Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเป็นนักร้องแต่เพิ่งมารู้ว่ามันบาป!!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 คือเราชอบการร้องเพลง ฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งมารู้ตอนหลัง หลังจากที่ได้ฟังเทศนาจากพระรูปหนึ่ง เรื่องการเป็นนักร้องนั้นบาปถึงขั้นตกนรก เนื่องจากการร้องเพลงขับกล่อมดนตรี แม้กระทั่งการแสดงต่างๆ ที่ทำให้ผู้ชมลุ่มหลงในทางที่ผิด อย่างในอบาย6 ก็มีเกี่ยวกับการดูมหรสพ อะไรแบบนี้ก็ถือว่าผิด เราก็เลยรู้สึกเหมือนฝันที่เราเคยตั้งไว้ตั้งแต่เด็กมันออกจะริบหรี และ หมดหวัง เพราะเราไม่อยากทำบาปและก็ไม่อยากให้ผู้คนต้องมาหลงผิดเพราะเราด้วย อันนี้หมายถึงอนาคตนะสมมุติ(ถ้าได้เป็นอ่านะ แต่คงยาก) แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ ทั้งๆที่อยากเป็นนักร้องมากแค่ไหนแต่เราก็ไม่อยากทำบาป ขอปรึกษาหน่อยค่ะ มีใครบ้างที่อยากเป็นนักร้องเหมือนกัน ทีัถึทั้

แสดงความคิดเห็น

>

23 ความคิดเห็น

Mr.wake 31 ก.ค. 57 เวลา 23:45 น. 1

เย้! ดีใจที่มีคนที่มีหิริโอตัปปะอยู่ หลายคนเขาไม่สนหรอกธรรมโมะธรรมมะ
เด่น ดัง รวย เขาก็วิ่งเข้าใส่กันทั้งนั้น
เดี๋ยวจะลองหาพระสูตรที่พระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้ดู กำลังคิดว่าร้องออกแนวธรรม ออกแนวให้เห็นสัจธรรมของชีวิต ให้เห็นอำนาจของกิเลส ... อะไรแบบนี้น่าจะพอได้นะ เพลงเพราะๆเนื้อหาดีๆน่าจะเป็นสิ่งที่พอได้ในระดับนึง 

0
Mr.Saka 1 ส.ค. 57 เวลา 08:23 น. 2

คงไปอ่านเจอ "ตาลปุตตสูตร" มาใช่ไหมครับ

ลองไปศึกษาให้ลึกซึ้งกว่านี้แล้วจะรู้ว่าการเป็นนักร้องนักแสดงแบบไหนที่จะตกนรก 

พุทธศาสนามันมีแนวคิดที่ลึกซึ้งครับ ตีความได้มากมายหลายแบบ อาชีพทุกชนิดในโลกผมว่ามันก็มีดีดมีชั่วปะปนกันไปทั้งนั้นแหละครับ ต่อให้เป็นพระก็เถอะถ้าทำไม่ดีก็ลงนรกเหมือนกัน

ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยว่าจะลุ่มหลงมัวเมามากขนาดไหน ถ้ามีสติไม่มีเจตนาทำความชั่ว มุ่งทำความดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ก็ไม่ต้องกลัวนรกครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

เทพบุตรสยบฟ้า♛♘ 1 ส.ค. 57 เวลา 15:40 น. 6

ถ้าเป็นคนเลวไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรมันก็ต้องตกนรก อยู่ดีครับ แต่ถ้าเราเป็นคนดีการเป็นนักร้องมันต้องออกมาในรูแบบที่ดี การเป็นนักร้องที่ดีต้องทำยังไงคงไม่ต้องบอกนะครับ และเงินที่ได้มาจากการทำงานก็ควรรู้จักบริจาค มีการทำความดีมากมายหลายรูปแบบ การฟังพระท่านสอนเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ต้องหัดพิจารนาด้วยครับ มีสติปัญา ไม่งั้น อาจจะหลงทางเอาได้ครับ เพราะเป็นกันหลายๆคนที่เดินหลงทาง  ทำไมนักรบสมัยก่อนถึงรบราฆ่าฟันกัน ทั้งที่การฆ่ากันไม่ว่าอย่างไรมันก็บาป ก็เพราะมนุษย์เรายังมีรัก โลบ โกรธ หลง เรายังอยู่ทางโลกต่างคนต่างทำหน้าที่ของ ตน การเป็นคนดีเราเลือกเป็นได้ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เป็นนักร้องไม่ได้ไปขายตัว เป็นนักร้องไม่ได้ร้องเพลงเสียดสี หรือร้องเพลงลามก เป็นนักร้องไม่ได้ไปเต้นยั่วสวาท แค่นี้ก็ไม่ตกนรกหรอกครับ (ความเห็นส่วนตัว)

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

REDRUM 1 ส.ค. 57 เวลา 19:57 น. 8

ถ้ามันเป็นอาชีพสุจริตไม่เบียดเบียนให้ใครเดือดร้อนก็ไม่บาปหรอกค่ะ

0
เย็นชา ซาดิตส์ ติสต์แตก 1 ส.ค. 57 เวลา 20:58 น. 9

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ทำอะไรให้มันพอดี" ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เราทำ

ถ้าได้เป็นจริงๆ ก็ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี เรื่องเด่น ดัง หรือรวยก็อย่าไปสนใจมันมาก เรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำก็พอ และอย่าให้มันไปเดือดร้อนใคร แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ

สู้ๆ นะ แล้วจะรอผลงาน ^^

0
Mr.wake 1 ส.ค. 57 เวลา 22:03 น. 10

ไปค้นเอามาแชร์ให้อ่านครับ

ตาลปุตตสูตร
ว่าด้วยผู้ใหญ่บ้านชื่อตาลบุตร

[๓๕๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่ให้
เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำชื่อตาลบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ยินคำของพวกนักฟ้อนรำ ผู้เคยเป็นอาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ กล่าวว่า ‘นักฟ้อนรำคนใดทำให้ประชาชนหัวเราะรื่นเริงด้วยคำจริงบ้าง เท็จบ้าง กลางโรงละคร กลางงานมหรสพ นักฟ้อนรำคนนั้นหลังจากตายแล้วจะเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเหล่าเทวดาชื่อปหาสะ’ ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างไร”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “อย่าเลย ผู้ใหญ่บ้าน จงพักปัญหาข้อนี้ไว้
อย่าถามเราเลย”
แม้ครั้งที่ ๒ ผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำชื่อตาลบุตรได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้
ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ยินคำของพวกนักฟ้อนรำผู้เคยเป็น
อาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ กล่าวว่า ‘นักฟ้อนรำคนใดทำให้ประชาชนหัวเราะรื่นเริงด้วยคำจริงบ้าง เท็จบ้าง กลางโรงละคร กลางงานมหรสพ นักฟ้อนรำคนนั้นหลังจากตายแล้วจะเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเหล่าเทวดาชื่อปหาสะ’ ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างไร” พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “อย่าเลย ผู้ใหญ่บ้าน จงพักปัญหาข้อนี้ไว้อย่าถามเราเลย”

แม้ครั้งที่ ๓ ผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำชื่อตาลบุตรได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้
ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ยินคำของพวกนักฟ้อนรำผู้เคยเป็น
อาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ กล่าวว่า ‘นักฟ้อนรำคนใดทำให้ประชาชนหัวเราะรื่นเริงด้วยคำจริงบ้าง เท็จบ้าง กลางโรงละคร กลางงานมหรสพ นักฟ้อนรำคนนั้นหลังจากตายแล้วจะเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเหล่าเทวดาชื่อปหาสะ’ ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคตรัสอย่างไร”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “ผู้ใหญ่บ้าน เราได้ห้ามท่านแล้วว่า ‘อย่าเลย
จงพักปัญหาข้อนี้ไว้ อย่าถามเราเลย’ แต่เอาเถิด เราจักตอบแก่ท่าน
เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายไม่ปราศจากราคะ ถูกเครื่องผูกคือราคะผูกไว้ นักฟ้อนรำย่อมรวบรวมธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดเข้าไปกลางโรงละคร กลางงานมหรสพแก่สัตว์เหล่านั้นโดยประมาณยิ่ง
เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายไม่ปราศจากโทสะ ถูกเครื่องผูกคือโทสะผูกไว้ นักฟ้อนรำย่อมรวบรวมธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความโกรธเข้าไป กลางโรงละคร กลางงานมหรสพแก่สัตว์เหล่านั้นโดยประมาณยิ่ง
เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายไม่ปราศจากโมหะ ถูกเครื่องผูกคือโมหะผูกไว้ นักฟ้อน
รำย่อมรวบรวมธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความหลงเข้าไปกลางโรงละคร กลางงานมหรสพแก่สัตว์เหล่านั้นโดยประมาณยิ่ง
นักฟ้อนรำนั้นตนเองก็มัวเมาประมาททั้งทำให้ผู้อื่นมัวเมาประมาทด้วย หลังจากตายแล้วจะไปเกิดในนรกชื่อปหาสะ
แต่ถ้าเขามีความเห็นว่า ‘นักฟ้อนรำคนใดทำให้ประชาชนหัวเราะรื่นเริงด้วยคำจริงบ้าง เท็จบ้าง กลางโรงละคร กลางงานมหรสพ นักฟ้อนรำคนนั้นหลังจากตายแล้วจะเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเหล่าเทวดาชื่อปหาสะ ความเห็นของเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิด) และผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ เรากล่าวว่ามีคติอย่าง ๑ ใน ๒ อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน”

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำชื่อตาลบุตรได้
ร้องไห้ น้ำตาไหลพราก พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ผู้ใหญ่บ้าน เราได้ห้ามท่าน
แล้วว่า ‘อย่าเลย จงพักปัญหาข้อนี้ไว้ อย่าถามเราเลย”
ผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์มิได้
ร้องไห้เพราะพระองค์ตรัสอย่างนั้นกับข้าพระองค์ แต่ข้าพระองค์ถูกพวกนักฟ้อนรำผู้เป็นอาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ หลอกลวงให้หลงมานานว่า ‘นักฟ้อนรำคนใดทำให้ประชาชนหัวเราะรื่นเริงด้วยคำจริงบ้าง เท็จบ้าง กลางโรงละคร กลางงานมหรสพ นักฟ้อนรำคนนั้นหลังจากตายแล้วจะเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับเหล่าเทวดาชื่อปหาสะ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก ข้าแต่พระ
องค์ผู้เจริญ พระภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก พระองค์ทรงประกาศ
ธรรมแจ่มแจ้งโดยประการต่าง ๆ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิดบอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือตามประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า ‘คนมีตาดีจักเห็นรูปได้’
ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ
ข้าพระองค์พึงได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาค”
ผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำชื่อตาลบุตรได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มี-
พระภาค และท่านพระตาลบุตรอุปสมบทได้ไม่นาน ก็หลีกออกไปอยู่คนเดียว
ไม่ประมาท มีความเพียร อุทิศกายและใจอยู่ ฯลฯ อนึ่ง ท่านพระตาลบุตรได้
เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย

ตาลปุตตสูตรที่ ๒ จบ

0
Mr.wake 2 ส.ค. 57 เวลา 00:29 น. 11

ถ้าแสดงแล้วไปเพิ่ม ราคะ โทสะ โมหะ (กำหนัด โกรธ หลง) โดยประมาณยิ่ง ก็เป็นสิ่งไม่ดี ทำให้เกิดในนรกได้เลย 
พวกนักแสดงนักร้อง ออกไปทางยั่ว ก็ไม่ควร แต่สมัยนี้กลายเป็นปรกติเยอะแยะไปหมด แล้วดูผลซิ ฆ่าข่มขืน ยิ่งเร็วๆนี้บนรถไฟแท้ๆ กลางผู้คน+พี่น้อง ฉกไปจากเตียงบนรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้คน อยากไปกระตุ้นกันดีนัก แล้วก็ทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองมีส่วน ของดาราพวก"นุ่งชั่ว ห่มชั่ว"

ดูหนังในจอที่ต่างฝ่ายต่างใส่อารมณ์ด่ากันด้วยความโกรธ สะใจดี มันดี แล้วก็ย้อนมาดูสังคมซิ เป็นผู้ใหญ่กันแล้วคนไทยด้วยกันแท้ๆแต่ก็แบ่งฝักแบ่งฝ่าย คุยกันไม่รู้เรื่องจะเอากันให้ตาย ให้ประเทศชาติเสียหายวุ่นวาย แล้วตอนนี้เป็นไง มันก็เป็นผลจากการใช้อารมณ์โกรธเกลียดเหนือเหตุผล

ตอนนี้มีtvกี่ช่องหล่ะ เป็นร้อยๆ บ้าา..ไปแล้ว หลงในรูป ในเสียง ในอารมณ์ต่างๆที่มากอย่างในหนัง อะไรกันขนาดนี้ มันเป็นเรื่องของเงินของผลประโยชน์เป็นใหญ่ แล้วก็ใช้ประโยชน์จากน้องๆนี่หล่ะ ดูดเงินไปให้เขา สร้างหน้าใหม่เข้ามาในวงการ ถ้าดังพวกนายทุนก็ได้ตัง ถ้าไม่ดังก็หาคนใหม่

คำสอนของพระพุทธเจ้านี้ก็ชัดนะ แต่หลายคนก็อ้างโน่นอ้างนี้ก็เพราะเอาชนะกิเลสเงิน/ชื่อเสียง/เด่นดังไม่ได้ เงินมันเยอะ เรื่องนึงได้เท่าไหร่ ถ่ายรูปsexyๆ ได้กันเท่าไหร่ ร้องเพลงทีได้เท่าไหร่ ยังร้องไม่ค่อยเป็นแค่ไปฝึกออกอากาศreallity show ก็ได้แระ และได้ทำสิ่งที่ชอบด้วยก็ไปกันใหญ่เลย
พวกผู้ใหญ่ที่ได้ผลประโยชน์จากสิ่งนี้ก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไม่ปล่อยอยู่แล้ว
สร้างภาพกันเข้าไป ดีอย่างงั้นดีอย่างงี้ ก็อาจใช่แต่ส่วนไม่ดีก็เงียบเอาไว้  

ก็ไม่ได้ให้เชื่อให้พิจารณาดู
ร้องเล่นพวกเพลงธรรมะหนังธรรมะดีเลย นึกถึงเคยได้ยินว่าคนไทยเราจะสร้างหนังเรื่อง พระพุทธเจ้า ก็เงียบไปเลย เพลงบางเพลงให้ข้อคิดชีวิตเนื้อหาดีก็น่าส่งเสริม แต่ดูเหมือนว่าพวกนายทุนจะสนับสนุนแค่เป็นเครื่องประดับให้พวกเขา สร้างภาพให้พวกเขา และก็ใช่เขาก็คงอยากทำอะไรดีบ้างสักนิด เหมือนว่าเขาก็มีธรรมะ เข้าใจธรรม ห่วงสังคม แต่จริงไม่ได้สนับสนุนจริงจังอะไรหรอก เพราะเดี๋ยวกระเทือนวงการเขาเอง คนสนใจธรรมหมดเขาก็แย่ซิ เขาต้องหากินกับการร้องการเล่น รูป เสียง อันวิจิตตระการตา
หวังพึ่งน้องๆนี้หล่ะ ผู้ใหญ่เขาเป็นทาสเงินทาสกิเลสกันไปหมดแทบจะไม่เหลือ!!! 
แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ทำเท่าที่ทำได้ แค่...
"ทำดี ละชั่ว ทำจิตใจให้โปร่งใส" พระพุทธเจ้า
^___^

0
Mr.wake 8 ส.ค. 57 เวลา 12:05 น. 15

ใครคิดว่างมงายไร้สาระ อยากเสี่ยงตายไปแล้วต้องตกนรก ถึงตอนนั้นช้าไปแล้วก็คงช่วยอะไรไม่ได้ คนเราย่อมมีเหตุผลต่างกันความเชื่อต่างกันก็ไม่แปลก
จะเสริมว่าถ้างมงายไร้สาระจริง คงไม่อยู่ยงคงกระพันเป็น2500กว่าปีมั๊ง รวมทั้ง ทั้งๆที่วิทยาศาสตร์เจริญไปแค่ไหน ใครสักคนสามารถลบล้างธรรมได้ไหม? แม้ว่าไอสไตนย์ยังให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธเลย แม้ว่าคนหลายคนตั้งแต่คนจนถึงร่ำรวยเป็นระดับtopของประเทศไทยหรือเมืองนอกด้วยก็ตามที่นับถือพุทธ ก็ต้องก้มกราบหรือน้อมศรีษะแทบ/จรดพื้น และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว นับไม่ถ้วนก็ว่าได้ในแต่ละชีวิตของคนๆนึง
พวกที่อ้างว่าไร้สาระน่าจะเป็นข้ออ้างง่ายๆของผู้ที่อยากทำตามใจตัวเองซะมากกว่า ก็เข้าใจว่ามันไม่ง่ายถ้าจะปฏิบัติให้ถูกธรรม แต่จริงๆก็ไม่ยากเกินไปนะ แต่มันก็ยากเพราะสังคมถูกนำพาไปให้ผิดทาง น้องๆหลายคนยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์อยู่เยอะ น่าจะเห็นอะไรอย่างเป็นจริงได้เยอะณ เวลานี้ ต่อไปนานเข้าโตเข้าถูกยัดเยียดปรนเปรอด้วยกิเลสต่างๆ ก็คง...

0
Shalnark Diabolus 8 ส.ค. 57 เวลา 13:00 น. 16

เคยศึกษา "กาลามสูตร" มั้ยครับ เพราะเชื่อถือนับถือกันไม่มีเหตุมีผลแค่ทำตามๆกันแบบนี้แหละผมถึงบอกว่างมงาย ถึงผมจะเป็นคนไม่มีศาสนาแต่ถ้าถกปัญหาธรรมกันไม่แน่ผมอาจจะเข้าใจแก่นแท้มากกว่าบางคนที่อ้างตัวว่าเคร่งครัดก็ได้นะ - -

0
Mr.wake 11 ส.ค. 57 เวลา 23:30 น. 17

เคยซิครับเป็นพระสูตรที่ดีพระสูตรนึง ผมก็เลยยกตัวอย่างบุคคลสำคัญๆทั้งของโลก เช่นไอสไตน์หรือบุคคลสำคัญของประเทศไทยมานี่ไง ว่าท่านเหล่านี้เขาให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธมากแค่ไหน
รวมทั้งว่ามีวิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือทฤษฎีมาลบล้างธรรมได้ไหม
แต่คุณมาบอกง่ายๆว่าไร้สาระซะงั้น มันเป็นข้ออ้างของคุณเองที่ไร้สาระซะมากกว่า
เพราะหลายคนนั้นเขาได้ศึกษาใช้ปัญญาด้วยเหตุด้วยผลในระดับเขา และมีทั้งลองปฏิบัติจริง มันได้ผล แต่คุณก็มาว่าศาสนาพุทธง่ายๆว่ามันไร้สาระ
เมืองนอกเขามีทั้งใช้เครื่องตรวจสอบคลื่นสมองกันเลยเพื่อดูผลจากการนั่งสมาธิ ฯลฯ

0
Mr.wake 11 ส.ค. 57 เวลา 23:55 น. 18

คุณอาจจะเข้าใจว่ามันไร้สาระเพราะถ้ามันดีจริงแล้วทำไมหลายๆคนไม่ทำหล่ะ สังคมไม่เอาธรรมมาปฏิบัติหล่ะ ทำไมมุ่งแต่หาเงิน มุ่งแต่พัฒนาเทคโนโล่ยี่ มุ่งแต่พัฒนาวัตถุให้เจริญวิเลิศสมาหรา ก็เพราะเราอยู่ในโลกในสังคมที่เป็นทาสเงินทาสกิเลสกัน ทางธรรมมันต้องปฏิบัติด้วย ศึกษาทฤษฤีก็ไม่ง่ายแล้ว พระไตรปิฏกกี่เล่มๆนึงหนาแค่ไหน ดูพระพุทธเจ้าสอนซิ พอจะเข้าใจทฤษฎิก็ต้องรู้จักนำมาปฏิบัติอีก และอีกส่วนคือเมืองนอกเขาไม่ค่อยจะรู้ธรรมเท่าไหร่ (แต่ก็เริ่มมากขึ้นแล้ว) เขาก็มุ่งแต่พัฒนาวัตถุโดยคิดว่ามันจะนำสุขมาให้เขาได้ ซึ่งมันก็ใช่ส่วนนึง เพราะมันก็ทำให้ทุกข์ด้วยรวมทั้งสุขกับมันก็ได้ไม่นานอีก

0
Shalnark Diabolus 12 ส.ค. 57 เวลา 01:43 น. 19

แล้วตัวคุณเคยลองเหรอครับถึงได้รู้ ที่คุณว่ามาลองพิจารณาเอาละกันครับว่าผิดหลักกาลามสูตรไปกี่ข้อแล้ว ที่สำคัญ...ช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับว่านรกหรือสวรรค์มันอยู่ที่ตรงไหน มีลักษณะเป็นอย่างไร นรกตามหลักศาสนาพุทธกับหลักศาสนาคริสต์ต่างกันหรือเปล่าและต่างกันตรงไหน โลกนี้มีศาสนาอยู่มากมายแต่ละศาสนาก็มีคำสอนและตำนานของตัวเอง หากพิจารณาเฉพาะคำสอนก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างชัดเจนว่ามุ่งเน้นให้คนทำดีละชั่ว แต่หากพิจารณาเทวะตำนานจะเห็นได้ว่ามีหลายอย่างที่ตำนานหลายๆศาสนาขัดกัน คุณจะอธิบายมันยังไงครับ จะบอกว่าพุทธคือความถูกต้องที่เหลือมั่วเหรอ? โลกแคบจังนะครับที่แค่เห็นผมบอกว่าผมเป็นคนไร้ศาสนาก็มาตีความว่าผมเป็นพวกไม่มีศาสนายึดเหนี่ยวจิตใจแล้วก็ใส่เอาใส่เอาน่ะ ไม่มีศาสนาของผมคือการที่เปิดรับทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกันต่างหาก ดังนั้นหากจะอ้างนรกสวรรค์หรือเทวะตำนานละก็อย่าเลยครับตำนานที่ขัดกันมันมีเยอะ แต่หากจะอ้างคำสอนก็ว่ากันอีกเรื่อง อีกอย่าง...ผมขอถามหน่อยครับ ถ้าคุณบอกว่าการเป็นดารานักร้องนักดนตรีจะต้องตกนรก งั้นในหลวงที่ทรงเป็นนักดนตรีก็ต้องตกนรกด้วยสิครับ หรือคุณจะโลกสวยแถมด้วยแล้วบอกว่าเป้นข้อยกเว้นล่ะ? เท่าที่ผมอ่านความคิดเห็นของคุณ ผมว่าคุณก็แค่ฟังคำสอนมาแล้วก็เอามาพูดเอามาปฏิบัติโดยที่ไม่คิดตามเลยมากกว่า ดนตรีมันผิดอะไรล่ะครับคนที่เล่นดนตรีหรือร้องรำทำเพลงถึงต้องตกนรกบอกผมหน่อยเถอะ ถ้ายกกรณีที่คุณบอกว่าดารานักร้องปัจจุบันนุ่งน้อยห่มน้อยยั่วกิเลสตัณหากรณีนั้นตายไปจะต้องตกนรกขึ้นมาละก็ อันนี้ผมจะไม่เถียงเลย แต่ที่คุณถกเถียงกับผมอยู่ตอนนี้คือคุณเหมารวมว่าคนที่เล่นดนตรีหรือร้องรำทำเพลงหรือนักแสดงจะต้องตกนรก นักแสดงดีๆ นักร้องดีๆ นักดนตรีดีๆ ก็มีถมเถไป เพราะงั้นผมว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มุมมองของผมหรอกครับ แต่เป็นความศรัทธาจนขาดสติและความสามารถในการสื่อความของคุณมากกว่า

0
Shalnark Diabolus 12 ส.ค. 57 เวลา 01:55 น. 20

แล้วก็ช่วยบอกผมหน่อยครับว่าดีหรือชั่ว บุญหรือบาปมันใช้เกณอะไรมาแยก สมมุตินะครับว่าผมจะถูกฆ่า ถ้าผมชิงฆ่าอีกฝ่ายก่อนผมก็จะรอด แต่ศีล5บอกว่าการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาป ตายไปจะตกนรก แปลว่าผมต้องยอมให้เค้าฆ่าผมเหรอครับ? หรือสมมุติว่าผมเป็นหมอ วันนึงเจอเคสพ่อลูกนั่งรถมาด้วยกันแล้วรถคว่ำ ลูกตายคาที่พ่อบาดเจ็บสาหัสเข้าICU ถ้าเค้าถามผมว่าลูกเป็นยังไงผมต้องบอกความจริงเค้าว่า "อ๋อ ลูกคุณตายคาที่" แบบนี้เหรอครับถึงจะไม่ผิดศีลมุสา

0