อยากติดปีกต้องอ่าน

[spnana]

ประสบการณ์เล่าสู่น้องๆ

กับสจ๊วตการบินไทยและแอร์โฮสเตสสายการบิน City Airways


แนะนำตัวหน่อยค่ะ พี่ๆ




พี่ตี่:  ผมพลัฏฐ์ พิพิธจารุเลิศ จบจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก่อนจะมาเป็นลูกเรือทำงานมาหลายที่ครับ ทั้งเป็นเจ้าหน้าที่การต่างประเทศที่ศาลาว่าการกรุงเทพ ฝ่ายบุคคลที่ไทยวาโก้ ล่าสุดก็เป็นฝ่ายบุคคลที่ธนาคารกรุงเทพ ปกติทำหน้าที่รับสมัครสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ แต่พอถูกสัมภาษณ์บ้าง ก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ตื่นเต้นดีครับ



พี่มินท์: มินท์จบจากเอแบคค่ะ ปกติเป็นคนรักการแสดง ร้องรำ ทำเพลง เล่นละคร เดินแบบ ถ่ายแบบ เป็น MC ชอบหมดค่ะ ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็ชอบทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ค่อยหยุดนิ่ง และการได้ทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้ตัวเองได้ฝึกในเรื่องของความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ตัวเองได้รับ และต้องทำออกมาให้ดี นอกจากนี้ยังได้ฝึกการทำงานเป็นทีม และการสื่อสารกับเพื่อนๆ ให้งานออกมาดีที่สุด หลังจากเรียนจบก็ได้งานที่ City Airways เป็นที่แรกเลยค่ะ

Q:มีแรงจูงใจหรือแรงบันดาลใจอย่างไรจึงเลือกอาชีพนี้ครับ

พี่ตี่: ผมได้รับแรงบันดาลใจจากตัวเองและจากคุณแม่ครับ ด้วยส่วนตัวเป็นคนอยู่ไม่ติดที่ สังเกตจากตัวเองว่าไม่ค่อยชอบอยู่นิ่งๆ ชอบพบปะพูดคุยและช่วยเหลือคนอื่นๆ ส่วนที่ว่าแรงบันดาลใจจากคุณแม่คือ.. เมื่อสมัยคุณแม่ยังสาวเคยสมัครงานกับการบินไทยในตำแหน่งลูกเรือ แต่คุณแม่ไม่มีโอกาสได้ทำงานเพราะต้องไปศึกษาต่อซะก่อน จึงอยากมาสานฝันให้คุณแม่ครับ

พี่มินท์: คุณอามิ้นท์เป็นแอร์การบินไทยค่ะ เห็นอาไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ตลอด เลยอยากเป็นมั่ง เป็นความคิดแบบเด็กๆ ค่ะ 555 แต่พอโตมา พี่สาวก็ได้เป็นแอร์ของกาต้าร์ พี่ก็จะมาเล่าเรื่องราวตลกๆ บนเครื่องให้ฟัง ฟังแล้วก็สนุก รู้สึกว่างานไม่ซ้ำซาก ได้ผลัดเปลี่ยนตำแหน่งการทำงานไปเรื่อยๆ เจอผู้คนมากมาย เลยอยากเป็นบ้าง จากนั้นก็เริ่มสมัครค่ะ

Q:มีไอเดียในการเตรียมตัวก่อนไปสมัครงาน และวิธีการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองในวันสมัครและวันสัมภาษณ์อย่างไรบ้าง



พี่ตี่: ก่อนไปสัมภาษณ์ ผมจะวางคอนเซ็ปท์ในการตอบคำถามไว้ล่วงหน้า ว่าจะบอกอะไรแก่กรรมการ และจะให้กรรมการทราบข้อมูลตรงไหนบ้าง สำหรับจุดแข็งของตัวเอง ผมอาศัยการยกตัวอย่างประกอบตามที่ได้เรียนกับครูพี่ก๋อยและครูพี่ขนุน ที่ Sky Project เพื่อให้คำพูดของตัวเองดูมีน้ำหนัก ส่วนไหนที่เป็นจุดอ่อน ผมก็จะวิเคราะห์และเตรียมบอกวิธีการแก้ไข และแยกแยะประสบการณ์ต่างๆ ที่ตนเองมี ว่าประสบการณ์อันไหนที่ตรงกับเนื้องาน ประสบการณ์อันไหนที่ไม่ตรงหรือเกี่ยวข้องน้อย เพื่อให้มีน้ำหนักและเอาไว้ใช้จัดลำดับสิ่งที่ควรพูดก่อนพูดหลัง สิ่งไหนเป็นข้อมูลสำคัญ สิ่งไหนเป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่จะใช้ในการสัมภาษณ์ ผมเชื่อว่าการเตรียมตัว ทำให้เกิดผลสำเร็จและทำให้ตัวเราเองมั่นใจครับ



พี่มินท์: การเตรียมตัวคือต้องศึกษาประวัติทุกอย่างของสายการบินที่เราจะไปสมัครให้ละเอียดค่ะ เพราะอาจเป็นคำถามของกรรมการได้ตลอด 

ส่วนการแต่งกาย ต้องดูว่าสายการบินนั้นๆ กำหนดให้แต่งตัวแบบไหน พยายามอย่ามีคำถามว่า แบบนี้ได้มั้ย? แบบนั้นได้มั้ย? ให้ทำตามข้อกำหนดที่ทางสายการบินระบุมาให้มากที่สุดค่ะ เพราะมิ้นท์คิดว่ามันเป็นบททดสอบอย่างหนึ่ง ว่าถ้าเราได้รับคำสั่งมา แล้วเราจะปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องหรือไม่? ส่วนการแต่งหน้าและทำผม อยากให้ลองแต่งลองทำไปเอง เพราะเมื่อถึงเวลาที่เราไปทำงาน เราก็คงไม่ได้จ้างช่างมาแต่งให้ทุกวัน และที่สำคัญ กรรมการบางคนให้แกะผมและให้ทำใหม่ตรงนั้นเลยค่ะ

วิธีสร้างความมั่นใจของมิ้นท์คือเป็นตัวของตัวเองค่ะ อย่าโกหกในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น ศึกษาข้อมูลบริษัทเยอะๆ และก็พยายามไปก่อนเวลาสัมภาษณ์เยอะๆ เพื่อเตรียมตัว ดูสถานที่ค่ะ

ประโยชน์และความประทับใจที่ได้รับจากการอบรมที่สถาบัน Sky Project มีอะไรบ้างครับ



พี่ตี่: ต้องบอกเลยนะครับ ว่าผมไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมาก่อนเลย แค่เคยขึ้นเครื่องก็เห็นแค่งานหน้าฉากของเขาที่ทำกัน แต่การเรียนที่ Sky Project ทำให้ผมรู้ในด้านที่เราไม่เคยเห็น และอาจไม่มีวันได้เห็นเพราะเป็นสิ่งที่ลูกเรือทำก่อนที่เราจะขึ้นเครื่อง และหลังที่เราลงจากเครื่องไปแล้ว ซึ่งคนที่รู้ก็ต้องเป็นลูกเรือเท่านั้น ที่ Sky Project มีพี่ๆ มาแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ทั้งหมดในส่วนนี้ให้กับผมและเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Safety หรือ Service ทำให้เกิดความมั่นใจและเป็นข้อได้เปรียบในการสัมภาษณ์ครับ



พี่มินท์:ได้ประโยชน์เยอะมากค่ะ มิ้นท์ไปเรียนแค่สองวัน แต่รู้สึกว่าได้อะไรกลับมาเยอะมากๆ เพราะทางสถาบันได้จำลองเหตุการณ์วันสมัครให้ลองทำ มีทั้งการสัมภาษณ์ การทำ group discussion กระทั่ง การเดิน การยืน การนั่ง การไหว้ เรียกได้ว่าคุ้ม ไม่ได้ใช้เฉพาะสมัครแอร์เท่านั้นนะคะ แต่สามารถนำไปใช้กับทุกอาชีพที่จะไปสมัครเลย 

ที่สำคัญคือได้เพื่อนค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น่ารักทุกคน อาจารย์ก็เป็นกันเอง มีอะไรบอกกันตลอด ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามได้ตลอด แม้จะจบคลาสกันไปแล้ว พี่ๆ ก็ยังติดตามผลอยู่เรื่อยๆ เรียกว่าผลักดันจนกว่าจะได้ติดปีกจริงๆ ค่ะ 

Q:ตอนสมัครและสัมภาษณ์งานเป็นอย่างไรบ้างคะ



พี่ตี่:  พี่กลัวๆ เกร็งๆ ตั้งแต่แรกเลย ตื่นเต้นทุกขั้นตอนเลย แต่ก็คอยปรึกษาพี่ๆ ที่ Sky Project ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

การสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนสำคัญและอยากให้ทุกคนที่อยากทำงานในอาชีพนี้ให้ความสำคัญและเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ให้มากๆ ครับ

ส่วนการเทรน ต้องบอกเลยว่าผมโชคดีที่ได้เทรนในห้องนี้ เพื่อนๆ ทุกคนสนิทกันและเฮฮามาก (ละม้ายคล้ายกลับไปอยู่มัธยมปลายอีกครั้ง ฮาฮา) สนุกสนานกับการเทรนทุกวันที่ออกจากบ้าน กลับมาตอนเย็นก็เตรียมตัวสำหรับวันถัดไป บอกเลยครับว่าเป็นช่วงชีวิตที่สนุกสนานช่วงหนึ่งและเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ 

ส่วนประสบการณ์การทำงานบนเครื่อง สิ่งที่ผมประทับใจมากๆ คือทีมงานพี่ๆ ที่การบินไทยน่ารักมากครับ ทุกคนอบอุ่นเป็นกันเอง คอยช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ทำให้ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ส่วนเรื่องที่ไม่ประทับใจยังไม่เจอครับ เพราะยังบินมาไม่กี่ไฟลท์เอง



พี่มินท์:จริงๆ แล้วอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ได้เป็นอาชีพที่สบายเลยนะคะ อันนี้คอนเฟิร์มจากเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคน บางคนอาจคิดว่างานแอร์สบาย ได้แต่งตัวสวย ๆ เดินลากกระเป๋าในสนามบิน เงินเดือนก็เยอะ เงินเดือนเยอะจริงค่ะ แต่งานก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิด

ที่พูดนี้ไม่ได้หมายความว่างานลูกเรือไม่ดีนะคะ แต่อยากให้เพื่อนๆ น้องๆ ตั้งใจ และอดทนให้มากๆ เพราะไม่ว่างานไหนๆ ก็หนักด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าเรารักอาชีพนี้จริง มิ้นท์ว่า... เหนื่อยแต่สนุกค่ะ 

ตอนทำงานบนเครื่องมิ้นท์ประทับใจมากค่ะ แม้เราจะต้องทำหลายอย่าง บางทีก็เหนื่อย แต่หลังจากจบไฟล์ท เราได้เห็นรอยยิ้มจากผู้โดยสาร และเอ่ยขอบคุณ บอกเราว่าแล้วเจอกันอีกนะ มีบางคนเอาขนมมาให้ เป็นสัญญาณที่ดีว่าเค้าประทับใจเรา ส่วนเรื่องไม่ประทับใจก็มีบ้าง อย่างเช่น เรื่องยกกระเป๋าค่ะ ส่วนมากผู้โดยสารจะให้ช่วยยกกระเป๋า ลูกเรือทุกคนจะทราบดีว่า เราไม่สามารถยกกระเป๋าให้ผู้โดยสารได้ เพราะถ้าเรายกให้คนนึง คนอื่นๆ ก็จะให้เรายกด้วย ถ้าเป็นงั้นเราแย่ค่ะ เราก็เลยต้องต้องอธิบายให้เค้าเข้าใจค่ะ

Q:มีเคล็ดลับการดูแลสุขภาพหรือทำกิจกรรมยามว่างอะไรบ้างคะ



พี่ตี่:  พี่เข้าฟิตเนสเป็นประจำเพื่อสร้างนิสัยที่ดีในการออกกำลังกายครับ ทำให้สุขภาพดีสม่ำเสมอ กิจกรรมยามว่าง ผมเป็นคนติดเกม (ฮา) ชอบเกรียนเกมมากกก ว่างไม่ได้ต้องเล่นตลอด บางครั้งก็เอาไปเล่นที่ Line Station เลยครับ 555+ และก็ชอบไปเดินห้างดูเสื้อผ้าเก๋ๆ 

พี่มินท์: เราต้องนอนให้เต็มอิ่มก่อนไปบินค่ะ เพราะความง่วงจะเป็นอุปสรรคมาก และควรดูแลรักษาสุขภาพ อย่าให้ป่วยบ่อย ถ้าเป็นหวัดหรือรู้สึกไม่สบายอย่าฝืนไปบิน เพราะอยุ่บนเครื่องความกดอากาศต่างจากข้างล่าง อาจจะทำให้สุขภาพย่ำแย่ลงไปอีก รวมถึงเป็นภาระให้กับเพื่อนร่วมงานอีกค่ะ

Q:มีอะไรอยากจะฝากไปบอกน้องๆ บ้างไม๊คะ

พี่ตี่:  พี่อยากให้ทุกๆ อดทนและอย่าท้อระหว่างการเตรียมตัว ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เด็กเกรียนๆ อย่างผมยังทำได้เลย ทำไมเพื่อนๆ น้องๆ จะทำไม่ได้ สู้ๆ ครับ
มินท์: อยากฝากถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยากเป็นแอร์ว่า ถ้าใจรัก อย่ามัวรอช้าค่ะ ศึกษาข้อมูลเยอะๆ และรีบไปสมัครจะได้รีบติดปีกกันทุกคน แล้วเจอกันนะครับ