Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระบาย....ความในใจ ที่สายไปแล้วTT

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน นี่เป็นกระทู้แรก ถ้ามันไม่ดีขอโทษนะ เรามีบางอย่างที่เก็บไว้ในใจมานาน อยากจะมาเล่าให้ฟัง ในวันนี้มันอาจจะสายไป แต่ขอให้เก็บไว้ลองคิดกันดูนะ มันยาวไปหน่อย เราไม่เคยตั้งกระทู้ แนะนำเราได้นะ เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้นเป็นตอนม.3 เราเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ มีรุ่นพี่คนหนึ่งตอนนั้นเค้าอยู่ม.5 เค้าทั้งหล่อ น่ารักและนิสัยดี เราเห็นเขาชอบช่วยงานคุณครู เค้าเป็นที่รักของครูหลายคนในโรงเรียน แน่นอน ต้องมีคนมารุมชอบพี่เค้า รวมทั้งเราด้วย แต่เราหน้าตาธรรมดาๆ ใส่แว่นด้วย สีผิวก็ไม่ได้ขาวอะไร ออกสองสี เราแอบมองพี่เค้าอยู่ตลอด เลยทำให้รู้ว่าพี่เค้ามีที่นั่งประจำที่บันไดทางขึ้นห้องนาฏศิลป์ เราก็มักจะเดินผ่านไปทางนั้นบ่อยๆ ไปเข้าห้องน้ำบ้าง(แม้ว่ามันจะคนละทางก็เหอะ) ตอนที่พี่เค้าเรียนเต้นลีลาศเราก็จะไปแอบดูว่าพี่เค้าเต้นคู่กับใคร มันมีอารมแบบ แอบอิจฉานิด ๆ >< การแอบรักของเรามันเป็นได้แค่การแอบเท่านั้นจริง ๆ แต่เพื่อนของเรารู้ มันจะแซวเราเวลาที่พี่เค้าเดินผ่านพวกเรา ครั้ง1 ที่เราแอบมีหวังที่ได้ใกล้พี่เค้า ให้เค้ามองเราสวยบ้าง มันเป็นตอนที่มีกิจกรรมโรงเรียน เราได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนนางนพมาศของม.3 แล้วต้องมีชายที่ทำหน้าที่ถือร่มให้ มีคนเสนอชื่อพี่เค้า เราดีใจมาก แต่พี่เค้าไม่ได้ถือให้เรา -.-
ตอนนั้นมีหนังแอบรักใสๆเรื่องหนึ่ง เรื่อง “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก” เราชอบดูมาก แอบคิดไปว่ามันคล้ายกับเรา และอยากให้มันจบแบบนั้นด้วย เราเลยมโนพี่เค้าเป็นพี่โชน และเรียกพี่เค้าในกลุ่มเพื่อนว่าพี่โชนด้วย พี่เค้าก็แอบคล้ายอยู่นะ พอดีพี่เค้าเป็นนักบอลโรงเรียน (มันบังเอิญมากไปใช่ป่ะ) เราเขียนบันทึกถึงพี่เค้าเกือบทุกวัน และตั้งใจจะทำให้เป็น diary เราก็พับดาวกระดาษใส่โหลไว้ ตั้งใจจะให้พี่เค้าในวันสำคัญ เราพยายามทำให้การแอบรักของเราเป็นคล้ายในหนัง จนวันหนึ่ง เราก็ได้เป็นดัมเมเยอรจริงๆ (ตลกเนอะ) ตอนนั้นเป็นตอน ม.4 เรายังเรียนต่อที่เดิม เราจะไปสมัครนางรำ เราก็เป็นไม่ได้ เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันสร้างขึ้นมาเพื่อเราเลยแหละ จะเชื่อเราไหมถ้าจะบอกว่าเราตั้งใจเรียนจนสอบได้ที่ 1 แต่เกรดไม่ได้สูงมากเท่าไรหรอก มันเป็นเป็นพลังแห่งรักไง เราพยายามทำตัวเราให้เด่นขึ้นเพื่อที่พี่เขาจะมองเห็นเราบ้าง เราเลยสมัครเป็นประธานนักเรียน เราไม่รู้ว่าพี่เค้าจะเลือกเราไหม ผลออกมาเราก็ได้เป็นจริงๆ แต่ของขวัญที่เราได้ในวันนั้นเองทำเราเสียใจไม่น้อย เพื่อนบอกว่า เห็นพี่เค้าเดินไปส่งน้องคน1 ตอนกลับบ้าน และเห็นมาหลายวันแล้ว มันเห็นเรากำลังหาเสียงอยู่เลยไม่อยากบอก หัวใจเราเจ็บจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก ทุกอย่างที่เราทำมาเค้าไม่เคยรับรู้ มันเป็นเพราะเราไม่เคยบอก ผิดเองที่เราไม่กล้าพอ TT หลังจากนั้นเราก็รู้ว่าเค้าคบกัน น้องคนนั้นเป็นเด็กนางรำของโรงเรียน น้องเค้าน่ารัก ขาว สวย เฮ่อ... ตั้งแต่นั้น เราก็ได้แต่แอบมองเค้าสองคนรักกัน และก็ไปเสียใจในกระดาษA4 เราไม่มีโอกาสที่จะบอกกับเค้าจากปากสักครั้งว่าเราแอบรักพี่เค้า รักมากแค่ไหน เราไม่เคยได้พูดเลย วันวาเลนไทนปีนั้น เราต้องเอาดอกไม้สอดในหนังสือไว้ เรามอบให้พี่เขาไม่ได้ เพราะเขามีแฟนแล้ว มันรู้สึกอึดอัด เราต้องอดทนกับภาพที่เห็น ทนแอบรักพี่เค้า จนพี่เค้าเรียนจบ เราร้องไห้เสียใจในวันอำลา และของที่เราทำไว้ให้พี่เขาก็ยังอยู่ที่เรา เราคิดว่าในวันนี้มันยังไม่พร้อมที่จะให้พี่เค้า เราแค่รอวันที่เราพร้อม วันที่เราดูดีพอ วันที่เราสวยพอ วันที่เหมาะสมพอ แล้วเราจะไปหาพี่เค้าและส่งมันให้ถึงมือพี่เค้าเลย
เรื่องราวไม่จบแค่นั้น เราติดตามพี่เค้าและเราก็รู้ว่าพี่เค้าเรียนที่ไหน ตอนนั้นพี่เขากับน้องคนนั้นเลิกกันแล้ว แต่เรายังดูดีไม่พอ (ไม่รู้เรารออะไรTT) เราก็ได้แต่แอบส่องเฟสเค้าแล้วภาวนาให้พี่เค้ายังไม่มีใคร จนในวันนี้เราจบม.6แล้ว และสิ่งที่ทำให้เราดีใจแทบบ้า คือเดือนที่แล้ว (เมษา 57) พี่เค้ามาทักเฟสเรา ถามว่าเราเรียนต่อที่ไหน เราไม่ตอบทันที แต่ไปพิมพ์บอกเพื่อนหลายคนเลยแหละ เราไม่ได้คุยกับพี่เค้าทุกวัน พี่เค้าต้องทำงาน เรากลัวพี่เค้ารำคาญด้วย เราจึงตัดใจไม่ทักไป แต่อยากจะบอกพี่เค้าว่า เรามีความสุขมากที่ได้คุยกับพี่เค้า แม่จะไม่กี่ประโยคก็ตาม
15 พฤษภาคม 2557 ข่าวร้ายที่ทำให้เราใจสลาย ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เพื่อนเราโทรมาบอกว่า “รู้ยัง พี่เค้าไปแล้วนะ” เราใจไม่ดีถามว่าไปไหน และคำนั้นที่เราไม่อยากได้ยีน มันก็ออกมา “พี่เค้าไปสบายแล้ว ถูกรถชนตอนตี4” เราทรุด มันไม่ไหวจริงๆ เรื่องราวทั้งหมดมันเข้ามาในหัว น้ำตาหยุดไหลไม่ได้ มันไม่มีแรง มันทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว เราภาวนาให้ไม่เป็นความจริง เรารีบเข้าไปดูในเฟส ภาพที่เห็นคือ ข่าวพี่เค้าที่เพื่อนพี่เค้าแทร็กไว้ พี่เค้ากลับจากที่ทำงาน มาช่วยงานปฐมนีเทศที่โรงเรียนเก่าเรา และรีบตีรถกลับไปทำงาน แต่ประสบอุบัติเหตุรถชน พี่เค้าเสียชีวิตคาที่ มันไม่มีโอกาสเลยที่พี่เค้าจะฟี้นขึ้นมา ถึงตอนนี้ เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ถามตัวเองว่าทำไม ทำไมเราปล่อยเวลาให้มันผ่านไปขนาดนี้ มันไม่มีแล้ว มันไม่มีโอกาสแล้ว เราใจแทบขาด ทุกอย่างมันจบแล้ว เรามันบ้า!! เอง เราทำได้เพียงไปร่วมงานศพพี่เค้า และคำพูดที่เหมาะสมตอนนี้คงไม่ใช่คำว่า “รัก” แต่เป็นคำว่า “สู่สุคตินะคะ ชาติหน้ามีจริง พี่มาเป็นคนที่หนูแอบรักใหม่นะคะ :’( รักและคิดถึงตลอดไป พี่โชน (อวสานน้องน้ำแอบรักพี่โชน....)
ไดอารี่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเจ้าของ การแอบรักมันก็คงเป็นการแอบรักต่อไป ตราบเท่าที่พี่เค้าและเรา ไม่ได้พบเจอกัน :’(
แค่อยากฝากไว้ ว่า หากรู้สึก ว่ากำลังรักใครสักคน อย่ากลัวการถูกปฏิเสธ แต่จงกลัวว่า ถ้าวันใดเกิดตายจากกัน จะไม่มีโอกาส แม้จะบอกสักครั้ง ว่า "รัก" รักใครชอบใครอย่ารอเวลา ให้รีบบอก ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะ ไม่มีโอกาส แม้จะได้บอกเค้าอีกต่อไป -.-
ทำทุกวันให้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตกนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

55 ความคิดเห็น

Princess Pig Aomsin 19 พ.ค. 57 เวลา 20:53 น. 2
อ่านไป น้ำตาไหลไป กระซิๆ //ร้องไห้แปป//


 
โอ้ชีวิตเอยงดงามอย่างนี้ จบชั่วชีวีโหยหาความรักไปเคยพอ... นึกถึงเพลงนี้เลยท่อนนี้เลย(เนื้อถูกป่าวหว่า??

เสียใจด้วยนะคะ จขกท. พี่เค้าจะอยู่ในใจเราตลอดไปค่ะ อุ๊ยย.อินจัด
0
สมหมาย 19 พ.ค. 57 เวลา 22:54 น. 7

ชีวิตคนเราผิดหวังกันได้ พระพุทธเจ้าเคยสอนสั่งไว้กาลหนึ่งว่า
ผลกรรมเป็นสิ่งติดตัวตามแต่ชีวิตต้องยังคงมุ่งหวังทำกรรมดีอย่างไม่ละ
ดังนั้นชีวิตหนูเอง แม้ตอนนี้จะมีแต่ความผิดหวัง ก็ต้องอดทนทำกรรมดีต่อไป
ภายภาคหน้าจะได้พบแต่ความสมหวังตามที่อดทนมา ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า
เชื่อลุงนะ เอาบทสวดมนต์นี่ไปสวด เช้า กลางวัน เย็น รอบละ3จบ

กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา ฯ กะตะเม
ธัมมา กุสะลา ฯ ยัสมิง สะมะเย กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง อุปปันนัง
โหติ โสมะนัสสะสะหะคะตัง ญาณะสัมปะยุตตัง รูปารัมมะณัง วา
สัททารัมมะณัง วา คันธารัมมะณัง วา ระสารัมมะณัง วา โผฏฐัพ-
พารัมมะณัง วา ธัมมารัมมะณัง วา ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ ตัสมิง
สะมะเย ผัสโส โหติ อะวิกเขโป โหติ เย วา ปะนะ ตัสมิง
สะมะเย อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา อะรูปิโน ธัมมา อิเม
ธัมมา กุสะลา ฯ

ชีวิตมีแต่ความเจริญๆนะหนูเอ๊ย

0
fai1638 20 พ.ค. 57 เวลา 13:34 น. 10

ขอแชร์นะคะ ให้เปนข้อคิดกับคนอื่นๆ และขอเปนกำลังใจให้จขกทด้วยคนนะคะ
สู้ๆ ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไปนะ

0
NookNick 20 พ.ค. 57 เวลา 14:16 น. 11

สู้ๆ นะ เศร้าอ่ะ เราก็แบบนี้เหมือนกัน แอบรัก กลัวถ้าจะไปบอก เราก็เลยเก็บไว้รอวันที่เราดีพอ เฮ้ออออออออออออออออออออ แต่ยังไงก็ไม่กล้าอยู่ดี นี่แอบชอบพี่เค้ามา  2 ปีแล้วแหละ TT^TT สู้ๆ นะ จขกท 

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

HuNniE_E.X.O 20 พ.ค. 57 เวลา 18:38 น. 17

อ่านแล้วเศร้ามากๆเลยค่ะ เราไม่รู้หรอกว่าแอบรักมันเป็นยังไงเนอะ คือไม่เคยมีจริงๆถึงแม้มันจะผ่านมา 15 ปีแล้ว แต่พออ่านเรื่องของ จขกท. มันทำให้เรารู้สึกเศร้าจริงๆค่ะ
สู้ๆนะคะ เราเดินต่อไปข้างหน้าดีที่สุดค่ะ...สักวันจะทำใจได้แน่ๆ :)

0
_MeLoN_TeA_ 20 พ.ค. 57 เวลา 18:41 น. 18

สู้ๆนะคะ เราเป็นกำลังใจให้ อย่าคิดมากนะคะ เขาไปสบายแล้วก็จริงแต่บางทีพี่เขาอาจจะให้กำลังใจ จขกท.อยู่ห่างๆก็ได้ 

0
spsrrk3025 20 พ.ค. 57 เวลา 19:44 น. 19

ความรักของเราก็คล้ายจขกท.ค่ะ เรื่องเกิดขึ้นไม่นานมานี้ คือเราแอบชอบรุ่นพี่คนนึงตั้งแต่ม.2 จนตอนนี้เราขึ้นม.6 ส่วนพี่เค้าก็จบม.6ไปแล้ว พี่เค้าเป็นคนนิสัยดี ขาว สูง เรียนเก่ง เราชอบพี่เค้ามากกก  ทุกวันก็จะหาโอกาสเข้าใกล้พี่เค้า พยายามทำให้พี่เค้าเห็นเรา ชอบไปดูตอนพี่เค้าเล่นบาสเกตบอล ตอนเช้ามาโรงเรียนก็จะมองหาพี่เค้า เพราะพี่เค้าจะนั่งโต๊ะข้างๆเราทุกวัน เพื่อนๆก็แซวกันตลอด จนวันนึงเพื่อนพี่เค้าหลายคนก็เหมือนจะรู้ว่าเราแอบชอบพี่เค้า เวลาเรามองพี่เค้าเดินกับเพื่อน เพื่อนพี่เค้าก็จะมองมาหาเราจนเราไม่กล้า เป็นอย่างนี้จนถึงเราอยู่ม.5 เราก็เห็นพี่เค้าน้อยลงเพราะเรียนหนักด้วย ส่วนพี่เค้าก็หยุดเรียนไปสอบเข้ามหาลัยด้วย นานๆทีจะเจอกัน จนวันนึงเป็นวันปฐมนิเทศจบม.6 เราก็ตัดสินใจกับเพื่อนเเล้วว่า เราจะไปถ่ายรูปกับพี่เค้า เอาเข้าจริงวันนั้นเรายืนมองพี่เค้าถายรูปกับเพื่อนอยู่นานมากกก คิดว่าจะไปถ่ายรูปกับพี่เค้าดีรึเปล่า แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดี เพื่อนก็บอกว่าทำไมไม่ไปถ่าย พี่เค้าจบเเล้วนะเว่ยย อีกเมื่อไหร่จะเจอกันอีก เราก็เลยพูดไปว่า ถ้าเรากับพี่เค้ามีวาสนาต่อกันจริง ก็คงได้พบกันอีกแน่ๆ หลังจากนั้นเราก็กลับบ้าน พอปิดเทอมใหญ่ม.5 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราไปงานบายเนียร์ห้องสายรหัส วันนั้นพี่เค้าก็มาด้วย เราเห็นพี่เค้าแต่พี่เค้าไม่เห็นเรา ถัดจากนั้นอีก2วัน เราไปเรียนพิเศษ เเล้วเพื่อนเราก็บอกว่า '- ได้ข่าวว่าพี่เค้าไปแล้ว' เราก็เลยพูดว่า ไม่จริงหรอก เพื่อนแกล้งล้อในเฟสมากกว่า ตอนนั้ไม่คิดไร เพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่เเล้ว แต่เพื่อนอีกคนนึงมากบอกอีกว่า 'รู้ข่าวยัง ว่าพี่เค้าขับรถชนเมื่อคืนตอนตี 3' ตอนนั้นเเหละ เราช็อค พูดไม่ออก ร้องไม่ออก สมองมันหยุดนิ่ง พอเรียน ก็เรียนไม่รู้เรื่อง กลับมากบ้านเปิดเฟส มีเพื่อนพี่เค้ามาR.I.P เต็มเลยย เท่านั้นเเหละ น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด นอนไม่หลับ ได้เเต่คิดว่ามันไม่จริง และก็นึกคำพูดของตัวเองในวันที่พี่เค้าจบม.6 แล้วร้องไห้ ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้... ตลอด4 ปีที่ผ่านมา มันสายไปแล้วจริงๆ TT  

0