Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

***อ่านแล้วซึ้งมากเบย*** น้ำใจของคนไทยสู้ต่างชาติ --ฝรั่งแชร์ภาพตามหา 2 คนไทย อยากขอบคุณ ช่วยชีวิตช่วงสึนามิ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝรั่งแชร์ภาพตามหา 2 คนไทย อยากขอบคุณ ช่วยชีวิตช่วงสึนามิ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Ben Willgrass
            ฝรั่งซึ้งในน้ำใจคนไทย แชร์ข้อความตามหา คุณยุพินและคุณพิชาติ หลังที่พวกเขาเคยช่วยชีวิตช่วงสึนามิ เมื่อ 10 ปีก่อน ล่าสุดพบตัวคนไทยใจดีทั้งคู่แล้ว 
          หากเอ่ยถึงคำว่า "น้ำใจ" เชื่อเลยว่าคนที่ได้รับไม่ว่าเวลาจะนานเท่าไร ก็จะรู้สึกประทับใจไม่รู้ลืม เฉกเช่นเรื่องราวของ นายเบน วิลกราส ชาวอังกฤษ ที่เคยมาท่องเที่ยวประเทศไทย และประสบภัยพิบัติสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ถึงแม้ว่าพวกเขาได้สูญเสียแม่ที่เป็นที่รักไปในเหตุการณ์เลวร้ายดังกล่าว แต่เขาก็ได้รับน้ำใจดี ๆ จากคนไทยที่ให้ที่อยู่อาศัยกับเขาและครอบครัว 
         โดยเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 นายเบน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Ben Willgrass เป็นภาษาไทย ระบุว่า..
         "ขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ : ช่วยเราตามหาคุณยุพินและคุณพิชาติด้วยค่ะ
 
         พวกเราชื่อเอมิลี่และเบน วิลกราส เมื่อสิบปีที่แล้ว คือวันที่ 26 ธันวาคม 2004 ชีวิตของพวกเราได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เมื่อเราต้องประสบกับสึนามิที่ภูเก็ต ในขณะที่เรากำลังพยายามหาทางหนีขึ้นที่สูงก็มีคนไทยสองคนช่วยเหลือและให้ที่พักพิงแก่เราและยังช่วยดูแลเราสองคนในขณะที่พ่อของเราออกตามหาแม่ที่พลัดหลงกันในตอนนั้นซึ่งเป็นที่น่าเสียใจว่าเราพบศพของแม่ในวันนั้น
          ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตคนไทยคู่นี้ที่ชื่อคุณยุพินและคุณพิชาติ (ที่เราคิดว่าน่าจะเป็นชื่อเล่น) ได้คอยให้ความช่วยเหลือแก่เราและเรากำลังตามหาพวกเขาอยู่ในตอนนี้ทั้งคู่ให้ที่พักแก่เราจนกระทั่งเราสามารถออกจากภูเก็ตได้ในวันรุ่งขึ้น และเพราะสนามบินภูเก็ตปิดในเวลานั้น ทั้งคู่อุตส่าห์ขับรถพาเราไปส่งที่กรุงเทพที่อยู่ห่างจากภูเก็ตกว่า 870 กิโลเมตร เพื่อให้เราขึ้นเครื่องบินกลับอังกฤษได้ ซึ่งเราจะไม่มีวันลืมความช่วยเหลือความมีน้ำใจ รวมทั้งความเมตตาที่ทั้งสองคนมีต่อเราในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่เราต้องการมากที่สุด และไม่มีคำไหนที่จะขอบคุณคนทั้งสองได้อย่างเพียงพอสำหรับสิ่งที่ทั้งสองทำให้กับเรา
         เราไม่เจอคุณยุพินและคุณพิชาติอีกเลยตั้งแต่วันนั้น ทั้งนี้เราจะไปภูเก็ตอาทิตย์หน้า (20 กรกฎาคม 2557) และเราอยากจะพบทั้งคู่อย่างมาก เราจึงพยายามตามหาพวกเขาเพื่อที่เราจะได้กล่าวขอบคุณคนทั้งคู่อีกครั้งสำหรับทุกอย่างที่เขาทำให้ครอบครัวของเรา
         • ช่วยเราหน่อยได้ไหมคะ
         • คุณรู้จักคุณยุพินและคุณพิชาติไหมคะ
         • ทราบหรือไม่ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
         • เราเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายแถวถนนทวีวงศ์ช่วงระหว่างหาดป่าตองและหาดพาราไดซ์
         • ช่วยบอกพวกเขาด้วยว่าเรากำลังตามพวกเขาอยู่
         • ช่วยแชร์เรื่องนี้ไปให้คนอื่นด้วย
 
        ขอความกรุณาแชร์เรื่องนี้ไปให้คนอื่น ๆ ด้วยเพื่อว่าคุณยุพินหรือคุณพิชาติหรือคนที่รู้จักสองคนนี้จะเห็นข้อความนี้และบอกเราได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
        หากมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้กรุณาติดต่อเราที่ findupinandpitchat@hotmail.com 
        ทวิตเตอร์ #findupinandpitchat หรือ
        เฟซบุ๊ก Ben Willgrass"

       งานนี้เหล่าบรรดาชาวเน็ตต่างก็ช่วยแชร์ข้อความนี้และเอาใจช่วยให้ทั้งคู่เจอคุณยุพินและคุณพิชาติ



ภาพประกอบจาก ข่าวสด
        และล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พบตัว "คุณยุพิน เส็งเมือง"  ซึ่งคุณยุพินเป็นชาวนครสวรรค์ และสามีคือ นายพิเชษฐ์ (ฝรั่งเข้าใจว่าเป็นพิชาติ) ชาวพัทลุง โดยทั้งคู่บอกว่าเขาเดินทางมาอยู่ที่ จ.ภูเก็ต นานร่วม 20 ปีแล้ว ส่วนวันที่เกิดเหตุสึนามิ คุณยุพินกับสามีเปิดร้านขายของชำและร้านอาหารตามสั่งอยู่ที่หน้าหาดไตรตรัง ต่อมาพบกับครอบครัวนี้ ซึ่งที่กำลังเดินหาผู้เป็นแม่ ซึ่งโดนคลื่นยักษ์ซัดไปบริเวณชายหาดป่าตอง 

        คุณยุพิน เล่าอีกว่า ชาวอังกฤษครอบครัวนี้ เดินทางมาพักผ่อนที่ จ.ภูเก็ต 4 คน เป็นพ่อแม่และลูก 2 คน โดยคนที่ประกาศตามหาตนนั้นน่าจะเป็นลูกทั้งสองคนของครอบครัวนี้ ซึ่งตอนน่าจะโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว โดยวันนั้นตนจำได้ดีว่ามีเด็ก 2 คนเดินตามผู้เป็นพ่อ ออกค้นหาแม่ที่หายไป จนกระทั่งเดินมาพบกับตนและสามี ตนจึงให้ที่พัก ให้รับประทานอาหาร ซึ่งช่วงนั้นไฟดับด้วย มืดไปหมดทั้งหน้าหาดเลย โดยคนเป็นพ่อได้ร้องขอฝากลูกทั้ง 2 คนไว้ ก่อนที่จะออกไปหาภรรยา

         จนกระทั่งต่อมา คุณยุพิน ทราบว่าแม่ของเด็กทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ติดอยู่ชั้นใต้ดินของห้างโอเชี่ยนช้อปปิ้งมอลล์ หน้าหาดป่าตอง ตอนแรกพ่อไม่กล้าบอกลูก ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจึงเข้าไปปลอบใจและเรียกเด็กทั้งสองคนมาคุยกับพ่อ ช่วยอธิบายว่าแม่ไม่อยู่แล้ว จากนั้นตนก็ได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ตลอด จนกระทั่งเขาทำใจได้ จึงขับรถไปส่งขึ้นเครื่องที่ กทม. เนื่องจากที่ภูเก็ตมีปัญหาเรื่องสนามบินด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง 

         สำหรับข่าวที่เด็ก ๆ ทั้งสองตามหาตนนั้น ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้ทราบข่าว ตอนที่ตนช่วย ตนไม่ได้คิดอะไรนอกจากสงสารและอยากช่วยเหลือเขาให้ถึงที่สุด หากเป็นใครก็ต้องทำเช่นเดียวกับตน และเหตุการณ์วันนั้นตนไม่มีวันลืมได้อย่างแน่นอน 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น