ก็อดด้วยครับ

การรับตรงของรัฐศาสตร์จะใช้ข้อสอบ 2 ชุดครับ คือ GAT/PAT สามัญ 7 วิชา
เนื้อหาข้อสอบพี่ขอข้ามนะครับ เชื่อว่าน้องหาอ่านเอาน่าจะละเอียดกว่า
วิชา ที่น้องต้องสอบ อย่างมากก็มีเท่านี้ครับ คือ แกท แพท1(เลข) แพท7(ภาษาที่ 3) เลข ไทย อังกฤษ สังคม ไม่เกิน 7 วิชาครับ ส่วนจะใช้อะไรบ้างนั้นอยู่ที่ทางมหาลัยกำหนดครับ เช่น มก. ล่าสุด ตอนแรกประกาศว่าจัดหนักใช้ 7 ตัว มาตอนหลังไม่รอแกทแพทแล้ว ใช้แค่ 4 วิชาของสามัญ 7 วิชา หรืออย่าง ฬ ก็ใช้แค่ 2 วิชาเท่านั้น คือแกท กับแพท1หรือแพท7 แล้วแต่จะเลือกยื่น

ทีนี้ตามคำขอครับ เจาะลึก ฬ
สำหรับ รับตรง ฬ พี่เรียกว่าอินดี้มากๆครับ เพราะอย่างที่บอกว่าใช้แค่ 2 วิชา(คณะอื่นๆอย่างต่ำ 4 วิชา) ยังไม่พอครับ อัตราส่วนของคะแนนก็อินดี้ครับ คือแพท1หรือ7 30% และแกทอีก 70%!!! เรียกว่าแกทห่างกันแค่ 5 คะแนนนี่เหมือนอยู่คนละโลกเลยทีเดียว ยังอีกครับ วิธีรับคือรับรวมทุกศิลป์ หมายความว่าไม่ว่าน้องจะเอาแพทอะไรมายื่น ก็จะเอาคะแนนมาบวกกับแกทแล้วไปกองรวมกับของคนที่ยื่นมาจากแพทอื่นในสาขา เดียวกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่มักเกิดขึ้นก็คือ แพทฝรั่งเศสกับแพทญี่ปุ่นมักจะกินเรียบครับ ยังไม่หมดครับ! รับแค่สาขาละ 10 คนเท่านั้น!! ใช่ครับ รวมทุกศิลป์และสาขาละ 10 คน เอาตรงๆนะครับ โคดยากเลยพี่น้อง ใครติดนี่เทพมากๆเลยละ

เส้นทางหมายเลข 3 "แอดมิชชั่น"

แอด มิชชั่นมักจะเป็นเส้นทางที่ม.6 กลัวมากที่สุด หลีกเลี่ยงมากที่สุด ทั้งๆที่จริงๆแล้วแอดมิชชั่นเป็นระบบที่ขอแค่วางแผนให้ดีตั้งแต่ต้น ก็ติดคณะในฝันได้เหมือนกับสอบตรงรับตรง เผลอๆจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ

แอด มิชชั่นทั้งหมด 100% จะมี 50% พื้นฐานที่จะใช้เหมือนกันหมดทุกคณะทุกมหาลัยครับ คือ GPAX 20% กับ O-NET อีก 30% GPAX คืออะไร? พูดง่ายๆก็คือเกรดเฉลี่ย 6 เทอมของน้องครับ นี่แหละคือ 20% จาก 100 แล้ว ส่วน O-NET เป็นข้อสอบกลางอีกชุดนึงครับ ต่างจาก GAT/PAT สามัญ 7 วิชาซึ่งค่อนข้างยากตรงที่ว่า มันยากกว่าข้อสอบของร.ร.น้องนิดเดียวเองครับ เพราะเป็นการวัดเนื้อหาในห้องเรียนเท่านั้น เพียงแต่ว่าจะรวมตั้งแต่ม.4-6 เลย ดังนั้นจะค่อนข้างกว้างหน่อย แต่ไม่ลึกมากครับ กลับไปอ่านที่จดไว้ก็ช่วยได้เยอะมากแล้ว

ส่วนอีก 50% ที่เหลือ ก็แล้วแต่คณะ/มหาลัยครับ รัฐศาสตร์ส่วนใหญ่จะใช้แกท 30% กับแพท1หรือแพท7อีก 20% จะมีก็รัฐศาสตร์ ฬ อีกแล้วครับ ที่อินดี้ใช้แกท 50% เว้นสาขารปศ.ที่ใช้แกท 30% แพท1 20%

ก็จบแล้วละครับ สำหรับ 3 ทางในการเข้าคณะรัฐศาสตร์ เป็นไง? งงดีใช่มะ? 555

พี่ ขอแนะนำเพิ่มไว้นะครับ ว่าพยายามเป็นสิ่งที่ดีครับ"ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" แต่นะครับ พี่ไม่เชื่อครับว่าแค่ความพยายามอย่างเดียวจะสำเร็จได้ เราต้องมีการวางแผน ต้องใช้ปัญญานำทางครับจึงจะสำเร็จ พี่จึงอยากให้น้องวางแผนให้ดีๆว่าจะเข้าอะไร วิธีไหน และต้องทำอะไรบ้าง ยกตัวอย่างตัวพี่เองเลยละกัน เป้าของพี่คือรัฐศาสตร์ ฬ แต่รับตรงมันยากกินไปสำหรับพี่ พี่ก็เลยเล็งที่รอบแอดมิชชั่นที่รับถึง 60 คน ดังนั้นตั้งแต่เปิดเทอมม.6 พี่จึงไม่ทิ้งเกรดร.ร. ตั้งใจเรียนในห้อง และเรียนพิเศษแค่ภาษาอังกฤษสำหรับแกทแค่ 2ชม.ต่อครั้ง 2ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น และผลที่ออกมาตอนนี้นะเหรอ? ใช่ครับพี่ยังไม่ติด แต่คะแนนรอบแอดพี่ตอนนี้ก็พวกเป็นพันแล้วครับ พี่จึงมั่นใจครับ ว่าพี่ไม่น่าจะหลุด ฬ แล้วละ

จำไว้เลยนะครับว่าต้องวางแผน จะเข้าอะไร อย่างไร และต้องทำอะไรบ้าง นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดยิ่งกว่าการทุ่มเทอ่าหนังสืออีกครับ

โชคดีครับ

ปล.สำหรับ คนที่อยากรู้จักพี่มากขึ้น(อารมณ์แบบใครที่ไหนมาแนะนำตูหว่า) ขอแนะนำตัวเล็กน้อยละกันนะครับ พี่เรียนร.ร.เอกชนแห่งหนึ่งในเขตดุสิตที่ขนาดเล็กมากแต่ชื่อค่อนข้างดัง พี่สอบติดตัวจริงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมศวและผ่านสัมภาษณ์แล้วแต่สละ สิทธิ์ ไม่ได้ยื่นมก.แต่ถ้ายื่นก็จะติดปกครอง ติดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศภาคภาษาอังกฤษตรีควบโทมธ. แต่ไม่ไปสัมพาดเพราะมันตัดสิทธิ์คนอื่น แล้วก็ติดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมธ. แต่ไม่ไปสัมพาดเพราะกลัวตัดสิทธิ์คนอื่นเช่นกัน(มารู้ทีหลังว่าไม่มีตัว สำรอง สรุปตัดสิทธิ์คนอื่นไปแล้ว ยังแอบเสียใจที่ไปสอบอยู่) ล่าสุดไม่ติดรัฐศาสตร์ ฬ ซักสาขา(คะแนนมันสูงจริงๆ ให้ตายสิพับผ่า - -") ตอนนี้ก็รอแอดมิชชั่นอยู่และคะแนนก็บวกเป็นพัน ^ ^

2
Phayakwai 10 พ.ค. 59 เวลา 21:25 น. 1-2

ขอบคุณพี่มากครับ (มีพี่ใจดีส่งลิงค์มาให้อ่าน)

0
นามแฝง 13 พ.ค. 57 เวลา 10:49 น. 3

กราบงามๆ ขอบพระคุณมากค่ะ >___<

คุณพี่บอกรายละเอียดค่อนข้างดีเลยทีเดียวทำให้เข้าใจระบบในการรับได้มากขึ้น
ถ้าเรามีอะไรสงสัยเพิ่มเติมจะแอดเพื่อนเด็กดีไปถามนะคะ ขอบคุณอีกครั้งมากๆ ค่ะ

ตั้งใจ

0