Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Lucy บางส่วนกับศาสนาพุทธ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ดูเรื่องนี้ก็จะนึกถึงศาสนาพุทธ แต่ก็ไม่รู้พระพุทธเจ้าเรา เข้าถึงสมองได้100% หรือเปล่า ฝึกแค่ให้พ้นทุกข์ก็อาจไม่ต้องใช้สมองให้ได้100%
มันก็เป็นสิ่งลี้ลับน่าสนใจทีเดียว
บางตอน/ประโยคที่ชอบ 
ที่ตอนนางเอกเอามีดสองเล่มปักมือผู้ร้ายทั้งสองมือบนที่วางมือเก้าอี้ แล้วบอกประมาณว่า เพราะความโง่เขลาเวลาเจ็บก็เลยรู้แต่ความเจ็บไม่รู้อย่างอื่น
ทำให้นึกถึงศาสนาพุทธเมื่อฝึกจิตจนแยกความเจ็บออกได้ ก็จะไม่หลงไหลไปกลับความเจ็บ ร้องโอดครวญ ทุรนทุรายไปกับความเจ็บ เพราะด้วยสติที่ฝึกดีแล้วก็จะสามารถเห็นความจ็บกับตัวเราแยกกันได้ ความเจ็บก็คือความเจ็บ ตัวเราไม่ได้เจ็บ เจ็บก็ส่วนเจ็บ ตัวเราก็ส่วนตัวเรา คุณได้ตื่นแล้วไม่หลงมัวเมา(ยึดติด)ไปกับความเจ็บ (พุทธ=ผู้ตื่น)
ส่วนเรื่องที่พูดถึง"เวลา" กับความลี้ลับของสรรพสิ่ง การมีอยู่/การไม่มีอยู่ของสรรพสิ่ง ที่lucy พูดยกตัวอย่างรถวิ่งเร็วๆมากๆๆ เราก็จะไม่เห็นรถทั้งๆที่รถมีอยู่
ทำให้นึกถึงศาสนาพุทธเกี่ยวกับสวรรค์ชั้นต่างๆกับโลกเรา ที่แบบว่า 100ปีบนโลกมนุษย์เท่ากับ1ชั่วโมงบนสวรรค์ชั้น... อะไรประมาณนั้น ก็คงเป็นด้วยสาเหตุนี้ ด้วยเงื่อนไขทางเวลาที่ต่างกัน เราเลยไม่สามารถเห็น สัมผัส รับรู้การมีอยู่ของสวรรค์ชั้นต่างๆได้ 
มันก็น่าสนใจนะเรื่องพวกนี้แต่ก็รู้สึกเสียดายมาก ว่าคงยากที่จะหาคนสนใจเรื่องพวกนี้จริงจัง สนใจธรรมจริงจัง แบบว่าจะโดนฝรั่งตีความว่าไร้อารมณ์ ไร้ชีวิตจิตใจ ไม่มีความเป็นมนุษย์ แต่หนังเรื่องนี้ก็ดีมากกกๆๆ เลยที่มีฉากให้นางเอกระลึกถึงพระคุณแม่โทรไปหาแล้วเล่า.... เนื้อหาส่วนนี้ผมชอบมาก อาจจะดูแปลกๆ อยู่ดีๆก็โทรไปหาแม่ณ เวลานั้น แต่ดีมากที่มีเนื้อหาตรงนี้ด้วย
เสียดายมากและเศร้า ทีโลกเราทุกวันนี้ถูกขับเคลื่อนโดยพวกที่เต็มไปด้วยกิเลส หลงไหลในวัตถุ ต้องหาตังได้ถึงจะสนใจ มาละกิเลส ละความอยากได้ พวกนายทุนก็แย่เลย ขายของไม่ได้ สนใจจริงๆจังๆพวกนายทุนไม่ยอมหรอก ขนาดพระก็ยังโดนปรนเปรอด้วยวัตถุต่างๆ รถหรูๆ วัดโตๆ พระก็ยังเสร็จไปกับลัทธิวัตถุนิยมไปด้วยเลย เราฆราวาสก็ตัวใครตัวมัน ทำงานหาตังวันๆก็หมดแล้ว พบตัวเองอีกทีก็ตอนอายุ60ปี เกษียณทำอะไรก็ไม่ไหวแล้ว
น้องๆใครเก่ง มาช่วยกันสร้างสังคมปลอดกิเลสกันกีกว่า :)

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

White Frangipani 31 ส.ค. 57 เวลา 20:47 น. 1

สวัสดีค่ะ คุณWake

(ดิฉันเคยมีโอกาส มีเพื่อนที่ล่องหลหายตัว แปลงร่างได้ด้วยค่ะ เก่งจริงๆ ภูมิใจในเพื่อนมากๆเล้ย + น้อยอกน้อยใจด้วย เราเป็นเพียงมนุษยชาติธรรมดาๆคนหนึ่งแต่ก็จริงใจกับเพื่อนนะ เฝ้าคอยนั่งคอย ตากลม ตามฝน ตากแดด อยู่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์นั่นหล่ะ เขาอยากจะมาก็มาเขาอยากจะไปก็ไป เพื่อนนะเพื่อน เป็นเช่นนี้สิ กรรมเวรของเรานี่เอง ที่มีเพื่อนเป็นผู้วิเศษ)...ในวงเล็บนี้เป็นนิยายแฟนตาซีสำหรับเด็กๆนะคะ แสดงโดย  "ดิฉัน"  และ  "เพื่อน" ค่ะ
(อารมณ์ดีๆ ลองแฟนตาซีดูสิ... คุณห่างหายไปจากบร์ดธรรมนี้นานมากเลย)



"น้องๆใครเก่ง มาช่วยกันสร้างสังคมปลอดกิเลสกันกีกว่า :)"

จริงแล้วน่าจะมีกิจกรรมอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับศาสนาเช่นที่คุณยกมานี้นะคะ เด็กๆหรือน้องๆ  เพื่อนๆ ผู้รู้ทั้งหลาย ได้มีโอกาส บอกเล่า แนะนำ แลกเปลี่ยนกันบ้าง ทำให้บอร์ดไม่เงียบเหงา


"เสียดายมากและเศร้า ทีโลกเราทุกวันนี้ถูกขับเคลื่อนโดยพวกที่เต็มไปด้วยกิเลส หลงไหลในวัตถุ ต้องหาตังได้ถึงจะสนใจ มาละกิเลส ละความอยากได้ พวกนายทุนก็แย่เลย ขายของไม่ได้ สนใจจริงๆจังๆพวกนายทุนไม่ยอมหรอก ขนาดพระก็ยังโดนปรนเปรอด้วยวัตถุต่างๆ รถหรูๆ วัดโตๆ พระก็ยังเสร็จไปกับลัทธิวัตถุนิยมไปด้วยเลย เราฆราวาสก็ตัวใครตัวมัน ทำงานหาตังวันๆก็หมดแล้ว พบตัวเองอีกทีก็ตอนอายุ60ปี เกษียณทำอะไรก็ไม่ไหวแล้ว"...เห็นด้วยกับคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ  แต่จริงแล้วคนที่พยายามที่ไม่เป็นเช่นนั้นก็มีนะคะ แต่อาจจะมีน้อยและเหลืออยู่น้อยนั้นเอง 


เมื่อมาถึงจุดที่"หลง" ทั้งหมดที่คุณยกมาคืออาการ "หลง"ค่ะ หลงในเงินทอง หลงในสัพสิ่งต่างในที่นี้คือรถที่คุณยกมา มากกว่านั้นการหลงยังมีอีกมากมายเช่น ยศฐาบันดาศักดิ์ ชื่อเสียง ชื่อนามสกุล ตำแหน่งหน้าที่ ผู้ที่จะมาเป็น ภรรยา สามีที่ต้องเป็นบุุคคลที่สังคมรู้จัก(ต้องสอยลงมาให้ได้ ต้องทำทุกอย่างให้ได้มาแม้ไม่รักก็ต้องสอยลงมาเพื่อหน้าตาของตนเอง) อาการเหล่านี้ "คือหลง" ค่ะ หลงนั้นแย่ กว่า "อยาก" แล้วนะคะ อยากนั้นเป็นธรรมชาติที่ทำให้เรามาเพื่อเป็นพลังเพื่อการอยู่รอด เพื่อต่อสู้ในความอยากลำบากที่จะเกิดขึ้นได้ในชีวิตเช่นกัน เช่นอยากที่จะมีความพอเพียง อยากที่จะต้องมีอาหารเพื่อเลี้ยงชีพ อยากที่จะมีที่อยู่อาศัยเพื่อหลบลม หลบแดด หลบฝน สิ่งเหล่านี้แม้ว่าต้องการเพื่อเพียงพอแต่ต้องใช้ความอยาก เพื่อได้มา"ความอยากนั้นยังคงสามารถควบคุมได้ หากเราๆต้องการ ด้วยการใช้สติเฝ้าดู ใช้ความมุมานะอุตสาหะ ควบคุมที่จะไม่ให้ความอยาก ไปไกลจนกลายเป็น "อาการหลง"


เมื่อมนุษยชาติได้ถลำไปในเขตแดนที่เรียกว่า "หลง"(คือขาดสติไปแล้วล่ะ) เมื่อไร นั้นเป็นอะไรที่ยากมากที่จะเยียวยา บางคนหนักหนาสาหัสมาก เพราะอาการเหล่านี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วย ยาชนิดใดๆ และสมรรถภาพของอาการหลงนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวมากมายนัก เพราะแก่นสารที่แท้จริงของอาการหลงนั้นมีอาการ มืดมน เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน เหงาหงอย เพราะฉนั้นเขาทั้งหลายจะดุร้ายมาก (ดุร้ายในที่นี้คือ จะเอาอะไรต้องเอาให้ได้ จะเป็นอะไรต้องเป็นให้ได้ เขาจะสอยทุกอย่างลงมาอย่างที่จิตใจต้องการ จึงเกิดเป็นสังคม และเหตุการณ์เช่นที่คุณยกมาไงคะ เพราะจริงแล้วไม่มีใครเลยที่อยากมีอาการเหล่านี้)


ไช่เช่นที่คุณ บอก ทั้งน่าเสียดายและน่าเศร้า สำหรับกับครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าจะเป็นสุขได้กับครั้งหนึ่งบนโลกนี้ ณ ที่แห่งนี้หลายๆคนในวันนี้ มี"อาการหลง" โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว หากเขารู้เขาคงไม่ต้องการเป็นเช่นนั้นค่ะ อาการหลง นั้นคล้ายผีดิบ ผีเปรต ผีปอป ผีเหล่านี้อิ่มไม่เป็น พอไม่เป็น สงบไม่ได้  สุขไม่ได้ หรือคล้ายคนที่ตายทั้งเป็นทรมานมากนะ ซึ่งจริงๆแล้วตายๆไปสิ้นสุดเผาทิ้งให้เป็นเถ่าถ่านนั้นจะดีกว่า เป็นที่สุด


เราๆต้องอยู่ในโลกของความจริงค่ะ บางครั้งเราก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่า ต้องดูเฉยๆและต้องเชื่อว่านี่เป็นวาระของกรรมเวร เท่านั้นที่เราจะทำได้  ไม่อย่างนั้นหากเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะทำให้เราทุกข์ทรมานไปด้วยเพราะอาการ "หลง" เป็นอะไรที่น่ากลัวมากนะ


ยกตัวอย่างนะคะ ในสังคมของดิฉันเอง เพื่อนๆ(หลายคน)ซื้อกระเป๋ามียี่ห้อราคาเป็นเงินไทย แสนกว่าบาท(หล่ะ) ออกไปชอ็ปปิ้งกันเมื่อไร ที่สุดท้ายคือคอปฟี่ชอ็ป นั่งคุยนั่งสนทนากัน ดิฉันจะถูกเพื่อนตำหนิบ่อยๆว่า นี่กระเป๋ายังไม่เปลี่ยนอีกเหรอ ขยันทำงานมีเงินเก็บเยอะจะเก็บไปทำไม ซื้ออะไรให้ของขวัญตัวเองบ้างสิ นี่เห็นหรือเปล่ารุ่นใหม่ไฉไลมากเราเพิ่งไปเอามาจากร้านเมื่อสองวันนี้นะเทรนด์ใหม่สุดๆ หรูหรือเปล่าพวกเรานะขนาดไม่มีเงินเรายังเครดิตเอานะผ่อน(ซึ่งมีดอกเบี้ย)

หลายครั้งที่เราเองบอกว่า เฮ้ กระเป๋าของเราก็ใช้ได้ดีอยู่นะ เป็นโทนสีที่ใช้ได้กับเสื้อผ้าทุกๆชุดง่ายดี ขี้เกียจเปลี่ยนบ่อยๆด้วย เป็นหนังอย่างดีด้วยทนทานน่าดู ทำความสะสาดบ่อยๆ ใช้อย่างระมัดระวังอยู่ได้นาน แบบทรงก็ไม่น่าเกลียดไม่เป็นไรเราอยากใช้ไปก่อน มากกว่านั้นใบนี้ร่วมสามหมื่นบาทนะแพงพอสมควรเลยล่ะ หากเราจะใช้เงินเป็นแสนที่จะซื้อกระเป๋า ที่เหลืออีก เจ็ดหมื่น เราจะเก็บไว้ไปเป็นค่าเทอมเด็กๆนะ (รับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายคนค่ะ ส่งเสียให้เขาเรียน อยากให้เขามีการศึกษา เมื่อเขาเอาตัวรอดได้และเขาได้มีโอกาสรับภาระและหน้าที่ให้สังคมต่อไป คิดว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายๆตัว) ใช้เงินให้เป็น เป็นประโยชน์มหาศาล ที่สำคัญ ความรู้สึกที่ได้ มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่กว่ากระเป๋าใบหนึ่ง ความรู้สึกที่เป็นสุขอย่างแปลกประหลาด นั้นที่ดิฉันคิดและรู้สึก

ไม่หรอกเพื่อนๆไม่เห็นด้วย เรา(ดิฉัน) เป็นคนงก พยายามทำตัวให้เป็นแม่พระ เอาความดีใส่ตัวเพื่อดูดี งมงาย ไร้สาระ กรรมใครก็กรรมเขาสิ อยากเกิดมาจนก็เรื่องของใครสิทำไมต้องใส่ใจด้วยเรื่องมากจริง ตักตวงความสุขใส่ตัวเองสิจะโง่ไปถึงไหน ต้องฉลาดสิ เขาทั้งหลายบ่นและบอกเล่าอย่างนี้ให้ได้ยินเสมอๆ นี่คืออีกความเป็นจริงในสังคมค่ะ ไม่เคยโกรธเขานะคะ และไม่อธิบายไม่แบ่งปัน ไม่บอกเล่าด้วย ที่ทำได้คือเฉยยิ้มๆรับฟัง (ที่เล่ามานี้เป็นเพื่อนๆบางส่วนเท่านั้น เรายังคงคบหาเรายอมรับเขาได้ที่เป็นเขาทั้งหลาย แต่เขาไม่เข้าใจที่เป็นเช่นที่เราเป็น แต่ส่วนมากเขาติดต่อมาชักชวน แปลกมากๆ  จะอย่างไรเสียก็เพื่อนนะ ยังคบหากันอยู่และคงจะตลอดไปค่ะ อยากให้เขาสว่างเท่านั้น แต่นั้นคงเป็นอะไรที่เขาต้องการเอง เราๆโตๆแล้ว พูดมากไปเหนื่อยเนอะ(เป็นเรื่องด้วย) แต่ก็รักเพื่อนเสมอเลย    เอาความดีใส่ตัวอีกแล้วสิเรา  อยากได้ความดี  อยากได้มากๆเลย ใครที่ไม่อยากเป็นคนดี(นะ)เป็นคนดีไม่ไช่เรื่องน่าอาย ไม่ไช่เรื่องผิดบาป ไม่ไช่เรื่องผิดกฎหมาย หากแต่เมื่อดีได้จริงๆ นั้นเป็นสิ่งที่ดีกับตนเองและสังคม เพียงแต่ต้องลงมือทำและต้องเป็นให้ได้เท่านั้นเอง
(ที่เล่ามานี้เพื่อเป็นซึ่งวิทยาทาน มิตั้งใจใส่ร้าย หรือนินทาเพื่อนแต่ประการใด มิได้เอ่ยเป็นชื่อให้เป็นนามธรรมเพื่อความเสื่อมเสียแต่ประการใด แต่รู้ว่าการกระทำครั้งนี้ก็เป็นบาปอยู่ดี บาปที่จิตใจ  รู้สึกได้เป็นอย่างดี  ดิฉันขอรับผิดตรงนี้ เพื่อเป็นวิทยาทานค่ะ)

จะเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นได้ หากคุณจะสร้างกิจกรรมเช่นนี้ค่ะ..

...น้องๆใครเก่ง มาช่วยกันสร้างสังคมปลอดกิเลสกันกีกว่า :)

ประเดิมให้คุณค่ะ ...จากน้องๆที่โตแล้ว ยังไม่เก่งจริงอีกด้วยค่ะ อยากอ่าน อยากศึกษา อยากแลกเปลี่ยน เรื่องของธรรมมะและสัจธรรมต่อไปเรื่อยๆค่ะ

จริงแล้วการศึกษาธรรมะนั้นทำได้ทุกที่หากเราต้องการ เช่นจากวัด จากพระ จากหนังสือ จากเน็ต แต่หลายๆคนในวันนี้เกิดมาก็ตกอยู่ในวังวนของสังคมที่เราอีกว่า "หลง" เขาเหล่านี้เกิดมาก็เห็น เป็น รู้ ได้เพียง เหตุเหล่านี้ เขาจะไม่สามารถรู้ถึงความแตกต่างจากนี้ไปได้เลย (อนิจจา) แต่คน เป็นธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์มากนะ "จิตใต้สำนึกของเราๆได้มาเท่าๆกัน" เชื่อว่าทุกๆคนรู้เป็นอย่างดี ว่า อะไร คือ ผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดี ค่ะ ที่นี่เป็นเว็บซ์สำหรับเด็กๆหรือวัยรุ่น หากจะมีกิจกรรมเช่นที่คนยกมานี้ ที่นี่ คงเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ เด็กๆได้มีที่ ถาม ตอบ แบ่งปัน เรียนรู้  ไปด้วย




ยาวววววววว มากกกกกก มาฝึกทำสมาธิกันเลยดีไหม ลองดูนะคะเพื่อนๆคนไหน ไม่ชอบอ่านข้ามไปอย่าได้งุดหงิด  อ่านแล้วหากไม่ถูกใจอย่าปล่อยให้คุณเองอารมณ์เสีย อย่าโกรธ อย่าเคือง หากอยากจะสนทนากลับต้องใช้คำและประโยคที่น่าภิรมณ์ เพื่อความรื่นรมณ์ หรือเฉยๆนิ่งๆ ก็ได้เป็นเรื่องดีเช่นกัน  เพื่อตัวคุณเองค่ะ ^___^






0
Waritsarar 1 ก.ย. 57 เวลา 23:21 น. 2

วันนี้เพิ่งไปดูมา.. ก็คิดเหมือนกันเลยค่ะ ว่า..ลูซี่ ทำให้คิดถึงพระพุทธศาสนา

ทุกฉากทุกตอน.. เรื่องห้วงเวลา เรื่องความเจ็บปวด เรื่องการระลึก

..จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องของจิตที่ละเอียด ไม่เกี่ยวกับสมองเลย

โดยส่วนตัวประทับใจมากๆ แต่หนังเสนอไปในเชิงวิทยาศาสตร์นิดหน่อย

ถ้าคนที่ไม่ได้ศึกษาหรือปฏิบัติ ก็อาจจะมองว่าเพ้อเจ้อไปเลย

เพราะคนที่เดินออกมาจากโรงหนัง บ่นกันระงมว่า หนังเพ้อเจ้อ เว่อร์

แต่สำหรับดิฉัน พอเดินออกมา แล้วมันรู้สึกดีบอกไม่ถูก ประทับใจมาก

หนังให้ความหมายที่ลึกซึ้ง..มากค่ะ

0
Mr.wake 7 ก.ย. 57 เวลา 20:41 น. 3

คุณwhite กลับมาแล้วเหรอ คิดถึงจังเลย ^____^
แต่คิดถึงก็แค่นั้น ไม่รู้ตัวตนอยู่ไหน แต่เข้าใจว่าห่างไกลกัน ก็ต้องทำไจ :(

0
Mr.wake 9 ก.ย. 57 เวลา 01:10 น. 4

เออเนอะ! ก็มีแค่เรา3 คนเท่านี้เองในdek-dที่สนใจเรื่องแบบนี้
โอ้โห! แตกต่างกับชาวบ้านเขาจัง

0