Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เปิดตัวแล้ว iOS8

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



ประมาณเที่ยงคืนวันที่ 2 มิ.ย.2557 ตามเวลาประเทศไทย Apple ได้จัดงาน WWDC 2014 วึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปีโดยปีนี้จัดเป็นปีที่ 25  โดยปีนี้ได้เปิดตัว iOS 8 และ OS X  10.10 "
yosimite" โดยเปิดให้นักพัฒนาใช้ Beta ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
และจะเปิดให้ใช้ทั่วไปช่วง กันยายน-ตุลาคมปี 2014

เครื่องที่รองรับ iOS8

iPhone : iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s

iPad : iPad 2, iPad 3, iPad 4, iPad Air

iPad mini : iPad mini, iPad mini with Retina display

iPod touch : iPod touch รุ่นที่ 5


โดยฟีเจอร์เด่นๆ ของ iOS 8 มีดังนี้

 
Interactive Notifications คือการแจ้งเตือนที่เราสามารถโต้ตอบได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปถึงตัวแอปพลิเคชั่น สามารถพิมพ์ข้อความโต้ตอบผ่านทางแถบการแจ้งเตือนด้านบนได้เลย สามารถใช้ในหน้า Lockscreen ได้อีกด้วย


ใน Notifications Center  ได้ตัดแท็บ Missed ออกไปแล้วครับ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือแอปต่างๆ สามารถมี Widget เป็นของตัวเองอยู่ในแท็บ Today ได้ ไว้สำหรับบอกข้อมูลต่างๆ 


Quick Access เป็นการเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยจะอยู่ร่วมหน้า multitasking  จะมีรายชื่อผู้ติดต่อในรายการโปรด และรายชื่อที่ติดต่อล่าสุด สามารถติดต่อทางโทรศัพท์, ส่งข้อความ หรือ FaceTime หาได้ทันที

Spotlight ที่ใช้เป็นตัวค้นหาข้อมูลต่าง ๆ นั้น สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม โดย Spotlight จะสามารถค้นหาข้อมูลของ Wikipedia, ข่าวต่างๆ, สถานที่ใกล้เคียง, เพลงใน iTunes Store, แอปใน App Store, หนังสือใน iBook Store, รอบหนัง, ค้นหาเว็บทั่วไป หรือแนะนำเว็บ ซึ่งจะดูจากเนื้อหาที่เราพิมพ์แล้วแนะนำสิ่งที่คิดว่าเรากำลังจะหา

Quicktype มีระบบใหม่ที่ทำให้สามารถสะกดคำได้รวดเร็วและมีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งจะทายคำที่เราจะพิมพ์ต่อไป และเรียนรู้คำศัพท์ต่าง ๆ จากนิสัยการพิมพ์ของผู้ใช้งาน และที่สำคัญ รองรับภาษาไทย

คีย์บอร์ด นั่นคือโหลดแอปคีย์บอร์ดบน App Store มาลงเพิ่มได้ ไม่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดที่มากับเครื่องเพียงอย่างเดียว เช่น สามารถใช้งาน Swype Keyboard 

สำหรับ iMessages ใหม่นั้น จะเพิ่มความสามารถในการแชทเข้ามาหลายอย่าง เช่น สามารถแชทเป็นกลุ่มได้, สามารถแชร์ Location ได้, สามารถส่งข้อความเสียงแบบสั้นๆ ได้โดยใช้ Tap to Talk ซึ่งตรงนี้ก็มีลูกเล่นเก๋ๆ อยู่ที่สามารถฟังข้อความเสียงได้โดยยก iPhone ขึ้นมาแนบหูเพื่อฟังได้เลย,สามารถส่งวีดีโอได้, มีการรวมไฟล์แนบของการสนทนาเข้าไว้ที่เดียวให้สามารถดูย้อนหลังได้ง่ายๆ

Handoff ความสามารถในการทำงานต่างๆ ต่อกันได้ เช่นหากกำลังเขียน email ใน iPhone อยู่ ก็สามารถมาเขียนต่อใน OS X ได้เลย ซึ่งสามารถใช้งานได้กับแอปพื้นฐานติดเครื่องอย่างแอป Mail, Safari, iWork, Maps, Messages, Reminders, Calendar และ Contacts นอกจากนี้ในอนาคต แอปใน App Store ก็สามารถเขียนเพื่อใช้งานจีเจอร์ Handoff ได้ด้วยเช่นกัน


Instant Hotspot ใน iOS 8 นี้การแชร์เน็ตผ่าน iPhone กับเครื่อง Mac จะง่ายขึ้นไปอีก เมื่อเครื่องพบว่า iPhone กับเครื่อง Mac อยู่ใกล้กัน ก็จะสามารถแชร์เน็ตผ่าน Personal Hotspot ได้โดยทันที 

Phone Call การรับสายโทรศัพท์ไม่จำเป็นจะต้องหยิบ iPhone ขึ้นมารับอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะใน iOS 8 สามารถรับสาย/โทรออกผ่านทาง iPad หรือเครื่อง Mac ก็ได้เช่นกัน เพิ่มความสะดวกในกรณีที่ iPhone ไม่ได้อยู่ใกล้ตัว 

iCloud Drive คือ iCloud ที่ขยับขึ้นมาอีกขั้นนึง เริ่มทำงานเป็น Drive ได้อย่างเต็มรูปแบบ สามารถอัพไฟล์ขึ้นและเรียกดูไฟล์ต่างๆ ของ iCloud ผ่านจาก OS X, แอปต่างๆ ใน iPhone, iPod touch, iPad รวมไปถึง Windows ได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้ไฟล์ในกรณีที่มีอุปกรณ์หลายเครื่อง เรียกว่า Concept แนวเดียวกันกับ Dropbox ครับ

Health นั่นคือแอปพลิเคชั่นที่เคยลือว่าเป็น Healthbook นั่นเอง ซึ่งแม้ว่าชื่อจะไม่เหมือนกัน แต่หลักการทำงานนั้นไม่ต่างกันเลย 

สำหรับคนที่มีครอบครัวหลายคนที่ใช้ iOS ฟีเจอร์นี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวสำหรับการแชร์ content ต่างๆ ที่ซื้อมาจากใน Store ของ Apple ยกตัวอย่างเช่นแชร์เพลง/หนังที่อยู่ใน iTunes Store, แชร์แอปที่ซื้อมาใช้ด้วยกัน, แชร์รูปขึ้น Photo Stream ของครอบครัว, แชร์ตารางนัดหมาย, ดูตำแหน่งของแต่ละคนในครอบครัวผ่าน Find my Friends

อป Photos ไม่ได้เปลี่ยนหน้าตาอะไรมากมาย แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์ในเรื่องของการแต่งรูปให้มีความสามารถมากกว่าเดิมอีกระดับ ด้วยการที่สามารถหมุนรูปที่ถ่ายเอียงได้ มีตัวเลือกในการปรับแต่งภาพมากขึ้น รวมถึงมีพรีวิวให้ดูก่อนด้วยว่าจะออกมาในลักษณะไหน นอกจากนี้ยังสามารถค้นหารูปที่ถ่ายไว้ได้อีกด้วย 


แอปกล้องเองก็เพิ่มความสามารถเข้ามาเล็กน้อย เช่นสามารถตั้งเวลาถ่ายรูปได้ รวมถึงมีฟีเจอร์การถ่ายวีดีโอแบบ Time-Lapse ที่ให้ถ่ายวีดีโอเป็นภาพนิ่ง ทุกวินาที หรือตามที่กำหนดเวลาไว้

สำหรับแอปกล้องใน iPad คราวนี้ก็สามารถถ่าย panorama เหมือนกับ iPhone ได้แล้วเช่นกัน

ใน Safari นั้น สามารถลง widget เสริมได้ เช่น ถ้าหากมีแอป Bing Translate ก็จะสามารถแปลภาษาของหน้าเว็บนั้นๆ ได้ และนอกจากนี้ Safari ใน iPad ยังเพิ่มหน้าแสดง Tab ที่เปิดอยู่ทั้งหมดแบบใหม่ ที่หน้าตาออกมาในแนวเดียวกันกับ Safari บน OS X Yosemite


ระบบเดาคำแบบใหม่ใน iOS 8 จะมีบนภาษาไทย


ลิงค์ iOS8 beta1 หาได้ทั่วไปใน Google แต่ข้อแนะนำควรมีความชำนาญและมีบัญชี Delveloper
คำเตือน Beta ยังมี Bug เยอะมากผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรใช้ เว้นแต่ บ้าพลังอยากลองของใหม่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Macthai.com และ iPhonesociety

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

powass 5 มิ.ย. 57 เวลา 18:06 น. 4

ล้าหลังมากตาม Android ไม่ทันซักทีถ้าพัฒนาเป็นหอยทากแบบนี้ เห็น Android มีเรียนแบบเชียวนะ หาของใหม่ฯมาลงมั้ง Android มีหมดแล้ว

0