เด็กสาย วิทย์ คณิต จะมีอนาคต การเลือกมหาวิทยาลัยและทางเลือกมากกว่า ศิลป์ภาษาจริงหรือ?
ตั้งกระทู้ใหม่
-การออกข้อสอบของมหาวิทยาลัยยากเกินกว่าที่เรียนมาในช่วง ม.3-ม.6 หรือเปล่าครับ?
-สาย วิทย์คณิต วิทย์ศิลป์ ศิลป์คำนวณ มีอนาคตและทางเลือกเยอะกว่า ศิลป์ภาษา จริงหรือเปล่าครับ?
ใครที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้าไม่เป็นการเสียเวลาหรือรบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ ถือเป็นการชี้แนวทางและต่อชีวิตให้กับเด็กตัวเล็กๆคนนึง ;w;
ปล.ขอบคุณทุกทุกคำตอบและคอมเม้นมากๆนะครับ -/\-
10 ความคิดเห็น
สายวิทย์ได้เปรียบอยู่นะ แต่เรียนหนักนิดนึงค่า - //// - 5555555
ถ้ายังไม่รู้ว่าอยากเรียนคณะอะไรหลังจากจบม.6 ก็เลือกสายวิทย์ไปก่อนเลยค่ะ (เพราะทางเลือกเยอะกว่า)
สายวิทย์ เรียนหนัก(มากกกกกกกกกกกกก) แต่อนาคตค่อนข้างเปิดกว้าง
สายภาษา เรียนปานกลางถึงขั้นชิล ไม่หนักมาก เบาสมอง แต่อนาคตแคบลงมาหน่อยนึง
แล้วแต่จะคิดนะ เรื่องแบบนี้มันแล้วแต่ความชอบ ชอบแบบไหนก็เรียนตามที่ชอบ เหมือนพี่ ตอนนี้พี่อยู่ม.4 ตอนม.3 ก็รู้ตัวแล้วว่าไปทางวิทย์ไม่รอด เพราะโง่คณิตกับวิทย์มากกก เรียนก็ไม่รู้เรื่องเลยยย แต่ชอบวาดรูปชอบพูดมากก ชอบใช้ภาษา(ง่ายๆคือกระแดะนั่นเอง- -) แต่ขณะเดียวกันพี่ก็โง่อังกฤษมากเช่นกัน- - แต่สายที่พี่เลือกคือภาษาจีน พี่ว่ามันสนุกดีนะ เรียนจีน 6 คาบ/สัปดาห์ วิทย์ 2 คาบ/สัปดาห์ (ยากชิบเรียนไม่เข้าใจเลย- -) คณิต 2 คาบ/สัปดาห์ อังกฤษ 4 คาบ/สัปดาห์ มีคาบว่างพอควร มันก็สนุกดีนะพี่ว่า ไม่รู้สิ แล้วแต่น้องจะเลือก ความชอบของน้อง ทางเดินของน้อง ชีวิตของน้อง น้องอยากเป็นอะไรก็เลือกตามที่ชอบละกัน พี่เป็นกำลังใจให้นะ:)
-การออกข้อสอบของมหาวิทยาลัยยากเกินกว่าที่เรียนมาในช่วง ม.3-ม.6 หรือเปล่าครับ?
-สาย วิทย์คณิต วิทย์ศิลป์ ศิลป์คำนวณ มีอนาคตและทางเลือกเยอะกว่า ศิลป์ภาษา จริงหรือเปล่าครับ?
-สายศิลป์ภาษาทางเลือกน้อยเหรอครับ?
ถ้าหมายถึงทางเลือกในการเลือกคณะมันน้อยกว่าจริงๆค่ะ แต่ถ้าทางอาชีพพวกนี้คนที่เก่งด้านภาษาจริงๆ
ก็สามารถเรียนไปแล้ว ต่อยอดได้ดีเลยนะคะ แบบถนัดเฉพาะด้านนี้ก็เอาดีด้านนี้เลยอ่ะ ก็โออยู่นะ
-การออกข้อสอบของมหาวิทยาลัยยากเกินกว่าที่เรียนมาในช่วง ม.3-ม.6 หรือเปล่าครับ?
ก็มีบ้างนะคะ แต่ก็ไม่ทุกมหาลัยค่ะ
-สาย วิทย์คณิต วิทย์ศิลป์ ศิลป์คำนวณ มีอนาคตและทางเลือกเยอะกว่า ศิลป์ภาษา จริงหรือเปล่าครับ?
ตอบแบบข้อแรกนะ ถ้าหมายถึงการเลือกคณะจะมีโอกาสเลือกได้มากกว่า เพราะคนส่วนมากมักเรียนสายวิทย์ไปเพราะพ่อแม่อยากให้เรียน เรียนๆไป แล้วตอนเข้ามหาลัยไปเข้าคณะพวกสายศิลป์ก็เยอะแยะ เพราะรู้ว่าที่เรียนมามันไม่ใช่ แต่ไม่ว่าจะยังไงพี่ก็ยังอยากให้น้องเลือกสายการเรียนที่คิดว่าชอบที่สุดนะคะ จะได้มีความสุขกับการเรียนนะ แล้วจะได้มีเป้าหมายชัดเจนด้วย จะได้วางแผนการเรียนถูก มันจะดีกว่านะ
อ้อ พี่จะบอกให้พี่จะยกตัวอย่างพี่กับเพื่อนพี่ให้นะ
คนแรกเรียนสายศิลป์ กิ๊ฟท์ศิลป์ด้วยนะ แต่สอบติดครูคณิต ที่ม.แห่งนึงแล้วก็เลือกเรียนที่นี่
คนที่สองเรียนอังกฤษ-คณิต แต่สอบติดครูไทย ที่ม.เดียวกันกับคนแรก แล้วก็เลือกเรียนที่นี่
ส่วนพี่เรียนสายวิทย์ กิ๊ฟท์วิทย์เลย แอดติดเทคนิคการแพทย์ ม.แห่งนึง
น้องอยากเป็นแบบเรียนมาแล้วได้เข้าคณะที่เหมาะสมกับสายการเรียน รึแบบไหนก้เลือกเอานะคะ คิดดีๆวางแผนดีๆ พี่เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ
สายวิทย์ได้เปรียบก็จิง แต่ถ้าเรารู้แล้วว่าหลังจบ.ม6เราอยากเรียนอะไรเราก็เรียนอันนั้นเถอะแต่ถ้ายังงไม่รู้ก็เรียนวิทย์ไปก่อนถึงแม้มันจะหนักแต่ก็ดีในการเลือกคณะ แต่เมื่ออยู่ม.4 สายในก็ตามจะมีคำถามโลกแตกกกกกกกกกกกกอยู่คำถามหนึ่ง
อาชีพในอนาคต เป็นอะไรที่สับสนๆจิงๆน่ะ5555555
คิดดีดีน่ะว่าเราอยากทำอะไร สู้ๆๆๆ
ในความคิดพี่ พี่ว่าสายวิทย์เหมือนหว่านแห แล้วหนักมาก คนที่เรียนได้ต้องเก่งพอตัวคะ อันนี้หนูอยากต่อสายอะไรไปทางนั้นเลย แบบพวกวิทย์เรียนหนักสามปี สุดท้ายมาเลือกสายภาษา ไม่คุ้มกับที่เรียนหนักเลย สู้ที่พวกเราเลือกตรงๆดีกว่า อยากได้ภาษาก็เอาภาษาไปเลย แล้วเวลาน้องเข้าสายภาษา มันจะต้องมีสอบภาษานั้นเฉพาะ หนุก็ต้องได้เปรียบกว่าสายวิทย์ที่เค้าไม่ได้เรียนภาษานั้น มีแต่เขาต้องไปหาเรียนเพิ่มเติมข้างนอกเอาเอง ยังไงก็ได้ไม่เท่าน้องที่เรียนเต็มที่หรอกคะ ดังนั้น เลือกทางไหนไปทางนั้นดีกว่า
ขอบคุณทุกๆคอมเม้น และทุกๆกำลังใจมากครับ^^
ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่สายไหนหรอกค่ะ ขึ้นอยู่ที่ความพยายามเเละการไขว่คว้าของเราเท่านั้น หากเรารักที่จะเรียนจริงๆไม่ว่าสายไหนก็ทำได้ค่ะ ^ ^ (เราก็เรียนสายศิลป์อยู่เหมือนกัน)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?