Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แม่ไม่อยากให้เรียนนังสือไม่สนับสนุนการเรียนต่อมหาลัย TT

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ความเป็นจริงก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่อยากให้เรียนแต่ก็อาจจะใช่ ลองอ่านดูนะ
เราเป็นด็กแด57 เราก็แอดติดแต่เราไม่ได้เอาอ่ะเราไม่ชอบ เราต้องขอโทษที่ไปตัสิทธิ์คนอื่นๆTT ขอโทษจริงๆ ที่ไม่เอาอ่ะคือตอนแรกเราคิดว่าคณะนี้จบมาน่าจะหางานทำง่ายเพราะเรียนหลายอย่างๆรวมๆกันแต่พอเราไปหาข้อมูลมามีคนบอกว่าอย่าเรียนเลยคณะนี้ถ้าเรียนคณะนี้ไปเรียนคณะหรือสาขาหลักของมันไม่ดีกว่าหรอ และพอไปสัมภาษณ์อาจารย์ก็บอกเป็นัยน์ๆทำไมไม่เลือกสาขาหลักหรือคณะหลักไปเลย มันทำให้เราตัดสินใจได้รวดเร็วมากคือขอไม่เลือกคณะนี้นะ

เราเลยไปสมัครม.เปิดทุกๆคนก็น่าจะรู้ เราบอกเลยว่าเราไม่ได้อยากจะไปสมัครเลย TT เรากลัวเรียนไม่ไหวเราไม่มีความรับผิดชอบพอ จะให้เราเข้าเอกชนค่าเทอมก็แพงแต่เราก็คิดจะกู้นะ (ครอบครัวเราไม่ได้รวยแต่ก็ไม่ได้จน พออยู่ไรงี้) ตอนที่เราไปสมัครอ่ะแม่ก็ถามว่าจะไปสมัครที่ไหน เราร้องไห้เลยคือมันอัดอ้นตันใจมากคือแม่ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม ไปสมัครเสร็จเราไปกับเพื่อนเราร้องไห้บอกว่าไม่อยากเรียนที่นี่ กลัวไม่ไหวกลัวไม่จบ คณะที่เลือกเรียนยากมากกกกกก เป็นที่กล่าวขานในมหาลัยและจบมามีงานทำแน่นอน T____T 

หลังจากนั้นเราก็เรียนที่ม.เปิด(ไม่เลือกคณะที่แอดแล้ว) ก็พูดให้กำลังตัวเองเออวะเอา3ปีครึ่งให้จบ เรียนๆไปเดี๋ยวก็มีค.สุข แต่พอถึง ณ วันนี้เรา ไม่-มี-ความ-สุข เลย!!! เพื่อนๆรู้มั้ยเราเห็เพื่อนให้ห้องเราโพสทืว่าไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยรับน้องมั่ง วันแรกพบมั่ง เราอิจฉามากเลยนะ เราเป็นคนที่ทางเลือกไม่เยอะเหมือนคนอื่นๆที่จะไม่ติดม.รัฐแล้วเข้าม.เอกชนเลย

ตอนแรกเราบอกแม่ไปว่าหนเูรียนที่นี่แหละ(ม.เปิด)แต่พอวันพรุ่งเราบอกแม่เราจะซิ่วนะกลัวเรียนไม่ไหว แม่เราโกรธมากแม่บอกว่า -จะซิ่วทำไมที่สมัครไปก็เปลืองเงินเปล่าถ้าจะซิ่วก็ไม่ต้องเรียนที่นี่ไปหางานทำแล้วปีหน้าค่อยแอดใหม่ แล้วพอมาถึงเมื่อวานเราทะเงาะกับแม่รุนแรงมาก แม่บอก "ถ้า-จะซิ่ว-ก็ไม่ต้องไปเรียนที่นี่เปลืองค่ารถ!! ไหนจะค่าหนังสืออีก ค่าไรเยอะแยะถ้ามันละบากมากก็ไม่ต้องเรียน!! " เพื่อนๆรู้มั้ยตอนนั้นเราแทบล้มทั้งยืน แม่ไม่เคยให้กำลังใจเราเลยตอนอยู่ม.6อ่านหนังสือเตรียมสอบต่างๆ เราทะเลาะกับแม่แม่แช่งเราว่าขอให้เราสอบไม่ติดแม่ยกมือสาธุเลยนะ ตอนนั้นเราอยากตายมากเลยเราอึดอัดเราเครียดแล้วมาตอนนี้แม่บอกไม่ให้เรียนอีก

เมื่อวานแม่เราบอกว่าถ้าเราอยากไปเรียนก็ไปขอพ่อนู่น!! เพราะแม่จะไม่ให้เงินไปเรียน แต่แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทุกอย่างแล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปเรียน TT เมื่อวานเราก็ไม่ได้ไปเรียนเพราะทะเลาะกับแม่วันนี้ก็ไม่ได้ไปเรียนเพราะไม่มีเงินไป (ไม่กล้าขอ) 

เราเลยต้องเรียนย้อนหลังในคอม ตอนที่เรากำลังเรียนแม่ก็เปิดทีวีเสียงดังมากกก เราทนไม่ไหวเลยบอกแม่ไปว่า "รู้!!ว่าไม่อยากให้เรียนแต่ช่วยเอาเสียงลงหน่อยได้มั้ย) แม่เราก็ไม่เอาเสียงลง พอวันนี้เราก็เรียนในคอมอีกแม่คุยโทรศัพท์เสียงดังมากจนเราแบบท้อละไม่ไหวละเลยมาตั้งกระทู้ ว่าเราจะทำยังไงต่อไปดี เราเรียนก็เหมือนเราไม่ได้เรียน มันครึ่งๆกลางๆ 

ตอนนี้เหมือนเราอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม เราคือคนหนึ่งที่แปลกในคนกลุ่มนี้


แสดงความคิดเห็น

>

130 ความคิดเห็น

soyou96 24 ก.ค. 57 เวลา 22:48 น. 1

จขกท. ^^
เราอยากบอกว่าตอนปิดเทอมเราก็ทำงานนะ การทำงานมันทำให้เรารู้เลยว่าเงินแต่ละบาทนั้นหายากมากจริงๆ TT เราทำทั้งพิซซ่า โรงแรมเป็นเด็กเสริฟไรงี้ 55555 เพราะอยากหาเงินมาซื้อในสิ่งที่เราอยากได้อ่ะ ไม่อยากขอพ่อกับแม่5555

แต่เราก็จะสู้นะสู้ให้ถึงที่สุด

0
iCap 23 ก.ค. 57 เวลา 20:11 น. 2

ผมก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรมาก แต่อยากให้กำลังใจนะ
พ่อเราก็ประมาณนี้แหละแต่ไม่หนักเท่านี้(ขอโทดที่พูดตรงไป) 
ผมก็น่าจะเป็นแบบพี่นี่แหละพ่อบอกว่าไม่มีตังส่งเรียนมากหรอก ผมก็ว่าจะเรียนไปทำงานไปยังไงเค้าก็ไม่มีเงินส่งเราอยู่แล้วนิ ในเมื่อเค้าไม่ให้จริงๆเราก็หาเองได้(ถ้าผมทำงานไหวนะ เพราะนี่ก็ขี้เกียจเอาเรื่องเลย555) หรือถ้าไม่มีหรือไม่ไหวจริงๆก็อยากให้ดรอปไว้ก่อน ไม่อยากให้ฝืนความจริง แต่ยังไงก็ขอให้พี่สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้ครับผมมม :)    /เด็กแอด'58

0
24 ก.ค. 57 เวลา 00:43 น. 3

ตอนนี้แนะนำได้แต่ว่า หากมีครั้งหน้าลองหาข้อมูลของคณะที่จะเรียนให้ดีกว่านี้

และมีความพยายามมากกว่านี้  อย่าพึ่งท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มค่ะ อย่าพึ่งกลัว

ทั้งที่ยังไม่พยายามค่ะ  เรียนในคอมลองซื้อหูฟังมาใส่ค่ะจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียง

แม่  น้องเป็นคนท้อแท้และหมดกำลังใจง่ายนะค่ะ  พยายามต่อไปค่ะ

อนาคตของเราเอง

0
YouKW 24 ก.ค. 57 เวลา 03:19 น. 4

เอาเรื่องง่ายๆ แก้ที่ตัวน้องก่อน อย่างที่ คห.2 บอก น้องหมดกำลังใจง่ายไป

ยังไม่ได้พยายามเต็มที่ น้องก็ล้มเลิกความตั้งใจซะแล้ว แค่น้องเห็นคำว่า

อุปสรรคขวางกัน แล้วคนอื่นมาพูดเสริมนิดหน่อย ก็ท้อซะแล้ว น้องต้องมี

กำลังใจมากกว่านี้นะคับ อีกอย่างต้องเข้าใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มันหา

มายากมาก บอกเลยว่าพี่เป็นแบบน้องแล้วพี่ก็ซิ่ว ตอนแรกพ่อแม่ไม่เห็นด้วย

หรอก แต่พี่บอกเขาว่าขอแค่อีกเทอมเดียวให้จบไปเลย ถ้าไม่ชอบที่จะอยู่

จริงๆจะซิ่ว สิ่งที่พี่แตกต่างจากน้องคือ พี่พยายามเต็มที่ แล้วรู้ว่าตัวเองไม่ชอบ

จริงๆซ้ำเลือกทางผิดมาตั้งแต่ต้น พี่ไม่เคยท้อกับคำว่าลำบากข้างหน้า แต่พี่

จะพยายามจนเปลี่ยนใจคนรอบข้างให้ได้ แล้วพี่ก็ทำได้ อย่าลืมนะคับ 

พ่อแม่ก็คือพ่อแม่ เดี๋ยวท่านก็เข้าใจเราเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็กู้ กยศ. เรียนไปเลยคับ

0
mr_aaoonn 24 ก.ค. 57 เวลา 09:34 น. 5

สำรวจตัวเองให้แน่ดีกว่าครับ ว่าอยากเรียนอะไรกันแน่

เวลาปีเดียวจะว่ามากมันก็มาก จะว่าน้อยมันก็น้อย ปุบปับก็ผ่านไปแล้ว

พูดตรงๆนะ เทียบกับชีวิตทั้งชีวิต ปีเดียวมันเล็กน้อยมาก

จะหางานทำก่อนก็เป็นประสบการณ์นึง แล้วคุณจะรู้ว่าได้อะไรไม่น้อยทีเดียว

ถ้าในแง่ของประสบการณ์ชีวิตไม่แพ้เข้าไปเรียนมหาลัยหรอก


ระหว่างรอไม่ว่าคุณจะเรียนหรือทำงาน ก็หาข้อมูลไป สำรวจตัวเองไป

งานในอนาคตที่อยากทำ คณะนี้ชอบไหม เรียนมหาลัยนี่จะภูมิใจไหม

อยากเรียนที่ไหน วิชาที่เรียนเป็นไง ค่าเทอมแพงรึเปล่า บลาๆๆ


อีกอย่างหนึ่ง ระบบของมหาลัยเปิดดังกล่าว จะว่าไปแล้วมันก็อิงกับการ

ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยอยู่นะ ซึ่งปรกติใครๆเค้าก็ทำกัน ถ้าคุณจะขยัน

สักหน่อย คุณก็เรียนด้วย ทำงานด้วยไปเลยซิ คุณได้ความรู้พร้อมกับได้เงิน

มีเงินคุณก็มีอิสระ จะเก็บ จะช่วยพ่อแม่ หรือชื้อของที่ชอบก็ตามใจคุณ


ชื้อกล้องถ่ายภาพ ก็เป็นงานอดิเรกดีเล่นกล้องเป็นด้วย ชื้อเครื่องดนตรี

ซักอันฝึกเล่นก็ไม่เลว ชื้อหนังสืออ่านบลาๆๆ  หรือเก็บเงินพาพ่อแม่ไปเที่ยว

เปิดหูเปิดตาก็ดี ที่สำคัญยิ่งอยู่บ้านคุณก็ยิ่งจิตตก ยิ่งฟุ้งซ่าน จะยิ่งแย่นะ

ออกไปข้างนอกบ้างสนามกีฬา ฟิตเนส ห้างฯลฯ


ส่วนเรื่องพ่อแม่ คุณก็คุยกับท่าน ง้อท่านบ้าง หาข้อมูลไปแล้วอธิบายข้อดี

ข้อเสียอย่างไรก็ว่าไป ความคิดของคุณ ก็อย่าลืมฟังแม่คุณบ้างล่ะ 

มันไม่ยากหรอก เปิดอกคุยกันไปเลย 


ปล. จากที่อ่านดูแม่คุณไม่ได้ใจร้ายหรอกนะ ออกจะใจดีเกินไปด้วยซ้ำ

ปล2. แม่คุณมาแกล้งไม่ได้ตลอดหรอกครับ แต่ใจคุณท้อแท้เลยมองว่ามัน

เป็นเรื่องใหญ่ ปรับใหม่ซะ 24ชม เวลาให้อ่านเยอะแยะ เพื่อนผมอ่าน ตี1-ตี5 ยังมี

0
teerex 24 ก.ค. 57 เวลา 12:02 น. 6

อันดับแรก นอกต้องพิจารณาตัวเองก่อนครับ
นอกกลัวไปก่อนที่อะไรๆจะเกิด
น้องรู้บ้างมั้ยว่าการตัดสินใจแต่ละครั้ง
มันทำให้น้อง และคนที่ดูแลน้องเสียหายอะไรบ้าง
บางครั้งน้องเอาแต่คิดในมุมของตัวเองมากเกินไป
ถึงแม่ของน้องจะแสดงออกกับน้องแบบแข็งกร้าว
แต่สิ่งที่พ่อแม่น้องต้องการ หรือสาระจริงๆในคำพูดลวกๆของคุณแม่น้อง
มันก็คือชีวิตจริง น้องเล่นเลือกจะเข้า ไม่เข้า ที่นั้นที่นี้
เพราะคนนั้นคนนี้พูด เขาไม่ได้มาใช้ชีวิตกับน้องนะครับ
แต่คนที่มาใช้ชีวิต รับผิดชอบชีวิตน้อง มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการตัดสินใจน้อง
ก็คือครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ คนจ่ายเงินครับ
น้องได้คิดถึงพวกเขาบ้างมั้ย ไม่พยายามแล้วบอกว่าไม่ไหว

จบบทวิเคราะห์แล้ว ขอพี่พูดต่อเรื่องวิธีแก้ไขเลยนะครับ
น้องหยุดพักที่จะเรียนไปก่อนครับ ออกไปหาตัวเองก่อน
การที่คุณแม่บอกให้ไปหางานทำ เป็นสิ่งที่ดีครับ
ไปหาว่าการทำงานจริงๆ มันต้องใช้อะไร รู้อะไร
จะได้ไม่ต้องฟังคนอื่นพูดว่าทำไมมาเข้าที่นี้สักที
ชีวิตน้อง น้องต้องเข้าใจ ต้องเรียนรู้ ศึกษาด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ไปลอกคำตอบใครเขามาตัดสินชีวิตตัวเอง

ตัวอย่าง ของคนที่เขาไม่เรียนต่อมหาลัยทันที มีถมเถครับ
ยิ่งต่างประเทศ เกาหลี หรือโซนตะวันตก บางคนก็เรียนสายอาชีพ 
หรือจบมัธยมมาทำงาน ไม่ค่อยเรียนต่อก็มีครับ
แม้แต่คนไทย บางคนก็ออกทำงานต่างประเทศ ไปเที่ยว 
หรือทำอะไรที่เขาจะรู้ชัดว่าตัวเองต้องการอะไร

อย่างแรก เราต้องตั้งเป้าหมายของตัวเองครับ 
พิจารณาตัวเอง ทรัพยากรที่เรามี 
ความถนัด ทรัพย์สินเงินทอง ภาระการดูแลคนในครอบครัว
พิจารณาทั้งในปัจจุบันด้วย อย่ามองแต่อนาคตว่าเราจะต้องไปจุดนั้นๆ
ทั้งที่ปัจจุบันเรายังไม่ผ่านมันไปเลย

ูดยาวมากครับ ไม่รู้น้องจะเข้าใจมั้ย 
คีย์คือ น้องแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อนเถอะครับ ผมสงสารคุณแม่น้อง

0
ต้นหอมครองโลก!!! 24 ก.ค. 57 เวลา 17:16 น. 7
ตาม คห. บนๆเลยค่ะ 
น้องไม่มีความอดทนและกลัวในสิ่งที่ไม่เกิดมากเกินไป
ลองมองในมุมของพ่อแม่ ว่าเขาจะเสียใจมากกว่าเราเป็นร้อยเป็นพันเท่าไม
อย่ามองแต่ในมุมของตัวเอง มองโลกให้กว้างขึ้นหน่อย
0
Sky1823 24 ก.ค. 57 เวลา 17:30 น. 8

ทำไมไม่ลองพยายามดูก่อนหล่ะค่ะ จะรู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ถ้าไม่ได้ลอง แล้วหนูว่าพี่น่าจะลองศึกษาดีๆก่อนนะค่ะ

0
นามแฝง 24 ก.ค. 57 เวลา 19:04 น. 10

อยากเรียนทำไปให้ทำเต็มที่เลย มันคือชัวิตไปให้สุดกับชีวิต มันก็มีดีบ้างเลวร้ายบ้าง

แต่ให้สู้ต่อไป อยากทำอะไรต้องเด็ดขาดไปเลยมันคือชีวิตเรา จงรีบทำในความฝันของตัวเองก่อนที่จะไม่เหลือความฝันให้ได้ทำ ^_^

0
fareya 24 ก.ค. 57 เวลา 19:05 น. 11

อย่าไปกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิด อย่าไปแคร์สิ่งที่คนอื่นพูดแสดงความคิดเห็น มีเพียงคนที่ลองแล้วถึงจะรู้เท่านั้นว่ามันเป็นยังไง และถ้าคิดว่าดีก็ทำไป จบไปมีงานทำก็ดีแล้ว พอเรามีทุนค่อยมาทำสิ่งที่ชอบและไปรอดทีหลังก็ยังได้

0
กรุ้มกริ่ม 24 ก.ค. 57 เวลา 19:06 น. 12

พี่ก็จบม.เปิดนะ พี่คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราค่ะ ถ้าพยายามก็จบได้
การที่น้องท้อถอย ทำให้ตัวน้องเองไม่มีแรงสู้นะ พี่ก็ไม่ได้จบ 3 ปีครึ่ง
หรือ 4 ปีหรอกนะคะ พี่ย้ายคณะเทียบโอนเอา จนในที่สุดพี่ก็จบค่ะ สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้

0
ชมพู่ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:12 น. 13

เรากับแม่ก็ชอบเย็นชาใส่กันแบบนี้นะ
จะบอกว่าเราเข้าใจอารมณ์ของจขกท.มากๆ
อ่านละจะร้องไห้ไปด้วยเลย ถึงแม้ว่าแม่เราจะไม่ได้ทำรุนแรงกับเราแบบนี้อ่ะนะ
เราว่าแม่จขกท.ก็น่าจะมีเหตุผลของเค้า ที่เราไม่เข้าใจ อาจจะโกรธอยู่
คือเราคิดไว้อ่ะนะ ว่าเข้ามหาลัยก็จะไม่ขอเงินเค้าใช้ (อาจจะมีบ้างแต่จะขอน้อยที่สุด)
แล้วเราก็จะหางานพิเศษทำ เดือนนึงก็น่าจะได้อย่างต่ำ 9 พันละ

เราก็ไม่รู้จะแนะนำอะไร แต่ก็ขอให้จขกท.ลองคิดหาทางออกดีๆนะคะ
ตัดสินใจดีๆค่ะ
สู้สู้

0
FernSensitiveAre 24 ก.ค. 57 เวลา 19:12 น. 14

สู้ๆเนอะ คิดสะว่ามันเป็นบททดสอบนึงของชีวิตล่ะกัน ที่จิงอ่ะเรียนที่ไหนเราก็ว่าไม่สำคัญน่ะเอาให้เราชอบและก้อมีความสุขก็พอเพราะบางคนทำงานที่ไม่ใช่สายตัวเองเรียนมาด้สนซ้ำคนล่ะแนวเลยก็ว่าได้ อาชีพส่วนใหญ่อ่ะที่ประสบความสำเร็จจุดเริ่มต้นมันมาจากความชอบก่อนน่ะ ถ้าเราชอบเราจะทำมันได้ดีอ่ะ ถึงใครไม่ให้กำลังใจคุณแต่เชื่อว่าถ้าคุณผ่านๆจุดๆไปได้เขาอาจจะเห็นความตั้งใจของคุณน่ะ สู้ต่อไป... และความสำเร็จของคุณที่ได้มาจะมีค่ากว่าสิ่งใดๆกว่ามันจะได้มากยิ่งลำบากยิ่งคุ้มค่ะ
ของขวัญ

0
onwory jasun 24 ก.ค. 57 เวลา 19:12 น. 15

เราเองก้อเรียน มอเปิดนะ มันความคิดเทอเหมื่อนเราเเหละคือกลัวไม่ไหวเเต่เราต้องขยันน เราเข้าใจจความรู้สึกของเจ้าของกระทู้มากกเราอยากบอกว่าสู้ๆ เราเข้าใจ เเละเราเอาใจช่วยเราเองเรียนอยู่ที่ราม ลองเปิดใจดูเเล้วจะรู้ว่ามอเปิดก้อดีเหมื่อนกัน เราสัมผัสมาเเล้ว 

0
รูปปั้นต้นไม้ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:14 น. 16

ไม่มีความอดทนเลยนะคะ อะไรนิดหน่อยก็ท้อแล้ว แทนที่จะมัวแต่ท้อนี่ไปหางานพาร์ทไทม์ทำดีกว่าไหมคะ
ไหนๆก็เรียนมหาลัยเปิดแล้ว เวลาว่างก็เยอะจะเรียนตอนไหนก็ได้ดูคลิปย้อนหลังก็ได้ทำไมไม่ไปหางานทำหาเงินใช้เองล่ะคะ
เรียนมันไม่เคยง่ายหรอกค่ะแต่เราก็มีหลายวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้
บอกว่าเรียนอยู่แต่แม่เปิดโทรทัศน์คุยโทรศัพท์เสียงดังก็หาหูฟังมาใส่สิคะ
แม่จะพูดยังไงก็ไม่เดี่ยวกับเราหรอกค่ะ ถ้าเราไม่เก็บมาใส่ใจ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ แนะนำว่าอย่าไปสนใจที่ใครเขาพูดแล้วก็ไปหางานพิเศษทำไปเรียนไปนะคะ สู้ๆ ชีวิตยังมีเรื่องดีๆอีกเยอะ อย่ามองแค่ด้านที่ไม่ดีแล้วตัดสินว่าทุกด้านจะต้องไม่ดีนะคะ

0
FREEK 24 ก.ค. 57 เวลา 19:15 น. 17

อนาคตคือเส้นทาง ถ้าเราอยากเรียนสิ่งที่ตัวเองต้องการก็จำเป็นต้องทน(แต่ผมแปลกนิดหน่อย เพราะมีปัญหาสุขภาพ)
ถ้าแม่ไม่อยากให้เรียนเราก็ต้องหาวิธีเรียนไหนแบบ ของเรา(เพราะสักวันเขาก็ต้องอยากให้เราไปทำงานนั้นแหล่ะ ต่อให้คิดแย่แค่ไหน พอถึงเวลาทั้งตัวเขาและตัวเราจะเข้าใจกันเอง)

0
หม่องน่ะจีะ 24 ก.ค. 57 เวลา 19:16 น. 18

อย่าร้องเลยคนดี ของพี่ พี่ไปสอบ มหาลัยเชียงใหม่ ทุกรอบ ไม่ติด 55 5
เห็นเขาโพสกันรับน้องก็อิจฉา ชั่งเขา5 5 ตัวเธอก็ลองกู้ก.ยศดู หางานพสททามทำก็ได้น่ะครับ สู้ๆๆชีวิต ความเศร้า บางครั้งเราควรอร่อยไปกับมันน่ะครับ อย่ามัวแต่ไม่ชอบ เราควรสนุกไปกับชีวิตแบบนี้มั้ง น่า 55 แต่เชื่อเถอะ คนอย่างเธอ โตมาเป็นแม่ของลูกได้ดี สนใจมาเป็นครอบครัวเดียวกันไหมครับ 5 5 5

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

leafmusic 24 ก.ค. 57 เวลา 19:20 น. 20

เพิ่งเจอกับตัวเอง...ในสถานะรุ่นพี่
ใช่เหตุผลคุยกับคุณแม่ให้เข้าใจ...ท่านอาจกำลังคิดอะไรอยู่หรือป่าว

แต่ถ้าเป็นพี่ จะลองไปเรียนก่อน อาจจะชอบและรักทางนี้ไปเลยก็ได้ เพราะพี่เลยเห็นน้องที่รู้จึกปีที่ผ่านมาเค้าบอกจะซิว พอถึงเวลา...พี่ก็ถามเค้าใหม่ เค้าเปลี่ยนใจไปแล้ว
ทางที่สองไปเรียนแล้วไม่ชอบ เราสามารถซิวโอยแทบโอนหน่วยกิต หรือ ย้ายและเก็บวิชาที่ไม่ได้เรียน
แต่ส่วนใหญ่ปี1ทุกมหาวิทยาลัยจะเรียนพื้นฐานเหมือนกัน

สู้ๆๆๆนะ

0