Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิญญาณแห่งหอคอยแห่งลอนดอน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



อคอยแห่งลอนดอนเคยเป็นทั้งวัง ป้อมปราการ คุกและลานประหาร

ในอังกฤษนี่ มีสถานที่หลายแห่งที่ว่ากันว่ามีคนเคยเห็นวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วมาหลอกหลอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามโบราณสถานสำคัญ ๆ เช่นป้อม วัง หรือหอคอยโบราณ Tower of London หรือ หอคอยแห่งลอนดอน เป็นอีกที่หนึ่งที่ร่ำลือกันว่า "ผีดุ"

หอคอยแห่งลอนดอนสร้างมาเกือบพันปีแล้ว เป็นโบราณสถานที่มีประวัติเกี่ยวข้องโดยตรงกับการขึ้นครองราชย์ การแย่งชิงราชบัลลังก์และการสร้างชาติของอังกฤษ ที่นี่เคยใช้เป็นทั้งพระราชวัง ป้อมปราการ ที่คุมขังนักโทษและเป็นลานประหาร

ผีที่ร่ำลือกันและมีคนกล่าวอ้างว่ามาปรากฎร่างให้เห็น ว่ากันว่าเป็นวิญญาณของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่ต้องมาจบชีวิตในป้อมแห่งนี้ ส่วนใหญ่จากไปแบบ "ตายโหง"

ความที่ใช้เป็นที่คุมขังนักโทษและลานประหารนี่เอง ทำให้หอคอยแห่งลอนดอนมีประวัติที่ชวนให้ขนลุกและน่าสยดสยองพ่วงเข้าไปด้วย

ตึกหลังหนึ่งในหอคอยแห่งลอนดอนซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมากคือ Bloody Tower หรือ หอคอยเลือด




เจ้าชายน้อย
กล่าวกันว่าพระเจ้าริชาร์ดที่สามทรงสั่งสังหารพระภาติยะทั้งสองเพื่อจะได้ขึ้นครองราชย์

Bloody Tower เคยใช้เป็นที่ประทับและคุมขังเจ้าชายสองพระองค์ คือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ห้า วัย 12 พรรษา กับ เจ้าชายริชาร์ด ดยุกออฟยอร์ก พระอนุชาวัย 9 พรรษา 
ห้องที่ว่ากันว่าเจ้าชายทั้งสองพระองค์ทรงใช้บรรทมก่อนถูก "อุ้ม" หายไปอยู่บนชั้นสองของ Bloody Tower บันไดหินที่พาวนขึ้นไปค่อนข้างแคบ ตัวห้องซึ่งอยู่พ้นบันไดไปมีขนาด 4 คูณ 5 เมตร มีผนังสีขาว

ฟิล วิลสัน เจ้าหน้าที่ประจำหอคอยแห่งลอนดอนซึ่งพักอยู่ในบริเวณหอคอยด้วยเล่าว่าทำไมคนถึงเชื่อว่าวิญญาณเจ้าชายทั้งสองยังวนเวียนอยู่ในหอคอยเลือดแห่งนี้

"ที่ Bloody tower มีคนเคยเห็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ห้ากับเจ้าชายริชาร์ด พระอนุชาเป็นบางครั้งบางครา ทั้งสองพระองค์ทรงชุดบรรทมสีขาว จับพระหัตถ์กัน ทรงยืนนิ่ง ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ เลือนหายเข้าไปในผนังห้อง บ้างก็มีรายงานว่าเห็นเด็กผู้ชายสองคนวัยไล่เลี่ยกัน เล่นตามประสาเด็กตามที่ต่าง ๆ ภายในหอคอย ว่ากันว่าริชาร์ด ดยุค ออฟ กลอสเตอร์ พระปิตุลาทรงสั่งฆ่าเจ้าชายทั้งสองเพื่อจะได้ขึ้นครองราชย์แทน"

ตามประวัติ หลังจากที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่ พระราชบิดาของเจ้าชายทั้งสองเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2026 ริชาร์ด ดยุกออฟกลอสเตอร์ที่เป็นพระปิตุลา ทรงขึ้นทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและได้พาเจ้าชายน้อยทั้งสองไปประทับที่หอคอยแห่งลอนดอน

เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทรงเตรียมเข้าพิธีราชาภิเษกเป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ห้า แต่ท้ายที่สุด คนที่ได้นั่งบัลลังก์กลับเป็นพระปิตุลาซึ่งขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าริชาร์ดที่สาม

ตอนนั้น เจ้าชายทั้งสองยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ แต่จากนั้นก็หายไปอย่างเป็นปริศนา

ห้องชั้นสองใน Bloody Tower ที่ว่ากันว่าเป็นห้องเกิดเหตุ มีวิดิทัศน์สั้น ๆ จากภาพยนตร์ของเซอร์ลอว์เรนส์ โอลิเวียร์ ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2498 เกี่ยวกับการหายไปของเจ้าชายทั้งสอง

ในหนังดังกล่าว พระปิตุลาของเจ้าชายทรงสั่งให้มหาดเล็กคนสนิทเอาหมอนปิดปากปิดจมูกเจ้าชายทั้งสองขณะกำลังบรรทม

เมื่อปี พ.ศ. 2217 ช่างซึ่งกำลังทุบบันไดหินทางใต้ของ White Tower หรือ หอคอยขาวในหอคอยแห่งลอนดอน พบหัวกระโหลกเด็กสองหัว

ตอนนั้นคนเชื่อว่าเป็นกระโหลกของเจ้าชายทั้งสองและพระเจ้าชาร์ลส์ที่สองที่ครองราชย์อยู่ ทรงสั่งให้นำกระดูกไปผังที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

แต่จนถึงทุกวันนี้ก็พิสูจน์ได้เพียงแต่ว่ากระโหลกนั้นเป็นของเด็กอายุราว 10 ขวบ






ขาประจำ
พระนางแอน โบลีนเป็นพระราชินีองค์แรกของอังกฤษที่ทรงถูกประหารชีวิต
วิญญาณที่เล่าขานกันว่ามาปรากฎให้เห็นบ่อย ๆ ที่หอคอยแห่งลอนดอนคือวิญญาณของพระนางแอน โบลิน มเหสีองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด ซึ่งถูกบั่นพระเศียรเมื่อปี พ.ศ. 2079 โดยบางครั้งมาแบบผีหัวขาดด้วย

ฟิล วิลสัน เจ้าหน้าที่ประจำหอคอยแห่งลอนดอนเล่าว่า

"มีคนเจอพระนางแอน โบลินหลายที่ครับ ทั้งที่ Tower Green ในควีนส์เฮาส์ ซึ่งว่ากันว่าเป็นสถานที่พระนางประทับก่อนถูกประหาร พระนางต้องโทษประหารฐานนอกพระทัยพระเจ้าเฮนรี่ แต่พระนางทรงร้องขอพระสวามี ไม่ให้ใช้ขวานตามธรรมเนียมอังกฤษเพราะทรงหวาดกลัวมาก ทรงขอให้ใช้ดาบตามธรรมเนียมฝรั่งเศส พระเจ้าเฮนรี่ทรงทำตามพระประสงค์สุดท้ายของพระราชินี ทรงจ่ายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์นำเพชฌฆาตมาจากเมืองคาเล่ส์ในฝรั่งเศส ว่ากันว่าเพชฌฆาตคนนี้ฝีมือแม่นมาก ฟันฉับเดียว พระเศียรหลุดทันที แต่พอเพชฌฆาตยกพระเศียรขึ้นชู พระเนตรของพระนางยังลืมอยู่และพระโอษฐ์ก็ขมุบขมิบ ผู้คนที่ไปดูการประหารเชื่อว่าพระนางทรงสาบแช่ง"

ในอังกฤษ ดูเหมือนจะมีพระนางแอน โบลินเพียงพระองค์เดียวที่ถูกประหารชีวิตด้วยใช้ดาบบั่นพระเศียร นอกนั้นใช้ขวานตามธรรมเนียม

 นักท่องเที่ยวคนนั้นก็ยังคะยั้นคะยอ แถมอธิบายเพิ่มว่าผู้หญิงที่ยืนข้างหลังนั้นรูปร่างไม่สูงเท่าไหร่ ใส่ชุดดำและยืนอยู่ตรงหลุมฝังศพพระนางแอน โบลิน
ฟิล วิลสัน เจ้าหน้าที่ประจำหอคอยแห่งลอนดอนถ่ายทอดประสบการณ์ของไกด์นำเที่ยวคนหนึ่ง

จุดประหารมีชื่อว่า ทาวเวอร์กรีน เป็นสนามหญ้าอยู่ในเขตหอคอยแห่งลอนดอน ทุกวันนี้ทางหอคอยปรับพื้นที่ให้เห็นชัดเจนขึ้น ทำเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ มีรั้วกั้นเป็น-ส่วน ตั้งตรงหน้าโบสถ์หลวง เซนต์ปีเตอร์ แอด วินชูล่า (St Peter ad Vincula) พอดี

บริเวณตรงนี้ยังเป็นที่ประหารเจ้านายชั้นผู้ใหญ่อีกหลายคนรวมถึงพระนางแคทเธอรีน ฮาวเวิร์ด มเหสีองค์ที่ 5 ในพระเจ้าเฮนรี่ที่แปดด้วย แต่ที่-นที่สุดคือวิญญาณของพระนางแอน โบลีน

ฟิล วิลสัน เล่าให้ฟังเพิ่มจากประสบการณ์ของไกด์คนหนึ่งว่า

"มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพานักท่องเที่ยวเข้าชมโบสถ์หลวงเซนต์ปีเตอร์ แอด วินชูล่า พอบรรยายให้นักท่องเที่ยวฟังเสร็จก็ออกมาจากโบสถ์ มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งถามขึ้นมาว่าตอนที่อยู่ในโบสถ์ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นใคร ไกด์ก็ตอบกลับไปว่าไม่มีใครยืนอยู่ข้างหลังผมหรอก แต่นักท่องเที่ยวคนนั้นก็ยังคะยั้นคะยอ แถมอธิบายเพิ่มว่าผู้หญิงที่ยืนข้างหลังนั้นรูปร่างไม่สูงเท่าไหร่ ใส่ชุดดำและยืนอยู่ตรงหลุมฝังศพพระนางแอน โบลิน"




เลดี้เจน เกรย์ ทรงเป็นราชินีอังกฤษนาน 9 วันในปี พ.ศ. 2096 พระนางแมรี่ทิวดอร์ทรงเป็นผู้สั่งประหาร

อีกคนที่ถูกบั่นคอในต่างกรรมต่างวาระ แต่ตรงที่เดียวกับพระนางแอนโบลินคือเลดี้เจน เกรย์

มีคนเห็นเลดี้เจน เกรย์ ครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2500 เนื่องในโอกาสครบรอบ 403 ปีที่พระนางถูกบั่นพระเศียรคอ ยามสองคนเล่าว่าเห็นร่างในชุดสีขาวที่ชั้นใต้ดินของหอคอย

การประหารที่น่าสยดสยองมากครั้งหนึ่งคือการบั่นคอ มาการ์เร็ต โพล เคาน์เตสแห่งซอลส์เบอรี่ ฐานเป็นกบฎต่อแผ่นดิน

นางไม่ยอมคุกเข่าเอาหัววางลงที่แท่นประหารเพื่อให้เพชฌฆาตบั่นคอและพยายามจะหนี ด้านเพชฌฆาตก็เป็นมือใหม่ ต้องพยายามใช้ขวานตัดคอนางให้ขาด

ว่ากันว่าวันดีคืนดีโดยเฉพาะในวาระครบรอบวันที่นางถูกบั่นคน ก็มักมีคนได้ยินเสียงผู้หญิงแผดร้องและเสียงวิ่งหนีดังอยู่ในบริเวณหอคอย

ยอด-น

บริเวณที่ว่ากันว่ามีวิญญาณมาหลอกหลอนให้เห็นบ่อยที่สุดคือ Salt Tower ซึ่งในสมัยราชวงศ์ทิวดอร์ใช้เป็นที่คุมขังนักบวชคณะเยซูอิต

บริเวนชั้นบนของหอคอยจะเห็นร่องรอยที่นักโทษขีดเขียนตามผนังกำแพงด้วย

"ในบรรดาหอคอยทั้งหมดของหอคอยแห่งลอนดอน ว่ากันว่า Salt Tower เป็นหอคอยที่-นที่สุดครับ มียามคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเขาพยายามจะขึ้นไปชั้นบนของหอคอย แต่ขึ้นไปไม่ได้ เหมือนกับว่ามีกำแพงมากั้น แต่ที่แปลกคือมองไม่เห็นกำแพง ก่อนนั้นมียามอีกคน ต้องตื่นขึ้นมาตอนดึกเพราะรู้สึกว่ามีอะไรมารัดคอ พ่อหนุ่มคนนี้ร้องเสียงหลงสุดชีวิต รีบวิ่งออกมาจากห้องพัก ทั้งในชุดนอนนั่นแหละครับ ตะกุกตะกักเล่าให้เพื่อนฟังว่ามีคนพยายามจะฆ่า หลังจากนั้น เขาไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปใน Salt Tower อีกเลย" ฟิล วิลสัน จากหอคอยแห่งลอนดอนเล่า

ในเอกสารที่ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งให้ทางบีบีซี ยังขยายความน่าขนลุกของ Salt Tower เพิ่มเข้าไปอีกโดยบอกว่าพอตกดึกแล้ว ไม่เพียงแต่คนเท่านั้นที่ไม่กล้าเข้าไปในหอคอยแห่งนี้ แม้แต่สุนัขก็ยังขยาด




มาตั้งกระทู้ตอนกลางคืนแบบนี้ ต้องมองซ้าย ขวาตลอดเลย 

แสดงความคิดเห็น

>