Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทันตแพทย์จะล้นตลาดไหม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ในอนาคตทันตแพทย์จะล้นตลาดไหม โรคช่องปากจะน้อยลงหรือป่าว คนจะฟันสวยขึ้นเเล้วเลิกทำฟันไหม เเล้วเปิด AEC ทันตแพทย์จะเป็นยังไง จะได้บรรจุราชการไหม


แสดงความคิดเห็น

>

30 ความคิดเห็น

คิดไปเรื่อยๆ 9 ส.ค. 57 เวลา 18:49 น. 1

ผ่านมาเห็นคำถามนี่ชอบเลย.. ถามได้ดีมาก
ถามง่าย ตอบยาก

ตอบได้หลายประเด็นเลย
1 ทุกวันนี้ ประเทศเราผลิต ทันตะ ได้ขนาดไหน
2 ความต้องการทันคะ มีมากขี้น ขนาดไหน
3 คนทั่วไป ทำฟัน รักษา เพิ่มขี้นไหม

ถ้าเปิด AEC 3 คำถามนี้ จะมีคำตอบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ตอบ ตามความคิดตนเอง ถูกผิดไม่รู้
อีกปีเดียวก็เปิด AEC ตอบคำถามคาดการณ์ อนาคตเลยดีกว่านะ

1 ประเทศเราผลิต ทันตะแพทย์ได้เยอะขี้นมีทุกมหาวิทยาลัย เรียกว่าเป็นคณะไล่กวด จำนวนที่จบรอง
จากแพทย์เลย จบมาก + คาดว่ามี ทันตะ มาจาก ฟิลิปปินส์ ที่จ้องเข้ามาทำงาน คงมาอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ก่อนรักษาคน ตปท. เป็นโอกาสของ เจ้าของ รพ. จะลดค่าจ้างลง
โอกาสของเราที่จะไปทำงาน ตปท. คงมี แต่ไม่น่าจะมาก เพราะคนของเราติดสถานที่ คงอยู่ในประเทศมากกว่า
ข้อนี้ เราเสีย ตำแหน่งงาน ให้ ต่างชาติ เพิ่มขี้นแน่ๆ คือยิ่งเปิด AEC ตำแหน่งงาน ทันตะ ของเราเหลือ น้อยลง

2 ความต้องการ ทันตะ มากขี้น เพราะมีความต้องการรักษาเสิมสวย เสริมหล่อ

3 คนไข้ มากขี้น เพราะไม่ใช่คนไข้ ก็อยากมาเป็นคนไข้ มาดัดฟันเสริมสวย เสริมหล่อมาก เป็นแฟชั่น


สรุป เมื่อเปิด AEC เราจะเสียตำแหน่งงาน ทันตะให้กับ ต่างชาติ บ้างบางส่วน ใน รพ. ที่มีคนต่างชาติ มารักษา ตามเมืองท่องเที่ยว
มีคนจบ ทันตะ เพิ่มขี้น ผู้ป่วยก็มีมากอยู่ เป็นโอกาสของคนที่มีรายได้ระดับรองๆ ลงไป อยู่รอบเมือง คงได้เห็นทันคะมากระจายกันอยู่ เมืองรองๆ มากขี้น เพราะในเมืองมีทันตะกระจุกตัวล้นแล้ว
ผมว่าอาชีพนี้ เดินต่อไปได้เรื่อยๆ มีทันตะ 70 เปอร์เซนต์ จะได้อยู่ในเมือง รพ ใหญ่ๆ ส่วน 30 เปอร์ เซ็นต์ น่าจะไปอยู่ชนบท ทำให้คนรอบนอกได้มีสุขภาพฟันที่ดีชี้น
อาชีพนี้ ยังเป็นอาชีพ อันดับ2 ของไทยไปอีกนาน อย่างน้อย ยังหางานทำได้ไม่ยากนัก ส่วน 30 เปอร์เซนต์ คงมีรายได้ไม่มากนัก ................. ผมเดา เอาเอง


แล้วคนอื่นมีความคิดอย่างไร...........

-----------







0
ไม่รู้ดิ 9 ส.ค. 57 เวลา 20:40 น. 2

คห 1 ก็ถูกค่ะ แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะแพทย์ หรือทันตแพทย์ สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานอิสระได้ก็จริง แต่ต้องสอบ NL ให้ผ่าน ของแพทย์คือ NL1-3 ของทันตะ NL1-2 ต้องผ่านทั้งหมด ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่สามารถมาทำงานได้ค่ะ ยกเว้นเป็น หมอเถื่อน หรือหมอฟันเถื่อนเท่านั้น
แล้วสถาบันที่ได้รับการรับรองให้มาสอบ NL ได้ มีตามเว็บไซต์ ทันตแพทย์สภา หรือแพทย์สภา ลองเข้าไปอ่านดู แพทย์มีรับรองในสถาบันต่างชาติบ้างค่ะ ส่วนทันตะ รู้สึกจะรับรองสถาบันแค่ในไทย ฉะนั้นคนต่างชาติมาทำงานอาจจะไม่ได้ เพราะไม่ได้สอบ NL ไทยค่ะ แต่ในอนาคตนั้นน่าจะมีการเพิ่มสถาบันต่างชาติบางประเทศมาค่ะ

Ps. NL = ใบประกอบโรคศิลป์ ค่ะ ทันตะ มีNL1 ตอนปี 3ขึ้น4 สอบเกี่ยวกับวิทย์พื้นฐาน ส่วน NL2 เกี่ยวกับการขึ้นคลินิก ขึ้นเทิร์นในโรงพยาบาลทันตกรรม ต้องเก็บ case study ด้วย

ส่วนเรื่องล้นตลาดมั้ย คิดว่าไม่นะ เพราะฟันคนเรานับวันยิ่งใช้น้อยลง ลองไปอ่าน research ดู จะรู้ว่าคนสมัยนี้มีปัญหาเกี่ยวกับฟันมากกว่าคนสมัยก่อน รุ่นพ่อรุ่นแม่ส่วนใหญ่ฟันสวยไม่ต้องถอน แต่สมันเราๆ ทำไมฟันคุดขึ้นมาชนฟันอื่น ทำไมต้องจัดฟัน ทำไมเหยิน เก เบี้ยว ถอน4-8ซี่ในบางราย ส่วนทันตแพทย์ไทยไปทำงานเมืองนอก นั่นก็ต้องไปสอบ NL ของเมืองนอกให้ผ่านพร้อมผลสอบอย่างอื่นประกอบตามแต่ละประเทศ

0
กันให้โง่ซิ 10 ส.ค. 57 เวลา 20:52 น. 3

ที่คุณอธิบาย นั่นเป็นเหคุตผลทางการแพทย์
เข้าใจได้ว่า ทุกคนก็มีความรู้สึกไม่ปลอดภัย ทางด้านอาชีพ

แต่ความคิดในเชิง รัฐศาสตร์ พาณิชศาสตร์ ความคืดแบบนี้ เขาเรียก การกีดกัน
ทางการค้า หรือเป็นอุปสรรค ในการบรรลุผล ของการเคลี่อนย้ายแรงงาน
ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลัก ในการรวมกันของภูมิภาค ทั้งด้าน เศรษฐกิจ แรงงาน สังคม
ของ อาเซียน คงต้องตั้งกติการวม

เมื่อเราอยากให้คนของเราไปทำงานที่บ้านเขาได้ แต่เราก็อยากกีดกันเขา ไม่ให้มาทำงานที่บ้านเรา
แล้วมันจะหาคำตอบได้อย่างไร

ต้องตั้งคำถามใหม่เลยว่า เมื่อมีการย้ายแรงงานเสรีแล้ว เราจะปรับตัวอย่างไร
ทำอย่างไรจะสู้เพื่อนๆ อาเซียนได้ต่างหาก

กรณี ทันตแพทย์ แพทย์ ผมว่าตกลงกันไม่ยาก คงไม่เกิน 2-3 ปี เคลื่อนย้ายเสรีแน่ ถามว่ามันจะล้นไหม ก็ต้องบอกว่า อันไหนที่มันมีรายได้ดีเกินๆไป มันก็จะมีแรงงานเคลื่อนย้าย มาเยอะๆเอง
ตามหลักเศรษฐศาสตร์ แล้วทุกอย่างมันก็จะปรับตัวแบบสมดุล ค่าจ้างที่เคยได้มากๆ ก็จะลดลง

เหมือนกับวิศว สมัยหนี่งเป็นมนุษย์ ทองคำ ปัจจุบันก็มีตกงงานกันมาก โอกาสนี้ จะได้ส่งออกวิศว ไปพัฒนา เขมร ลาว นำเงินเข้ามา ประเทศ

ส่วน แพทย์ ทันตแพทย์ คงมีไหลเข้ามามาก ค่ารักษา ก็จะถูกลง ... แล้วประชาชนคนไทย ใตรจะไปเดินขบวน ไม่ให้เขามาทำงานในไทย ก็โง่แล้ว........





1
โง่ซิถ้าไม่กัน 22 พ.ย. 64 เวลา 20:33 น. 3-1

2564 แล้วก็ไหลเข้ามาปีละหลักหน่วยหลักสิบคน ไหนว่าเสรี

พิมพ์ซะแยะ แต่แซะพลาดนะน้องนะ

วิชาชีพสายแพทย์ไม่หมูเหมือนที่น้องพิมพ์มาเยอะแยะ เพราะมีด่านใบประกอบวิชาชีพ(สอบเป็นภาษาไทย)เป็นตัวคัดกรอง

0
ชญานี 11 ส.ค. 57 เวลา 15:12 น. 4

แพทย์ กับทันตะ อีก20ปีก็ไม่ล้นตลาด สำหรับประเทศเรา เนื่องจากยังขาดแคลนอีกมาก เพราะรัฐไมมีงบประมาณผลิตมากพอ ต้องเอาเงินไปใช้ทุกด้าน อย่างหมอ เขาเฉลี่ยมา1คนต้องดูแลคนป่วย2พันกว่าคน ทันตะมากกว่าอีก สังเกตุดีๆคนตจว.เขาจะฟันหรอเยอะมาก แต่หาทันตะยาก ต้องไปรพ.จังหวัดอย่างเดียว เอกชนสู้ไม่ไหว
ถึงเปิด AEC เคลื่อนย้ายแรงงานได้ แต่พวกหมอ เขมร ปินส์ พม่า จะมาทำงานในบ้านเรา ก็ต้องสอบใบประกอบโรคได้ก่อน ถึงสอบผ่าน ก็ต้องมาหาเอกชนทำ ในกลุ่มอาเชี่ยน เราไม่เป็นรองใครเลยทางด้านนี้ แล้วหมอ ทันตะของรัฐ จบมาต้องรับราชการใช้ทุนทุกคน ยังไงก็ไม่ตกงานแน่ ส่วนบางคนอาจไปเอกชน รพ.เอกชนเขารู้อยู่แล้ว ของเราคุณภาพคับแก้ว ยิ่งต่อได้เฉพาะทางมาอีกด้วย ยังไง พวกนั้นเข้ามาแย่งไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ มันไม่เหมือนอาชีพอื่น หรือแม้แต่วิศวกรก็ตาม ถ้าเก่งจริงจบจากม.ชื่อดังของเรา ภาษาดีด้วย สู้กับสิงคโปร์ได้สบายตลกจัง

0
เหมือนอาชีพทั่วไ 11 ส.ค. 57 เวลา 18:17 น. 5

เมื่อมันเป็นความเชื่อก็ไม่ว่ากัน แต่ความเขื่อกับความเป็นจริง
คงต้องมาดู จะได้เกิดความจริงที่เป็นประโยชน์ ข้อมูลดิบมาผิด
การวิเคราะห์ ต่อไปจะถูกได้อย่างไร
ลองมาดูนี่
------------------------------------------
พิมพ์เขียวของ AEC มี 4 ด้านที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเดือนธันวาคมดังกล่าว คือ
1. เราต้องเป็นหนึ่งเดียวในด้านการตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งต้องมีการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรี เคลื่อนย้ายบริการอย่างเสรี เคลื่อนย้ายการลงทุนอย่างเสรี เคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรี และเคลื่อนย้ายทุนอย่างเสรีมากขึ้น
2. เราต้องเป็นหนึ่งเดียวในด้านการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีนโยบายการแข่งขันอย่างชัดเจน มีการคุ้มครองการบริโภค มีการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา มีโครงสร้างพื้นฐาน มีนโยบายภาษีอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมี e-ASEAN ด้วย

------------------
จุดมุ่งหมายของการรวมอาเซียน ทำให้ภูมิภาคใหญ่ขี้น ตลาดใหญ่ขี้น
---เคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรี----
ได้กำหนดมาก่อนเลยหลายอาชีพรวมทั้ง ทันแพทย์ จะเอาอะไรมากีดกัน
ต่างชาติ เมื่อเราก็อยากส่งแรงงานส่วนเกินไปทำงานบ้านเขา บ้านเรารายได้แพทย์ ทันตะ สูง เขาก็แห่เข้ามา เราผลิตไม่ทันไม่พอ เขาก็ผลิตให้ไง

แต่อย่างไรก็ตาม อาชีพทันตแพทย์ มันยังไปได้ตอนนี้มาเรียน ยังมีอนาคต
แต่จะดีไปถึง 20 ปี ข้างหน้าหรือเปล่าไม่รู้ .. ที่แน่ๆ เมื่อเปิด AEC ผมว่า แพทย์ ทันตะ เมืองไทย จะไม่ได้ขาดแคลน แบบที่เป็นอยู่ แน่นอน .. ประเทศอื่นเขาไม่ได้ควบคุมการผลิต เหมือนประเทศไทย ก็คิดกันเอาเอง

ผมมาให้ข้อมูลอีกด้าน เพื่อให้รู้ว่าอาชีพนี้ เมื่อคนมาอยู่ในอาชีพจนล้น มันก็เหมือนอาชีพทั่วๆไป รายได้ก็จะลดลงมาในจุดที่เหมาะสม

คนไทยก็จะได้จ่ายในราคาที่เหมาะสม
ผู้ให้บริการ กับผู้รับบริการ เหมือนอาชีพ ไกด์ทัวร์ บรรณารักษ์






0
เปิดAEC 11 ส.ค. 57 เวลา 21:42 น. 6

ปีหน้า ปลายๆปีจะเปิดเสรีอาเซี่ยน ที่เขากำหนดไว้ แปดอาชีพ สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อบังคับ เพียงแต่แค่ขอความร่วมมือแค่นั้น ยังมีขั้นตอนอีกมากมาย อยู่ที่ความพร้อมด้วย ที่บอกว่าต่อไป อาชีพหมอกับทันตะ จะเหมือนอาชีพทั่วไป
ไม่น่าจะจริง ก่อนอื่นต้องดูที่มาที่ไปด้วย เมืองไทย คนที่สอบหมอหรือทันตะของรัฐได้ เป็นเด็กเก่งหัวกะทิทั้งนั้น พวกที่เก่งไม่สุดไม่ติด แต่จะไปวิศวะจุฬาหมด สถิติรร.ผมนะ พวกอ่อนมีหรือจะสอบเข้าได้ ได้แค่สังคมทั่วๆไปก็แข่งแทบตาย เด็กที่เรียนแพทย์ ต้องสอบ ศรว.ปี 3 5 6 ให้ได้ทั้งหมด จึงเป็นแพทย์ได้ ปีนี้ข้อสอบก็เป็นภาษาอังกฤษ100เปอร์ พวกต่างชาติจะอ้างไม่ได้ว่าเป็นภาษาไทย แต่นักเรียนแพทย์ไทยเขาเฉยๆ เพราะได้กันอยู่แล้ว แค่แปลอิ้งออก แต่ความรู้หลักทางการแพทย์ ไม่ได้แน่จริง ทำข้อสอบไม่ผ่านหรอก เมืองไทย จริงๆรัฐก็อยากผลิตให้พอกับประชาชน เพราะเป็นเรื่องชีวิตคน แต่งบไม่มีพอ ส่วนที่บอกจะมีจนล้น ผมไม่ได้โลกสวยนะ เอาแค่ ใบประกอบวิชาชีพแม้เป็นอิ้งทั้งหมด ก็เอาให้ผ่านก่อนเถอะ

0
kero 12 ส.ค. 57 เวลา 10:58 น. 7

ทันตแพทย์ไทยมีแนวโน้มจะออกสู่ภาคเอกชนน้อยลง เนื่องจากเอกชนจะได้ทันตแพทย์จากประเทศเพื่อนบ้านที่ภาษาดีและมีมาตรฐานทันตกรรมเป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างฟิลิปินไหลเข้ามาไทย ซึ่งในฟิลิปินเทันตแพทย์รายได้ต่ำกว่าพยาบาลนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายและทำสัญญาส่งออกพยาบาลไปยังประเทศพัฒนา อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น รายได้พยาบาลขั้นต่ำอยู่ที่70000 บาทต่อเดือนในญี่ปุ่น ส่วนทันตแพทย์ฟิลิปินไม่มีสันยาดังกล่าวทำให้มาไทยมากขึ้นซึ่งในไทยภาคเอกชนทันตแพทย์ทั่วไปทำงาน6 วันเช้าถึงค่ำ รายได้เฉลี่ย55000-140000บาท ซึ่งเปนแรงจูงใจอย่างดีให้มาไทย

ทันตแพทย์ไทยจะรับราชการมากขึ้นจนเกิดภาวะล้นในภาครัฐ เนื่องจากสัวสดิการภาระงานรัฐสบายกว่า เอกชนต้องรับจ็อบแบบเคสต่อเคสทำมากได้มาก ไม่เหมือนรัฐบาลซึ่งประกันรายได้แบบค่อยๆไต่ เปรียบเทียบง่ายๆ ทันตแพทย์ 1 คน ทำงาน รพ รัฐ+ รับจ็อบคลีนิก กับเภสัชกร 1 คน ทำงาน รพ รัฐ+ รับจ็อบร้านยาในต่างจังหวัดหรือนอกเมือง ความต้องการหรือความถี่ในการใช้บริการของเภสัชกรจะสูงกว่าทันตแพทย์มากแต่รายได้ต่อเคสเภสัชต่ำกว่า และเมื่อทันตแพทย์รับจ็อบคลีนิกจะสูญเสียค่าใบประกอบวิชาชีพ 10000 บาท ทันทีจากรายได้รวมต่อเดือนประมาณ42000 จะหายไปเหลือ 32000 ทำให้ต้องเร่งทำหัตการเพื่อชดเชย เงินที่เสียไป ส่วนเภสัชกรนั้น เมื่อทำร้านยาะสูญเสียค่าใบประกอบวิชาชีพ 5000 บาทซึ่งเปนเรตภาครัฐที่ไม่สะท้อนภาวะการตลาดเนื่องจากเภสัชในภาครัฐเพาเวอรไม่มาก และนำใบไปใช้กับร้านยาใหม่ จะได้เงิน 13000 บาท อ้างอิงร้านยาโลตัสและมีแนวโน้มว่าค่าใบเภสัชจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เท่ากับว่า รายได้รวมต่อเดือนเภสัชประมาณ32000 หายไป 5000 เหลือ 27000 แต่ได้ค่าใบจากการทำงานกะเอกชน 13000 เภสัชจะเริ่มที่ 40000 บาทไม่รวมค่าอยูเวรกะเอกชนแบบเดียวกะทันตแพทย์
แม้ว่าการจัดฟันหรือทัตกรรมเพื่อความงามจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่งานเหล่านี้เปนงานที่ถนัดหรือเปนของทันตแพทย์เฉพาะทางไม่ใช่ทันตแพทย์ทั่วไป ประชาชนมีความรู้สูงขึ้นต้องการมาตรฐานที่สูงกว่าในเมื่อจ่ายเงินพวกเค้าจะเลือกและสนใจแต่specialist ไม่ใช่เทรนมา รายได้ในระดับหลายแสนจนถึงล้านเช่น การจัดฟัน ครอบฟัน เด็ก เหงือก ทันตกรรมประดิษฐ จะเปนงานของทันตแพทย์เฉพาะทาง

0
มาลองสอบเลย 12 ส.ค. 57 เวลา 11:09 น. 8

NL ของหมอ เริ่มปีนี้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ของทันตะ ยังเป็นไทยเหมือนเดิม คิดว่าต่อไปคงเปลี่ยนเป็นอังกฤษทั้งหมด เพื่อไม่ให้ พวกต่างชาติว่าไปกีดกันเขา แต่ต่างชาติถึงจะได้อิ้ง เพราะเคยเป็นเมืองขึ้นเขามาก่อน แต่วิชาการคิดว่ายังห่างกับเรา อาจารย์หมอเก่งๆของเราก็มีชื่อเสียงในระดับโลกทั้งนั้น อยากมาทำงานเมืองไทย ก็มาลองทำข้อสอบดู แล้วจะรู้เอง คนที่ไม่ได้เรียนหมอหรือทันตะ อย่าไปคิดแทนเขา คนที่จะเป็นสองอาชีพนี้ที่สามารถดูแลชีวิตคนได้ ต้องมีมาตราฐานสูงนะ ไม่ใช่เอาแค่พูดอังกฤษได้ แต่ไม่รู้อะไรจริงเลย คนไข้เขาไม่เอาหรอก คือยังไงเขาก็ไม่อยากไปเกิดใหม่นั่นเองอะ

0
kero 12 ส.ค. 57 เวลา 14:49 น. 9

ก่อนหน้าเปิดอาเซียนจะหมอคน หมอฟัน -า จะต้องสอบใบอนุญาตเปนภาษาไทยนะ แต่ตอนนี้เปนอาเซียนขึ้นมาแนวในการสอบมันต้องเปนในทิศทางเดวกันอยู่แล้ว ดูได้จากแพทยที่เริมจะสอบเปนภาษาอังกฤษ

หมอฟัน พม่า ลาว กัมพูชาน่าจะมีความรู้ภาษาไทยดีในระดับนึงเพราะทีวีบ้านเรา ฉายในบ้านเค้า เศรษฐกิจเรากอมีอิทธิพลกับเขา และมีภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เพิ่มมาอีกในประเทศเหล่านี้

ส่วนฟิลิปินหมอฟันเยอะมากก การลงทุนเรียนภาษาไทย เพื่อใช้สอบ ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับมันสมองคนเรียนทันตะเพื่อมารับเงินเดือนที่มากในไทย สำหรับข้อสอบ NL ทันตะคิดว่าแนวโน้มน่าจะเปนภาษาอังกฤษในอนาคตเหมือน แพทยสภา เนืองจาก แพทย์ ทันตะ อยู่ใน แปดอาชีพเคลื่อนย้ายอิสระของอาเซียน ซึ่ง เกณในอนาคตต้องเปนไปในทิศทางแบบเดวกันอยู่แล้วอาจมีข้อแปลกแยกกันไป เล็กน้อยไม่ให้เหลือมล้ำกันมาก

อาชีพสงวนจริงๆคือ เภสัชกร ได้รับการปกป้องจากมือที่มองไม่เห็นในไทยซึ่ง เภสัช ฟิลิปิน อินโดจะมาทำงานในไทยต้องสอบใบอนุญาตเปนภาษาไทยอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องที่ว่าหมอฟันไทยเก่งระดับโลกคิดว่าทุกวงการในไทยมีหมดนะ หมอไทยกอแนวหน้า เภสัชกรไทยรับรางวัลระดับโลกมากมาย วิศวะไทยๆเก่งระดับโลกหลายคน และอาเซียนกอมีคนเก่งในทุกประเทศอยู่แล้วและอาชีพที่เก่งน้องๆแพทย์ ทันตะ คือ เภสัชนะไม่ใช่วิศวะ ไปดูแนวโน้มได้เลยยิ่งคะแนนเอนทรานปีท้ายๆก่อนเปลี่ยนระบบจะเหนชัดเลยแต่ต้อง -100 เพราะวิศวะมีวิชาเฉพาะขึ้นมา แถมคะแนน แอดมินชันล่าสูดปีนี้ เภสัชมหิดลคะแนนสูงสุด สูงกว่าคนที่ได้คะแนนสูงสุดของ ทันตะ ขอนแก่น อีกซึ่งคนที่ได้มากกว่าเค้าอาจจะชอบงานที่ใช้สมองอย่างเดียวแบบเภสัชก็ได้ แต่โดยรวมทันตะก็สูงกว่า ส่วนวิศวะจุฬานีเทียบกับ เภสัช ม รัฐ ภูมิภาค หรือ สัตวแพทย์ น่ามวยสูสีกันมากกว่า

0
kero 12 ส.ค. 57 เวลา 15:15 น. 10

หลักการง่ายๆเหมือน EU ค่าแรงในยุโรปตะวันตกเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศล สูง ส่วนยุโรปตะวันออก ใต้รายได้ต่ำทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานมายังยุโรปตะวันตกที่สูงกว่า มากขึ้น จนค่าแรงที่ได้ต่ำลง ส่วนยุโรปตะวันออกขาดแคลนแรงงานมากขึ้นจะก่อให้เกิดค่าจ้างที่สูงขึ้นมา จนค่าแรงในยุโรปทั้งตะวันตกและออก เท่ากัน ซึ่งจะเกิดขึ้นกับอาชีพ8 อาชีพ อิสระ หนึ่งในนั้นที่เปนแรงงานรายได้สูง ซึ่งในไทยถือว่าสูงมากจะเกิดโอกาสโยกย้ายแรงงานอย่างรุนแรงมากกว่าอาชีพอื่นแน่นอน ส่วนเภสัชไทย ไม่อยู่ในอาชีพเคลื่อนทีเสรีอาเซียนเนื่องจากไทย หมอจ่ายยาเองได้ ทุกประเทศเปนระบบต้องมีใบสั่งยาแพทย์ไม่มีศักยภาพและอำนาจในการจ่ายยาโดยปราศจากความเหนจากเภสัชกร จึงทำเสรีมิได้ จึงไม่ได้เปนอาชีพเสรี เหมือนกลุ่ม EU

0
เห็นต่าง 13 ส.ค. 57 เวลา 11:36 น. 11

ผมว่ามันแย้งกันเองนะครับ เภสัช เอาเข้าจริง พวกเด็กเก่งไม่รู้ว่าทุกรร.หรือไม่ ไม่มีใครอยากเรียน ยิ่งถ้าเป็นสัตว์แพทย์ ไม่มีใครเลือกเหมือนกัน พวกนี้เขามีข้อมูลดีกว่าผมอีกด้วย เขาบอก เภสัชเรียน6ปีเท่ากับหมอ ทันตะ แต่จบมาต้องมาหางานเอง ปัจจุบันไม่เหมือนก่อน เภสัชมีเปิดสอนเยอะมาก เอกชนก็มีตั้งหลายสถาบัน เรียนนานแล้วยังเสี่ยงหางานยากอีกด้วย นอกจากมีทุนก็เปิดร้านขายยาเอง มันไม่ใช่ล้าน2ล้าน ทำเลดีๆ ค่าที่ค่าตึกเกิน10ล้าน คนไม่มีก็ต้องเสี่ยงกู้ ถ้าไม่บูมหรือไม่รุ่ง ดอกมันกินหมด พลาดขึ้นมาถีงขั้นลัมละลายแต่หนุ่มๆเลย รุ่นพี่ผมส่วนมากที่เก่งๆ เขาสอบ กสพท.ทุกคน คนที่พลาดเขาก็เลือกสอบตรงวิศวะจุฬา แล้วก็ติดหมด บางคนเสี่ยงแอด เลือกทันตะไว้ต้นแล้วพลาดก็ยังติดวิศซะจุฬา ไม่มีใครสนใจสมัคร เภสัชหรือสัตว์เลยครับ เขาอธิบายอีกว่า วิศวะจุฬา เด็กเก่ง จะถือเป็นทางเลือกที่3รองจาก หมอ ทันตะ จบมายังไงก็มีงานทำ ถ้าจบพวก ปิโตรเลี่ยม เงินดีกว่าหมออีก หรือพวก ยานยนต์ เครีื่องกล ไฟฟ้า โยธา ก็มีคอนเนคชั่นรุ่นพี่ๆ ที่เขา่พร้อมรับรุ่นน้องของเขาอยู่แล้ว เรียนเภสัชเสี่ยงกว่าเยอะ

0
kero 13 ส.ค. 57 เวลา 13:14 น. 12

เภสัชมีทั้งหมดประมาณ 18 แห่ง แต่ละแห่งที่เปิดใหม่รับนักศึกษาไม่เกิน 100 มีตำแหน่งราชการใช้ทุนกับภาครัฐ 400 ตำแหน่ง เท่ากับเด็ก 2000 คนในกรณีมากสุดจะมีงานทำไปแล้ว 400 คน แล้วไม่ใช่จบพร้อมกันทุกคนและมีใบประกอบทุกคน ตำแหน่งภาคเอกชนเภสัช รองรับและรายได้มากแม้ยังเปนแค่ลูกจ้างร้านยา
ยิ่ง สัตวแพทย์ สถาบันหลัก มีแค่ 6 สถาบัน งานสัตวแพทย์คลีนิกรายได้ขั้นต่ำ 20000บาท ไม่รวมเวร และค่าอื่นๆ ยิ่งเฉพาะทาง งานสัตวใหญ่และสัตว์เล็กพวกนี้รายได้ดีมากหลายหมื่นจนเปนแสนต่อให้เกรดแย่พวกนี้กอมีงานและมีรายได้มาตรฐาน
วิศวะต้องโดดเด่นจริงแบบจุฬาและภาควิชาต้องดีด้วยอย่างปิโตร ยานยน แต่โดยรวมแล้ว สัตวแพทย์และเภสัชรายได้เฉลี่ยสูงกว่า เอามาดูง่ายๆนะ อาชีพที่มีเครดิตในสังคม เช่น สินเชื่ิบ้าน สินเชื่อธุรกิจ พวกนี้จะไม่มีวิศวะอยู่เลย นอกจากจะมีเงินในบัญชี เยอะๆ ขอยกตัวอย่างอีกอันนะเดวหาว่าไม่รู้จริง กลุ่มอาชีพสิทธิพิเศษออกรถยนโดยไม่ต้องใช้เงินดาวสักบาทเดียวและไม่มีดอกเบียด้วยคือ
- แพทย์, ทันตแพทย์, สัตวแพทย์, เภสัชกร
- ศาสตราจารย์ หรือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์
- ผู้พิพากษา หรือ อัยการ
- ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
- นักบินเอกชน
- ผู้บริหารระดับสูง
- พนักงานรัฐวิสาหกิจรายได้ระดับสูง
ยิ่งรถยุโรปไม่ต้องพูดเลยเหลือแค่ แพทย์, ทันตแพทย์, สัตวแพทย์, เภสัชกร,ศาสตราจารย์ หรือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผู้พิพากษา หรือ อัยการ และผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น
http://www.hondaleasing.co.th/th/our-services/hire-purchase/special-occupations.php

คนเก่งใน รร อาจเก่งด้านเดียวถนัดคำนวน ฟิสิก คณิต แต่เรียนวิศวะ จุฬา ยอมรับว่ายากและเก่งจริง แต่พวกนี้ต้องด้วยเกรดสูงและมีความสามารถรอบด้าน เช่น ภาษา และเกรดต้องดีด้วย แต่โดยรวม ต้องยอมรับว่าวิทยสุขภาพสาขาที่กล่าวมามีระดับรายได้สูงกว่าและธนาคาร ค่ายรถยนพวกนี้ก็มีรายละเอียด ของคนใช้บริการว่าทำอาชีพอะไร เงินในบัญชี รายรับระดับไหน แต่อาจจะมีวิศวะ จุฬา รวมอยู่ด้วยก็ได้ เพียงแต่ไม่ลงในรายละเอียด ดูเป็นกรณีๆไป ขอยืนยันอีกครังว่า วิศวะ จุฬา เก่งและส่วนใหญ่รวยเปนผู้บริหารองกรใหญ่ๆ มากมายและทำคุณประโยชนให้ประเทศมาก แต่ในกระทู้นีเราพูดโดยเฉลียแบบใช้หลักฐานอ้างอิง

0
อย่านั่งเทียน 13 ส.ค. 57 เวลา 14:06 น. 13

ไม่ทราบว่าคุณสองคนด้านบนจะมาโชว์พาวอะไรกัน เค้าถามถึงเรื่องทันตแพทย์จะล้นตลาดมั้ย จากการที่รศ.ทพ.ไพศาล กังวลกิจ ประธานราชวิทยาลัยทันตแพทย์แห่งประเทศไทยได้กล่าวเมื่อเดือน มิถุนายน พ.ศ.2555โดยย่อแล้วมีใจความว่า"ถ้าทันตแพทย์จากประเทศฟิลิปปินส์ต้องการมาทำงานในประเทศไทย ต้องสอบเพื่อรับใบอนุญาตก่อนเหมือนอย่างที่ทันตแพทย์ไทยสอบ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ คือต้องสอบเป็นภาษาไทย หรือทันตแพทย์ไทยที่จะไปทำงานที่สิงคโปร์ ต้องสอบตามระเบียบของประเทศสิงคโปร์เป็นภาษาอังกฤษ ท่านที่กังวลว่าจะมีหมอจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในประเทศไทย ภายหลังเปิดเสรีการค้าแล้วก็สบายใจได้ครับ คงมีน้อยมากหรือไม่มีเลย เพราะทุกวันนี้ทันตแพทยสภาก็เปิดโอกาสให้ทันตแพทย์จากต่างประเทศเข้ามาสอบเพื่อรับใบอนุญาตได้อยู่แล้ว แต่มีผู้เข้ามาสอบและสอบได้จำนวนน้อยมาก"ชัดมั้ยครับ อ้างอิงจากhttp://www.royalthaident.org/dentist/talk/4/

0
ธเนศ 13 ส.ค. 57 เวลา 14:25 น. 14

พี่ครับ รุ่นพี่ที่รร.ผม เขาจบวิศวะจุฬา หลายปีแล้ว มาหาอาจารย์ ที่รร. ตอนนี้เงินเดือนเกือบแสน อีกคนเพิ่งจบไม่นานทางวิศวะสิ่งแวดล้อม ก็หลายหมื่น ไม่ได้เรียนภาคปิโตรเลี่ยมด้วย อ.ยังสนับสนุนให้เรียนวิศวะเลยแต่ต้องจุฬา คือต้องสอบเข้าให้ได้ ถ้าสอบหมอไม่ติด(ที่รร.จะได้หมอเฉลี่ยปีละ20กว่าคน) ส่วนเพื่อนห้องธรรมดา ก็บอกสอบหมอลองสอบก็ได้ แต่แอดกลางต้องมีข้อมูลที่ดี พลาดแล้วไม่มีที่เรียนเลย แต่ไม่พูดถึงคณะพวกเภสัชหรือสัตว์แพทย์ จะพูดเน้นแต่ วิศวะ หรือบัญชีมากกว่า อ.บอกด้วยว่า เวลานี้อาชีพที่ต้องรับราชการใช้ทุนมีแค่ หมอของรัฐ ทันตะของรัฐ นักเรียนนายร้อย นักเรียนทุนรัฐ เท่านั้น ส่วนอาชีพอื่นๆต้องหางานเอง เภสัชได้ใช้ทุนด้วย เพ่งรู้จากพี่นี่แหละ ว่าจะไปลองสอบของศิลปากรดู

0
kero 13 ส.ค. 57 เวลา 16:21 น. 15

คุณความเห็นที่ชื่อ อย่านั่งเทียน ก็อบมาก็ไม่หมดนะสักแต่อ่านแต่จับประเด็นใจความอะไรไม่ได้เลย

นี้คำพูดที่ขาดไปของประธานทันตกรรม
ยกเว้นแต่ว่าในอนาคตจะให้มีการสอบใบอนุญาตรวมเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อได้ใบอนุญาตนี้แล้วสามารถไปทำงานในประเทศไหนก็ได้ในอาเซียน ตอนนั้นอาจมีปัญหาได้ แต่วิธีนี้ทำได้ไม่ง่ายและคงใช้เวลาอีกนาน จึงยังไม่ต้องกังวลกัน

ก็แน่นอนก่อนเปิดอาเซียนใครจะมาทำงานในไทยต้องสอบใบอนุญาตเป็นภาษาไทย ในอนาคตก็ต้องสอบเปนอังกฤษอยู่แล้ว พวกนี้มันสายวิทยสุขภาพ ภาษาที่ใช้เปนศัพท์ทางการแพทย์ เจ้าของกระทู้เขากอถามในอนาคต ก็ตอบในอนาคตไม่ได้ตอบตอนนี้ จะเปิดไปทำซากอะไรละ อาเซียนถ้าสอบเปนภาษาไทยเหมือนเดิม มาเลเซีย พม่า สิงคโปร ฟิลิบปินไม่โวยวายตายเลยรึ ในเมื่อไปสอบบ้านเค้าใช้อังกฤษ ก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดวกันอยู่แล้วในอนาคต ไม่งั้นเหลื่อมล้ำกันตายเลย แต่อาจมีข้อกำหนดอื่นๆอีกอาจเปลี่ยนได้ในอนาคต ที่เห็นประจักษ์เลย ก็คือ แพทย์ นำร่องก่อนเลย ที่มาhttp://www.royalthaident.org/dentist/talk/4/

0
kero 13 ส.ค. 57 เวลา 16:36 น. 16

น้องธเนศ น้องตอบมีวุฒิภาวะดีเข้าใจว่าม ปลาย แต่การอ้างอิงประสบการ อาจารย์ คนๆเดียว ซึ่งไม่ได้คลุคีในสายงานอื่นๆที่หลากหลายเลยนอกจากได้ยินคำพูดรุ่นพี่ ที่จบมาใครก็ต้องพูดให้ตัวเองดูดีไว้ก่อน ทำงานหลายปีนี้ วิทยา อาชีวะ เครื่องกล งานช่าง ขายมือถือ ขายคอม ชาวนา เจ้าของบ่อกุ้ง สวน เจ้าของร้านอาหารข้างทางเกินแสนก็มีนะไม่ใช่วิศวะ จุฬาอย่างเดียว

เภสัชใช้ทุนมี แต่เปนสัญญาปลายเปิด
http://www.hfocus.org/content/2014/04/6821

ถ้าพูดถึงการเติบโต และสิทธิประโยชน์ที่รู้และไม่รู้แต่ทราบว่ามีอยู่จริง มีอยู่ไม่กีอาชีพหนึงในนั้นคืออาชีพ ครู โรงเรียน ทั้งภาระงาน ลักษณะ งาน เงินเดือน เงินตำแหน่งวิชาการ สิทธิพิเศษ ต่างๆ วันหยุด การสัมนา งบตรง อ้อม ที่จอดรถประจำตำแหน่ง ห้องพัก การให้ความเคารพของคนในสังคม อำนาจในโรงเรียน หรือในหน่วยงานตน น้องเคยเห็นไหม ครูอายุ 50 เงินเดือน 42000 บาทขึ้นแต่ทำงานบริหาร ไม่ได้ปฏิบัติการแล้ว นั้นละจะบอกว่า ทุกอาชีพถ้าเก่งจริงมันรวยหมดเหมือนวิศวะ จุฬานั้นละเพราะเป็นกลุ่มคนที่ส่วนใหญ่เก่งที่สุดในอาชีพนั้นแล้วเงินเดือนหลายแสนและสบายกว่าหมอ มีจริงยืนยันแต่ถ้าภาพรวมอะไม่ใช่ทั้งหมด

0
respect 13 ส.ค. 57 เวลา 16:55 น. 17

คุณบ้ารึป่าวคะ ไปว่าเค้าแล้วใช้แหล่งอ้างอิงเดียวกับเค้า คือดิฉันเข้าไปอ่านมาแล้วก็เข้าว่าคุณอย่านั่งเทียนเค้าจะสื่อว่าโดยย่อเป็นเช่นนี้ ไม่งั้นไม่นำแหล่งอ้างอิงมาให้พวกเราเข้าไปอ่านเพิ่มเติมหนอกค่ะตลกจัง

0
kero 13 ส.ค. 57 เวลา 17:24 น. 19

เธอนั้นละ เช็คประสาทก่อนเขาเลย ที่เอามาลงอะ แหล่งอ้างอิงเดียวกัน แต่ คนชื่อ อย่านั่งเทียน มันอ่านไม่หมดเอาแต่ประเด็นที่จะโต้แย้งขึ้นมา หารู้ไหมว่าท่านประธานทันตแพทย์ท่านก็กล่าวถึงอนาคตว่าอาจต้องสอบเปนอังกฤษซึ่งเปนไปได้ เพราะในอาเซียนมันต้องทำให้มาตรฐานใกล้กันมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องภาษาที่ใช้สอบซึ่งมันเปนไปได้อยู่แล้วเพราะมันเปนภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพซึ่งที่หมอฟันเรียนมาอะก็ใช้กันอยู่ แพทย์เองก็เริ่มใช้อังกฤษสอบแล้ว

0
จากเด็กม.6 13 ส.ค. 57 เวลา 17:29 น. 20

หนูว่าเขาไม่ได้โชว์พาวเว่อร์อะไรนะ อย่าคิดมาก วิศวะ ก็เป็นหนึ่งในแปดอาชีพ ที่เคลื่อนย้ายแรงงานได้ วิศวบางสาขาก็ต้องสอบใบกว.ด้วย ต่อไปอาจเป็นอังกฤษหรือป่าว จะตามหมอมาติดๆด้วยไหม เวปเด็กดี เป็นเวปเปิดกว้างนะ ใครๆก็อยากมีข้อมูลให้มากๆไว้ก่อน ถูกบ้างผิดบ้าง ก็มากรองอีกที ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย ท้ายสุดต้องไปเรียนคณะห่วยแตกจนได้ว้าว

0