Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เครียดมากค่ะตอนนี้ เหมือนคนบ้าร้องไห้ไม่หยุด (เรื่องซิ่ว+ครอบครัว)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือ เมื่อตอนจบ ม.6 ฉันได้สอบตรงของมหาลัยราชภัฎใน กทม แห่งหนึ่ง แล้วสอบติด แต่ในเรื่องของค่าเทอมค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่พอตัวเลยแหละค่ะ เทอมนึงก็ 2 หมื่นกว่า ตอนนั้นฉันคิดว่า ฉันคงไม่ติดที่ไหนแล้วล่ะ เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ แล้วทางครอบครัวฉันก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร พอมีพอกินไปวันๆ แต่ทางครอบครัวฉันก็พยายามหาเงินให้ฉันมาจ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่าใช้จ่ายทุกเดือน แต่พวกค่าเทอมก็ใช้ กู้ กยศ. ค่ะ จนเรียนมาได้1 เทอมฉันเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่สำหรับฉัน แต่ด้วยความที่เสียดายเงิน เสียดายค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วก็สงสารพ่อแม่ที่พยายามหาเงินมาให้ฉันเรียน จึงบอกกับตัวเองว่าทนๆเรียนไปเดี๋ยวมันก็จบ จนตอนนี้ฉันศึกษาอยู่ชั้นปีที่2 เทอม1 แล้วค่ะ เกิดความรู้สึกว่ามันเริ่มจะไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวกับทางวิชาการเรียน กับสภาพแวดล้อมที่เรียน กับเรื่องของเพื่อน รุ่นพี่ อาจารย์ ทำให้ฉันรู้สึกท้อมากขึ้นกว่าเดิม จนทำให้ฉันแทบจะไม่ได้เข้าเรียนเลย ในตอนปี 2 เทอม 1 จนมาถึงเวลาที่ สอท. เปิดให้แอดมิชชั่น ฉันพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่ฉันคิดว่าพอจะเรียนไหว คณะที่ชอบ แล้วหาเงินไปจ่ายค่าสมัครสอบเอง (แบบต้องอดข้าวอดน้ำ เพื่อที่จะเอาค่าขนมไปจ่ายค่าสมัครสอบ เพราะยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ กะว่าติดแล้วค่อยบอก ) แล้วฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ตอนนี้แอดมิชชั่นติดค่ะ ฉันติดที่ มศว. คณะหนึ่ง เรียนที่องครักษ์ แล้วต้องไปรายงานตัววันที่ 7 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ยอมรับว่าวันที่รู้ผลดีใจแทบตาย อยากจะบอกทางครอบครัวให้ได้รับรู้ ฉันดีใจทั้งน้ำตา แต่ก็ทำได้เพียงแต่..เก็บความดีใจนีไว้คนเดียว เพราะไม่กล้าพูดเอ่ยปากบอกพ่อกับแม่เรื่องซิ่ว แต่ความลับก็คงไม่มีในโลกหรอกค่ะ หลังจากที่รู้ผลแอด 1 วันฉันโทรไปเล่าความจริงทั้งหมดให้แม่ฟัง เล่าให้ฟังทั้งน้ำตา สารภาพเรื่องทั้งหมดว่าเรียนไม่ไหว และหลายๆเรื่องที่ฉันไม่สบายใจ ตอนนั้นแม่ร้องไห้เสียใจมาก แม่บอกว่าแม่ตั้งใจทำทุกอย่าง หาเงินมาให้เรียน เงินทองหายากขนาดไหนหนูก็รู้ แม่ไม่มีเงิน แต่พอหนูเอ่ยเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรแม่ก็พยายามหาให้ แล้วหนูบอกแม่ว่า ก็จะลงซัมเมอร์ อีก 2 ปีก็จบ ไรงี้ แล้วหนูก็มาให้ความหวังแม่ แล้วอยู่ดีๆหนูก็จะมาบอกว่าจะเปลี่ยนเส้นทาง แล้วคือที่ผ่านมามันคือไรหมดกับค่าหอ ค่าโน้นค่านี่ไปเยอะแล้วนะ รวมๆก็ราวๆ 2 แสนกว่า แม่ไม่มีเงินให้เรียนแล้วนะถ้าคิดจะเริ่มต้นใหม่ แม่จะไปหาเงินมาจากที่ไหนให้เรียน อีกตั้ง 4 ปี แล้วทำไมหนูไม่บอกแม่ตั้งแต่แรกปล่อยให้มันมาถึงขนาดนี้ทำไม >>> คือตอนนั้นต่างคนก็ต่างร้องไห้เสียใจ แม่เลยเอ่ยมาว่า กลับบ้านไหมลูก กลับมาอยู่กะพ่อกับแม่ ไม่ต้องแคร์ใคร ไม่ต้องอายใคร มาเรียนราชภัฎแถวบ้าน แล้วนั่งรถไปกลับ พักที่บ้าน <<< แต่ตอนนั้นฉันก็ยังยืนยันว่า....จะไม่กลับไปเรียนแถวบ้าน ฉันอยากมีอนาคตที่ดีกว่า อยากเรียนอย่างมีความสุข อยากจบแล้วมีหน้าที่การงานทำดีๆ จบมหาลัยดีๆ แต่คืออีกใจนึงก็สงสารแม่เพราะค่าใช้จ่ายที่เสียไปนั้นมันเยอะเหลือเกิน แต่ฉันก็ไม่อยากทนใช้ชีวิตเรียนต่อที่เดิม แม้มันจะแค่อีก 2 ปี แต่ฉันคิดว่า ถ้าจบมาฉันก็ต้องทุกข์กับเส้นทางที่ฉันไม่ชอบไม่ตลอดชีวิต แต่แล้วแม่ก็ยังไม่ให้ฉันไปเรียนที่ใหม่ เพราะบอกว่าแม่ไม่มีเงินแล้วนะ แม่ส่งไม่ไหวแล้ว ฉันเครียด ร้องไห้ทุกวันจนคิดอยากจะไปเรียนราม แบบว่าทำงานหาเงิน จันทร์-ศุกร์ แล้วเรียนเสาร์-อาทิตย์เอา แบบว่าหาเงินเอง เรียนด้วยตัวเองไม่ต้องใช้เงินของพ่อแม่ ฉันก็คิดนะว่าบางทีก็อยากจะมีเงินก้อนใหญ่ๆสักก้อนเอาไปชดใช้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทางครอบครัวฉันเสียมา แล้วอยากเริ่มต้นกับมหาวิทยาลัยใหม่ แบบมีความสุข ไม่มีปมด้อยในใจว่าเคยเผาผลาญเงินท่านมา ถ้าเกิดไปเริ่มต้นเรียนที่ใหม่ ฉันก็ไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมอยู่ดี ไหนจะค่าหอ ค่าชุด นศ ค่าโน้นค่านี่ มันเยอะแยะไปหมด ทุกอย่างมันมืดแปดด้าน ทางครอบครัวก็ไม่มีเงินให้ฉัน เศร้าเศร้าเห้อ....บางทีฉันก็คิดมากเอาตัวรอดคนเดียวแบบว่า...อยากจะขึ้นไปอยู่บนสะพานพระราม8 แล้วกระโดดลงมา ให้จมหายลงไปในสายน้ำ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนใคร ไม่ต้องทำให้ใครคิดมากเสียใจอีก จะได้ไม่เป็นปัญหาสำหรับใคร ( พี่ชายอีก 1 คนของฉันคงจะเลี้ยงท่านได้ ) เห้อออออ..เรื่องมันเศร้านะคะ ตอนนี้ฉันเหมือนคนบ้า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร อยู่ดีๆก็คิดโน้นคิดนี่ในหัวว่าตัวเองควรต้องทำอย่างไรดี ต้องทำอย่างไงต่อ จนน้ำตาไหลไม่หยุด ร้องไห้จนตาบวม อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหล ตอนนี้หาทางออกไม่ถูกเลยว่าควรจะทำยังไงต่อไปดีกับชีวิต พอแม่โทรมาก็คุยกันทั้งน้ำตาตลอด

##ความรู้สึกตอนนี้มันมืดมนไปหมด เหมือนฉันเป็นตัวปัญหา ไม่น่าเกิดมาให้เป็นภาระของคนอื่น เศร้าจัง

แสดงความคิดเห็น

>

14 ความคิดเห็น

Dknt 4 ก.ค. 57 เวลา 17:04 น. 2

ใจเย็นนะ ทางออกหน่ะมีเยอะอย่าคิดแบบนั้น
ถ้าพ่อแม่เราเห็นเราเป็นอะไรไปท่านคงเสียใจกว่าเดิมมาก

เราว่าพยายามเลือกทางที่เราไปได้ดีกว่า ถึงจะช้าหน่อยแต่ก็ได้ทำต้องตั้งใจทำอย่างที่สุดอ่ะ พอวันนึงเราทำมันสำเร็จแล้ว คิดดูดิพ่อแม่คงดีใจมากเลยนะ

จริงๆเรามาพิมพ์อยู่เนี้ย เราความรู้สึกคล้ายๆเธอเลยนะ 55
ตอนนี้ก็เครียด แล้วก็สับสนมาก ทั้งสงสารทั้งเกรงใจพ่อแม่เลยอ่ะ
เราแอดติดที่นึงต้องสัมภาษณ์พรุ่งนี้แต่เราก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอก
ที่ที่เราเรียนอยู่มันก็ดีนะ แต่ก็กลัวว่าจะเรียนไม่ไหว แล้วก็ไม่ชอบเพราะสังคมไม่ดี กิจกรรมเยอะมาก การบริหารจัดการก็ไม่ดี
ตอนนี้เราสับสนมากว่าจะทนเรียนต่อ หรือยังไงดี
แต่เราเชื่อว่ามันต้องมีทางออก อย่าคิดสั้นนะ สู้ๆ

0
Arabika 4 ก.ค. 57 เวลา 17:32 น. 3

ถ้ามั่นใจว่าอยากไปจริงๆ ต้องคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจเลยค่ะ
แล้วก็อยากให้ไปสัมภาษณ์ด้วย บอกอ.ที่สัมภาษณ์ถึงปัญหาที่เรามีนะคะ อ.ท่านต้องหาทางช่วยแน่นอน อย่าเพิ่งคิดมากหรือทำร้ายตัวเองนะ สู้ๆ

0
admission57 4 ก.ค. 57 เวลา 17:50 น. 4

อย่าเพิ่งท้อใจ ที่มหาวิทยาลัยมีทุนให้นะคะ อยากให้น้องไปสัมภาษณ์ก่อน แล้วบอกกรรมการที่สัมภาษณ์นะคะ ทุกปัญหามีทางออกค่ะ สู้ๆ

0
อิิอิ 4 ก.ค. 57 เวลา 19:43 น. 6

เข้าใจจริงๆครับ เวลาเครียดๆก็อยากมีคนรับฟัง โพสลงตามเวปก็เหมือนเป็นการระบายที่ดีอย่างนึงเลย สู้ๆต่อไปนะครับ

0
yuumuu 4 ก.ค. 57 เวลา 20:39 น. 8

ที่มหาลัยมีทุนให้อยุแล้ว คิดทุกอย่างให้ดีและรอบคอบ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

0
freshy 4 ก.ค. 57 เวลา 21:07 น. 9

ลองสอบถามอาจารย์ที่ มศว ดูค่ะ ว่ามีทุนช่วยเหลือบ้างมั้ย

ถ้าไม่มี ควรจะกลับไปเรียนที่เดิมนะคะ เพราะดูท่าว่าครอบครัวของคุณจะลำบากมาก
ถ้าหากไม่มีทุนจริงๆ นะคะ
อยากให้คิดถึงพ่อแม่ให้มากๆค่ะ พ่อแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุข
ถ้าหากเราสามารถ แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้จะเป็นการดี
ไม่อยากให้คุณไปเรียนโดยทิ้งพ่อแม่ที่ต้องลำบากทำงานอย่างหนักเอาไว้ค่ะ
สงสารท่าน แล้วคุณก็จะไม่มีความสุขด้วย

ดิฉันเชื่อว่ามหาลัยเป็นเพียงเปลือกนอกของตัวเราค่ะ
เนื้อใน คือ ความสามารถ ความตั้งใจ ความขยัน ความรับผิดชอบต่องานที่ทำ
ไม่ว่ามหาลัยจะมีชื่อเพียงใด หากตัวเราไม่ขวนขวายหาสิ่งดีๆ
เนื้อในของเรราก็ไม่อาจจะงดงามได้

ขอสรุปเลยนะคะ
ไม่ใช่ทุกคนที่สอบติดมหาลัยดัง จะจบมามีงานทำที่ดี
ไม่ใช่ทุกคนที่สอบติดมหาลัยไม่ดัง จะจบมามีงานทำไม่ดี
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองค่ะ สู้ๆนะคะ

เลือกทางที่พ่อแม่สบายดีกว่าค่ะ
รักพ่อแม่ให้มากๆนะคะ แล้วชีวิตจะดีเอง ;-)

0
Nimit Wongsomsak 4 ก.ค. 57 เวลา 21:18 น. 10

เอาน่า ให้กำลังใจครับ
เรื่องแบบนี้ ไม่ได้เกิดกะน้องคนเดียวในโลก
คนอื่นๆ ประเทศอื่นๆ ทวีปอื่นๆ เค้าก็เจอกัน
การเรียนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ได้เป็นทุกอย่างของชีวิตน่ะครับ
0
เพชฬ 4 ก.ค. 57 เวลา 23:14 น. 12

ลองไปสัมภาษณ์ดูก่อนนะ แล้วลองเล่าปัญหาให้อาจารย์ฟังนะครับ พอสัมภาษณ์ใกล้จบ เค้าจะถามว่ามีไรจะถามไหม จากนั้น เล่าไปให้หมดครับ ขอให้ได้เรียนอย่างที่ตั้งใจนะครับ

0