Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สอบตกทุกวิชา ทำไงดี !!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้ผมอยู่ ม.2 สอบมิดเทอมคราวนี้ สอบตกหมดทุกวิชา!!!!!!!

วิทย์ วิชานี้อ่านมาเต็มที่ ทุกปีวิชานี้จะตก แต่ปีหน้าอยากทำคะแนนให้ได้ดีๆ ให้พ่อแม่ภูมิใจ และไม่อยากให้เพื่อนข้างๆดูถูก(เพื่อนข้างๆมันชอบดูถูกไม่ชอบมาก รำคานโคตร กุจะโง่แล้วหนักหัวพ่องมุงป้ะ?? ) ก็พยายามอ่านเต็มที่ ใช้เวลาทั้งวันอ่าน ผลออกมาคือ ตก เพราะข้อเขียนทำไม่ค่อยได้ 

คณิต ตกทุกปีอยู่แล้ว ก็พยายามทำความเข้าใจให้มากที่สุดผลก็แห้วอยูดี แห้วไม่พอ 
 ครู นำ มา ประ จาร หน้า ห้อง !!!!
อับอายโคตร ที่สุดในชีวิต ทำไมต้องนำมาประจารยังงี้ด้วย ก็คนมันโง่เลขนิี่ ยอมรับ 

ไทย - วิชานี้ไม่เคยตกมาก่อน จู่ๆ ตกเฉย คิดว่าไม่น่าตกแล้วนะ เพราะทำได้ แต่ก็แห้ว

อังกริด วิชานี้ได้เกรดดีๆมาตลอด และคิดว่าตัวเองทำได้ พอไปเจอจริงๆ แห้ว

สังคม - วิชานี้ก็ตกอยู่ดี แถมครู ชอบมา เยาะเย้ย เพื่อนข้างๆก็มาเยาะเย้ย ทั้งที่เวลาเรียนมัน ไม่ตั้งใจเลย แต่มันดันผ่าน แล้วมาเยาะเย้ย  มันเจ็บใจแบบ สุดๆ ผิดกับเราที่อ่านมาอย่างดี ตั้งใจเรียนอย่างดี 

ประวัติศาสตร์ - อุส่าห์คิดว่าวิชานี้จะผ่านแล้วนะ ดันตกอีก 

คณิตเพิ่มเติม - วิชานียากกว่าคณิตทั่วไป2เท่า เพราะฉะนั้นก็แห้ว

วิทย์เพิ่มเติม - อุส่านั่งอ่านถึงดึก แต่เนื้อหาที่ออกดันไม่ตรงกันเลย

สรุป สอบ 8 วิชา ตก8วิชา มันช่างอับอายมาก และที่อับอายมากเลยคือ ไอคนที่มันไม่ตั้งใจเรียน กวนๆ มันดันผ่านกันหมด ผิดกับผมที่ อ่านมาตลอดทั้งวัน อยู่ในคาบไม่เคยคุยไม่เคยเล่น ตั้งใจเรียน แต่กลับตกทุกวิชา ทำไมพระเจ้าต้องลงโทษผมถึงขนาดนี้ด้วย ผมทำอะไรผิด ถ้าผมผิดๆจริงๆ ได้โปรดลงโทษผมด้วยวิธีอื่นเถอด Y Y

และที่เจ็บที่สุดคือ
1.ครูมาประจาร คะแนน หน้าห้อง โดยเฉพาะ ตอนที่ครูประกาศผลสอบแล้วบอกคนตก ให้ยืนขึน มันอับอายนะครับ คุณครู ครูลองมาเป็นผมไหม ครูจะรู้สึก เอาแต่พูดว่า เห็นใจครูหน่อยๆ ครูยังไม่เห็นใจผมเลย ทำไมผมต้องเห็นใจครูด้วย ใช่ ผมมันโง่ หัวไม่ดี แต่คนหัวไม่ดี ครูต้องมาทำยังงี้เลยหรอ?มันถูกแล้วหรอ?

2.ทำไมคนเรียนอ่อนเหมือนผม แค่หัวมันดีหน่อย ต้องมาเยาะเย้ยผมด้วย?? ตอนพวกคุณสอบกลางภาค/final ไม่ผ่าน ผมเคยไม่เยาะเย้ยพวกคุณหรอ??? คุณน่าอายกว่าผมอีกที่ต้องแต่งชุดนักเรียนไปซ่อมที่รร.ในขณะที่คนอื่นหยุดไปเที่ยวกัน 

ผมควรทำไงดีครับ เครียดมาก นอนไม่หลับ ต้องอับอายไปถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่จะจบม.2ซะที 

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

Pitchanan Benjachaivirat 24 ก.ค. 57 เวลา 22:31 น. 1
ควรจะอ่านหนังสือมากขึ้นค่ะ ควรมีสมาธิ จดจ่ออยู่กับหนังสือ อ่านทวนหลายๆรอบ แล้วลองสรุปใจความลงกระดาษหรือสมุดก็ได้ จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็เรียนพิเศษก็ได้ หรือถ้าเรียนในห้อง เมื่อเรียนเสร็จ ไม่เข้าใจ งง หรือทำไม่ได้อะไรยังไงให้ถามคุณครูทันทีค่ะ ควรมีสมุดโน๊ตไว้เล็กน้อย เวลาครูเน้นตรงไหนหรือบอกอะไรที่นอกเหนือจากในหนังสือก็จดใส่สมุดเอาไว้แล้วมาอ่านค่ะ อาจจะช่วยได้ :)



สู้ๆ!!
0
aomori1998 24 ก.ค. 57 เวลา 23:19 น. 2
อ่านเยอะใช่ว่าเราจะเข้าใจ อ่านเยอะแค่ไหนถ้าไม่เข้าใจก็สูญเปล่า อย่าโทษพระเจ้า อย่าโทษเพื่อน อย่าโทษตัวเอง อย่าโทษใคร ถ้าวิชาไหนที่เราสอบตกก็ลองไปปรึกษากับครูวิชานั้นๆดู เผื่อทุกอย่างจะดีขึ้น เราว่าจบม.2 มันไม่ใช่ทำงานได้เลย? มันต้องผ่านอีกเยอะ นี่คงไม่ใช่อุปสรรคที่ยากที่สุดหรอก ดังนั้นต่อให้ผ่าน ม.2 ไปได้ก็ใช่ว่าชีวิตจะสวยงามในทันที เรื่องบางเรื่องเราเคลียดก็เคลียดได้ แต่ไม่ใช่ว่าเคลียดจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย ลองเปลี่ยนจากแรงกดดันมาเป็นแรงผลักดันดีกว่าไหม? สู้ต่อไปทาเคชิ 

0
YouKW 25 ก.ค. 57 เวลา 00:45 น. 3
น้องพี่จะบอกน้องให้นะ ที่น้องตกหมดเพราะไรรู้เปล่า

ไม่ใช่น้องโง่นะ แต่น้องอ่ะ เรียนรู้แบบผิดๆ

อาจจะเนื้อหาหรือวิธีการเรียนก็ไม่รู้

(เข้าข่ายเพื่อนพี่เลย อ่านเยอะ แต่ตกหมด)


เวลาเรียน

อย่างแรก ที่น้องต้องเข้าใจคือ เราเรียนไปเพื่ออะไร บทนี้มาได้ไง
แล้วอาจารย์ต้องการให้เราทำได้แบบไหน ง่ายๆจุดประสงค์การเรียนรู้

อย่างที่สอง ต้องเข้าใจว่าอาจารย์ -ตรรกะไม่เหมือนกัน บางคนออกใน
หนังสือ บางคนออกในชีท ออกนอกห้องเรียนก็มี อันนี้น้องต้องไปถามเพื่อน
ถามพี่ แล้วสังเกตเองว่า อาจารย์เราเป็นแบบไหน แล้วเกร็งข้อสอบ

อย่างที่สาม เวลาอ่านไม่ใช่ อ้อเข้าใจละ อย่างเดียว (ไม่เชื่อลองไปเรียนใหม่
ดิ พออาจารย์อธิบาย เราเข้าใจใช่มัย กลับมาทำเองดิ เสื-กทำเองไม่เป็น) อ่านแต่ต้องนำมาใช้ได้จริง เข้าใจและจำได้ด้วย ขั้นตอนอ่านง่ายๆ (ของพี่นะ)

ขั้นแรก - อ่านให้หมด เอาแบบเข้าใจจริงๆ
ขั้นสอง - เขียนสรุปมาเป็นแผนผังความคิด
ขั้นสาม - ใส่รายละเอียดปีกย่อยในเนื้อหาลงสรุป
ขั้นสี่ - ทวนความจำของสิ่งที่่อ่าน
ขั้นห้า - ให้คนอื่นถามคำถามทุกๆอย่าง 
*พิเศษขั้นหก - อ่านทวนซ้ำๆและประยุกต์เนื้อหากับวิชาอื่นๆ ถ้าเข้าใจ
                    ห้าวิธีด้านบนซึ่งเป็นพื้นฐาน การประยุกต์ก็ไม่ใช่อะไรที่ยาก

ถ้า 5 ขั้นตอนพี่ผ่านหมด พี่ถึงจะเรียกว่า อ่านจบแล้วเข้าใจ 

ปล.แล้วแต่คนด้วย วิธีการเรียนรู้ต่างกัน วิธีพี่อาจจะไม่ใช่วิธีถนัดน้อง

แต่วิชาคำนวนต้องนั่งทำโจทย์บ่อยๆนะ
ไปทีละข้อแบบใจเย็นๆ ต้องจำไว้เสมอว่า ถึงจะทำเสร็จน้อยข้อ แต่เราเข้าใจหมด ยังดีกว่าทำเสร็จเป็นพันข้อ แต่ไม่เข้าใจแม่งซะข้อ

เคล็ดลับอีกหน่อย

- จัดตารางอ่านหนังสือสอบอย่างน้อย 2 หรือ 1 เดือนครึ่ง ก่อนวันสอบจริง อันนี้แค่สอบในมัธยมนะ (เด็กส่วนใหญ่อ่านก่อนอาทิตย์นึง ไม่ก็วันเดียว) แต่ถ้าจะสอบเข้ามหาลัยอ่านกันข้ามปีนะลูก

- อย่าบ่นว่า วันนี้เหนื่อย ขอพักก่อนก็แล้วกัน เล่นเน็ตค่อยไปอ่านเนอะ << แม่งไม่รอดสักราย เชื่อดิ ยาวชัวห์ 

หากเจอข้อผิดพลาดของเนื้อหาหรือเราไม่เข้าใจ อย่าข้าม จำไว้ว่า ความไม่รู้นี่ละบ่อเกิดของคนเก่ง พยายามไปหาคำตอบที่ถูกต้องซะนะ (เน็ตมีตรูรู้)

- อ่านสักแปปก็พักหน่อยก็ได้ ไม่ต้องโหมมาก แต่ถ้าคนไหนรับไว้ รู้ขีดของตัวเองก็ทำต่อไปแล้วกันนะ พยายามมองไปข้างนอก มองต้นไม้ สายลม บิ้วอารมณ์เป็นพักๆ (อย่าหลับนะเว้ย!) จิบน้ำชานิดๆ แล้วกลับไปอ่านต่อ

- พยายามทำการเรียนให้ไม่เครียด ศัพท์อะไรที่ท่องแบบลามกๆ 18+ ได้ก็ท่อง อันนี้สูตรพี่เอง เพราะพี่หัวไวเรื่องพวกนี้มากๆ และจำไว 555 

- เอาวิชาที่อ่านแล้วง่วงมาไว้ตอนหลังเลิกเรียน แต่วิชาคำนวนไว้ตอนที่เราเริ่มง่วง เพราะเวลาเราทำโจทย์สมองมันจะแล่นตลอด มันจะไม่หลับ

- ถ้าจะสอบเข้ามหาลัย <<บอกยันชาติหน้า ขอให้ทำข้อสอบเก่าของทุกวิชา 10 ปีup เป็นอย่างน้อย อย่างเข้าใจทุกข้อและทุกโจทย์ ไปเรื่อยๆพอดีๆ


//โอเคเท่านี้น่าจะพอช่วยน้องได้ สู้ๆแล้วกันนะคับ ไฟท์ติ้ง 

0
heidou 25 ก.ค. 57 เวลา 02:15 น. 4

ตั้งสมาธิก่อนเรียนหนังสือ อ่านหนังสือ นะจ๊ะ แล้วเรื่องที่ผ่านไปแล้วมันไม่สามารถแก้ไขได้ เราต้องมองที่อนาคต ครั้งนี้ตกแล้ว ครั้งหน้าต้องบอกตัวเองว่าเราต้องไม่ตก เราต้องได้คะแนนดีให้ได้ ไม่ต้องสนใจคำพูดคนอื่น ไม่ต้องแข่งกับคนอื่น แข่งกับตัวเองดีที่สุด สู้ๆ จ้า

0
littlewolf 25 ก.ค. 57 เวลา 03:55 น. 5

อดทนนะคะ 

อะไรที่ผ่านมาแล้วให้มันแล้วไป เอาอดีตไปทิ้งทะเล เขวี้ยงมันออกจากจิตใจที่ห่อเ-่ยว เขวี้ยงมันออกไปให้หมด ยึดตึดกับสิ่งที่แล้วไปแล้ว สิ่งที่แก้ไขไม่ได้ มีแต่ทรุดกับทรุด (จะมีแต่คนหัวเราะเยาะว่าทำตัวเอง ล้มแล้วยังมาซ้ำเติมตัวเอง ไม่รู้จักเยียวยา รักษาตัวเอง ไม่รักตัวเอง จะโทษใคร) ดังนั้น เขวี้ยงมันออกไปจากใจ ตะโกนใส่ไห แล้วบอกตัวเองว่าต่อจากนี้จะเริ่มใหม่ ล้มร้อยครั้งก็ลุกร้อยครั้ง (เรายังไม่ตาย เรามีโอกาสลุก ดังนั้น ใจต้องสู้ค่ะ)

ปากหอยปากปู คนรอบข้าง สั่งปิดระบบผัสสะทางหู ทางตา ใจ (แคร์ทำไม ฟังทำไม ถ้ามันมีแต่เรื่องแย่ๆ ทั้งเยาะเย้ย ทั้งประจาน ทั้งซ้ำเติม คนที่มีจิตใจต่ำๆแบบนี้ อย่าต่อกร เสียเวลาเอาตัวไปเกลือกกลิ้งด้วย คนปากไม่ดี เพราะใจไม่ดีสั่งให้พูดออกมา มีแต่อกุศลทางใจ ความไม่เห็นใจผู้อื่น อยู่ใกล้ก็เหมือนหลุมดำ)

รักตัวเอง จงถอยออกมา ได้ยินแต่ไม่รับ ได้เห็นแต่ไม่เก็บมาใส่ใจ ล้างใจให้บริสุทธิ์ เย็น ว่างๆแผ่เมตตาให่คนที่น่าสงสารเหล่านี้ เขาคิดดีไม่ได้ ยินดีกับเราไม่ได้ ช่างหน้าสงสารหนอ บอกตัวเองเสมอๆ อย่าให้จิตไหลลงต่ำ ประชด เกลียดครู คนรอบข้างเพราะอารมณ์น้อยใจ (โลกนี้ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ เราไม่ใช่ศูนย์กลางโลก ดังนั้นรักตัวเอง อย่าให้ใครมาทำให้เราล้มและหมดแรง เพียงเพราะเสียงนกเสียงกา)

ถามตัวเอง เครียด กังวล กับการสอบมากไปหรือเปล่า คาดหวังมากไปหรือเปล่า? คนเราผิดพลาดได้ แต่จะให้สำเร็จทุกอย่างได้ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ทันที เรามิใช่เทวดา จะเนรมิตอะไรได้ดั่งใจ บุญก็อาจไม่มากพอ ทำเหตุทำผลไม่เพียงพอ ผลที่ออกมาจึงสอบตกหมดทุกวิชา

เริ่มจาก จิตใจ ผ่องใสหรือไม่ 
หากจิตตก สอบออะไรก็ตกหมดค่ะ เพราะจิตมันไม่สว่าง ผ่องใส ปัญญามันไม่เกิด กลัวแต่จะผิด สมองไม่ประมวณผล ไม่จำ ไม่ทำงาน

แก้ยังไง แก้จิตที่วิตก กังวลง่าย ไม่เคยฝึกก็เริ่มฝึก (ทำเหตุ ทำผลให้ถูก) เมื่อจิตนิ่ง สมาธิ ปัญญาย่อมเกิด ดังนั้น เริ่มฝึกจิตให้นิ่ง เริ่มสมาธิง่ายๆ สวดมนต์ บังคับให้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนสามารถกันเรื่องร้อยแปดรอบตัวออกได้ (ผลลัพธ์คือเรียนดี ความจำดี โอกาสสอบผ่านมีสูงนั่นเอง ลองปฏิบัติดูนะคะ ทำเองเห็นเอง)

ระหว่างนั้นตัดความคาดหวังออก ตัดความกังวล ทั้งปัจจัยรอบข้าง แรงกดดันคในครอบครัว และที่สำคัญภาวะกดดันตัวเอง (อย่าทำร้ายตัวเอง) 
อยากสอบผ่าน อย่าคาดหวังว่าจะต้องผ่าน (นั่นมันอนาคต) ต้องถามตัวเอง ณ ปัจจุบันขณะว่า ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีที่สุดหรือยัง ทำในสภาวะจิตใจที่ห่อเ-่ยว กังวลหรือไม่ ถ้ายังกังวลอยู่ ออกไปนั่งสมาธิเลยว่า เป็นการเติมพลังทางจิต ให้กลับมาสู้กับปัญหาทางโลก (ปัญหามีไว้แก้  คิดบวกนะคะ)

ทำดี ย่อมได้ดี แต่จะได้ดี ต้องมีสติ และกำลังใจที่ดี จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ วางแผนให้ดี ตัดความฟุ้งซ่าน คาดหวังออก แล้วทำให้เต็มที่ ผลอีกเรื่องหนี่ง อย่าเสียใจ ขอแค่ตอบตัวเองให้ได้ว่าเต็มที่แล้วหรือยัง

อยากฉลาดต้องฝึกสมาธิปัญญา มีทางเดียวค่ะ 

อะไรที่แล้วให้แล้วไปนะคะ พึ่งอยู่ ม2  เอง ที่ตกก็เป็นแค่ข้อสอบวัดความรู้ระดับนึง ชีวิตมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นให้เราต้องแก้ พวกสอบมหาลัยไม่ติด เรียนจบมาไม่มีงานทำ ความรู้ที่เรียนไม่พอเขียนกรอกใบสมัครทำงาน ตกงานเป็นปีสองปี หนี้ท่วมหัว อกหักมีแค่คนทิ้ง สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกมากมายที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเข้ามาทดสอบเรา อย่าใส่ใจกับกระดาษ คะแนนที่จับต้องไม่ได้เลยค่ะ 

มันไม่ได้หมายความว่าเราจะโง่ตลอดชีวิต เราจะล้มเหลวทั้งชีวิต นี่อาจเป็นโอกาสที่ทำให้น้องได้เปลี่ยนชีวิตเป็นเด็กที่มีสติ รักตัวเองและมีเป้าหมายในชีวิตจนประสบผลสำเร็จในชีวิตก็ได้ 

อยากเจริญ สมหวังในชีวิต ยึดหลักสอนของพระพุทธเจ้าไว้นะคะ น้องตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ (ยิ่งโตจะยิ่งได้รู้ว่าคนเรานั้นผิดศีลมากมาย จิตใจโหดเ-้ยมก็มี ทิ้งคนทิ้งขว้างเหมือนไม่ใช่มนุษย์ พูดจาสกปรก คิดสกปรก เราจะได้ใช้ชีวิตห่างๆคนเหล่านั้นได้อย่างมีสติ ไม่มีใครรักเราเท่าเราเองและเท่าพ่อแม่)

อยากฉลาดก็กราบพ่อแม่นี่แหละค่ะ กราบเท้าท่านก่อนออกไปทำข้อสอบ ให้ท่านอวยพรให้ ^^ ไม่มีพรใดประเสริฐกว่านี้แล้ว อ่านมาเต็มที่ ไม่สุดโต่งจนไม่หลับไม่นอน อ่านตอนมีสมาธิ มีใจที่สงบ ดีกวาอ่านตอนไม่มีพลังตอนทุกข์ เอาเวลานั้นไปวิ่งเล่นยังจะดีกว่า รู้สภาวะจิตตัวเองแล้วเลือกเวลาที่เหมาะสม เรียกว่าใช้สมอง ใช้ปัญญา แก้ปัญหาในช่วงเวลาที่เหมาะ ที่ควร

เป็นกำลังใจให้นะคะ
 


0
1234 25 ก.ค. 57 เวลา 10:23 น. 6

เวลาอ่านหนังสืออาจต้องมีสมาธิกว่านี้รึเปล่า. เวลาเราอ่านหนังสือเราก็จะกินช้อกโกแล็ต แล้วก็หมากฝรั่งอะ เราว่ามันช่วยได้นะ สมองมันจะปลอดโปร่งอะ. แล้วเวลาสอบทำเสร็จแล้วอย่าลืมทบทวนข้อสอบ
ที่สำคัญ เราว่าเวลาอ่านหนังสือจะต้องสรุปเนื้อหาลงสมุดนะมันจะทำให้เราจำได้มาขึ้นอะ. สู้ๆนะ

0
bell 18 มี.ค. 59 เวลา 11:48 น. 8

เป็นประสบการณ์ในชีวิตค่ะ คนเราก็ต้องเจอแบบนี้แหละถ้าเจอแล้วแปลว่าคุณโตแล้ว คนที่มาล้อคุณเขาอาจยังไม่มีประสบการ์ณตรงนี้ก็ได้พอเขาเจอเดี๋ยวเขาก็รู้สึกเอง ส่วนครูน่ะเขาก็เคยผ่านจุดนี้มาเหมือนกันนั่นแหละครูเขาเข้าใจค่ะแต่แค่ดุเราเพราะอยากให้เราพยายามขึ้นกว่านี้จะได้ไม่โดนดุ คุณลองคิดถ้าครูไม่ผิดหวังมากๆแล้วครูจะเรียกออกมาหน้าชั้นเรียนทำไมกันมันก็ต้องมีเหตุผลบ้างแหละเนอะ แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเรียนอยู่โรงเรียนเอกชนบอกไห้รู้ไว้เลยว่าครูเอาแต่เงินค่ะพ่อแม่ของเพื่อนคุณอาจจะยัดตังให้คูรเอาเกรดก็ได้ค่ะ อย่างนี้ถ้าเวลาอ่านหนังสือต้องทำให้ท่านเห็นค่ะ ว่าคุณตั้งใจอย่างไร แล้วพอสอบออกมาเป็นไง พ่อแม่เค้าจะจัดการเองเลยค่ะ เพราะเห็นเราขยันถึงปานนี้แล้วตกมันก็ไม่ใช่เลยต้องพบครูสักหน่อยรับรองไม่นานเกรดดีเช่นเดิมแน่นอน

0
unyada-lee 27 ก.ค. 60 เวลา 18:47 น. 9

อยากแนะนำค่ะ ดูวันที่แล้วน่าจะอยู่ม.4-5แล้วมั้ง แต่คือตอนนี้เราอยู่ม.3ค่ะ เราก้ตกตอนมิดเทอมม.2 (เทอม1น่ะ)สอบ11วิชา(เยอะมาก)เราล่อไปแล้ว4 (ไม่ใช่เกรดนะ นี่จำนวนวิชาที่ตก)วิชาอื่นก้พอได้อะ อย่างจีนเต็ม20ได้16 เราก้พอใจแล้ว แต่นี่ไอ่วิชาที่ตกอะ เราก้ไม่ถนัดอยู่แล้ว พยายามทำใจละ แต่ก้ไม่เคยตกมาก่อน เราค่อนข้างกลับไปพยายามหนักเลยนะ ก่อนสอบปลายภาค1อะ เราก้อ่านๆๆๆๆยัดเข้าไปเรื่อยๆ คณิตเพิ่มตก คณิตหลักผ่าน วิทย์ผ่าน วิชาที่ตกก้อีก3วิชานี่อังกฤษหมด รร.เราเรียนอังกฤษ4สาขาวิชาด้วยกัน1.reading&listening 2.critical thinking 3.grammar ส่วน4.speaking&writing

เราตก1,2&3จ้าาา -_-เราเข็ดกับสอบมิดเทอมมาก จนสอบเสร็จอะเราก้หยิบหนังสือมาทบทวนหลังเรียนเสมอ ฝึกคำศัพท์ทุกวัน ท่องตำราไปวันๆ555 ท่องไปเรื่อยๆอะค่ะ ส่วนคณิตเพิ่มสมการหรือการแก้โจทย์ต่างๆ เราเอาโจทย์ในหนังสือเรียนมาฝึกลงบนกระดาษอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ครั้งละ4-5ข้อค่ะ เพิ่มระดับความยากไปเรื่อยๆ จนเมื่อตอนปลายภาคไม่ตกสักวิชาเลยค่ะ คะแนนก้พอใช้ได้ บางวิชาได้เต็มเลยทีเดียวค่ะ ก้สำหรับคนอื่นที่ตกแล้วเข้ามาอ่านก้ทำใจนะคะ ท่องให้ตัวเองฟังว่า เราตกคราวนี้ไม่ได้แปลว่าจะตกคราวหน้าสักหน่อย แค่เราลองพยายามในสิ่งที่เราไม่เคยทำ เราก้สามารถข้ามผ่านมันได้แล้ว ดังนั้นเราว่าทุกคนมีสิทธิ์สู้ค่ะ:)

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เนื้อหาซ้ำ เคยโพสท์ไปแล้ว เพื่อความเป็นระเบียบกรุณาโพสท์กระทู้เพียงครั้งเดียว

แอมเอง 30 ส.ค. 63 เวลา 21:44 น. 11

ลูกสาวอยู่ ม3เทอม1 ตกบ่อยเหมือนกันค่ะ จะบอก มีวิชาอะไรบ้าง 

คณิต วิท ไทย ประวัติ สังคม 5วิชานี้จะผลัดกันตกตลอด เทอมละ1-2วิชา สรุปตกครบ5วิชาแล้วค่ะ ปีหน้าจะขึ้นม4แล้วนะ เฮ้อ จะไหวไหม

0