Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[แชร์ประสบการณ์] บทสรุปของคนที่มาขยันในตอนท้าย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อจะเตือนน้องๆม.ปลายทุกคนที่กำลังเตรียมตัวเข้ามหาลัย ให้น้องๆเตรียมตัวกันแต่เนิ่นๆ ดีกว่ามาเร่งในตอนท้ายแบบเรา T^T

ย้อนไปเมื่อตอนม.4 เราเรียนอยู่โรงเรียนในภาคอิสานแห่งหนึ่ง ตอนเรียนนั้นก็เลือกเรียนสายศิลป์-ภาษาอังกฤษ เพราะยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนภาษาที่ 3 ภาษาอะไร เลยลงเรียนศิลป์อิ้งไป ตอนนั้นเราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแอดเลย ไม่ว่าต้องใช้อะไรบ้าง สอบตรงเป็นยังไง ไม่รู้แม้กระทั้งว่า admission แปลว่าอะไร (โง่มากกกก เต่าล้านปีสุดๆ 5555) เราก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย เรียนบ้างเล่นบ้าง เกรดก็อยู่ที่ 3 กว่าๆ สูงสุดได้ 3.70 อยู่ครั้งเดียว นอกนั้นก็ประมาณ 3.4 3.5

พอขึ้นม.5 เราเพิ่งรู้ตัวว่าอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น อยากเข้าอักษรจุฬา เลยไปหาข้อมูลมา ปรากฎว่าคณะเกี่ยวกับภาษาเช่น อักษรศิลปากร ศิลปศาสตร์ มธ. มนุษยศาสตร์ มศว ไรงี้เอาแพทภาษา เราก็ตกใจ! เอาแพทภาษา! แต่ชั้นเรียนศิลป์อิ้งมา! ทำไงดีๆ คิดไปคิดมา เอาวะ! ชั้นจะเรียนภาษาบาลี! ชั้นจะยื่นบาลี! เราลงทุนนั่งรถจากอิสานไปซื้อหนังสือภาษาบาลีแถวท่าพระจันทร์มาเพื่ออ่านเตรียมตัวสอบ ><

ช่วงปิดเทอมใหญ่ ม.5 ขึ้นม.6 เพื่อนเราแทบจะทั้งห้องพากันไปเรียนติวกวดวิชากัน สายศิลป์ส่วนใหญ่ก็จะไปเรียนดาว้องกัน ตอนนั้นเราชิวมาก ไม่ลงเรียนพิเศษอะไรเลย พอเปิดเทอมมาเพื่อนเราทุกคนรู้เกี่ยวกับวิชาภาษาไทยและสังคมเยอะมากกกก!! จนเราอึ้งไปเลย ถามอะไรก็ตอบได้หมด เราเลยถามว่าทำไมถึงรู้ บางอย่างในห้องเรียนอาจารย์ไม่เคยสอนเลย เพื่อนๆเราบอกไปเรียนดาว้องมา เราเลยแบบ เห้ยย! อยากเรียนมั่ง แต่ตอนนั้นกิจกรรมที่โรงเรียนก็เยอะ แถมถ้าลงเรียนดาว้องก็เลิกค่ำมากๆ บ้านเราก็อยู่ไกล ไม่มีรถกลับ สุดท้ายเราก็ไม่ได้ลงเรียนดาว้อง เสียใจมาก T^T

พอช่วงม.6 สอบตรงสนามแรกที่ต้องเจอคือ มศว ตอนนั้นเราอยากสอบมนุษย์ญี่ปุ่นมากกกกก แต่มนุษย์ญี่ปุ่นต้องมีการสอบความถนัดภาษาญี่ปุ่น เราเลยไม่ได้สอบเพราะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นแม้แต่นิดเดียวเลย เราเลยเลือกสอบคณะนวัตกรรมสื่อสารสังคม ผลออกมาว่าติด! ตอนนั้นดีใจมากกก แต่ก็สละสิทธิ์ไม่ไปสอบสัมภาษณ์เพราะมันยังไม่ใช่คณะที่ใช่สำหรับเรา

หลังจากนั้นเราก็สมัครรับตรงของแทบจะทุกที่ที่มีคณะที่เราอยากเข้า มข. เกษตร ธรรมศาสตร์ สรุปว่าไม่ติดทุกที่เลย ตอนนั้นรู้สึกท้อแท้มากๆ ที่สอบมาทั้งหมดติดที่เดียวคือมศว แต่คณะที่ติดก็ไม่ใช่คณะที่ใช่ที่สุด ยังไม่ใช่ความฝันสูงสุด

ช่วงเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาใกล้สมัครแกทแพทรอบแรกประมาณเดือนตุลาคม ตอนนั้นเราก็หาข้อมูลของรับตรงจุฬา เพราะอยากเข้าอักษรจุฬา ปรากฎว่ารับตรงจุฬา ถ้าอยากเรียนภาษาไหนก็ต้องยื่นภาษานั้นเข้ามาเท่านั้น! เอาละสิ! ทำไงดี ชั้นอุตส่าห์เตรียมตัวสอบบาลี แล้วใกล้จะรับสมัครสอบแกทแพทแล้วด้วย! ตอนนั้นเครียดไปหมด อยากเข้าจุฬาก็อยากเข้า เลยตัดสินใจลงสอบแพทภาษาญี่ปุ่น แล้วตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองอย่างจริงจัง! (ก่อนหน้านี้เราก็มีเรียนเองบ้าง แต่ไม่จริงจังเท่าไหร่) ภาษาบาลีที่เรียนมาเองก่อนหน้านี้ก็ต้องทิ้งหมดเลย T^T

เราอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นแทบจะทั้งวันทั้งคืนหรือแทบจะทุกเวลาเลยก็ได้ ขึ้นรถเมล์ เข้าห้องน้ำ กินข้่าว อยู่โรงเรียนจากปกติเวลาว่างจะนั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนก็แยกตัวไปอ่านหนังสือในห้องสมุดบ้าง ให้เพื่อนที่เรียนศิลป์ญี่ปุ่นสอบให้บ้าง เวลากลับมาถึงบ้านก็รีบทำการบ้าน อาบน้ำกินข้าว แล้วอ่านแพทญี่ปุ่นจนถึงเที่ยงคืน แล้วตื่นมาอ่านอีกทีตอนตี 4 บางที่ก็ดูคลิปสอนภาษาญี่ปุ่นในยูทูป ทำอย่างนี้ทุกๆวันจนสายตาสั้น 200 ภายใน 2 อาทิตย์เลย เพราะใช้สายตาเยอะมาก เพ่งเยอะมากกกก!!

พอวันสอบแกทแพทรอบแรก เราก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง พอผลออก ปรากฎว่าเราได้คะแนนแพทญี่ปุ่น 118 คะแนน! มันอาจจะไม่เยอะสำหรับคนอื่นแต่มันเยอะสำหรับเรามาก เพราะเราคิดว่าเราคงได้ไม่เกิน 50 แน่ๆ เรียนคอร์สญี่ปุ่นก็ไม่เคยเรียน แล้วก็เพิ่งมาเรื่มเรียนเองอย่างจริงจังตอนสมัครสอบแกทแพทนี่เอง จากวันที่เริ่มเรียนจนถึงวันที่ก็สอบประมาณ 5 เดือน ซึ่งถ้าจะเอาความรู้ที่ได้ไปแข่งกับคนที่เรียนศิลป์ญี่ปุ่นมา 3 ปี เราแทบหมดหวัง ท้อและร้องไห้ไปหลายครั้งมาก

พอรับตรงจุฬามา เราไม่รีรอรีบสมัครอย่างรวดเร็ว พอผลออกมา ปรากฎว่าเราไม่ติด T^T เราเสียใจแต่ก็ยังไม่หมดหวัง เตรียมตัวแอด ยังฟิตอ่านภาษาญี่ปุ่นต่อไป เอ้อ เราลืมบอกไปว่าเราก็สอบแพท 1 แต่คะแนนมันช่างต้อยต่ำเสียเหลือเกิน ได้ 60 คะแนน แต่มั่วทุกข้อ 5555 หลังจากนั้นก็มีสอบแกทแพทรอบ 2 คะแนนเราน้อยกว่าเดิมทั้งแกทและแพท ตอนนั้นรู้สึกแย่มากเพราะคิดว่าทำได้มากกว่ารอบแรกแต่คะแนนน้อยกว่ามากกก T^T

เอาล่ะ! ถึงช่วงเวลาแอด ตอนนั้นวันๆเข้าแต่เว็บเด็กดีกะเว็บของพี่โดม เราคำนวณคะแนนเป็นร้อยๆรอบได้ ประหนึ่งว่าคำนวณเยอะแล้วคะแนนมันจะเพิ่มขึ้นมา 555 คะแนนของเราได้ประมาณ 18,xxx ถ้ายื่นแพทญี่ปุ่น 20,xxx ถ้ายื่นแกทล้วน และ 17,xxx ถ้ายื่นแพทเลข หนทางที่จะติดจุฬานี่ริบหรี่มากกก มธ. กับ มก. คะแนนขั้นต่ำแพทญี่ปุ่นเราก็ไม่ถึง เราเลยเลือกอันดับตามความเป็นจริงของเราแบบนี้

1. อักษรศาสตร์ ศิลปากร (ยื่นแพทญี่ปุ่น)
2. มนุษยศาสตร์ ญี่ปุ่น มศว
3. มนุษยศาสตร์ ญี่ปุ่น มข.
4. มนุษยศาสตร์ ญี่ปุ่น ม.บูรพา

พอวันประกาศผลแอดเท่านั้นแหละ เราทำงานพิเศษอยู่ มองนาฬิกาตลอดว่าเมื่อไหร่จะ 6 โมงเย็น จะใช้มือถือก็ใช้ไม่ได้ในเวลางาน ตื่นเต้นมาก แทบอยากจะลาหยุดรอลุ่นผลแอดอยู่บ้านแต่หยุดไม่ได้ พอเลิกงานเท่านั้นแหละ เราก็รีบกลับมาลุ้นที่บ้านกับพ่อแม่ ปรากฎว่า.. เราแอดติดอักษร ศิลปากร!!! เรากรี๊ดลั่นบ้านเลย นึกว่าจะไม่ติดแล้วเพราะเราไม่เคยเรียนพิเศษเลย ปีที่แล้วคะแนนของศิลปากรก็ลดลงมาก ปีนี้คนต้องแอดเยอะมากแน่ๆ แล้วอีกอย่างเราคิดว่าคะแนนเราน้อย คนที่ได้เยอะกว่าเราต้องมีเยอะแน่ๆ ถึงเราจะไม่ได้เรียนจุฬาอย่างที่หวัง แต่เราก็ไม่เสียใจที่ติดศิลปากร ดีใจมากกก!! นึกว่าจะไม่ติดที่ไหนเลยด้วยซ้ำ TT___________TT

สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกน้องๆที่เข้ามาอ่านว่า ห้องน้องๆอยู่ม.ต้น หรือม.4 น้องๆควรหาอ่านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพวกรับตรงหรือแอดต่างๆให้ดีและละเอียด คณะไหนเอา-ส่วนเท่าไหร่อะไรยังไง ถึงแม้ว่ามันจะอาจจะมีเปลี่ยนแปลงแทบทุกปี แต่การหาข้อมูลไว้แต่เนิ่นๆจะทำให้น้องๆเข้าใจระบบของการเข้ามหาลัยก่อนคนอื่น มีเวลาเตรียมตัวอย่างถูกต้อง ของพี่นี่ครั้งแรกเครียมตัวแต่ไม่ถูกต้อง อยากเข้าญี่ปุ่น อักษรจุฬา แต่ไปเตรียมตัวอ่านภาษาบาลี มาเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเอาซะตอนที่จะสมัครแกทแพทรอบแรก มันฉุกละหุกและจวนตัวมาก ช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลาที่พี่เครียดมากถึงมากที่สุด น้ำหนักลงลงเกือบ 10 โล และโทรมมากเพราะอ่านหนังสือหนักมาก พอแอดติด ตอนนี้พี่กลายเป็นหมูไปแล้วว 5555 ขอให้น้องๆทุกคนโชคดี จากพี่เด็กแอด 57

สู้สู้

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

GailyKeroro 29 ก.ค. 57 เวลา 19:35 น. 1

ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะพี่
หนูก็จะสู้ๆ !!! > < มีกำลังใจขึ้นอีกขั้น
ขอบคุณค่าาา

0