4 สัญญาณเตือนว่าสุขภาพทางการเงินของคุณกำลังมีปัญหา

[คุณนพรัตน์ นุชนารถ]

บางครั้งเราเห็นใครบางคนที่มีปัญหาด้านการเงิน เราเคยสงสัยว่าทำไมเขาปล่อยปัญหาให้เกิดขึ้นจนยากจะแก้ไข เราคิดว่า “ปัญหาแบบนั้นไม่มีทางจะเกิดกับฉันได้หรอก”
แต่ความเป็นจริงก็คือ การเป็นหนี้มันอาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วจนเราตั้งตัวไม่ทันและกว่าจะตระหนักถึงมันจริงๆ ก็อาจจะสายเกินแก้เสียแล้ว เราต้องเริ่มสังเกต “อาการ”
ของ “ความเจ็บป่วยทางการเงิน” ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ “รักษาเยียวยา” ได้ทันและเริ่มต้นดูแลสุขภาพทางการเงินได้อย่างถูกวิธี
#1 คุณมีความไม่พอใจอยู่เสมอ
คุณพบว่าตัวเองคอยอยากได้นู่นนี่อยู่เสมอหรือไม่ รู้สึกอิจฉาหรือไม่พอใจไหมเวลาเห็นเพื่อนหรือญาติพี่น้องของคุณอัพเกรดรถคันใหม่ บ้านที่ใหญ่ขึ้น เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสวย
หรือ แม้แต่ถ้าลูกเพื่อนเรียนโรงเรียนที่แพงกว่า ดีกว่าลูกของตัวเอง?
ถ้าคุณตอบว่า “ใช่” อย่างเงียบๆ ในใจ อาการไม่พอใจในตัวคุณอาจเป็นตัวผลักดันให้คุณตัดสินใจด้านการเงินอย่างหุนหันพลันแล่นได้

#2 คุณไม่สามารถที่จะสูญเสียรายได้ที่มีอยู่ของคุณได้
ถ้าคุณหรือคู่ของคุณสูญเสียรายได้ที่มีอยู่ คุณสามารถใช้เงินเก็บที่คุณมีเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้อย่างน้อย 6 เดือนไหม ถ้าคำตอบคือ “ไม่” หรือ ถ้าคุณไม่แน่ใจคุณอาจกำลังใช้เงินเกินตัวหรือใช้เงินอนาคตอยู่

#3 บัตรเครดิตเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ
ถ้าหนี้บัตรเครดิตรายเดือนของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะลดลง คุณใช้บัตรใบหนึ่งเพื่อจ่ายหนี้ของอีกใบหนึ่งอยู่หรือเปล่า ถ้าคำตอบคือ “ใช่” แปลว่าคุณกำลังใช้ชีวิตเกินพอดี

#4 คุณไม่เคยเขียนแผนเพื่อจัดการด้านการเงินของคุณเลย
การออมเงินเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพทางการเงินที่ดี แต่จริงๆแล้วมีคนเพียงไม่กี่คนที่ตระหนักถึงการออมเงิน หนึ่งในข้ออ้างที่ใช้กันบ่อยที่สุดในการไม่มีเงินออมก็คือ
“ฉันมีหนี้มากเกินไป” หากเรายังไม่ตระหนักถึงการออมเงินก่อนการใช้จ่าย หนี้สินมักจะมาก่อนเสมอๆ
คนทั่วไปใช้ชีวิตแบบขาดความรู้ความเข้าใจด้านการเงินความรู้และทักษะที่ควรจะมีเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองโดยเฉพาะในเวลาที่ “เศรษฐกิจชะลอตัว” อย่างในปัจจุบัน
สัมมนา : The Millionaire Mind Intensive (คิดอย่างไรให้รวย)
เราแต่ละคนมีพิมพ์เขียวทางการเงินฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก และพิมพ์เขียวนี้จะเป็นตัวกำหนดชีวิตการเงินของคุณ น่าเสียดายที่พิมพ์เขียวทางการเงินของคุณในตอนนี้จะอยู่กับคุณตลอดไปนอกเสียจากว่าคุณจะค้นพบและเปลี่ยนมัน
คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตโดยปราศจากความสามารถที่จะช่วยให้พวกเขาเป็นผู้ชนะในเกมทางการเงิน และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในทางการเงินได้เลย คนทั่วไปนั้นขาดความรู้เกี่ยวกับการเงินซึ่งเป็นความรู้ความสามารถที่จะสร้างความมั่งคั่ง โดยเฉพาะในช่วง เศรษฐกิจ "ขาลง"
ในการที่จะเปลี่ยนแปลงพิมพ์เขียวทางการเงินนี้คุณต้องเรียนรู้ใหม่ คุณจะต้องปรับตัวเองเพื่อความสำเร็จในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นักเขียนระดับโลก T.Harv Eker ได้นำการสัมมนา The Millionaire Mind มาสู่คุณ การสัมมนา 3 วันแบบเข้มข้นที่จะนำความรู้และมอบเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้ได้จริง คุณจะได้เรียนรู้วิธีการเปลี่ยนความคิดของคุณเกี่ยวกับการเงิน และ รีโปรแกรมความคิดของคุณให้เป็นเหมือนคนร่ำรวยและประสบความสำเร็จ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทั้งหมดที่คุณจะได้เรียนรู้
- พิมพ์เขียวทางการเงินในปัจจุบันของตัวคุณกำหนดให้คุณเป็นแบบไหน (ยากจน ฐานะธรรดา หรือร่ำรวย)
- ทำอย่างไรจึงจะหยุดพิมพ์เขียวของคุณในปัจจุบันและทำอย่างไรที่จะรีเซทมันเพื่อความสำเร็จแบบอัตโนมัติ
- คนมั่งคั่งคิดแตกต่างจากคนยากจนอย่างไรและอะไรที่เป็นต้นแบบจากคนเหล่านั้น
- ทำไมความร่ำรวยจึงเป็นสิ่งสำคัญในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน
- ทำอย่างไรจึงจะเจริญรุ่งเรืองในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน
- "จำนวนเงิน" ที่แท้จริงที่คุณต้องการเพื่อที่จะมีอิสระภาพทางการเงินคืออะไร
- วิธีการบริหารเงินที่ง่ายดายที่สุด เรียบง่ายที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก
- ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จโดยที่มีความสมดุลในชีวิต (เหมาะกับคนบ้างาน)
- วิถีทางใหม่ในการทำธุรกิจที่เหมาะสมที่สุดสำหรับยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าอะไรคือพิมพ์เขียวส่วนบุคคล พวกเราทุกๆ คน มีพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จที่กำหนดวิธีการที่เราพิจารณาเงินทองและความสำเร็จ มันมีต้นกำเนิดมาจากการตั้งโปรแกรมในอดีต ซึ่งก็คือสิ่งต่างๆ ที่เราเรียนรู้เมื่อเราเป็นเด็กซึ่งเบื้องต้นแบ่งเป็นสามทาง ได้แก่ สภาวะทางคำพูด-สิ่งที่เราได้ยิน ต้นแบบ-สิ่งที่เราเห็น และ เหตุการณ์เฉพาะ-สิ่งที่เราได้ประสบพบเจอ แบบแผนเหล่านี้ได้ถูกก่อร่างขึ้นในช่วงชีวิตวัยเด็กของเราและมันได้ปรับทัศนคติของเราต่อความมั่งคั่งเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ กระทบต่อวิธีการที่เราใช้จ่าย เก็บหอมรอมริบ และลงทุน
“ในเมื่อพิมพ์เขียวสำคัญในการกำหนดชีวิตคุณมากขนาดนี้ รู้อย่างนี้แล้ว จะดีไหมหากมีใครคนหนึ่งที่เขาสามารถประสบความสำเร็จและเขายินดีจะช่วยคุณให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมกับเขาด้วย” ?????

Comments

[๑AnoNaE๑]

ถ้าคุณหรือคู่ของคุณสูญเสียรายได้ที่มีอยู่
คุณสามารถใช้เงินเก็บที่คุณมีเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้อย่างน้อย 6 เดือนไหม

ดูจากพ่อแม่เรา น่าจะได้อยู่นะ
แต่คงไม่มีตังจ่ายค่าเทอม =_=